ตอนที่ 244 โล่อัคคีกับยาเม็ดกระหายเลือด
ไป่หวินเฟยประมุขน้อยนิกายภูเขาหมอกใช้เพียงนิ้วเดียวหยุดหมัดสุดยอดของจ้าวฉางเทียน นักสู้ระดับ 6 ได้
แม้ว่าทุกคนจะไม่รู้ว่าเขาใช้สัตว์อสูรหรือเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด แต่ทุกคนรู้สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ท่านี้ซ้ำอีก
ต่อให้เป็นไป๋หวินเฟยเองก็ตาม เขาคงไม่อาจทำเหมือนเดิมได้อีก
ทั้งนี้เป็นเพราะ แม้แต่นักสู้ขั้นสูงระดับ 8 (จักรพรรดิ) ก็ยังไม่กล้าใช้นิ้วเดียวรับกระบวนท่าที่นักสู้ระดับ 6 ขั้นสูงใช้ออกอย่างสุดกำลัง เพราะไป๋หวินเฟยใช้เพียงนิ้วเดียวรับกระบวนท่าได้จึงกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงเพียงข้ามคืนแม้ก็จริง ความสำเร็จเช่นนี้ทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นนักสู้รุ่นเยาว์ผู้แข็งแกร่งที่สุดในทวีปมังกรทะยาน.... จนกระทั่งเขาพ่ายแพ้เย่ว์หยาง จึงทำให้เขาตกไปเป็นอันดับที่สอง ถึงอย่างนั้น ทุกคนไม่คิดว่าไป๋หวินเฟยผู้มีอสูรอย่างจ้าวมังกรทองจะอ่อนแอกว่าสามดาวเพชรฆาต เขาแค่ไม่อาจเปรียบเทียบได้กับไตตันผู้แข็งแกร่งผิดธรรมดาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ นักเรียนไตตันต้องการใช้นิ้วเดียวหยุดท่าแรกในวิชาพายุทะเลทรายขององค์ชายสือจินเชียวหรือ?
นี่มัน, นี่มันเป็นไปได้หรือ?
คนอื่นอาจไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ศิษย์นิกายภูเขาหมอกทุกคนรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำแบบนั้น
เมื่อไป๋หวินเฟยหยุดพลังหมัดที่ชกเต็มกำลังของจ้าวฉางเทียน เขาไม่ได้อาศัยพลังจ้าวมังกรทอง ไม่ใช่พลังอสูรตนอื่นๆ อีกทั้งเขาไม่ได้ใช้ทักษะแฝงเร้นของตนเองด้วยซ้ำ เขาอาศัยสมบัติพิเศษชนิดหนึ่ง
ศิษย์นิกายภูเขาหมอกสามารถรับประกันได้ว่าคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์จอมงี่เง่า ผู้ใช้นามแฝงว่าไตตันคงไม่มีสมบัติพิเศษ อย่างมุกมังกรทองซึ่งสามารถป้องกันชีวิตและร่างกายเขาได้ สมบัตินั่นเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ตกทอดมาจากประมุขนิกายรุ่นก่อน เขาเป็นปู่ของไป๋หวินเฟย ได้มอบสมบัตินี้ให้หลานชายเขาไว้
และด้วยมุกมังกรทองนี่เอง ไป๋หวินเฟยสามารถหยุดพลังไม้ตายที่แข็งแกร่งกว่าเขาถึงสิบเท่าได้ แน่นอนว่า มันไม่ได้มีประสิทธิภาพตลอดไป มุกมังกรนั้นใช้ได้เพียงสามครั้ง หลังจากใช้สามครั้งไปแล้ว มันจะแตกสลายกลายเป็นฝุ่น
