ตอนที่ 157 ซาบซึ้งตรึงใจไม่ต้องเอ่ยคำขอบคุณ
หลังจากโพรงมดพลังทลายไปครึ่งหนึ่ง มดแดงไฟก็กรูกันออกมาไม่มีสิ้นสุด
พวกมันไม่สนใจเนื้อมนุษย์ที่ปกติแล้วมันจะชอบกิน พวกมันแค่ขนย้ายกองหินออกไปโดยไม่ยอมหยุด ทหารมดยักษ์ออกมาหลายตัว ลาดตระเวนไปทุกที่ และบางส่วนก็มารวมตัวอยู่หน้าเย่ว์หยาง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เย่ว์หยางจะได้ทำอะไร พวกมันก็โดนฮุยไท่หลางเหวี่ยงลงจากยอดเขาทั้งหมด มันเกลียดมดแดงไฟเข้ากระดูกดำ ฮุยไท่หลางระเบิดเพลิงสีดำแห่งความโกรธขึ้นไปในอากาศ ทำให้มดทหารกลิ้งตกลงมาจากยอดเขา
เมื่อตอนที่มันอยู่ในรังมดที่ล้อมรอบไปด้วยมดจำนวนเป็นหมื่น ไม่ว่าฮุยไท่หลางจะแข็งแกร่งแค่ไหน มันก็ยังไม่มีทางได้เปรียบ
อย่างไรก็ตาม ถ้าแค่เผชิญหน้ากับมดทหารไม่กี่ตัวเหมือนตอนนี้ มันสามารถเล่นงานเจ้าตัวยักษ์ขนาดไม่กี่เมตรนี่ได้อย่างง่ายดาย
ความโกรธความอัดอั้นตันใจเมื่อตอนที่มันโดนล้อมกรอบโดยฝูงมดจะได้รับการระบายในคราวนี้ ฮุยไท่หลางดีใจ ตราบใดที่มดแดงไฟทิ้งฝูงมันออกมา มันก็สามารถเล่นงานและเอาชนะเจ้าพวกนี้ได้มากเท่าที่มันพอใจ
หลังจากหินที่ถล่มถูกขนย้ายออกไปหมด มดแดงไฟก็พบกระเป๋าหลังที่ซ่อนอยู่ในรอยแยกหิน
เย่ว์หยางและคนอื่นๆ สังเกตเห็นสิ่งที่ถูกพบ ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือไข่มดทองนั่นเอง
ไข่มดทองสามใบถูกมดแดงไฟขนย้ายออกไปอย่างระมัดระวัง พวกมันเตรียมจะขนกลับไปยังรังที่ใกล้ที่สุด หัวใจเย่ว์หยางเต้นแรง แม้ว่าพวกมันจะไม่มีประโยชน์สำหรับเขา แต่ไข่มดทองเหล่านี้เป็นของที่ไม่เลวเลย
เย่คงและคนอื่นๆ อาจใช้ประโยชน์จากพวกมันก็ได้ เย่ว์หยางบอกความตั้งใจของเขาให้เย่คง เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นรู้
“ใครต้องการมันบ้าง? มีไข่มดทหารทองอยู่สองใบ และอีกใบเป็นไข่มดทองตัวเมีย ซึ่งจะเป็นนางพญามดในอนาคต...”
“ข้าไม่ต้องการมัน!”
เย่คงรีบโบกมือ เขาเพิ่งทำสัญญากับด้วงจอมพลังเมื่อไม่นานนี้ ตอนนี้ควรจะให้โอกาสสหายคนอื่นบ้าง
“ให้เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นเถอะ!”
“อะไรนะ? ข้าก็ไม่ต้องการ”
เจ้าอ้วนไห่ในสภาพเปลือยเอามือทั้งสองบังอวัยวะส่วนล่างของตนตะโกนออกมา
“ความจริงลูกพี่ของพวกเจ้าต้องการทำสัญญากับอสูรสาวแสนสวยเท่านั้น ข้าไม่ชอบมด ให้หลี่ชิวและหลี่เกอก็แล้วกัน มันไม่มีค่าสำหรับข้า!”
