ตอนที่ 155 ฤทธิ์คลั่งแรงแค้น
เมื่อเย่ว์หยางมาถึง เขาตระหนักได้ว่ามีทหารรับจ้างอยู่หลายร้อยคนรายล้อมหน้าผาข้างหน้าโพรงมด
บนพื้นมีโลหิตไหลนองเหมือนลำธารและซากศพเกลื่อนกลาดอยู่ทุกที่
โดยการชำเลืองเพียงแว่บเดียวเขาสามารถประเมินได้ว่ามีศพอย่างน้อยก็หลายพัน สำหรับศพสัตว์อสูรก็ซ้อนทับกันเป็นภูเขาแล้ว
เลือดสีดำและสีแดงเข้มไหลมารวมกันเป็นแอ่งๆ มีให้เห็นในทุกที่ และในลำห้วยหลายที่ก็มีเลือดไหลรวมอยู่ด้วย การต่อสู้อย่างสิ้นหวังมันเลยจุดรุนแรงไปแล้ว นี่ดูไม่เหมือนกับว่า พวกเขาต่อสู้เพื่อไข่มดทองไม่กี่ใบเลย
กลับดูเหมือนสงครามใหญ่ระหว่างสองประเทศต่อสู้เพื่อชิงเมืองกัน เย่ว์หยางไม่เข้าใจว่าหลายอย่างเกินเลยมาถึงขนาดนี้ได้อย่างไรกัน เป็นเพราะไข่มดทองไม่กี่ใบ ถึงกับต้องฆ่าทุกคนแบบนี้ด้วยหรือ?
เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาเข้าใจทหารรับจ้างได้ดี นอกจากเด็กใหม่ที่เพิ่งจะเข้าร่วมรบแล้ว พวกทหารที่มีอายุสามารถรอดชีวิตได้เป็นส่วนใหญ่ เป็นพวกตาแก่เจ้าเล่ห์เกินไปจริงๆ
พวกเขารังแกคนที่อ่อนแอและกลัวคนแข็งแกร่ง และพวกเขารักตัวกลัวตัวเองตายมากที่สุด
ความตายคือสิ่งที่พวกเขาหลีกเลี่ยงเต็มที่
สำหรับพวกทหารรับจ้าง พวกเขาเหมือนกับจะสนุกกับชีวิตตลอดเวลา... ด้วยทัศนคติอย่างนี้ ทหารรับจ้างจำนวนมากกว่าพันคนจะประพฤติตัวเหมือนทหารในกองทัพที่ได้รับการฝึกให้สู้โดยไม่คำนึงถึงการปกป้องตัวเองได้อย่างไร? พวกเขาทำแบบนี้เพียงเพื่อชิงไข่มดทอง 3 ใบเท่านั้นหรือ?
แม้ว่าไข่มดทองจะเป็นของดี แต่มันจะสำคัญมากกว่าชีวิตของพวกเขาอย่างงั้นหรือ?
อาจเป็นไปได้ว่าสมองของพวกเขาเสียหายไปแล้วกระมัง?
