ตอนที่ 246 อสูรคะนองตาทอง?
รองหัวหน้ากรรมการสองคนรีบลุกขึ้นมาจากพื้นและรีบสงบสติอารมณ์ แต่มือของพวกเขาเริ่มสั่นเอง
ความกลัวผุดขึ้นในใจลึกๆ ของพวกเขา
แม้ว่านักรบโดยทั่วไปจะมองไม่เห็นเรื่องนี้ แต่นักสู้อย่างเหยียนพั่วจวินไม่ลำบากที่จะสังเกตเห็น
บุรุษชุดแดงสองคนเหล่านี้ดูเหมือนจะเอาชนะพลังโจมตีสุดกำลังของกรรมการทั้งสามคนด้วยร่างกายล้วนๆ พวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้วิทยายุทธเหมือนเย่ว์หยาง นี่...น่ากลัวเกินไปไม่ใช่หรือ? พวกเขาเป็นใครกันแน่?
ทำไมพวกเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่?
บุรุษลึกลับในจุดที่นั่งชมกดไป๋หวินเฟยซึ่งอยู่ในอาการตระหนกให้นั่งลงแล้วกล่าวว่า
“ใจเย็นๆ ข้าจะส่งท่านออกไปจากที่นี่โดยปลอดภัย ข้าคิดไม่ถึงเลยว่านิกายเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกจะระดมกำลังเผ่าปีศาจแดนบูรพาดินแดนนอกทงเทียนเข้ามาด้วย พวกเขาทำได้ในเวลานี้จริงๆ เชิญเทพเจ้าเป็นเรื่องง่าย แต่ไม่ง่ายที่จะกำจัดเทพเจ้า เผ่าปีศาจแดนบูรพาไม่ใช่พวกที่พวกเขาจะไปตอแยได้ พวกเขาจะต้องเสียใจกับเรื่องนี้แน่นอน หวินเฟยใจเย็นๆ คอยฟังสิ่งที่คนของเผ่าปีศาจแดนบูรพาพูดก่อน”
คลื่นกระแทกจากพลังโจมตีสุดยอดแต่ล้มเหลวของกรรมการทั้งสามคนสะท้อนกึกก้องไปทั่วสนามแข่งขัน
สนามกีฬาตกอยู่ในความวุ่นวาย
ผู้ชมทุกคนตกใจลุกขึ้นยืน
ตอนนี้ แม้แต่คนตาบอดก็เห็นได้ว่าบุรุษประหลาดสวมชุดแดงทั้งสองคนเป็นศัตรู และเป็นศัตรูผู้แข็งแกร่งอย่างมาก
อาจารย์จิ้งจอกเฒ่ารีบเข้ามารวมกลุ่มกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน, เจ้าเมืองโล่วฮัว, เย่ว์หวี่, เย่ว์ปิง, อี้หนานและนักเรียนสถาบันฉางชุนเฉิง เหมือนกับแม่ไก่เตรียมป้องกันลูกน้อย เขายืนอยู่ข้างหน้าพวกนักเรียน สีหน้าของเขาเคร่งเครียดจริงจัง เหยียนพั่วจวินและเฟิงชิซารีบออกคำสั่งให้นักเรียนสถาบันฉางจิงออกมาข้างหน้า
องค์ชายเทียนหลัวพากลุ่มองครักษ์และนักเรียนจากสถาบันจ้งเซียงมารวมตัวกันข้างหน้าด้วยกัน ด้านตรงกันข้าม สถาบันหมาป่าเทาและศิษย์นิกายเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกรวมตัวกันเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง ศิษย์นิกายภูเขาหมอกลอยฟ้าและเพื่อนร่วมชั้นเรียนของไป๋หวินเฟยยังคงรวมตัวอยู่ด้วยกัน