แม้ว่าโดยผิวเผินเขาจะพูดดูดีเป็นธรรมชาติ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เขาเจ็บปวดใจมากจนหน้าอ้วนๆ สั่นสะท้านด้วยความเสียดาย
ถ้าอยู่ในสภาวะปกติ เขาอาจจะรับมันด้วยความยินดีไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เย่ว์หยางช่วยฟื้นศักดิ์ศรีของเขาเมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้เขามุ่งมั่นที่จะกลับตัวกลับใจใหม่ หลังจากดูร่างแผนพิเศษกับเย่ว์หยางแล้ว เจ้าอ้วนไห่จึงได้รู้ทิศทางที่เขาจะพัฒนาตนเอง
ซึ่งจะช่วยในการฝึกแรดเหล็กของเขา แรดเหล็กเป็นอสูรพิทักษ์ตนหนึ่ง แม้ว่าตอนนี้มันจะอ่อนแอไปนิด แต่ทันทีที่มันกลายเป็นอสูรชั้นเงิน และชั้นทอง คุณค่าของการอบรมบ่มเพาะมันจะสูงมากกว่ามดทหาร อสูรทองเสียอีก อย่างน้อยที่สุด แรดเหล็กจะไม่มีวันตาย ไม่หักหลังเขา มันจะเป็นคู่หูที่น่าเชื่อถือมากที่สุดในชีวิตของเขา
แม้ว่ามดทหาร อสูรทองจะเป็นอสูรชั้นดี แต่ทันทีที่มันตาย เขาก็จะไม่มีอะไรเหลืออีก
และยิ่งไปกว่านั้น มดทหารไม่มีความฉลาด มีแต่เพียงสัญชาตญาณ เอามาประยุกต์ใช้ในสนามรบได้ไม่มาก
ขอบคุณสวรรค์ นี่เป็นอสูรสายเสริมพลังชนิดหนึ่ง ถ้ามันเป็นมดทหาร อสูรสายนักรบ มันอาจไม่สามารถเทียบชั้นได้กับหมาป่าปีศาจ อสูรเงินได้เลย
“ทิ้งไข่ทองตัวเมียให้ฝูงมดไป ในอนาคตมันจะได้เป็นตัวนางพญาแน่นอน ที่เราต้องการก็คือไข่ทองของมดทหาร”
หลี่ชิวและหลี่เกอรู้สึกว่าจะช่วยทำอะไรไม่ได้ ถ้าเขาไม่รีบพัฒนาความแข็งแกร่งของพวกเขา ด้วยไข่มดทหารทอง ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาจะไม่เป็นตัวถ่วงดึงให้ทุกคนตกต่ำ
พวกเขารู้ตัวเองดี การที่จะทำสัญญากับมดทหารที่เป็นอสูรทอง มันเป็นยิ่งกว่าโชคที่พวกเขาโหยหามาทั้งชีวิตของพวกเขา
ไม่ใช่แต่เพียงแค่นั้น ทหารมดทองเหล่านี้ยังคงเป็นไข่อยู่ ยังคงเป็นตัวอ่อน พวกมันต้องใช้เวลาทั้งชีวิตของพวกเขาในการบ่มเพาะอบรม
ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยาง พวกเขาไม่มีทางได้รับไข่มดทองเหล่านี้แน่ คงได้แต่เพียงมองของล้ำค่าดังกล่าวและทำน้ำลายยืดเท่านั้น