เย่ว์หยางไม่เข้าใจถึงสาเหตุจริงๆ อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาเห็นฮุยไท่หลางที่มีร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลและมีร่างของเย่ว์ปิงที่หมดสติพาดอยู่บนหลังของมัน เมื่อฮุยไท่หลางส่งเสียงหอนอย่างเจ็บปวดทรมานมาที่เขา เย่ว์หยางถึงกับโกรธทันที ราวกับว่าได้จุดชนวนระเบิดในหัวใจของเขา
เย่ว์หยางรู้สึกเหมือนมีลาวาไหลอยู่ที่เท้าของเขาและมีลมหมุนอยู่ในหัวของเขา ภายในร่างกายของเขาเหมือนมีความรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างระเบิดขึ้น เขาโกรธจนกลายเป็นคลุ้มคลั่ง โหดร้ายรุนแรงไม่สามารถจะยับยั้งชั่งใจได้อีกต่อไป พลังของเขาลุกโชนขึ้นเป็นร้อยเท่า ยิ่งไปกว่านั้น กล้ามเนื้อและเลือดของเขาทั้งหมดรู้สึกเหมือนจะกลายเป็นตื่นตัว
ร่างของเขารับรู้ความรู้สึกได้แหลมคมกว่าเมื่อก่อน เขาสามารถรู้สึกถึงการไหลเวียนของเลือดผ่านไปตามเส้นเลือดและการเต้นของหัวใจของเขา ขณะนี้เย่ว์หยางไม่คิดอะไรอีกต่อไป นอกจากทำลายอยู่ในหัวใจของเขา
สิ่งที่เป็นปริศนาก็คือว่า เย่ว์หยางรู้สึกว่า ความรับรู้ของเขายังสมบูรณ์ชัดเจน
ความโกรธแบบนี้ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากที่จะยับยั้งมันได้ แต่มันก็เป็นการกระทำที่มีสติ เหมือนกับเปลวไฟที่ถูกจุดบนน้ำแข็ง
เขารู้ว่าการสังหารหมู่ของเขาจะทำให้มีคนตายนับไม่ถ้วน แต่ขณะเดียวกัน เขายังรู้สึกถึงแรงกระตุ้นที่หิว กระหายจะฆ่าทุกคนผุดขึ้นมาในใจของเขา
พวกคนที่อยู่ข้างหน้านี้ ในสายตาของเย่ว์หยาง พวกเขาไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป เย่ว์หยางเข้าสู่สภาวะบ้าเลือด รู้สึกเหมือนพวกเขาเป็นมดเล็กๆ ชั้นต่ำที่อ่อนแอ ด้วยเหตุที่การกระทำของพวกเขาที่บังอาจทำร้ายครอบครัวของเขา เย่ว์หยางรู้สึกเหมือนกับว่าเขาไม่สามารถยกโทษให้คนพวกนี้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
เนื่องจากพวกมดแมลงเหล่านี้กัดคน อย่างนั้นเขาก็ควรใช้เท้าของเขาบดขยี้พวกมันให้ตาย
นี่คือมุมมองของเย่ว์หยางในสภาวะบ้าระห่ำ
“พวกแก..ต้องตายทุกคน!”
เย่ว์หยางเงื้อดาบฮุยจินและดาบจันทร์เสี้ยวทั้งสองขึ้นคำรามด้วยความโกรธ
เปลวไฟสีม่วงลุกโชนขึ้นไปบนท้องฟ้า ขณะที่เย่ว์หยางระเบิดความโกรธออกมา
บึ้ม!
เหมือนกับคลื่นแรงระเบิด เย่ว์หยางพุ่งวาบผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เขายู่ในสภาวะบ้าระห่ำแตกต่างจากลักษณะของเขาตามปกติ ตาของเขาเปล่งประกายสีทองขณะที่ผมและเสื้อผ้าของเขาเคลื่อนไหวตลอดเหมือนกับต้องลม
รัศมีสีทองอ่อนๆ ปรากฏอยู่รอบตัวของเขา
วงแหวนแสงประหลาดลึกลับปรากฏอยู่ใต้เท้าของเขา
เย่ว์หยางไม่มีเวลาสังเกตลักษณะที่เปลี่ยนแปลงของตนหลังจากเขาเข้าสู่สภาวะบ้าเลือด เขาแค่ต้องการให้มีการฆ่าฟัน นองเลือดในตอนนี้ เพียงเท่านั้นถึงจะระงับความรู้สึกเกลียดชังที่อยู่ลึกในใจเขาได้
