ตอนที่ 149 รุกและรับสอดประสานโดยธรรมชาติ
“ไม่สำคัญว่าข้าคือใคร ข้ากำลังบอกเจ้าตอนนี้ว่า ข้าให้เวลาเจ้าเพียงหนึ่งนาทีเป็นอย่างมากสำหรับฆ่าปีศาจเคียวโลหิต อสูรทองระดับ 7 หรือไม่งั้นเราทั้งหมดก็ตายพร้อมกันที่นี่”
หญิงงามลึกลับพูดอย่างใจเย็น เหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา
“แม่นางคนงาม, เจ้ารู้จักอสูรทองระดับ 7 นั่นไหม? ข้าไม่ใช่เทพ แล้วข้าจะเอาชนะภายในนาทีเดียวได้อย่างไร?”
เย่ว์หยางพูดถึงสถานการณ์ที่อับจนของเขาในตอนนี้
“เจ้าอยากจะเปลี่ยนมาสู้กับสื่อจินโหวแทนไหม?”
หญิงงามลึกลับเปิดโอกาสให้เย่ว์หยางได้มีเสรีภาพในการเลือก
“อ่า...ข้าว่า งั้นข้าจะโค่นเจ้าปีศาจเคียวโลหิตบ้านี่เอง”
เย่ว์หยางรู้ว่าสื่อจินโหวรับมือยากกว่าปีศาจเคียวโลหิต สิ่งที่น่ากลัวมากกว่าคือสื่อจินโหวรู้วิธีเทเลพอร์ต ทันทีที่เขาตั้งท่าป้องกัน ก็เป็นเรื่องยากมากที่จะฆ่าเขาได้
ถ้าเย่ว์หยางต้องสู้กับเขา บางทีอาจจบลงโดยสื่อจินโหวไล่บุกใส่เขาด้วยพลังฝ่ามือมหาประลัยของเขา หรือไม่ก็เย่ว์หยางต้องรุกไล่สื่อจินโหวโจมตีเขาด้วยกระบี่ไร้ลักษณ์ปราณก่อกำเนิด ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถเอาชนะสื่อจินโหวได้อยู่ดี
“ข้าจะให้เวลาเจ้า 1 นาที จัดการปีศาจเคียวโลหิตให้ได้ จากนั้นก็รีบมาช่วยข้า”
หญิงงามลึกลับมอบภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ให้กับเย่ว์หยาง
“ก็ได้, อย่างนั้นเจ้าปีศาจอัปลักษณ์อีกตัวจะทำยังไง?”
เย่ว์หยางชี้ไปที่อสูรเงิน ปีกค้างคาวแต่มีหัวเป็นสุนัขจิ้งจอก
“กำจัดมันขณะที่เจ้าผ่านไปสิ”
หญิงงามลึกลับให้งานหวาดเสียวนี้แก่เย่ว์หยาง
“นั่นทำได้ง่ายมาก แต่ว่า ถ้าเจ้าช่วยจุ๊บเป็นกำลังใจให้ข้า ข้าเชื่อว่าอะไรๆ มันก็จะทำได้ง่ายแน่นอน”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เย่ว์หยางจะพูดจบประโยค หญิงงามลึกลับก็เตะใส่ก้นของเขา ส่งผลให้ทั้งตัวเขาปลิวเข้าหาสื่อจินโหวทันที
ปราณกระบี่ส่องแสงทองเจิดจ้าออกมาจากมือของเย่ว์หยาง
ท่าทีของสื่อจินโหวยังคลุมเครือแต่ไม่ยอมอยู่เผชิญหน้ารับการโจมตี
พร้อมกับการสะบัดแส้ของเขา ร่างของเขาหายวับไปปรากฏในที่ห่างออกไป 10 เมตร แม้ว่าการประสานงานลอบโจมตีต่อสื่อจินโหวจะทำโดยกระทันหัน แต่เขามีทักษะควบคุมพื้นที่ได้จึงไม่ส่งผลคุกคามต่อเขา
แน่นอนว่า เย่ว์หยางและหญิงงามลึกลับต่างรู้เรื่องนี้ดี จึงใช้มันเป็นกลลวง วัตถุประสงค์คือรุกไล่ให้สื่อจินโหวถอยไป
เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาก็คือปีศาจเคียวโลหิต
ขณะเดียวกัน หญิงงามลึกลับหายตัวไปปรากฏอยู่เหนือหัวปีศาจเคียวโลหิต ด้วยการสัมผัสแสงของมือนาง พายุน้ำแข็งที่เย็นกว่าพายุหมุนน้ำแข็งของเสวี่ยทันหลางถูกเรียกออกมา
แม้ว่าผลกระทบลึกลับจากการโจมตีใส่หัวใจของอสูรเคียวโลหิตไว้ก่อนก็เริ่มส่งผลตอนนี้ ภายใต้เสียงสะท้อนของพายุน้ำแข็ง จุดที่นางโจมตีก่อนนั้นกลายเป็นน้ำแข็งต่อเนื่องจนแช่แข็งมันไว้ทั้งหมด แม้แต่เปลวไฟบนตัวของปีศาจเคียวโลหิตยังถูกผนึกอยู่ในน้ำแข็งไปด้วย...
