ตอนที่ 205 ย่ำลูกเจี๊ยบ, ระเบิดไข่, ปิ้งไส้กรอก P.1
เย่ว์หยางหันไปมองเห็นเป็นบุรุษผอมสูงสวมชุดยาวสีขาว
เขาดูหยิ่งยโสมาก รูปลักษณ์ของเขาพยายามแสดงออกว่าหล่อเหลา แต่ดูซีดเซียวราวกับว่าดื่มเหล้ามากเกินไป เย่ว์หยางเห็นว่าหน้าของเจ้านี่ดูเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอก เขามีนัยน์ตาเรียวเล็ก ริมฝีปากบางและจมูกคด ไว้ผมยาวประบ่า แต่ถักเปียเล็กๆ ไว้ใกล้ๆ หูทั้งสองข้างทำให้ดูแปลกตาเหมือนพวกเจ้าชู้ อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพลักษณะอย่างนั้นก็ยังไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียนอยู่ดี เจ้าผู้นี้ทำตัวราวกับว่าเป็นพระราชา
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหน้าบึ้งด้วยความโกรธ นางจ้องมองเจ้าคนหยิ่งปากพล่อยนี้เหมือนกับจะจ้องให้ตาย
อย่างไรก็ตาม นางหันไปดูเย่ว์หยาง จากนั้นตัดสินใจว่านางจะให้โอกาสเขา
นางจะลองให้บุรุษที่นางหมายตาไว้แก้ปัญหาครอบครัว
ก่อนหน้านี้ นางเคยฟังบิดานางมาบ้างแล้ว แต่ตอนนี้ นางจะลองฟังเจ้าเด็กนี่บ้างและปล่อยเรื่องนี้ให้เขาจัดการ
นางดึงเย่ว์ปิงเบาๆและชี้ให้รู้ว่าปล่อยเรื่องนี้ให้เย่ว์หยางจัดการ พวกนางเป็นแค่ผู้ชม ตอนแรก องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน กังวลเล็กน้อยว่าเจ้าโง่ผู้นี้คงจะจำนางได้และหนีไปด้วยความกลัว นึกไม่ถึงเลยว่านางคิดมากเกินไปจริงๆ
เจ้าคนกักขฬะนี่สำรวจสตรีทั้งสามคนขึ้นๆ ลงๆ และจำองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้ เพราะนางมักสะพายดาบใหญ่ไว้ข้างหลังหรือไม่ก็สวมเกราะเงิน แต่ตอนนี้นางสวมแค่เพียงเกราะหนัง เจ้าคนกักขฬะจึงไม่ให้ความสนใจองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมากนัก เขาคิดแต่เพียงว่านางเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญที่ดูงดงาม แต่เขาจำไม่ได้ว่านางเป็นนักสู้
ในที่สุด เจ้าคนกักขฬะก็มองเห็นฮุยไท่หลางที่ยืนอยู่ข้างหลังเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางรู้ได้ว่าสาเหตุที่เจ้าโง่นี่มองดูฮุยไท่หลาง เพราะเขาคิดว่าฮุยไท่หลางเป็นหมาป่าปีศาจหลังเหล็ก อสูรทองแดงระดับ 3
“เจ้าเองหรือ?”
เย่ว์หวี่จำได้ว่าคนกักขฬะผู้นี้เป็นใคร สีหน้าที่ขาวราวหิมะของนางเหมือนเคลือบไว้ด้วยหน้ากากน้ำแข็ง นางพึมพำ
“เซี่ยเชียนชิว! แม้ว่าการพูดพล่อยๆ เป็นเรื่องถนัดของเจ้า แต่เจ้าต้องแสดงออกให้เกินเลยด้วยหรือ? แล้วตาเจ้าบอดหรือ หรือว่าเอามันไปไว้ที่ก้น? เจ้าเห็นว่าข้าเจ้าชู้หรือว่าเล่นหูเล่นตากับผู้ชายเมื่อไหร?”
“ข้าเห็นมันกับตาข้าเอง นังหญิงโสโครก เจ้ายังเจ้าชู้เล่นหูเล่นตาต่อหน้าข้าอยู่เดี๋ยวนี้ไงเล่า มันมีแค่ไอ้หมาสวะชั้นทองแดงระดับ 3 เท่านั้นเองใช่ไหม? เจ้านึกว่าข้าจะไม่มีอสูรอย่างนั้นบ้างหรือ? ข้ามีพญาวานรตาทอง อสูรทองแดงระดับ 4, นักรบหัววัว อสูรทองแดงระดับ 4 แค่นี้ก็น่ากลัวเหลือเฟือแล้ว เพียงแต่ข้าไม่ได้เอาไปโอ้อวดทั่วเมืองเท่านั้น ทำไมเจ้าต้องเอาไอ้หมาสวะของเจ้ามาอวดกันด้วย! เย่ว์หวี่ นังแพศยา เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถหือกับข้าได้ เพราะเจอไอ้เด็กหน้าตาดีนี่น่ะหรือ? เจ้าต้องการยกเลิกการหมั้นของเราใช่ไหม? ฝันไปเถอะ!”