ส่วนนักเรียนที่เหลือจะล้อมรอบกรรมการทั้งสี่คน
แม้ว่าสนามกีฬาจะตกอยู่ในความวุ่นวายก็ตาม แต่ก็มีบางคนลุกขึ้นยืนและออกคำสั่งในที่สุด นักเรียนที่หาครูของตนไม่เจอสามารถไปหากรรมการทั้งสี่ก่อนและรออยู่ชั่วคราว
องครักษ์เกราะเงินนับร้อยวิ่งออกมายืนเป็นแนวป้องกันนักเรียน
พลังต่อสู้ของพวกเขาไม่ได้ดีกว่านักเรียนแน่นอน แต่หน้าที่ความรับผิดชอบของพวกเขาทำให้พวกเขาจำต้องไปยืนอยู่แนวหน้าเพื่อปกป้องนักเรียนทันที พอปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้าทีมแต่ละทีม องครักษ์เกราะเงินก็เรียกอสูรออกมาทีละตัวๆ เพื่อเตรียมต่อสู้
สำหรับพวกทหารรับจ้างที่นั่งอยู่ที่ภูเขาโดยรอบหรือนักรบแต่ละคนที่มาดูการแข่งขันรอบพบกันหมด ทุกคนต่างตกตะลึงโดยสิ้นเชิง
พวกเขายืนตะลึงค้างอยู่กับที่ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
จะสู้หรือ? พลังรบของพวกเขาไม่มีค่าควรแก่การมองด้วยซ้ำ
หลบหรือ? ไม่มีเส้นทางหลบหนีในภูเขาเสียด้วย
เย่ว์ปิงต้องการขอให้พี่ชายนางที่ยังอยู่บนเวทีต่อสู้กลับลงมา เพราะมีเพียงเขาและองค์ชายสือจินอยู่บนเวที พวกเขาเป็นเป้าหมายที่แจ้งชัดเกินไป
ถ้าศัตรูโจมตี อย่างนั้น บางทีพวกเขาคงมุ่งหมายที่ตัวพี่ชายนางก่อน
นางแค่กังวลกับเรื่องนี้ หญิงงามลึกลับปรากฏตัวอยู่ข้างหลังเย่ว์ปิงและกอดนางเบาๆ ปลอบนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ปิงเอ๋อ! อย่ากลัวไปเลย พี่ชายเจ้าจะปลอดภัย ตอนนี้เจ้าต้องให้ความสำคัญความปลอดภัยของตัวเองก่อน อย่าห่วงเขา! เจ้ากับอี้หนานควรจะอยู่ตรงนี้ และอย่าออกมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้า, อู๋เหิน, เชี่ยนเชี่ยนและโล่วฮัวจะคอยสนับสนุนพี่ชายเจ้าได้ทุกเมื่อ เจ้ากับอี้หนานต้องอยู่อย่างสงบ อย่าให้คนอื่นรู้สถานะของพวกเจ้า เมื่อเราใช้ม้วนเทเลพอร์ตได้อีกครั้ง พวกเจ้าควรกลับไปที่บ้านสวนบุปผาน้อยในทันทีก่อน รอพวกเราอยู่ที่นั่น”
เวลานี้ อาจารย์จิ้งจอกเฒ่ากำลังตบตีเย่คง, เจ้าอ้วนไห่, เหยียนพั่วจวินและเฟิงชิซาห้ามพวกเขาไม่ให้พยายามออกไปสู้ด้วยเสียงดังปานฟ้าฝ่า “พวกเจ้าทุกคนเบื่อหน่ายชีวิตแล้วหรือ? ไม่เข้าใจหรือไงว่าช่วงเวลาวิกฤติหมายความว่าไง? ในเวลานี้ พวกเจ้าต้องอดทนเก็บชีวิตเอาไว้และพวกเจ้าต้องปกป้องสหายและเพื่อนในสถาบันของพวกเจ้าเช่นกัน!