ไม้ตายสุดยอดของจ้าวฉางเทียนน่ากลัวอย่างมาก แม้ว่าจะใช้จ้าวมังกรทองก็ตาม แต่ไป๋หวินเฟยยังไม่กล้ารับมันโดยตรง ดังนั้นเขาเลือกใช้มุกมังกรทองปกป้องตัวของเขา
ในที่สุด จากมุมมองของผู้ชม ท่านั้นปรากฏเป็นฉากที่เขาสามารถหยุดไม้ตายสุดยอดด้วยเพียงนิ้วมือเดียว
ศิษย์จากนิกายภูเขาหมอกรู้เรื่องนี้ดี แต่พวกเขาไม่ปล่อยความลับนี้รั่วไหลออกไป พวกเขากลับกระตือรือร้นเชียร์ไป๋หวินเฟยและกระจายข่าวนี้ออกไป
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ คุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้นี้ที่เอาชนะประมุขน้อยอย่างไม่ปราณีกล้าหยุดท่าโจมตีสุดยอดด้วยนิ้วมือเดียวจริงๆ ศิษย์นิกายภูเขาหมอกทั้งโกรธทั้งสะใจไปพร้อมกัน พวกเขาโกรธเพราะเจ้าเด็กบ้านี่น่ารังเกียจเกินไป แต่พวกเขาสะใจเพราะพวกเขาเห็นได้ว่าเจ้าเด็กนี่จะโชคร้ายในอนาคต แม้ว่าเขาจะไม่ได้พ่ายแพ้ประมุขน้อยนิกายภูเขาหมอก แต่เขาก็ต้องพ่ายแพ้อย่างเจ็บใจในที่สุด เรื่องนี้จะเป็นบทเรียนสั่งสอนที่ดีสำหรับเขา
เมื่อประมุขน้อยของพวกเขาฟื้นคืนเรี่ยวแรงได้ เขาอาจจะกู้ศักดิ์ศรีในตอนแรกกลับคืนมาโดยการเอาชนะองค์ชายสือจินในการแข่งพบกันหมดก็ได้
ไม่ใช่แค่ศิษย์นิกายภูเขาหมอกเท่านั้นที่มีความพอใจ แม้แต่ศิษย์นิกายเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกและสถาบันหมาป่าเทาก็มีความพอใจมากเช่นกัน
เจ้าอ้วนไห่ เย่คงและคนอื่นๆ กำหมัดของตนเองแน่น
พวกเขามั่นใจในเย่ว์หยางมากพอ แต่พวกเขาก็ยังห่วงอย่างช่วยไม่ได้
เจ้าเมืองโล่วฮัวกัดริมฝีปาก นางขุ่นเคืองเล็กน้อย ถ้าเย่ว์หยางอยู่ต่อหน้านาง นางคงต่อยเขาไปแล้ว เขากล้ามากขนาดนั้นได้อย่างไร? พวกนางจะทำยังไงถ้าเขาได้รับบาดเจ็บ?
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถอนหายใจรู้สึกปวดหัวบ้างเล็กน้อย
“เจ้าเด็กนี่เกินเยียวยาจริงๆ ข้าคิดว่าเขาเป็นเหมือนไม่เอาจริง ใครจะรู้กันว่าความจริงเขาชอบโอ้อวดฝีมือ”
เมื่อองค์ชายสือจินเห็นเช่นนี้ เขารู้สึกยินดี
เขาไม่เคยแม้แต่จะนึกฝันว่าเย่ว์หยางจะประมาทเขาและพยายามหยุดการโจมตีของเขาด้วยนิ้วเดียว นั่นเท่ากับเขารนหาที่ตาย
ทันใดนั้น แทนที่จะลดกำลังในมือลง องค์ชายสือจินกลับเพิ่มพลังยิ่งขึ้น ตั้งใจว่าจะใช้ดาบกลืนจันทร์ฟันใส่เย่ว์หยาง แม้ว่าเขาจะไม่สามารถฆ่าเย่ว์หยางด้วยการฟันครั้งเดียว แต่เย่ว์หยางจะต้องบาดเจ็บหนักแน่นอน นี่คือโอกาสที่สวรรค์ประทานให้เขา เขาต้องไม่พลาดมัน มิฉะนั้นมันอาจจะไม่เกิดขึ้นอีก ถ้าองค์ชายสือจินรู้ว่าเย่ว์หยางอาจใช้นิ้วเดียวเพื่อหยุดท่าไม้ตายของเขาได้ เขาอาจใช้ท่าที่แข็งแกร่งรุนแรงที่สุดใน 8 กระบวนท่าพายุทะเลทรายนาม “ลมวิบัติ” หรือ “สรรพสิ่งมืดมิด” ก็เป็นได้