บุรุษผอมสูงนามเซี่ยเชียนชิวหัวเราะอย่างชั่วร้าย
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะยโสขนาดไหนก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่กล้าผลีผลามโดยพลการ
ทันทีที่เขาเห็นฮุยไท่หลางหอน เขารีบควักผลึกสีแดงออกมาแล้วอัญเชิญกอริลลาสายเสริมพลังออกมา
แสงสีแดงสว่างวาบในขณะที่กอริลลาผสานเข้ากับร่างของเขา ร่างกายเขาที่ผอมแต่เดิมก็ขยายออกจนเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ ขณะที่เขากลายร่างเป็นเหมือนคนที่สูงสองเมตร เสื้อของเขาฉีกขาดจากกันจนเป็นชิ้นๆ เพราะกล้ามเนื้อที่ขยายตัวของเขา ผิวที่เคยขาวเรียบลื่นก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นมีขนงอกหนาขึ้นบนตัวของเขา
เซี่ยเชียนชิวมีทักษะรบเพิ่มขึ้นเนื่องจากได้รับการเสริมพลังจากพระยาวานรตาทอง อสูรทองแดงระดับ 4 ดูเหมือนว่ามันจะก้าวร้าวไม่เบา
หลังจากนั้นเขายังอัญเชิญนักรบหัววัว อสูรทองแดงระดับ 4 ออกมาอีกตัวหนึ่งเพื่อความมั่นใจของตนเอง ดูเหมือนเขาต้องการทำให้เย่ว์หยางตกใจกลัวจนตาย และแสดงความทุเรศออกมา
เขาชี้มาที่เย่ว์หยางและกล่าวอย่างโอหังว่า
“ไอ้รูปหล่อ! คุกเข่าต่อหน้าข้า และเลียเท้าข้าเดี๋ยวนี้!”
เย่ว์หวี่คิดว่าเย่ว์หยางคงสามารถฆ่าเจ้าโง่นี่ได้ด้วยการเคลื่อนไหวครั้งเดียว
แม้ว่านางจะเกลียดเซี่ยเชียนชิวก็ตาม แต่นางไม่ต้องการให้เย่ว์หยางต้องกลายเป็นศัตรูกับตระกูลเซี่ยเพราะนาง นางจึงรีบตะโกน
“ไร้ยางอายจริงๆ เซี่ยเชียนชิว! เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร? กล้าดียังไงถึงได้หยิ่งผยองนัก? หยุดบ้าได้แล้ว นี่ไม่ใช่ลานบ้านของตระกูลเซี่ยเจ้า หยุดทำกร่างแถวนี้ได้แล้ว!”
เซี่ยเชียนชิวได้ยินเช่นนี้ก็โกรธทันที
“นังตัวดี! อย่านึกว่าเจ้าจะแกล้งทำตัวเป็นผู้หญิงที่ดีได้ แค่เพราะมีตระกูลเย่ว์หนุนหลังเจ้านะ! อีกในไม่ช้า เจ้าจะจบการศึกษา และวันที่เจ้าจบการศึกษาก็จะเป็นวันแต่งงานของเรา ถึงตอนนั้น นังผู้หญิงมือสองอย่างเจ้าจะต้องเป็นทาสส่วนตัวของข้า ข้าจะแตะต้องเจ้าเมื่อใดก็ได้ที่ต้องการ วันเช่นนั้นเหลืออีกไม่นานแล้ว เอาเลยสิ แกล้งทำได้เลยเท่าที่เจ้าต้องการ! แกล้งทำเป็นบริสุทธิ์ผุดผ่อง แกล้งทำเป็นว่าอวัยส่วนล่างของเจ้ามันเป็นทองแท้ๆ! ฮ่าฮ่าฮ่า จะใช้ข้ออ้างนี้มาทำอะไร? ยังไงเจ้าก็ต้องตกเป็นของข้าในที่สุดไม่ใช่หรือ? เย่ว์หวี่! ข้าทนให้คู่หมั้นอย่างเจ้าหลอกลวงมาเป็นเวลานานเกินไปแล้ว ทำไมเจ้าไม่ปล่อยให้ข้าจับเนื้อต้องตัวเจ้าในวันนี้เลยเล่า? เจ้าก็ไม่ได้สร้างจากหยกหรือทองสักหน่อย, เจ้าก็แค่ผู้หญิงสำส่อน! ฮ่าฮ่าฮ่า, ข้ามาหาเจ้าเองแล้ว ดูซิว่าตระกูลเย่ว์จะปกป้องเจ้าได้อย่างไร?!”