พวกทหารรับจ้างไม่มีเวลาได้โต้ตอบ แม้จะมีนักรบแข็งแกร่งแอบแฝงอยู่ในกลุ่มพวกเขาก็ตาม ก็เห็นแต่เพียงร่างสีทองที่ดูเหมือนคนจู่โจมเข้ามาเหมือนกับจ้าวปีศาจ เย่ว์หยางดุร้ายกว่าพยัคฆ์ที่พลัดเข้าไปในฝูงแกะ
ในทันทีนั้นเองเขาก็เริ่มการฆ่าฟันหฤโหดของเขา หลังนั้นก็มีศีรษะ แขนขานับไม่ถ้วนปลิวออกมา ทะเลเลือดฉีดพุ่งออกจากคอ ในที่สุดพวกเขาก็ได้ยินเสียงคำรามของเเย่ว์หยางตะโกนไว้ก่อนนั้น
เย่ว์หยางเคลื่อนไหวด้วยความเร็วกว่าเสียงคำรามของเขาเองเสียอีก
พอเมื่อเสียงคำรามดุจฟ้าร้องด้วยความโกรธของเขาสั่นสะท้านก้องไปทั้งภูเขา เย่ว์หยางฆ่าคนไปอย่างน้อยหนึ่งร้อยคนแล้ว
ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะเป็นนักรบระดับสูงหรือระดับต่ำ ไม่สำคัญว่าอสูรของพวกเขาจะใหญ่หรือเล็ก ทหารรับจ้างที่คุมเชิงอยู่ที่เชิงเขาด้านล่างหน้าผาที่เย่ว์ปิงอยู่ ถูกเย่ว์หยางสังหารทันที
พวกทหารรับจ้างเป็นเสมือนรวงข้าวสาลีที่ถูกเคียวเกี่ยวตัดจนราบลงกับพื้น
เมื่อเย่ว์หยางรี่ตรงเข้าหาพวกเขาราวกับพายุ แขนขาพวกเขาก็กระเด็นกระจายจากแรงลมไปทุกทิศทาง พวกเขาไม่มีโอกาสได้โต้ตอบหรือหลบหนี ไม่มีแม้แต่เวลาร้อง เพราะว่าพวกเขาถูกเย่ว์หยางที่เป็นเหมือนจ้าวปีศาจกระหายเลือดสังหารทันที
“แก๊ง!”
ขณะที่เย่ว์หยางจู่โจมสังหารทหารรับจ้างที่อยู่ในสายตาของเขาทั้งหมด เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อเขาฟันใส่ทหารรับจ้างที่ดูเหมือนเป็นคนธรรมดา แต่กลับเป็นว่าเขาต้านรับการโจมตีดุจสายฟ้าฟาดของเขาได้
มีความรู้สึกที่แปลกเปล่งออกมาจากร่างคนผู้นี้ เย่ว์หยางไม่สามารถทำอะไรได้ แต่รู้สึกว่าเขาแตกต่างจากคนที่เหลือ
ถ้าเย่ว์หยางสูญเสียเหตุผลไปโดยสิ้นเชิง เขาก็แค่ถาโถมเข้าใส่ทหารรับจ้างพวกนี้โดยไม่ต้องยั้งคิดอะไร
ยิ่งไปกว่านั้น คนผู้นี้ยังแฝงตัวเองอยู่ในหมู่คนเหล่านี้ เหมือนกับว่าเขาไม่ต้องการแสดงความสามารถที่แท้จริง แต่ตอนนี้ เขาเพียงแต่ถูกเย่ว์หยางบังคับให้เปิดเผยตนเอง เพราะเขาถูกบังคับให้ต้องป้องกันตัวเองจากกระบวนท่าสังหารของเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางตวาดลั่น ขณะที่เขาบุกจู่โจมอย่างเกรี้ยวกราด ส่งผลให้ทหารรับจ้างที่รายล้อมอยู่ปลิวกระเด็นไปเหมือนกับว่าพวกเขาถูกพายุทอร์นาโดพัดใส่ จากนั้นเขาใช้ทักษะญาณทิพย์ระดับ 3 ตรวจดูบุรุษประหลาด ที่ต้านรับการจู่โจมที่เกรี้ยวกราดของเขาได้ พอเขามองตรงมาที่เขา เย่ว์หยางก็เห็นทะลุปรุโปร่งทันที
กลายเป็นว่าเจ้าผู้นี้มีบางอย่างที่ผิดปรกติจริงๆ การณ์กลับกลายเป็นว่าในบรรดาทหารรับจ้างทั่วไป มีนักสู้ระดับ 6 อยู่ 2 คน และระดับ 5 มีอยู่ 8 คนแฝงตัวอยู่ด้วย....