เสียงระเบิดดังกึกก้อง
มันดังปานจะทำลายโสตประสาทของผู้ฟัง
เย่ว์หยางผู้ต้านทานด้วยเพียงนิ้วมือเดียวถูกกระแทกถอยไปหลายเมตร เปลวเพลิงม่วงแตกกระจายไปทั่วบริเวณ อย่างไรก็ตาม ไม้ตายที่คนอื่นคิดว่าจะสังหารเย่ว์หยางได้ทันทีไม่เกิดขึ้น เย่ว์หยางแค่ถูกดันถอยหลังเท่านั้น
องค์ชายสือจินลอบคิดว่าโชคไม่ดีเลย กระบวนท่าแรก “วายุก่อตัว” เป็นแค่ท่าเริ่มแรก พลังที่ถูกปลดปล่อยออกไปยังไม่เต็มที่
คู่ต่อสู้ของเขาสร้างโล่เพลิงที่ดูแปลกประหลาดในนาทีสุดท้ายป้องกันดาบของเขาได้
เมื่อองค์ชายสือจินเห็นว่าเย่ว์หยางแค่ถูกพลังโจมตีของเขาดันถอยออกไปเท่านั้น แม้ว่าเขาเกือบจะได้รับบาดเจ็บหนัก แต่องค์ชายสือจินรีบควงดาบจันทร์เสี้ยวทองและใช้กระบวนท่าดุเดือดรวดเร็วยิ่งขึ้น
ท่าที่สอง, ท่าที่สาม, ท่าที่สี่...
ดาบโค้งทองกลายเป็นเหมือนพายุทะเลทรายขนาดใหญ่ ลมแรงหวีดหวิวขณะที่เปลวที่เป็นเหมือนทรายร้อนพุ่งเข้าใส่เย่ว์หยางเหมือนคลื่นสัตว์ร้ายโถมเข้าหาระลอกแล้วระลอกเล่า
ผู้ชมไม่อาจมองเห็นสถานการณ์ต่อสู้ได้ชัดเจน พวกเขาเห็นแต่เพียงเลือนลางว่าไตตันนักเรียนจอมหยิ่งกำลังถูกองค์ชายสือจินไล่ต้อนจนถอยไปทีละก้าวทีละก้าว องค์ชายสือจินเหมือนกับทหารเทพเจ้าโจมตีต่อเนื่องไม่มีหยุด เหมือนกับว่าเขาจะไม่ให้โอกาสนักเรียนไตตันได้ตอบโต้
“เขากำลังจะชนะ!”
ศิษย์นิกายเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกและนักเรียนสถาบันหมาป่าเทาส่งเสียงเชียร์องค์ชายสือจิน
“นั่นแย่แน่.. เขาโจมตีไม่มีหยุดเลย!”
นักเรียนสถาบันฉางชุนเฉิงกังวลอย่างหนัก ความจริงพวกเขาเป็นนักเรียนที่เชี่ยวชาญระดับสูงและเป็นอัจฉริยะที่ปกปิดความสามารถของตนไว้ ดังนั้นพวกเขารู้ชัดถึงพลังที่น่ากลัวที่แฝงอยู่เบื้องหลังการโจมตีที่จะตามมา
“องค์ชายสือจินอาจจะดีใจเร็วเกินไป”
คนอย่างเฟิงชิซาและเหยียนพั่วจวินผู้มีทักษะสูงกว่าสามารถมองเห็นสถานการณ์ต่อสู้ได้ชัดเจนมากกว่า กระจ่างมากกว่า
“เขาคำนวณผิดพลาดไปแล้วเมื่อเขาโจมตีครั้งแรกพลาดไป แต่เขาหมดความอดทนที่จะก้าวหน้าและมัวแต่ละโมบในชัยชนะ ดังนั้นเขาจึงใช้อีกเจ็ดท่าตามมาไม่มีหยุด เฮ้อ ความจริงองค์ชายสือจินถูกเจ้าเด็กนั่นต้อนจนต้องใช้พลังเกินขีดจำกัดต่างหาก...”