เย่ว์หยางเปิดเผยตัวตั้งแต่ขึ้นไปอยู่บนเวทีแล้ว ไม่มีวิธีอื่นที่จะทำอะไรได้ แต่พวกเจ้าต้องการวิ่งออกไปหาที่ตายพร้อมกับเขา นั่นไม่ได้เป็นการช่วยเขา ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราก็คือต้องไม่สับสนวุ่นวาย เราต้องรวมตัวกันไว้
วีรสตรีทวนมังกรผู้สวมหน้ากากเงิน บุรุษน้ำแข็งเสวี่ยทันหลางและทูตมังกรชังหลันวี่วิ่งเข้ามารวมตัวกันโดยเร็ว
สนามกีฬาทั้งหมดมีการรวมตัวเป็นกลุ่มใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับโรงเรียนและนิกาย
แต่ละกลุ่มจะถูกนำโดยอาจารย์ประจำสถาบันหรือสมาชิกเชื้อพระวงศ์
มิฉะนั้น ก็มีกรรมการคอยนำพวกเขา
“ทุกคน อย่ากลัว ความจริง เรามาที่นี่ ไม่ได้มีเจตนาร้าย”
บุรุษประหลาดชุดแดงที่อยู่ข้างขวาประกาศเสียงดังลั่นทันที
“ตอนนี้ ข้าขอให้ทุกท่านอยู่ในความสงบชั่วครู่ ความจริงเรามาหาคนเพียงไม่กี่คน ข้ารับรองได้ว่า ตราบใดที่พวกท่านไม่ต่อต้าน และดูอยู่อย่างสงบ พวกท่านก็จะไม่มีอันตรายถึงชีวิต”
เมื่อบุรุษคนนั้นพูดคำนี้จบ ทหารรับจ้างแต่ละคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก พวกเขารู้ว่า คนที่พวกเขาพยายามหาไม่ใช่พวกเขาแน่นอน
คนจำนวนหนึ่งที่มีสภาพจิตใจแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆ เริ่มทยอยนั่งลงและจับตาดูเหตุการณ์ต่อไป
ถ้าเกิดกรณีฟ้าถล่มทลายพวกเขาก็คงตายด้วยกัน แม้แต่คนชั้นสูงเหล่านั้น ทั้งเจ้าชายและเจ้าหญิงก็ยังไม่กลัวบุรุษแปลกหน้าสองคน แล้วทำไมพวกเขาจะต้องกลัวด้วยเล่า? ไม่ใช่ว่าทหารรับจ้างทุกคนจะสงบจิตใจได้โดยง่าย ยังมีคนไม่น้อยคิดว่า
“ต่อให้ฟ้าถล่มลงมาก็ยังจะมีคนตัวสูงๆ คอยค้ำฟ้าเอาไว้อยู่ดี”
เมื่อพวกเขาได้ยินว่าแขกที่ไม่ได้รับเชิญไม่ได้มาเพื่อฆ่าแต่มาเพื่อหาคนไม่กี่คน พวกเขาก็สงบลงได้มาก
เมื่ออาจารย์จิ้งจอกเฒ่าได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเขาตกวูบทันที
แน่นอนว่า พวกเขามาหาเย่ว์หยางและคนอื่นๆ ก็คือเด็กรุ่นหลังที่มีพรสวรรค์เหล่านี้
ดูเหมือนการบุกพระราชวังต้าเซี่ยเป็นแค่กับดัก พวกเขาตั้งใจมากวาดต้อนเด็กรุ่นหลังที่มีพรสวรรค์ไปทั้งหมด
“พวกเขามาจากเผ่าปีศาจบูรพา พวกเขาไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นเหมือนสาวมังกร เพียงแต่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ปิงเอ๋อ! ตอนนี้เจ้าซ่อนตัวอยู่ในหมู่คนไปก่อน อย่าออกมาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
เย่ว์หยางส่งกระแสจิตปลอบโยนเย่ว์ปิงด้วยทักษะที่ได้มาจากวิหารคนคู่ ขณะเดียวกัน เขายังขอให้นางอยู่กับอี้หนาน, เย่ว์หวี่และคนอื่นๆ ป้องกันอย่าให้พวกนางเคลื่อนไหวโดยพลการ
“บอกเขาให้ระวังตัวและไม่ต้องสนใจเรา เราดูแลกันเองได้!”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรีบเตือนเย่ว์หยาง
ในท้องฟ้า
ขณะที่ลำแสงสีดำเชื่อมกับใจกลางวงเวทอักษรรูนสีดำ ก็มีร่างของคนสามร่างปรากฏขึ้น
สองคนสวมชุดดำ พวกเขามีรูปร่างสูงใหญ่ ดูเหมือนสูงอย่างน้อยสามเมตร
อย่างไรก็ตาม ร่างที่สูงใหญ่ของพวกเขาดูเบาเหมือนขนนกขณะที่พวกเขาลอยตัวอยู่กลางอากาศ คนที่อยู่ตรงกลางบุรุษร่างยักษ์แต่งชุดสีทอง เขาสวมมงกุฎสีม่วงอยู่บนศีรษะและถือม้วนหยกขาวที่เขียนอักษรรูนโบราณไว้