เย่ว์หวี่โกรธจัดจนหน้าของนางซีดขาว และสั่นไปทั้งตัว นางโกรธจัดจนพูดไม่ออก
เย่ว์หยางแค่มองอย่างเย็นชา ปล่อยให้เจ้าตลกเปิดการแสดงต่อไป
ญาณทิพย์ระดับ 4 ของเย่ว์หยางสามารถมองเห็นได้หลายอย่าง
ตัวอย่างเช่น อสูรของเซี่ยเชียนชิวอาจเป็นหนึ่งในอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่เพื่อนของเขา มันเป็นอสูรชั้นดีจริงๆ แต่ญาณทิพย์ของเย่ว์หยางสามารถเห็นได้ว่าอสูรทองแดง ระดับ 4 นี้วิวัฒนาการขึ้นมาโดยใช้ผลึกเวท ดังนั้นแม้ว่ามันจะเป็นอสูรทองแดงระดับ 4 แต่ก็ยังไม่อาจเทียบได้กับอสูรทองแดงระดับ 3 ของคนอื่นที่บ่มเพาะอย่างระมัดระวังโดยวิธีอื่น
ดังนั้น พอจะอนุมานได้ว่า พลังที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งของตระกูลเซี่ยมีความมั่งคั่งและการสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
การปรับระดับเพิ่มด้วยวิธีแบบนี้โดยยอมเสียเวลาและใช้ความสามารถเป็นเพียงผลประโยชน์ระยะสั้นและเพิ่มพลังขึ้นมาได้สมใจทันที แม้ดูผิวเผินจะมีพลังมาก แต่ความจริงเป็นแค่สวะ
เย่ว์หยางไม่รู้ว่าใครสนับสนุนตระกูลเซี่ยอยู่เบื้องหลัง แต่พอเห็นเซี่ยเชียนชิวแล้ว เขาก็สามารถทำความเข้าใจเรื่องหนึ่งได้บ้าง
ตระกูลเซี่ยเป็นเพียงเครื่องมือที่ถูกเชิดให้ออกมาข้างหน้าโดยคนบางคนที่อยู่ในมุมมืดคอยควบคุมอยู่หลังฉาก
พวกมันเพียงจัดการกับตระกูลเย่ว์ หรืออาจจะเป็นตระกูลใหญ่ทั้งสี่
ไม่ต้องพูดถึงเฟิงชิซา, เหยียนพั่วจวินและเสวี่ยทันหลาง สามดาวเพชฌฆาตที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี พลังของเซี่ยเชียนชิวยังไม่อาจเทียบได้กับนักสู้รุ่นเยาว์ของตระกูลเย่ว์, เย่ว์เทียน, เย่ว์เยี่ยนหรือแม้แต่เย่ว์ถิง พลังของพวกเขายังต่างกันมาก เย่ว์หยางรู้ด้วยว่าพลังของเซี่ยเชียนชิวมีระดับพอๆ กับนักสู้เยาว์ที่ฝีมือแย่ที่สุดอย่าง เย่ว์เป่า ถ้าพวกเขาสู้กันจริงๆ เซี่ยเชียนชิวยังไม่ทันได้ใช้คัมภีร์ของตนเอง เขาจะต้องพ่ายแพ้เย่ว์เป่าแน่นอน
ด้วยความอ่อนแอของร่างกายที่ดื่มเหล้ามาและอสูรทองแดงระดับ 4 อีกสองตัวที่บ่มเพาะมาด้วยผลึกเวท เย่ว์หยางใช้เพียงนิ้วเดียวก็เอาชนะได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางตัดสินใจแสดงฝีมือให้เจ้าโง่นี่ดู
เซี่ยเชียนชิวพูดก้าวร้าวไม่สมกับตัวเขามากขึ้นทุกที มีเหตุผลมากพอที่เขาสามารถทุบตีเขาได้แทนเย่ว์หวี่แล้ว นอกจากนี้ เขายังสามารถทุบตีเขาได้อย่างหนักด้วย
บุรุษที่น่ารำคาญนี้พูดพล่ามมากเกินไป ตระกูลเซี่ยจะไม่ยอมยกเลิกการหมั้นไม่ว่าจะอย่างไรอย่างนั้นหรือ?