ไป๋หวินเฟยกำลังลอบมองดูการแข่งขันผ่านหน้าต่างเล็กจากที่นั่งชมส่วนตัว แม้ว่าหน้าของเขายังซีดขาวอยู่ แต่สายตาของเขายังปรากฏแววเยาะเย้ย แน่นอนว่าเขาเกลียดคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์หลังจากพ่ายแพ้เขา อย่างไรก็ตาม เขาทำอะไรไม่ได้ นอกจากต้องยอมรับว่าเย่ว์หยางมีความแข็งแกร่งผิดธรรมดา
“ประมุขน้อย ไม่ใช่ว่าองค์ชายสือจินไม่ต้องการหยุดโจมตี หากแต่ว่าเขาหยุดการโจมตีไม่ได้!”
บุรุษลึกลับผู้มักติดตามไป๋หวินเฟยพูดช้าๆ
“จริงหรือ? อย่างนั้น เป็นไปได้หรือว่าเมื่อเย่ว์หยางใช้นิ้วเดียวป้องกันท่าจู่โจมขององค์ชายสือจิน เขาได้เตรียมกับดักไว้สำหรับองค์ชายไว้แล้ว..?”
ริมฝีปากของไป๋หวินเฟยสั่นเล็กน้อย
องค์ชายสือจินปล่อยพลังยุทธของเขาจนอยู่ในระดับสูงสุด ขณะที่เขาคำรามลั่นใช้แปดกระบวนท่าพายุทะเลทราย
ดาบโค้งทองเปล่งประกายแสงสีทองเหมือนสายฟ้าผ่านระยะห่างระหว่างคนทั้งสอง
แรงตัดทำให้เกิดพื้นที่แยกระหว่างคนทั้งสอง องค์ชายสือจินฟันใส่คอของเย่ว์หยางทันที ก่อนที่จะดึงดาบกลับมาใส่ในฝักดาบข้างเอวของเขา
ดาบโค้งยังคงสั่นอย่างต่อเนื่องในฝักดาบ ส่งเสียงหึ่งๆ ตลอด ถ้านั่นเป็นท่วงท่าสุดท้าย เมื่อองค์ชายใช้แปดกระบวนท่าจบ ขณะที่ดาบโค้งทองกลับเข้าไปอยู่ในฝักดาบของเขา ศีรษะของศัตรูของเขาจะต้องหลุดออกจากบ่าตกลงบนพื้นกลิ้งมาอยู่แทบเท้าขององค์ชายสือจิน ที่สำคัญที่สุดจะต้องตายทั้งที่นัยน์ตาเบิกกว้างด้วยความรู้สึกที่เหลือเชื่อ
ภายใต้สายตาผู้ชมนับแสน ร่างของเย่ว์หยางสั่นช้าๆ
นี่เป็นเครื่องหมายแสดงว่าการโจมตีใช้กับเขาได้ผล ศิษย์นิกายเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกและนักเรียนของสถาบันหมาป่าเทาเริ่มส่งเสียงโห่ร้องจนมิอาจยับยั้งได้
แล้วไง เขามีฝีมือที่ไม่ธรรมดาตรงไหน?