ภายใต้คำแนะนำของเย่ว์หยาง นางพญากระหายเลือดบินเลียดลงมาจากท้องฟ้า
เห็นแค่นางขยับเท่านั้น ก็คว้าไข่มดทหารทอง 2 ใบมาได้แล้ว จากนั้นก็เริ่มเกิดความโกลาหลในฝูงมดทันที แต่มดแดงไฟจะกลัวนางพญากระหายเลือดตามสัญชาตญาณของมัน พวกมันไม่สามารถจะบินได้ จึงไล่ตามนางไปไม่ได้
สิ่งที่พวกมันทำได้ก็คือเพิ่มการปกป้องไข่นางพญามากขึ้น มดแดงไฟหลายสิบตัวรวมตัวกันและก่อตัวเป็นกำแพงมดขณะที่ขนไข่นางพญากลับไปที่อุโมงค์มด เมื่อไข่นางพญามดทองถูกขนย้ายลึกเข้าไปในโพรงมดแล้ว ไม่สามารถจะมองเห็นได้อีกต่อไป พวกมดแดงไฟขนเอาหินมาปิดปากหลุมโพรงมดไว้อย่างแน่นหนา
เหมือนกับว่าพวกมันกลัวนางพญากระหายเลือดจะไล่ตามพวกมันเข้ามาอีก
พวกมันมีสัญชาตญาณปกป้องนางพญาตั้งแต่เกิด เทียบกับไข่ทองมดทหารแล้ว มดนางพญาคือทุกอย่างสำหรับพวกมัน
แม้ว่ามันจะเป็นไข่ทองของนางพญาที่ยังไม่ได้ฟัก แต่ไข่นั้นก็ถือกำเนิดมาจากนางพญาตัวก่อน และมันถูกชะตาลิขิตไว้แล้วว่าจะต้องกลายเป็นนางพญาตัวต่อไป
“ไข่มดเหล่านี้ แข็งแรงดีจริงๆ”
เย่ว์หยางพบว่า แม้หลังจากผ่านเหตุการณ์สะท้านสะเทือนมาถึง 2 ครั้ง แต่ไข่มดทองที่เหลืออยู่ก็ยังไม่เสียหาย
“ถ้าเป็นข้านะ ข้าคงจะให้รวมกับไข่อลเวงเหมือนกับเจ้าลิงผอมนั่น! แม้ว่าเจ้าคิงคองปีศาจจะยังคงเป็นสวะหลังจากผสมผสานไข่ได้แล้ว แต่มันคงต้องดีขึ้นเยอะ เมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งที่มันมีอยู่แต่ก่อน!”
พอเห็นนางพญากระหายเลือดและเย่ว์ปิงอยู่ตรงนั้น เจ้าอ้วนไห่ที่ยังเปลือยกายอยู่รีบวิ่งไปหลบอยู่หลังโขดหิน แม้ว่าเขาจะไม่กล้าเดินออกมา แต่เสียงของเขาแสดงว่าเขาไม่ต้องถูกทิ้งไว้ ก็เลยออกความเห็นงี่เง่าให้พี่น้องตระกูลหลี่
“ไม่, เราไม่ต้องการทดลองผสมกับไข่อลเวง!”
หลี่ชิวและหลี่เกอปฏิเสธข้อเสนอ
โอกาสทำได้สำเร็จคือ 0.01% ทำให้คนผิดหวังมามากแล้ว
ไม่ใช่แต่เพียงแค่นั้น นี่คืออสูรชั้นทองแต่แรกเริ่มอยู่แล้ว ทำไมยังจะต้องเสี่ยงอันตรายอีกเล่า?
เย่ว์หยางก็ยังรู้สึกว่าใช้ไข่อสูรทองผสานกับไข่อลเวงคงเป็นเรื่องน่าเจ็บปวด..