เย่ว์หยางตระหนักว่า ทักษะผนึกน้ำแข็งที่หญิงงามลึกลับใช้ ยังแข็งแกร่งมากกว่าผนึกน้ำแข็งปีศาจของพ่อมดปีศาจซอร์จ
ตั๊กแตนมรณะอสูรทองระดับ 7 ไม่ใช่อสูรธาตุไฟโดยเฉพาะ ส่วนปีศาจเคียวโลหิตนี้ ก็เป็นอสูรทองระดับ 7 และเป็นปีศาจธาตุไฟอีกด้วย
น้ำแข็งของนางยังสามารถแช่แข็งมันได้ อาจได้เห็นทักษะที่น่ากลัวของนางได้ เย่ว์หยางคิดว่าพลังของนางเหนือเกินขอบเขตที่เขาจะจินตนาการเองได้ เทียบกับเจ้ามนุษย์น้ำแข็งเสวี่ยทันหลาง
พลังแช่แข็งของหญิงงามลึกลับนี้จะสูงกว่าขั้นหนึ่ง นอกจากนี้นางยังปกปิดได้ดีกว่า เย่ว์หยางไม่คิดว่านางจะเคลื่อนไหวแบบนั้น มันเป็นการลอบโจมตีโดยระเบิดพลังออกมาชั่วขณะอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ความประหลาดใจของเขา ก็ยังเป็นเพียงความประหลาดใจเหมือนเดิม
ปฏิกิริยาของเย่ว์หยางไม่ได้ช้าลงเลย
ตอนนี้ มันเป็นเรื่องของความเป็นความตาย เย่ว์หยางไม่ปกปิดพลังเอาไว้อีกต่อไป เขาเรียกนางพญากระหายเลือด อสูรทองออกมาทันที นางกรีดร้องปล่อยคลื่นเสียงทันทีทำให้อสูรอัปลักษณ์งุนงงทันที ขณะเดียวกันมีดทองฆ่ามังกรของนางปักลงที่หลังศีรษะของอสูรอัปลักษณ์
โคเงาเถื่อนดึงขาออกจากอสูรเคียวโลหิตและย่ำลงไปบนหินจนแตก
ชิ้นส่วนของน้ำแข็งกระเด็นไปทั่ว เย่ว์หยางลอยตัวลงมาเหมือนกับว่ากำลังเริงระบำ เขาปล่อยดาบฮุยจินที่ยังปล่อยเปลวไฟสีม่วงอยู่ และใช้ค้อนยักษ์ของหุ่นเกราะทองแทน
เขาเล็งตรงระหว่างเขาทั้งสองที่หน้าผากของปีศาจเคียวโลหิตและใช้พลังทั้งหมดหวดค้อนลงไป ทันใดนั้น โดยไม่มีการเตือน สื่อจินโหวมาปรากฏตัวที่ด้านหลังเย่ว์หยางและกระแทกฝ่ามือใส่หลังเย่ว์หยาง เขารอโอกาสลอบทำร้ายอยู่เช่นกัน..