ด้วยแปดกระบวนท่าพายุทะเลทรายที่น่ากลัว เขาก็จะล้มลงพ่ายแพ้ในที่สุด
แม้ว่าองค์ชายสือจินจะสิ้นเปลืองพลังงานไปมากหลังจากปล่อยกระบวนท่าสุดยอด เขาเตรียมจะโบกมือไปทางมหาชนนับแสน ขณะเดียวกัน ก็เตรียมคำพูดไว้ในใจ ขณะที่ขยับมุมปากเตรียมจะหันไปยิ้ม ทันใดนั้นเย่ว์หยางยกมือซ้าย มีรอยมีดบาดเล็กๆ บนนิ้วชี้ของเขา มีรอยถลอกปนเลือดเล็กน้อย แต่ก็ไม่มากพอให้เลือดหยดได้ เย่ว์หยางเริ่มเป่านิ้วด้วยความเจ็บ และถอนหายใจ
“ข้าประมาทคู่ต่อสู้ของข้ามากไปหน่อย แต่การโจมตีนั้นยังไม่ถึงกับตัดนิ้วข้าได้...”
เมื่อเย่ว์หยางพูดแบบนี้ นัยน์ตาขององค์ชายสือจินเบิกกว้างจนแทบจะกว้างกว่าตาวัวเสียอีก
เขาไม่เป็นอะไรเลยหรือ?
คอเขาถูกดาบโค้งฟันใส่แล้ว เขายังปลอดภัยอยู่ได้อย่างไร?
“นั่นไวมากจริงๆ ถ้าข้าไม่มีทักษะแฝง (เปิดเผย) ข้าคงไม่อาจเห็นได้ชัด”
มหาอำมาตย์หัวเซี่ยหัวเราะ
“เจ้าเด็กนี่ฝีมือก้าวหน้าอีกแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ปลดผนึกพลังปราณก่อกำเนิด แต่ฝีมือเขาในปัจจุบันนี้แทบจะใกล้เคียงระดับปราณก่อกำเนิด เป็นเด็กที่ไม่ธรรมดาเลย ข้าคิดว่าต้องใช้เวลาราวๆ สองร้อยปีถึงจะฝึกได้ระดับเขา นี่เขายังมีอายุแค่เพียงยี่สิบปีเท่านั้น น่าเสียดายแทนฝ่าบาทที่ไม่สามารถมาชมการต่อสู้ได้ ไม่อย่างนั้นเขาคงจะยินดีแน่นอน”
"เขากลั่นไฟจนแน่นกลายเป็นโล่ที่นิ้วมือเขา ตอนแรกยังใช้ได้ไม่คล่อง ท่าโจมตีแรกขององค์ชายสือจินจึงทำลายได้ในครั้งเดียว โล่เพลิงแต่ละโล่ที่เขาสร้างต่อจากนั้นดีขึ้นกว่าโล่ก่อนๆ นั้นทุกที ยิ่งกว่านั้น ความเร็วในการสร้างโล่เพลิงยังเพิ่มขึ้นทุกครั้งอีกด้วย ในที่สุดเขาก็กลั่นโล่เพลิงอื่นๆ ได้อย่างสบาย ฮ่าฮ่า ข้าคิดว่าถ้าเราให้เวลาเจ้าเด็กนี่อีกสักเล็กน้อย บางทีเขาอาจค้นคว้าวิทยายุทธที่สาบสูญไปนานอย่าง โล่เพลิงเทพเจ้ากลับคืนมาได้””
อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าลูบเคราแพะด้วยความยินดี
“มนุษย์สามารถใช้โล่เพลิงเทพเจ้าที่เป็นความสามารถพิเศษของอสูรได้หรือ?”
เฟิงขวงถามอย่างประหลาดใจ
“ได้สิ, แต่เขาต้องเรียนรู้การควบคุมไฟให้ได้เสียก่อน และเขาต้องควบคุมมันได้ดีอีกด้วย”
มหาอำมาตย์หัวเซี่ยมั่นใจแน่นอน
“ดูเหมือนคงเป็นไปไม่ได้สำหรับข้าที่จะทำแบบนี้ได้!”