ยิ่งสัตว์อสูรเป็นระดับที่สูงกว่า ย่อมหาไข่อลเวงมาผสานเข้าได้ยากยิ่งขึ้น แค่นี้ก็ไม่เลวอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องโลภมากเกินไป
แม้ว่าพวกเขาจะถูกอันตรายล้อมรอบ แต่พวกเขาก็สามารถรวบรวมผลตอบแทนที่ได้มากเช่นกัน อย่าว่าแต่เย่ว์หยางเลย แม้แต่คัมภีร์อัญเชิญของเย่ว์ปิงและเจ้าอ้วนไห่ก็ได้รับการยกระดับขึ้นด้วย
คัมภีร์ชั้นทองแดงระดับสูงของเย่ว์ปิงเปลี่ยนเป็นคัมภีร์ชั้นเงินอย่างเป็นทางการ ในขณะเดียวกันยังได้รับเพิ่มหน้าว่างในคัมภีร์ของนางอีกด้วย ทักษะธรรมชาติ “พิษร้ายแรง” ก็เพิ่มระดับขึ้นด้วยเช่นกัน เย่ว์หยางพบว่าผู้พิทักษ์พฤกษาร้อยปีของนางแสดงร่องรอยลางๆ ว่าจะมีการปรับระดับด้วย เกือบแล้ว ถ้าได้ความช่วยเหลือภายนอก มันอาจกลายเป็นอสูรเงินสำเร็จก็ได้
คัมภีร์ทองแดงของเจ้าอ้วนไห่ก็มีการยกระดับจากระดับเริ่มต้นไปเป็นคัมภีร์ทองแดงระดับกลาง รหัสโบราณยังได้ให้ของขวัญเขาเป็นอสูรฮิปโปโปเตมัสน้อยแก่เขาตัวหนึ่งด้วย
แม้ว่าฮิปโปน้อยตัวนี้จะดูเหมือนติงต๊องก็ตาม แต่นี่คือของขวัญจากรหัสโบราณ เจ้าอ้วนไห่ไม่กล้าทอดทิ้งมัน ถ้าอสูรที่ได้รับมาจากรหัสโบราณถูกทอดทิ้ง เขาจะไม่มีทางได้รับอสูรของขวัญอีกเลย เมื่อถึงคราวคัมภีร์อัญเชิญยกระดับอีกครั้ง พวกเขาจะได้แต่เพียงหน้าคัมภีร์ที่ว่างเปล่า
พอเห็นเจ้าอ้วนไห่มีสีหน้าหดหู่ เย่คงหัวเราะจนน้ำตาเล็ด
“เจ้านี่คืออสูรชั้นทองแดงตัวหนึ่ง ฝึกมันให้ดีๆ บางทีหลังจากแรดกลายเป็นสาวงามแล้ว เจ้าก็ยังสามารถบ่มเพาะสาวงามฮิปโปได้อีก!”
คราวนี้เย่คงลงไปนอนกลิ้งกับพื้นพลางหัวเราะต่อ
“ข้าเป็นคนใจเปิดและใจเย็น หัวใจของข้ายังคงเหมือนกับน้ำและข้าเป็นคนใจอ่อนโยน สติปัญญาของข้าก็ไม่ใช่ระดับเดียวกับเจ้า เจ้าลิงผอม!”
เจ้าอ้วนไห่พยายามอย่างดีที่สุดที่จะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้านางพญากระหายเลือด อย่างไรก็ตาม แม้จะพยายามสุดความสามารถ นางพญากระหายเลือดก็ไม่มองเขาแม้แต่ครั้งเดียว พอเห็นว่าเจ้าอ้วนไห่ผิดหวัง เย่คงเอามือแตะไหล่ของเจ้าอ้วนไห่แสดงท่าทีเห็นใจ
ขณะที่เจ้าอ้วนไห่คิดว่าเขาคงจะปลอบใจเขาสัก 2-3 ประโยค แต่เย่คงกลับทำให้เขาหัวทิ่มด้วยคำไม่กี่คำ
“เจ้าอ้วน! ข้าบอกไม่ได้หรอกนะว่าเจ้าใจดี อย่างไรก็ตาม ข้าแค่บอกให้เจ้าพอใจและปล่อยวางเสียบ้าง ลองดูความอ้วนที่มีอยู่ในตัวเจ้าสิ ก็เหมือนกับเจ้าฮิปโปน้อยนั่นแหละ ข้ากล้าบอกได้ว่าเจ้าและแรดเหล็กของเจ้ารวมทั้งฮิปโปน้อย ต่างก็เหมาะสมกันดีอยู่แล้ว”
“คิกคิก”
คำพูดนี้ทำให้เย่ว์ปิงหัวเราะ
“อ๊าาาา!”