บรรดาทหารรับจ้างในทวีปมังกรทะยาน ไม่ใช่ว่าจะไม่มีที่เป็นนักสู้ หากแต่ไม่มีทหารรับจ้างที่มีความสามารถของนักสู้ระดับ 6 แน่นอน
นักสู้ระดับ 6 โดยทั่วไปจะได้รับแต่งตั้งจากอาณาจักรให้ปกครองเมือง
แม้ว่าพวกเขาจะปฏิเสธที่จะเป็นเจ้าเมือง แต่พวกเขาก็ยังสามารถเป็นขุนพลหรือแม่ทัพของอาณาจักรได้
แม้ว่าจะมีนักสู้ผู้แข็งแกร่งยินดีเป็นทหารรับจ้างผู้ต่ำต้อย แต่นักสู้คนหนึ่งที่มีระดับนักสู้พัฒนาไปถึงระดับ 6 บางทีก็จะขึ้นไปฝึกฝีมือบนหอทงเทียน พวกเขาอาจไม่ยอมอยู่ในทวีปมังกรทะยานเพื่อเป็นทหารรับจ้างธรรมดาๆ
ถ้ายังมีคนแบบนี้อยู่ อย่างนั้นพวกเขาก็ยิ่งน่าสงสัยจริงๆ พวกเขาต้องมีวัตถุประสงค์ซ่อนเร้นที่บอกคนอื่นไม่ได้ ก็เช่นเดียวกับครั้งนี้
“ฆ่า!”
เย่ว์หยางไม่สนใจว่านักสู้ระดับ 6 พวกนี้เป็นใคร เขาไม่สนใจว่าพวกเขาจะมีแผนการลับเช่นไร
ตราบใดที่พวกเขาบังอาจทำร้ายน้องสาวของเขา ต่อให้พวกเขาเป็นเจ้าชาย เย่ว์หยางจะต้องฆ่าพวกเขาให้ได้โดยไม่มีการผิดพลาด แทบจะทันทีที่ในเวลานั้นเขาตระหนักถึงความแข็งแกร่งของศัตรูของเขา เย่ว์หยางโดดลอยตัวเข้าหาศีรษะของคนผู้นั้นและฟันดาบวิเศษฮุยจินลงด้วยอานุภาพปานฉีกฟ้าทำลายสวรรค์
อย่างไรก็ตาม ความเร็วของคนผู้นั้นอยู่ในระดับสูง เขาไม่ยอมถูกฟันหัวได้ง่ายๆ กลับไถลตัวไปตามคลื่นมนุษย์ทหารรับจ้างเหมือนกับปลาไถลตัวไปบนโคลน โดยเดินสลับฟันปลาไม่เป็นเส้นตรง สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางโกรธที่สุดก็คือ คนผู้นี้สามารถปลอมตัวขณะหลบหนีกลายเป็นทหารรับจ้างอีกคนหนึ่งมาหลอกเย่ว์หยาง
ถ้าเย่ว์หยางสูญเสียเหตุผลของเขา อย่างนั้นการปลอมตัวของเจ้าผู้นั้นก็อาจจะใช้ได้
แต่ตอนนี้ เขาเป็นแค่เพียงตัวตลก
เย่ว์หยางวาดดาบจันทร์เสี้ยวขอเขาและสร้างวงกลมหยินหยางสัมบูรณ์ทันที
เมื่อคนผู้นั้นหันหลังกลับมามองดู เขาก็ต้องประหลาดใจทันทีขณะที่เขาตะโกนลั่นว่า
“อย่างนี้แย่แน่! เจ้าเด็กนี่ยังคงมีเหตุผล ระดับฝีมือของเขาสูงจริงๆ เขาต้องรู้วิทยายุทธที่ทรงพลังแน่ๆ...”