อาจารย์ตาเหยี่ยวเซี่ยโหวเว่ยเลี่ยลำบากใจ การควบคุมไฟเป็นเรื่องยากมากๆ เขายังต้องควบคุมมันให้ดีอีกด้วย ต้องบรรลุขอบเขตไหนถึงจะทำเช่นนั้นได้
“พวกเจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไรตอนนี้หรือ? แม้แต่ข้าราชันย์ฟ้าผู้เชี่ยวชาญทั้งโลหะและไฟก็ยังไม่สามารถทำได้ ถ้าตัวเด็กน้อยอย่างเจ้าสามารถทำได้ ยังจะมีความยุติธรรมอยู่ในโลกนี้อีกหรือ? ทักษะควบคุมไฟ เจ้านึกหรือว่าทุกคนจะทำได้? ฝันไปเถอะ, เจ้าคิดว่าการเล่นกับไฟนิดหน่อยได้แล้วเจ้าจะควบคุมไฟได้หรือ? ลืมซะเถอะ ข้าจะไม่บอกเจ้าอีกต่อไปแล้ว เพื่อเจ้าจะได้ไม่รู้สึกด้อยค่า! แต่ลูกเขยของข้าเป็นอัจฉริยะจริงๆ ลูกโล่วฮัวเลือกบุรษได้ถูกคน ฮ่าฮ่า ข้าชอบเขยที่ควบคุมไฟได้คนนี้นัก โล่เพลิงเป็นอะไรที่ข้าชอบจริงๆ”
ราชันย์ฟ้าบูรพาพ่อตาก็ทำหน้าที่แทนแม่ยายด้วย ถือโอกาสประเมินเขยของเขา ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกชอบเขายิ่งขึ้น
บนเวที องค์ชายสือจินขบกรามกรอดและเข้าโจมตีใส่เย่ว์หยางต่อ เขาพุ่งเข้าหาเย่ว์หยางอย่างบ้าคลั่งคล้ายหมาป่ากระหายเลือด
ทั้งนี้เป็นเพราะ เย่ว์หยางกำลังสะบัดนิ้วชี้ที่ถูกดาบบาดใส่มาทางเขา
อารมณ์ของเขาไม่ใช่แค่ดูถูกเท่านั้น แต่เป็นการลดค่าอย่างสิ้นเชิง
นี่มันน่าอดสูยิ่งกว่าเยาะเย้ยเขาด้วยคำพูด เย่ว์หยางสื่อความหมายว่าแปดท่าพายุทะเลทรายของเขาทำได้เพียงสร้างแผลมีดบาดเล็กน้อยที่ปลายนิ้วชี้ของเขางั้นหรือ? ถ้าคนอื่นรู้เรื่องนี้ ชื่อของเขาคงไม่ดีไปกว่าของไป๋หวินเฟย
องค์ชายสือจินยกมือของเขาและระเบิดพลังปราณออกไป โดยไม่มีใครรู้เห็น เขาแอบลอบกินยาเม็ดชนิดหนึ่ง นามว่า ยาเม็ดกระหายเลือด ลงไป
ยาชนิดนี้สามารถเพิ่มพลังความแข็งแกร่งของเขาในช่วงเวลาสั้นๆ พลังที่เพิ่มขึ้นนี้อย่างน้อยก็สองเท่า อย่างมากสิบเท่า ขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละคน องค์ชายสือจินทุ่มเทต้นทุนเขาทั้งหมด แม้ว่าหลังจากกินยาเม็ดกระหายเลือดจะทำให้เขาหมดพลังไม่มีเหลือ ล้มลงกับพื้นอ่อนล้าก็ตาม แต่พลังที่เพิ่มขึ้นสิบนาทีก็เพียงพอต่อการจบการต่อสู้ ถ้าเขาฆ่าคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์ผู้น่ารังเกียจไม่ได้ เขาจะไม่มีทางโงหัวต่อไปในอนาคตได้ เขาต้องตาย
องค์ชายสือจินเกลียดคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์จนเข้ากระดูกดำเสียแล้ว!