บุรุษในชุดคลุมทองเป็นชายวัยกลางคนดูหล่อเหลาสง่างาม
ขณะที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ เขาค้อมหัวให้ชาวทวีปมังกรทะยาน และประสานมือคาราวะพูดอย่างสุภาพว่า
“สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษโปรดอภัยให้พวกเราที่มาเยี่ยมโดยไม่ได้รับเชิญ หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ นักรบคนหนึ่งจากทวีปมังกรทะยานได้แนะนำอัจฉริยะรุ่นเยาว์คนหนึ่งแก่จักรพรรดิของเรา จักรพรรดิของเราโปรดคนที่มีพรสวรรค์ พระองค์จึงมีราชบัญชาเราโดยเฉพาะให้มาเชิญแขกผู้มีเกียรติชาวทวีปมังกรทะยานเหล่านี้ด้วยความจริงใจของพวกเรา ขอเชิญพวกเขามาร่วมชุมนุมยังพระราชวังสายรุ้งแห่งอาณาจักรของเรา ต่อจากนี้ไปขอเชิญนักรบระดับหัวกะทิผู้มีพรสวรรค์ที่ข้าขานชื่อ โปรดขึ้นมารวมตัวกันบนเวที ข้ารับรองว่าข้าจะไม่ทำอันตรายใดๆ กับพวกท่าน หลังจากจักรพรรดิของพวกเราได้ชื่นชมยินดีพวกท่านแขกผู้มีเกียรติเสร็จแล้ว เราจะส่งพวกท่านกลับมาที่นี่แน่นอน ข้าจะรักษาคำพูดแน่นอน โปรดอย่าสงสัยหรือไม่สบายใจในคำพูดของเราเลย”
จากนั้น เขาค่อยๆ เปิดม้วนหยกในมือและอ่านรายชื่อแต่ละคนออกมาดังๆ
“จักรพรรดิของเรามีราชโองการ เราขอเชิญแขกผู้มีเกียรติเหล่านี้มารวมกัน เย่ว์หยางคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์, เย่ว์ปิงคุณหนูเจ็ดแห่งตระกูลเย่ว์, เฟิงชิซาแห่งตระกูลเฟิง, เสวี่ยทันหลางแห่งตระกูลเสวี่ย, เหยียนพั่วจวินแห่งตระกูลเหยียน, ไป๋หวินเฟยประมุขน้อยนิกายภูเขาหมอกลอยฟ้า, องค์ชายสือจินฉู่ฟงเหลย, องค์ชายเทียนหลัว หัวจื่ออวี้, ทูตมังกรนิกายปราสาทแก้วชังหลันวี่..และคนสุดท้ายแต่ไม่ใช่ท้ายสุด องค์หญิงต้าเซี่ย เชี่ยนเชี่ยน รวมแล้วผู้เยาว์ผู้มีพรสวรรค์สิบคน โปรดก้าวขึ้นมาบนเวที จักรพรรดิของพวกเรารักผู้เยาว์ที่มีพรสวรรค์อย่างพวกเจ้า ดังนั้นพระองค์จะปฏิบัติต่อพวกเจ้าในฐานะแขกผู้มีเกียรติ”
“ข้าไม่ไป, ข้าจะไม่ไป!”
เมื่อองค์ชายสือจินได้ยิน เขาตะโกนอย่างหวาดหวั่น
“เราจะไม่ยอมให้พวกเจ้าพาพวกเขาไป และไม่พาใครไปจากนิกายเจดีย์ราชสีห์ไม่ใช่หรือ? ไม่ ข้าจะไม่ยอมไป!”
“องค์ชายสือจิน, ท่านก็เป็นคนหนึ่งที่จักรพรรดิของเราหวังจะได้พบ มีผู้ชมอย่างจักรพรรดิของเรานับเป็นเกียรติของท่านแล้ว โปรดอย่าปฏิเสธราชประสงค์ของจักรพรรดิเราเลย”
บุรุษชุดทองผู้หล่อเหล่าค้อมตัวอย่างสุภาพขณะพูดอย่างใจเย็นและไม่รีบร้อน แม้อยู่ภายในการจับตามองของคนนับแสน เขาก็ยังแสดงออกอย่างสงบได้ต่อไป
“แขกผู้มีเกียรติอีกเก้าคน โปรดขึ้นมาบนเวที ข้าไม่ต้องการเสียเวลากับทุกคนมากเกินไป ตราบใดที่เราได้คนครบสิบคน เราจะจากไปทันที เราจะไม่รบกวนการแข่งขันของพวกท่าน”
“มันเรื่องอะไรของพวกเจ้า?”
เย่ว์หยางตระหนักว่าเขาสามารถเห็นความคิดของบุรุษชุดแดงและบุรุษชุดดำได้ แต่มีเพียงคนเดียวที่เขาไม่สามารถเห็นได้ก็คือบุรุษวัยกลางคนที่สวมชุดทอง เขาไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้แต่ถามอย่างสงสัย
“เราไม่มีอะไรหรอก เราคือเผ่าปีศาจแดนบูรพา โปรดอภัยให้กับการกระทำของเรา เราก็แค่อยากคุยกับแขกผู้มีเกียรติของเรา ข้าขอถามว่าท่านเป็นหนึ่งในแขกผู้มีเกียรติของเราใช่ไหม?”