หญิงงามลึกลับชนใส่แขนเย่ว์หยางทำให้นางเข้าสลับตำแหน่งกับเย่ว์หยางแทน ใช้หลังของนางบังไว้เตรียมรับฝ่ามือที่สื่อจินโหวโจมตีใส่แทน
โดยไม่ได้คาดคิด คนที่เป็นฝ่ายประหลาดใจก็คือสื่อจินโหว ฝ่ามือของเขาสามารถผ่าหินให้ขาดได้
ขณะที่เสื้อผ้าบริเวณหลังของหญิงงามลึกลับที่โดนฝ่ามือปะทะกลับกลายเป็นผงสลายไปกับสายลม เผยให้เห็นผิวขาวราวหิมะของนาง
เย่ว์หยางเห็นว่านี่เป็นเพราะนางพยายามยื้อเวลาให้เขา เขาตะเบ็งเสียงเต็มที่ และระเบิดพลังออกไปทั้งหมด ปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ของเขาที่ถูกยิงออกไปเหมือนรูปกระบี่เล่มหนึ่ง
แต่พลังแข็งแกร่งกว่าปกติหลายเท่า กระบี่ประกายแสงสีทองยาวเมตรครึ่งพุ่งเข้าเจาะหน้าผากของปีศาจเคียวโลหิต หน้าผากของมันยุบลงเล็กน้อย หลังจากนั้น เย่ว์หยางทะลวงนิ้วเข้าไปคว้านในหัวของปีศาจเคียวโลหิต
เมื่อเย่ว์หยางใช้พลังทั้งหมดฆ่าปีศาจเคียวโลหิต สื่อจินโหวยังคงใช้พลังของเขาโจมตีและฆ่าหญิงงามลึกลับ
สื่อจินโหวสามารถเห็นได้ว่า แม้ว่าเจ้าเด็กหน้ากากจะเชี่ยวชาญในการรุกและรับ แต่เขายังเหมาะสมที่จะรุกมากที่สุด
ในทางตรงกันข้าม แม้ว่าหญิงงามลึกลับจะมีความเชี่ยวชาญทั้งสองอย่างเช่นกัน แต่นางเหมาะตั้งรับมากกว่า ถ้าเป็นการสู้กับพวกเขาทีละคน พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม พอทั้งคู่ร่วมมือกันสู้กับเขา พลังต่อสู้ของเขาที่รวมกันจะเพิ่มขึ้นนับสิบเท่า ทำให้รับมือพวกเขาได้ยากมาก ดังนั้นเขาต้องฆ่าหนึ่งในพวกเขาเสียก่อน เจ้าเด็กสวมหน้ากากนี่ฆ่ามันได้ยาก เขามีทักษะธรรมชาติที่มองไม่เห็น ถ้าขืนพยายามฆ่าเขาให้ได้ก่อน เขาอาจจะโดนรุกกลับได้ง่ายๆ
หญิงงามลึกลับแม้จะฆ่าได้ยากกว่า แต่นางมีข้อผิดพลาดใหญ่หลวง
นางต้องใช้ร่างนางเพื่อปกป้องเจ้าเด็กหน้ากาก เพื่อคุ้มกันให้เขาสามารถฆ่าปีศาจเคียวโลหิต
ตอนนี้ เขายังคิดเรื่องอื่นไม่ออก สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำตอนนี้ คือฆ่านางโจรลึกลับ นางไม่มีสัญชาตญาณต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพมีแต่พลังป้องกันที่อธิบายไม่ได้ ชัยชนะครั้งนี้ยังไงก็เป็นของเขา
สื่อจินโหวขยับแล้ว แส้ของเขาเหมือนงูพิษฉกเข้าใส่ศีรษะของหญิงงามลึกลับ
เสียงเควี้ยวควับได้ยินชัดเจนหลังจากหวดแส้
ไวมากจนมองแทบไม่ทัน
หญิงงามลึกลับใช้ร่างนางปกป้องเย่ว์หยางที่กำลังจูโจมอย่างดุเดือดโดยไม่ยอมถอย จากนั้นเสียงตะโกนที่น่าฟังดังออกมาจากตัวนางเป็นระลอก มันสลายแรงปะทะของแส้จากนั้นสะท้อนพลังกลับคืนไปนับสิบเท่า นี่คือพลังอสูรที่เป็นธาตุจำเพาะของนาง “อสูรสะท้อนกระแส” ใช้ร่วมกับปีศาจสายลม และอสูรอีก 2 ตนที่นางมี พวกมันเป็น 4 อสูรที่ยิ่งใหญ่ของนาง
สื่อจินโหวรีบปล่อยแส้ของตนทันที
สำหรับตอนนี้ เขากำลังลวงให้ศัตรูโจมตีเขา วัตถุประสงค์ก็คือปล่อยให้อสูรของศัตรูลงมือก่อน หลังจากนี้ เขาจะใช้ฝ่ามือสายฟ้าของเขา เพื่อระเบิดพลังออกไป
ตราบใดที่ไม่มีความช่วยเหลือจาก อสูรสะท้อนกระแสที่สามารถสลายและสะท้อนพลังกลับได้ หญิงงามลึกลับจะถูกกำจัดโดยไม่ทันรู้ตัวถ้าเป็นการโจมตีของเขา
“ฮ่าาาาห์!”