ผู้ชมไม่สามารถมองเห็นองค์ชายสือจินกินยาเม็ด ทั้งหมดที่พวกเขาเห็นก็คือปราณที่รุนแรงระเบิดออกมาจากตัวของเขา พวกเขาคิดว่าองค์ชายสือจินยังคงซ่อนเร้นทักษะที่แท้จริงไว้ตลอดเวลา ทุกคนตกตะลึงกันทั้งหมด พวกเขาคิดว่าคนผู้นี้จัดการไม่ง่ายเลย ดูเหมือนเขายังมีไม้เด็ดซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของเขา
ความเคลื่อนไหวต่อมา เมื่อทุกคนได้เห็นการแสดงที่ดีแล้ว พวกเขาทุกคนยิ่งตื่นตะลึงกับภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขา
ภาพนี้ยังน่าตกตะลึง มากยิ่งกว่าตอนที่นางพญากระหายเลือดของเย่ว์หยางปรากฏตัวขึ้นเสียอีก
สิ่งที่ทุกคนเห็นก็คือนักเรียนไตตันผู้ผิดปกติธรรมดาอย่างที่สุดกลั่นโล่ไฟด้วยนิ้วเดียวป้องกันพลังโจมตีที่น่ากลัวขององค์ชายสือจินได้ นี่คือความหมายที่แท้จริงของการหยุดท่าโจมตีที่รุนแรงที่สุดด้วยเพียงนิ้วเดียว เขาไม่ได้ใช้กลเม็ดอะไรเลย เป็นพลังของตนเองล้วนๆ พลังโจมตีขององค์ชายสือจินกวาดฟันไปทั่วเวที ฟันจนเวทีแยกเป็นสองส่วน ทำลายกระเบื้องเวทีต่อสู้เหมือนกับฟันใส่เต้าหู อย่างไรก็ตาม พลังโจมตีที่รุนแรงนี้ยังถูกป้องกันได้ด้วยโล่เพลิงที่เหมือนกับไม่มีอะไร
พลังที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีหายไปเหมือนกับไม่มีอะไรมาก่อน
สิ่งที่ทำให้องค์ชายสือจินหวาดหวั่นมากก็คือ เมื่อเย่ว์หยางเงื้อดาบวิเศษฮุยจิน และใช้ท่าแรกของเขา พายุก่อเกิด ช่างดูเหมือนทักษะที่องค์ชายสือจินใช้มาก่อน ไม่สิ มันราบรื่นงดงามกว่า เย่ว์หยางโจมตีใส่อกของเขา
เกราะขององค์ชายแตกและเลือดสาดกระจาย เขาถูกแรงกระแทกจนถอยหลัง เมื่อเขามองดูเย่ว์หยาง เขาก็สังเกตเห็นได้ว่าที่ท่าโจมตีต่อเนื่องท่าที่สอง ที่สามตามมาติดๆ เหมือนกับห่าฝนที่กระหน่ำไม่หยุด กระบวนท่าพายุทะเลทรายที่เย่ว์หยางเพิ่งรับมือได้นั้น เขาใช้มันกลับคืนบุกใส่องค์ชายสือจิน แน่นอนว่า เย่ว์หยางยั้งมือไว้เล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงไม่ตาย
ภายในไม่กี่วินาที องค์ชายสือจินก็เต็มไปด้วยรอยช้ำและบาดแผล
ท่าที่เขาถูกจู่โจมทั้งหมดเป็นวิชาของเขาเอง แปดกระบวนท่าพายุทะเลทราย
“ไม่, นี่เป็นไปไม่ได้!”