เขาคิดว่าเย่ว์หยางจะจู่โจมเขาเหมือนแมวป่า จึงกระโจนและไถลตัวไปตามฝูงชนที่อยู่ต่อหน้าเขา
แต่เย่ว์หยางไม่ได้ไล่ตามเขา
ทันใดนั้น เย่ว์หยางกลับหายตัวไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา หายวับไปในอากาศ
ชั่วเวลาต่อมา เขาเทเลพอร์ตอย่างลักลับไปหาทหารรับจ้างธรรมดาที่ลอบปีนขึ้นหน้าผา เขาชักดาบจันทร์เสี้ยวที่เปรอะไปด้วยเลือดและกดไปที่คอของคนผู้นั้นตะโกนว่า
“แก เจ้าโง่ที่น่ารำคาญ กลับลงไปเดี๋ยวนี้ ขอบอกพวกเจ้าเลยนะว่าใครก็ตามบังอาจทำร้ายครอบครัวข้า จะต้องไม่มีจุดจบที่ดี!”
ทหารรับจ้างผู้นั้นสั่นไปทั้งตัว เขาไม่คิดเลยว่าระยะห่างเกินกว่าสิบเมตรนั้น เจ้าเครื่องจักรนักฆ่าที่น่ากลัวนี้จะมาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังเขาในอากาศที่เบาบางได้
เมื่อคนผู้นั้นหันกลับมาตามสัญชาตญาณขณะได้ยินคำพูดของเย่ว์หยาง เย่ว์หยางปล่อยมีดทั้งสองเล่มในมือ และบิดคอทหารรับจ้างผู้นั้น
อย่างช้าๆ
เขาบิดคอทหารรับจ้างผู้นั้นช้าๆ จนหัวหลุด
ความเคลื่อนไหวสุดท้าย ทหารรับจ้างผู้นั้น เปล่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังก้องไปทั้งภูเขาไม่หยุดยั้ง
เย่ว์หยางบิดคอของทหารรับจ้างผู้นั้นจนขาดแล้ว จากนั้นก็ชูศีรษะขึ้นแล้วทุ่มใส่หน้าผา มันแตกเหมือนผลแตงโม จากนั้นเขาเตะมันออกไปที่ด้านข้างภูเขา ทำให้ศีรษะทหารผู้นั้นกลายเป็นลูกบอลเลือดกระโหลกแตกจนไม่เหลือเค้าเดิมอีกต่อไป
“ฮุยไท่หลาง, แก...ไอ้หมางี่เง่า ทำไมเจ้าถึงใช้ไม่ได้ถึงเพียงนี้? เจ้าปกป้องคนไม่ได้เลยแม้แต่คนเดียว!”
เย่ว์หยางอุ้มเย่ว์ปิงลงมาก่อนที่จะเงื้อเท้าอย่างโมโหและเตะใส่ฮุยไท่หลางไม่ยั้ง แม้ว่ามันจะเป็นการทุบตีสั่งสอน แต่เย่ว์หยางปล่อยพลังปราณก่อกำเนิดใส่ตัวของมัน แผลของฮุยไท่หลางสมานตัวทันที
มันเริ่มระเบิดพลังงานปีศาจออกมาอีกครั้ง มันโก่งคอหอนใส่ท้องฟ้าและปล่อยเปลวไฟสีดำจนลุกท่วมตัว มันกระโดดลงมาบนพื้นและคำรามอย่างสง่างามต่อหน้าสัตว์อสูรที่อยู่ตรงหน้าผา มันคืนชีพกลับมาแล้ว
ตราบใดที่เจ้านายของมันอยู่ที่นี่ มันจะกลายเป็นหมาป่าสายพันธุ์แมลงสาบที่ไม่มีวันตายตลอดไป
เย่ว์หยางรีบให้ความช่วยเหลือน้องสาว เขาวางนางบนก้อนหินสะอาดแล้วบิศิลาบำบัดออกมา ปล่อยให้ลำแสงบำบัดครอบคลุมร่างของนาง
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เห็นสีหน้าที่ซีดขาวและบาดแผลหลายแห่งบนร่างของเย่ว์ปิง เย่ว์หยางถึงกับโมโหอีกครั้ง และเข้าสู่สภาวะบ้าคลั่งอีกครั้ง
“เจ้าพวกมดแมลงชั้นต่ำ, ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทุกคน ข้าจะทำลายพวกเจ้าทุกคน”