นางพญากระหายเลือดที่อยู่ในอากาศพุ่งลงมาอย่างเร็ว พลังคลื่นเสียงของนางถูกยิงมาจากเหนือหัวของสื่อจินโหว
อย่างไรก็ตาม พลังคลื่นเสียงที่ทำให้แม่ทัพอสูรหม่าเหลียงถึงกับสลบได้ กลับไม่มีผลมากนักต่อสื่อจินโหว เพียงใช้แขนซ้ายหมุนวนเท่านั้น สื่อจินโหวยิงพลังหมัดออกไป
สร้างกระแสลมเย็นจากพลังหมัดส่งไปยังนางพญากระหายเลือดที่กำลังบินอยู่ จากนั้นกราดฝ่ามือขวาเข้าใส่จนใกล้ถึงศีรษะหญิงงามลึกลับ
สิ่งที่เขาต้องการก็คือสังหารนางในหมัดเดียว
เดิมทีเย่ว์หยางต้องการกลับไปช่วยป้องกันนาง แต่หญิงงามศอกใส่เขาและเตือนเขาไม่ให้เสียสมาธิ
จากนั้นนางยกมือขวาขึ้น ปล่อยสายฟ้าสีขาวออกจากเล็บทั้งหมด เสียงดังบึ้ม เมื่อประกายสายฟ้าตกลงใส่สื่อจินโหว
สื่อจินโหวหายไปแล้ว
เขาหนีห่างออกไปราวร้อยเมตร และอกของเขากระเพื่อมขึ้นลง
การลอบโจมตีของเขาล้มเหลวเกือบจะถูกสายฟ้าของหญิงงามลึกลับฟาดใส่ นี่เรียกว่าขโมยไก่ไม่สำเร็จแต่ขาดทุนข้าวกำมือหนึ่ง สื่อจินโหวถึงกับเสียกระบวนเล็กน้อย มือซ้ายของเขาที่ใช้ป้องกันการโจมตี
ตอนนี้ดำเป็นตอตะโกและมีควันขึ้น เป็นที่ชัดเจนว่าสายฟ้าของหญิงงามลึกลับแข็งแกร่งกว่าเขามากและรับมือไม่ได้ง่ายๆ
“เอาอีกสิ! ช็อตมันเข้าไป เอาให้มันจำญาติผู้ใหญ่ไม่ได้ก็ยิ่งดี!”