องค์ชายสือจินไม่เชื่อว่าจะมีคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวอย่างนี้อยู่ในโลกนี้ ขโมยวิชาของเขาหลังจากเห็นผ่านตาเพียงครั้งเดียว วิชาพายุทะเลทรายนั้น เขาต้องใช้เวลาฝึกปรือหลายปี ภายใต้คำแนะนำของอาจารย์ผู้สอนอย่างใกล้ชิด แต่กลับถูกขโมยและใช้ออกได้ดีกว่า หากจะเอาทั้งสองมาเปรียบเทียบกัน ยังจะดูเหมือนว่าเขาเป็นฝ่ายลอกเลียนทักษะนี้มากกว่า
“วิทยายุทธขององค์ชายน่าชื่นชมนะ ไม่ว่าแง่มุมในการจู่โจม การผสานพลังและเทคนิคโจมตีเข้าด้วยกัน ทั้งหมดกลมกลืนเป็นอันดี ข้าเคยเรียนรู้วิธีฟันดาบมาก่อน แต่เห็นว่าวิชาแปดกระบวนท่าดาบโค้งขององค์ชายดีกว่าที่ข้าเรียนมามาก”
เย่ว์หยางชมเชย อย่างไรก็ตาม ผู้ชมต่างพากันขำ เจ้าเด็กนี่เข้าใจเอาเรื่องตลกมาเปรียบเทียบ เขาเอาทักษะวิทยายุทธขององค์ชายมาเปรียบเทียบกับฟันดาบทั่วไป ดูเหมือนว่าวิชาขององค์ชายช่างน่าสมเพชจริงๆ ใครๆ ก็รู้ว่าวิชาฟันดาบเป็นหนึ่งในวิชาดาบที่พื้นๆ ที่สุดในโลก
วิชาฟันดาบเป็นวิชาที่พื้นฐานมากขนาดที่แม้แต่ทหารรับจ้างชั้นต่ำยังไม่ต้องการฝึกและเรียนรู้
ตอนนี้เขาเปรียบเทียบวิชาดาบขององค์ชายกับวิชาฟันดาบ ก็เหมือนกับเรียกทักษะขององค์ชายว่าไม่ต่างกับวิชาสวะ
พอได้ยินเช่นนี้ องค์ชายสือจินรู้สึกเจ็บปวดในอก
เขาพ่นเลือดออกมาจากปาก
ไป๋หวินเฟยได้รับบาดเจ็บภายในก็เพราะเขาโกรธ อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่กรณีเดียวกับองค์ชายสือจิน เขาบาดเจ็บด้วยฝีมือของเย่ว์หยางจากนั้นถึงได้บ้วนเลือดออกมาเนื่องจากความโกรธ มองดูผิวเผิน ดูเหมือนว่าเย่ว์หยางใช้วิชาขององค์ชายในระดับเดียวกับองค์ชาย อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปที่ตัวขององค์ชายสือจิน เขาก็รู้ได้ว่าแตกต่างกัน ทุกการโจมตีของคุณชายสามตระกูลเย่ว์มีพลังหมุนหนุนเนื่องตามมา แม้ว่าแผลจะดูไม่แย่ขนาดนั้น แต่บริเวณใต้ผิวได้รับแรงกระแทกรุนแรงจนฉีกขาด อาการบาดเจ็บของเขาจึงค่อนข้างหนักและเจ็บปวด ถ้าไม่ใช่เพราะการป้องกันของเกราะสายฟ้าและผลของยาเม็ดกระเลือด องค์ชายสือจินคงรู้สึกเหมือนกับจะตาย
“เอาเลย จะกินยากระหายเลือดเพิ่มอีกสองเม็ด ข้าก็ไม่ว่า ข้ารับประกันได้ว่าผู้ตัดสินคงจะไม่รบกวนขณะที่ท่านกินลงไปแน่”
เมื่อเย่ว์หยางพูดออกมา ทั่วทั้งเวทีก็มีเสียงโห่ขึ้นมาอีกครั้ง
ยาเม็ดกระหายเลือด ไม่มีใครที่ไม่รู้จักมัน
ของแบบนั้น มันถูกใช้ระหว่างสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย การใช้งานเป็นสิ่งต้องห้ามในการแข่งขันตามปกติ ใครกันจะคิดว่าองค์ชายสือจินนี้จะกล้าใช้ของอย่างนี้ภายใต้การจับตาดูของทุกคน!
ที่มา : https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=264