เย่ว์หยางระเบิดพลังคลั่งออกมาเป็นครั้งที่สอง พลังและความแข็งแกร่งของเขายังคงเพิ่มขึ้นหลายร้อยเท่า ขณะนี้ เขาไม่ได้ใช้ดาบจันทร์เสี้ยวและดาบฮุยจินแล้ว แต่กลับเอาเคียวโลหิตของอสูรเคียวโลหิตออกมาใช้และปล่อยพลังไฟในตัวมันได้ เขากระโจนลงหน้าผาและกวาดเคียวใส่พวกทหารรับจ้าง
นักสู้ระดับ 5 อัญเชิญตัวนิ่มเกราะเหล็ก อสูรทองแดงระดับ 4 ซึ่งเป็นอสูรเสริมพลังออกมา เขามั่นใจว่าไม่มีดาบทำอันตรายเขาได้
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การฟันอย่างเกรี้ยวกราดของเย่ว์หยาง ร่างของเขาถูกตัดออกเป็นสองเสี่ยงทันที
ผลจากการที่อสูรสายเสริมพลังใช้อะไรไม่ได้ยามอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยางที่ตกอยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่ง สหายของเขาที่เป็นนักสู้ระดับ 5 ถึงกับต้องลนลานหลบหนี อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีโอกาสวิ่งหนีออกไปได้เกินกว่า 5 เมตร ก่อนที่จะโดนแส้ปีศาจที่เปล่งเปลวไฟสีดำหวดใส่ ส่งผลให้ทั้งร่างของเขาล้มกระแทกพื้นทันที
แส้ปีศาจเหมือนกับงูมีชีวิตส่งเสียงแหวกอากาศเควี้ยวควับ
ศีรษะมนุษย์คนหนึ่งปลิวขึ้นไปในอากาศ
นักสู้ระดับ 6 ที่ต้านรับเย่ว์หยางได้ครั้งแรกและยังคงหนีและคอยปลอมแปลงอย่างต่อเนื่อง นักสู้ระดับ 6 ที่แต่งตัวเหมือนทหารรับจ้างธรรมดาที่อยู่ด้านนอกและชอบซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มผู้คน แอบอัญเชิญอสูรควันทำให้เขาสามารถล่องหนได้
ภายใต้การจู่โจมที่เกรี้ยวกราดและบ้าเลือดของเย่ว์หยาง เจ้าผู้นี้เจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าหนู เขาซ่อนร่างและรีบหลบหนีออกไปตามรอยแยกบนผนังเขาอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าเขาจะเป็นนักสู้ระดับ 6 แต่เขาก็ยังต้องการหลีกเลี่ยงศึกครั้งนี้
เมื่อเขาหนีออกมาได้ราวๆ 50 เมตร เขาเดินผ่านรอยบนผนังแห่งหนึ่ง
พอหันกลับไป เขาก็ตระหนักได้ว่า เหตุการณ์นองเลือดด้านนอก ยังคงดำเนินต่อไป ไม่มีใครรู้ถึงการปรากฏตัวของเขา เมื่อทำอะไรไม่ได้แล้ว เขาได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก พลางล้วงม้วนเทเลพอร์ตออกมาเตรียมตัวหนี
ทันใดนั้น สามง่ามจ้าวปีศาจพุ่งมาปักลึกเข้าที่ก้นของเขา และทะลุออกทางขา
เขามีอสูรสายเสริมพลังอยู่บนร่างกายอยู่แล้ว มันคืออสูรสายเสริมพลัง กระทิงทอง อย่างไรก็ตาม แม้มันจะมีพลังป้องกันที่เหลือเชื่อ แต่ก็ไร้ประโยชน์ ร่างของเขาที่ดาบฟันแทงไม่เข้ากลับถูกสามง่ามจ้าวปีศาจแทงทะลุราวกับกระดาษ ไม่ต้องรอให้เจ้าผู้นั้นได้ดิ้นรนต่อสู้
เย่ว์หยางดึงสามง่ามจ้าวปีศาจโยนขึ้นไปบนอากาศทั้งที่ยังปักคาอยู่กับเจ้าผู้นั้น ก่อนที่จะร่างของเขาจะกระแทกลงกับพื้น นักสู้ระดับ 6 ผู้นั้นค้ำร่างที่บาดเจ็บด้วยมือของเขา แต่ก่อนที่เขาจะได้ร้องออกมา