พี่น้องตระกูลหลี่กำลังทำสัญญากับไข่มดทหารทอง ถึงกับส่งเสียงร้องลั่นออกมาพร้อมกัน
บนร่างของพวกเขา เกราะที่เหมือนกระดองสีทองอ่อนสวมทับร่างของเขาครอบคลุมร่างของพวกเขาเกือบครึ่งหนึ่ง
เย่คงตั้งท่าและปล่อยหมัดของเขาใส่หลี่ชิวเต็มแรง
ร่างของหลี่ชิวโอนเอนเล็กน้อย แต่เท้าของเขาไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียว
ถ้าเขาถูกเย่คงต่อยเต็มแรงก่อนหน้านี้ เขาจะต้องกระเด็นไปอย่างน้อย 10 เมตร ซี่โครงของเขาอาจหักด้วยเช่นกัน
ตอนนี้ เขาสามารถทนต่อพลังหมัดจู่โจมเต็มแรงของเย่คงได้ นี่เป็นแค่ความสามารถในการป้องกันที่มดทหารทองมีอยู่เมื่อพวกมันฟักตัวแล้ว พวกมันยังคงเป็นตัวอ่อน ถ้าพวกเขาบ่มเพาะให้มันเติบโตเป็นมดทหารเต็มวัย
ความสามารถในการป้องกันตัวของพวกเขาอาจเพิ่มขึ้นอีกมากมาย ไม่ใช่เพียงแค่นั้น พื้นที่ๆ เกราะคลุมร่างพวกเขาก็ยังจะเพิ่มได้อีกจนกว่ามันจะคลุมร่างของพี่น้องตระกูลหลี่ได้ทั้งร่าง
“แข็งแกร่งมาก สมกับเป็นอสูรชั้นทองจริงๆ!”
เย่คงร้องอย่างทึ่ง
“ความจริง มันก็เจ็บเล็กน้อย ถ้าเจ้าเรียกคิงคองปีศาจออกมาและต่อยข้าอีกครั้ง ข้าอาจจะทนไม่ไหวก็ได้”
หลี่ชิวพยักหน้า อย่างมีความสุขที่ไม่คาดคิดนี้
“มดทหารทองของพวกเจ้ายังเป็นตัวอ่อน ยังมีโอกาสอีกมากที่มันจะเติบโตในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากข้าทำสัญญากับด้วงจอมพลัง ข้าก็เลยได้รับพลังเพิ่มขึ้นและมีพลังเพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนอย่างน้อยก็สิบเท่า แม้ว่าข้าจะไม่เรียกคิงคองปีศาจออกมาผสานร่างเสริมพลังก็ตาม แต่ข้าก็ยังต่อยเจ้าอ้วนให้ปลิวได้ในหมัดเดียว มดทหารทองของเจ้าแข็งแกร่งจริงๆ!”
เย่คงรับรองคุณค่าของมดทหารทอง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กลายเป็นว่าเจ้าอ้วนไห่ไม่เห็นด้วยกับความคิดของเขา
“เฮ่ย, อย่าเอาข้าไปเปรียบเทียบสิ ข้าไม่ใช่กระสอบทรายนะ!”
“พลังป้องกันไม่เลว และความสามารถด้านอื่นๆ ก็ดีด้วยเช่นกัน บกพร่องอยู่อย่างเดียวคือมันไม่มีสติปัญญา ดูเหมือนจะยากที่จะยกระดับให้เกินกว่าชั้นทอง”
เย่ว์หยางถอนหายใจ แม้ว่ามดทหารทองจะเป็นอสูรชั้นทอง แต่ก็มีศักยภาพจำกัด พวกมันไม่ใช่สัตว์อสูรชั้นเลิศที่จะมีได้
“สามารถเป็นเจ้าของอสูรทองได้ ถือเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราพี่น้องสกุลหลี่ได้รับมากที่สุดในชีวิตแล้ว เราจะถือว่ามันคือสมบัติล้ำค่า!”