ตอนที่เซี่ยเชียนชิวพูดคำที่ไร้คุณธรรมและโหดร้ายเช่นนั้น เขาไม่มีทางที่จะกลับคืนคำ มาดูซิว่าตระกูลเซี่ยจะปกป้องเขาได้อย่างไร
เย่ว์หยางไม่สามารถทำอะไรกับชะตาที่น่าสงสารของเย่ว์หวี่ได้ เมื่อเขาได้ฟังเรื่องของนางมาก่อนนั้น แต่ตอนนี้ตัวปัญหากลับเสนอตัวเองมาอยู่ต่อหน้าเขา เย่ว์หยางจะไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรมากกับญาติผู้พี่ของเขา แต่เขารู้ว่านางเป็นคนจิตใจดีและอ่อนโยน นอกจากนี้ ดูเหมือนว่านางพยายามช่วยเหลือสหายผู้น่าสงสารเมื่อเร็วๆ นี้อีกด้วย ดังนั้น ไม่เป็นไรอยู่แล้ว หากจะช่วยนางบ้างสักเล็กน้อย
ขณะนั้นเอง เด็กสาวคนหนึ่งเดินออกมาจากต้นไม้ตรงทางเดิน
นางมีรูปร่างอวบอั๋น ดูแล้วยั่วยวนไม่น้อย
การนุ่งห่มของนางดูไม่ค่อยเรียบร้อย เย่ว์หยางสามารถมองเห็นเนินอกนางได้ถึงครึ่งหนึ่ง ถูกปิดไว้โดยชุดของนางครึ่งหนึ่ง เห็นได้ชัดว่านางเพิ่งมีสัมพันธ์กับเซี่ยเชียนชิวในพุ่มไม้นั้นมา
จากระยะไกล องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนผู้มีทักษะหกรับรู้สามารถได้กลิ่นลามกจากร่างกายนาง องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนขมวดคิ้วทันทีขณะดึงเย่ว์หวี่และเย่ว์ปิงถอยหลังไป 2-3 ก้าว เซี่ยเชียนชิวคิดว่าพวกนางถอยเพราะกลัวเขา ทำให้เขาหยิ่งผยองยิ่งขึ้นขณะที่หัวเราะลั่นออกมาด้วยความยินดี เมื่อสตรีหุ่นยั่วยวนนั้นเห็นเย่ว์หวี่ นางสบถคำด่าพร่างพรูออกมายาวเหยียดเหมือนกับภูเขาไฟที่เริ่มปะทุขึ้น
คำด่าของนางไม่เหมาะที่คนจะฟังได้เลย
เย่ว์หวี่สั่นด้วยความโกรธ
ในที่สุดนางก็ทนไม่ได้อีกต่อไป นางดึงเย่ว์หยางมาและพูดว่า
“เสี่ยวซาน! อย่าไปยุ่งกับสุนัขพวกนี้เลย ไปกันเถอะ!”
“คิดจะหนีหรือ? ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก!”
เซี่ยเชียนชิว กระโดดสูงขึ้นไปมากกว่าสิบเมตร และยืนจังก้าขวางถนนอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยางและคนอื่น เขากางแขนออกขวางทางไว้
นักรบหัววัวก็ยังตามมา มันย่ำพื้นหนักๆ มาตลอดทาง
เป้าหมายของมันคือ ฮุยไท่หลางที่ดูเหมือนเกียจคร้าน
ฮุยไท่หลางเดิมทีมันอยากต่อสู้จริงๆ แต่มันได้ต่อสู้กับศัตรูแข็งแกร่งมามากมายแแล้ว มันฆ่าอสูรชั้นเงินมาแล้ว แม้แต่ฆ่าอสูรชั้นทอง มันก็เคยฆ่ามาแล้ว
ดังนั้น สำหรับนักรบหัววัวอสูรทองแดงระดับ 4 ฮุยไท่หลางไม่ค่อยรู้สึกกระตือรือร้นหรือต้องการยกระดับพลังต่อสู้เพื่อสู้กับมัน
“คุกเข่าซะ ใช้ปากของเจ้าบริการให้ข้าพอใจ แล้วข้าค่อยคิดเรื่องปล่อยเจ้ากับเจ้าเด็กบัดซบนี่ทีหลัง มิฉะนั้นข้าจะทุบเจ้าให้ตายที่นี่และเดี๋ยวนี้! สำหรับเจ้า เจ้าเด็กน้อย คุกเข่าและเห่าด้วย ถ้าข้าไม่บอกให้เจ้าหยุด เจ้าต้องเห่าต่อไป มิฉะนั้น ไม่เพียงข้าจะตัดหัวบัดซบของเจ้าเท่านั้น แต่ข้าจะทำลายครอบครัวของพวกเจ้าทั้งหมด!”
ในความเป็นจริง ไม่ใช่ครั้งแรกที่เซี่ยเชียนชิวก่อเรื่องแบบนี้ ข่มขู่ยามกลางวันแสกๆ ข่มขืนและทำลายครอบครัวอื่นๆ เป็นเรื่องที่เขาทำมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
ที่มา : https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=223