เย่ว์หยางก็เตะเข้าที่หน้าของเขา ทำให้ทั้งฟันทั้งเลือดกระเด็นออกมา ขณะเดียวกันเขาเตะใส่ร่างคนผู้นั้นจนปลิวออกไป เย่ว์หยางแทงสามง่ามจ้าวปีศาจของเขาว่องไวปานสายฟ้า ปักใส่ร่างด้านขวาของเขาเข้ากับผนังภูเขาก่อนที่จะเยาะเย้ยใส่ว่า
“สหายที่เอาแต่หดหัวซ่อนหาง คงเป็นเพราะเจ้าต้องการให้ภรรยามีชู้สินะ ข้าจะยอมให้เจ้าเสแสร้งทำต่อไปก็ได้”
ในช่วงเวลาแห่งความตายนี้ พลังความแข็งแกร่งของนักสู้ระดับ 6 เปลี่ยนไปทันที เขาบริกรรมอัญเชิญอยู่ภายในใจ และร่างของเขาเริ่มเปล่งแสงสีแดงระเรื่อ
จากนั้นเขาต่อยใส่ผนังด้วยพลังเต็มที่
ผนังภูเขาระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ทันที
ร่างของเขาเริ่มบิดเหมือนงู แม้ว่าร่างของเขาซึ่งถูกสามง่ามจ้าวปีศาจแทงตรึงไว้ก็ยังหลุดออกมาได้โดยคาดไม่ถึง จากนั้นเขาหนีออกมาจากสามง่ามจ้าวปีศาจของเย่ว์หยางได้ แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บหนัก แต่เขาก็ยังคงเป็นนักสู้ระดับ 6 คนหนึ่งอยู่ แม้ขณะนี้ เขาก็ยังมีความสามารถหลบหนีได้
“ถ้าพวกเจ้ายังชะงักอยู่อย่างนี้แทนที่จะบุกโจมตีเขา เราจะตายกันที่นี่ทั้งหมด!”
นักสู้ระดับ 6 ผู้นั้นเรียกอสูรงูเหลือมตัวหนากว่าถังออกมาและสั่งให้มันจัดการเย่ว์หยาง
ขณะที่ตัวของเขาเองปีนขึ้นเขาและรีบหลบหนีไปรวมกับสหายและตะโกนอย่างจดจ่อว่า
“เรียกอุกกาบาต..เร็วเข้า ใช้อุกกาบาตเล่นงานเขาให้ตาย พลังป่าเถื่อนของเจ้าเด็กบ้านี่เหลือเชื่อจริงๆ อสูรทั้งหลายไม่มีผลต่อเขาเลย! เราต้องใช้อุกกาบาต ไม่ต้องซ่อนตัวอีกต่อไปแล้ว รีบมาช่วยข้า ฆ่าเจ้าเด็กนี่ เร็วเข้า!”
นักสู้ระดับ 5 สุดยอดฝีมือ 2 คนที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบเข้ามาช่วยเขา โดยเรียกราชสีห์ผิวทองแดง และเสือดำกระดูกเหล็กออกมาช่วยนักสู้ระดับ 6 ที่บาดเจ็บหนักผู้นั้น อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าเย่ว์หยางที่อยู่ในสภาวะคลั่ง อสูรชั้นทองแดงระดับ 4 ทั้ง 2 ตัวเหล่านี้กลายเป็นอ่อนแอเหมือนกระดาษ
อย่าว่าแต่กระทิงทอง อสูรทองแดงสายเสริมพลังระดับ 6 ของนักสู้ระดับ 6 ยังไม่สามารถป้องกันพลังโจมตีที่น่ากลัวของสามง่ามจ้าวปีศาจได้ อสูรทองแดงระดับ 4 ทั้งสองตัวนี้จะเหลืออะไร
อสูรงูเหลือมถูกเย่ว์หยางตัดหัวด้วยการตวัดสามง่ามใส่ครั้งเดียว
ราชสีห์ผิวทองแดงถูกสามง่ามแทงเข้าที่ปากทะลุออกหลังศีรษะ
ขณะที่เสือดำกระดูกเหล็กที่มีความเร็วมากที่สุด ทิ้งการต่อสู้และหนีจากไปด้วยความกลัวเมื่อมันเห็นเย่ว์หยางเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มันถูกสามง่ามแทงเข้าที่ทวารหนักทะลุออกทางท้องด้านขวา
“หยุดเขาเอาไว้ ข้าต้องการเวลาอย่างน้อยหนึ่งนาทีเพื่อเรียกอุกกาบาต!”