บุรุษวัยกลางคนประสานมือคารวะ
“แม้ว่าข้าไม่ตั้งใจจะไป แต่ชื่อของข้าถูกระบุไว้แน่นอนแล้วนี่”
เย่ว์หยางใช้ทักษะญาณทิพย์ของเขาตรวจสอบบุรุษวัยกลางคน ขณะที่ตอบอย่างช้าๆ
“ขอถามหน่อย ท่านคือคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์ที่จักรพรรดิของเราให้ความสนใจที่สุดใช่ไหม? ท่านมีฝีมือเหนือล้ำคนอื่นแม้ว่ายังมีอายุเยาว์วัยมาก นับว่ายากจริงๆ ที่จะได้พบเจออัจฉริยะเยาว์วัยอย่างท่าน จักรพรรดิของเขามีราชโองการโดยเฉพาะให้เราพาตัวท่านกลับไปให้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พอเห็นคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์แสดงตัวเองออกมาทำให้เรามีความสุขจริงๆ ราชทูตผู้นี้นามว่าอสูรคะนองตาทอง เจ้าเรียกข้าว่าจินจิงก็ได้ ทูตผู้นี้ขอคารวะคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์”
บุรุษชุดทองสำรวจเย่ว์หยางตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า สีหน้าของเขาเปลี่ยนเล็กน้อยขณะที่เขาแสดงความเคารพ
“อสูรคะนองตาทองหรือ?”
เย่ว์หยางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยิน
“ท่านจินจิง ทำไมท่านต้องสุภาพกับเจ้าเด็กนี่ด้วย? ลากเจ้าเด็กนี่ไปเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับท่านไม่ใช่หรือ? แค่ข้าเล่าเฮยก็ลากเขาไปได้แล้ว”
เจ้ายักษ์ชุดดำผู้ยืนอยู่ข้างๆ บุรุษชุดทองทะลุกลางปล้อง เสียงของเขากระโชกโฮกฮากเหมือนฟ้าผ่า
“ต้าเฮย, เจ้าต้องไม่เสียมารยาท”
บุรุษชุดทองวัยกลางคนดุเบาๆ และคำนับเย่ว์หยางอีกครั้ง
“คุณชายสามตระกูลเย่ว์ สหายผู้ใจร้อนและเจ้าอารมณ์ผู้นี้คือหัวหน้านักรบภูผาดำ คนตัวโตอีกคนหนึ่งคือน้อยชายของเขา พวกเขาทั้งสองอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่จิตใจพวกเขาอ่อนโยน พวกเขาไม่ใช่คนที่หยาบคายก้าวร้าวแน่นอน ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะไม่หาเรื่องสู้กับใครก่อน...”
บึ้ม!
ก่อนที่บุรุษวัยกลางคนจะพูดจบ องค์ชายสือจินที่พยายามหลบหนี ถูกยักษ์คนน้องผู้ยืนอยู่ด้านซ้ายจับได้ เขาคว้าตัวไว้แน่น
ตลอดทั้งร่างขององค์ชายสือจินจมลงไปในพื้นทันที
ไม่ต้องรอให้องค์ชายสือจินดิ้นรน ยักษ์ชุดดำผู้น้องยกขาขวาขึ้นแล้วย่ำลงไปบนตัวองค์ชายสือจินที่อยู่บนพื้นอย่างแรง ขณะที่องค์ชายสือจินร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
“แมลงมนุษย์น้อยน่ารำคาญ เจ้าส่งเสียงน่ารำคาญนัก”
ผู้ชมทั้งแสนคนในสนามแข่งขันตกตะลึงกันทั้งหมด ทุกคนไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขา
แม้ว่าองค์ชายสือจินจะใช้ไม่ได้ แต่เขาก็ยังเป็นหนึ่งในสามนักรบที่แข็งแกร่งที่สุด แล้วเขาจะตายทันทีได้อย่างไร?
เรื่องที่แปลกก็คืออาคันตุกะไม่ได้รับเชิญเหล่านี้ดูเหมือนจะมีสัมพันธ์กับองค์ชายสือจิน
อย่างนั้นทำไมพวกเขาจึงฆ่าองค์ชายสือจินเล่า?
ที่มา : https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=266