หลี่เกอพยักหน้าให้เย่ว์หยางอย่างเคร่งขรึม
หลี่เกอและหลี่ชิวเป็นคนประเภทไม่พูดมาก พวกเขารู้ว่าตนเองไม่มีพรสวรรค์พอและต้องใช้ความพยายามหนักเป็นล้านเท่าเพื่อให้มีความก้าวหน้าเล็กๆ น้อยๆ
แม้คิดว่ามดทหารทองจะไม่ใช่อสูรทองที่ดีที่สุดที่มีอยู่ แต่ในโลกนี้จะมีนักรบสักกี่คนที่มีอสูรทอง?
แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีพรสวรรค์ที่โดดเด่น ไม่มีตระกูลใหญ่คอยหนุนหลัง แต่ตอนนี้บุรุษธรรมดาสองคนนี้มีสัตว์อสูรที่คนส่วนใหญ่ได้แต่โหยหาในความฝันเท่านั้น ยังจะมีอะไรไม่น่าพอใจอีกเล่า?
เมื่อเทียบกันแล้ว แม้แต่เย่คงที่มีศักยภาพมากที่สุดในพวกเขาสามคนและเจ้าอ้วนไห่ที่ครอบครองคัมภีร์อัญเชิญ ก็ยังไม่มีอสูรทองเลย แล้วพวกเขาจะไม่พอใจได้อย่างไร? ถ้าไม่ใช่เพราะได้พบกับเย่ว์หยาง พวกเขาคงอดตายอยู่ในหอทงเทียนไปแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่อดตาย แต่พวกเขาคงทำได้แต่รับจ้างคุ้มกันอย่างไม่รู้ชะตาว่าจะตายกลายเป็นอาหารสัตว์อสูรเมื่อไหร่
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเย่ว์หยาง พวกเขายังจะมีวันนี้หรือ?
ดังนั้น หลี่ชิวกับหลี่เกอเทอดทูนเย่ว์หยางเป็นพิเศษและสำนึกบุญคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่เย่ว์หยางให้พวกเขา
พวกเขาไม่ได้ขอบคุณเป็นคำพูด เพราะความกรุณาที่ยิ่งใหญ่ไม่สามารถตอบแทนด้วยคำพูดอย่างเดียว พวกเขาตัดสินใจแล้วที่จะใช้ชีวิตทั้งชีวิตทดแทนคุณบุรุษประหลาดผู้นี้ ผู้ที่เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของพวกเขา
“โอวไม่นะ, ถ้าพี่ (สาว) อี้หนาน.. เอ๊ย พี่(สาว)อี้หนานมาถึงเมืองซือว่างและพบกับทหารรับจ้าง นางอาจตกอยู่ในอันตรายก็ได้!”
เย่ว์ปิงคิดอะไรบางอย่างได้จึงร้องออกมาทันที พอคิดถึงเรื่องที่นางพูด เย่คงและคนอื่นถึงกับเหงื่อตก ถ้าอี้หนานมาถึงซือว่างโดยบังเอิญ อย่างนั้นสถานการณ์ย่ำแย่แน่ เย่คงและคนอื่นๆ มองหน้าเย่ว์หยางหวังว่าเขาจะมีแผน
“พี่อี้หนานมีคัมภีร์อัญเชิญ เขาน่าจะปลอดภัยอยู่”
เย่ว์หยางปลอบเย่ว์ปิง แต่รู้สึกว่ามันน่าจะดีกว่า ถ้าเขากลับไปตรวจดูก่อน แน่นอน เขาพยักหน้ากล่าวว่า
“กลับไปซือว่างกัน ไปดูกันว่าจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น จริงๆ แล้วข้ารู้สึกว่ามันแปลก ที่ทหารรับจ้างเกิดคลั่งฆ่าฟันกันเองอย่างวุ่นวาย ใครบางคนต้องชักใยอยู่เบื้องหลังแน่”
“อย่างนั้น รีบกลับไปกันเถอะ...”
สำหรับเย่ว์ปิง พี่อี้หนานคือว่าที่พี่สะใภ้ของนางที่นางไม่ต้องการให้เกิดปัญหายุ่งยาก
ที่มา : https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=162