นักสู้ระดับ 6 อีกคนหนึ่งซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มผู้คน และเป็นนักสู้สายธาตุจำเพาะ ตะโกนออกมาทันที สีหน้าของเขาอัปลักษณ์อย่างมาก เย่ว์หยางคาดไม่ถึงเลยว่าการปรากฏตัวและพลังที่แข็งแกร่งของตัวเขาจะขัดขวางแผนการของเจ้าพวกนั้นได้สิ้นเชิง
และยังเป็นอันตรายต่อชีวิตพวกเขาอีกด้วย แต่นี่ไม่ใช่จุดใหญ่ของเรื่อง ถ้าแผนของพวกเขาไม่ถูกเปิดเผยเสียก่อน อย่างนั้นเขาไม่สามารถนึกถึงผลที่จะตามมาจริงๆ ไม่ใช่แต่เพียงพวกเขา แต่คนจำนวนมากจะต้องถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิต
ดังนั้น พวกเขาต้องฆ่าเขาเพื่อป้องกันความลับของพวกเขา
พวกเขาไม่ลังเลที่จะใช้ทุกวิธีการเพื่อฆ่าเจ้าเด็กนี่และสหายคนอื่นๆ ของเขา ก่อนจะสายเกินไป
ตราบใดที่เขาสามารถฆ่าทุกคนที่นี่ได้เร็ว อย่างนั้นแผนของเขาก็จะประสบความสำเร็จ
เพียงแค่นั้น เย่ว์หยางจะให้เวลาเขาไหม?
เย่ว์หยางมีร่างเปรอะไปด้วยเลือดจากทหารรับจ้างและอสูรอัญเชิญทำให้มองดูเหมือนเทพปีศาจ ขณะที่เขาใช้สามง่ามจ้าวปีศาจในมือกวาดเข้าใส่อสูรที่ขวางทางเพื่อเปิดทางได้โดยง่าย และตัดพวกมันเป็นชิ้นเนื้อก่อนที่จะเดินหน้าไปทีละก้าว ทีละก้าว
ในพื้นที่ทั้งหมด นอกจากนักสู้ระดับ 5 ที่มีอยู่ 6 คนและนักสู้ระดับ 6 มี 2 คนที่ยังรอดอยู่ ส่วนทหารรับจ้างคนอื่นๆ ล้มลงกับพื้น แม้ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ก็นอนเป็นอัมพาตตัวสั่นอยู่กับพื้น แต่ละคนกำลังตัวสั่นมองดูเย่ว์หยางที่มีความโกรธกริ้วจนแทบทลายสวรรค์ แต่ละก้าวของเขาเหมือนกับจะย่ำวิญญาณพวกเขาให้กระเจิง สั่นสะท้านหัวใจจนรู้สึกเหมือนภูเขาจะทลาย
เขาคือเทพปีศาจ แต่ละก้าวที่ย่ำเหมือนกับเสียงฟ้าผ่า
“ตาย!”
เย่ว์หยางพูดคำเดียวสั้นๆ ง่ายๆ อย่างไรก็ตาม ชั่วเวลาที่คำพูดนี้ออกมาจากปากเขา แต่ละคนก็เหมือนกับติดอยู่ในกรงกับดักมรณะทันที
ที่มา : https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=160