เย่ว์หยางมีความสุขมาก
“อย่ากวนใจข้า”
หญิงงามลึกลับโกรธ
รูปของนางดูแกว่งเล็กน้อย ดูเหมือนว่าปราณในร่างกายนางจะถูกใช้ไปมาก ภายใต้เงื่อนไขต่อสู้รุนแรงติดต่อกัน ทำให้นางถึงขีดจำกัดได้เร็ว
เย่ว์หยางกระแทกใส่ศีรษะและหัวใจของปีศาจเคียวโลหิตอย่างบ้าคลั่ง แต่ร่างของปีศาจเคียวโลหิตผิดธรรมดามาก แม้ว่ามันจะถูกแช่แข็งไปแล้ว ศีรษะถูกทำลาย ผลึกปีศาจถูกปราณกระบี่และมีดฆ่ามังกรแทงจนแตกเป็นเสี่ยง
แต่มันก็ยังไม่ตาย ไม่ใช่แต่เพียงแค่นั้น มันยังคืนสภาพได้ดีอีกด้วย ถ้าปล่อยให้มันฟื้นคืนสภาพและกลับมาสู้อีก โดยร่วมกับสื่อจินโหวลอบโจมตี การต่อสู้ครั้งนี้จะอันตรายอย่างมาก
เย่ว์หยางพบว่าสื่อจินโหวไม่ได้ใส่ใจว่าปีศาจเคียวโลหิตจะเป็นหรือตาย เรื่องที่แปลกก็คือ มันไม่ใช่อสูรพิทักษ์ เย่ว์หยางรู้สึกสังหรณ์ไม่ดี
มันเป็นกับดัก
ใช้วิธีธรรมดา มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าปีศาจเคียวโลหิต
เขาดึงหญิงงามลึกลับมาอยู่ด้านหลังของเขา และผูกแผ่นผ้ายาวเข้ากับนาง และแนบหลังกับนางไว้
เดิมที เย่ว์หยางต้องการใช้การเคลื่อนไหวแบบนี้เพื่อปกป้องเย่ว์ปิง เขาไม่คิดว่าเขาจะต้องใช้มันกับหญิงงามลึกลับที่เป็นคนประหลาดนี้ พอเห็นว่าปีศาจเคียวโลหิต ไม่อาจฆ่าให้ตายได้และมีพลังฟื้นฟูมากกว่าปกติ
เขาจะหนีทันที ถ้าเป็นภายใต้สถานการณ์ปกติ กลยุทธ์สุดท้ายใน 36 กลยุทธ์ก็คือ “ถ้าล้มเหลวทุกอย่างให้เผ่น” น่าจะใช้ได้ ภายใต้ฝีเท้าของเย่ว์หยาง ที่มีการเคลื่อนไหวได้ไหลลื่นเหมือนน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม เขาต้องเจอกับสื่อจินโหวผู้ที่สามารถควบคุมพื้นที่ได้หลังจากหนีไปได้ไม่กี่สิบเมตร ไม่เพียงแต่หนีไม่สำเร็จ เขายังแทบจะวิ่งพลัดตกลงไปในภูเขาไฟ
สื่อจินโหวดูเหมือนกำลังหัวเราะ แต่ก็ไม่ เขามองดูเย่ว์หยาง ไม่แยแสถึงความพยายามจะหลบหนีของเขา
ปีศาจเคียวโลหิตที่บาดเจ็บหนักคลานกลับขึ้นมาอย่างเจ็บปวด
แผลของมันสมานตัวอย่างรวดเร็ว
พอเห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกไม่ดี เขารีบเรียกโคเงาและนางพญากระหายเลือดกลับเข้ามาในคัมภีร์
แม้ว่าหมัดของเขาจะต่อยซ้ำแล้วซ้ำเล่าและทำลายความสามารถในการสู้ของปีศาจเคียวโลหิตไปมาก แต่การพยายามฆ่าปีศาจเคียวโลหิตที่มีพลังฟื้นฟูสภาพแข็งแกร่งน่าตระหนกนี้เป็นเรื่องที่เย่ว์หยางยังทำไม่ได้
เย่ว์หยางยังทำตอนนี้ไม่ได้ เว้นแต่เขาสามารถใช้ปราณกระบี่ได้ยาวพอสลายร่างของปีศาจเคียวโลหิตที่ไม่สามารถแทงทะลุได้นอกจากใช้มีดฆ่ามังกร
เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิงที่จะฆ่าปีศาจเคียวโลหิตประหลาดนี้ด้วยวิธีฆ่าธรรมดา
“เจ้าต้องใช้อสูรพฤกษาถึงจะเอาชนะปีศาจเคียวโลหิตได้ เจ้ามีอสูรพฤกษาที่แข็งแกร่งบ้างไหม?”
หญิงงามลึกลับถามด้วยเสียงอ่อนเพลีย
“มีเหมือนกัน แต่เจ้าอาจผิดหวังก็ได้ ถ้าข้าจะบอกว่าอสูรสายพฤกษาที่ข้าเรียกได้ก็มีเพียงแต่ต้นดอกหนาม และมันยังเป็นเพียงระดับ 1”
หญิงงามลึกลับพูดไม่ออก ต้นดอกหนามระดับ 1 จะทำอะไรได้?
แม้ว่าเย่ว์หยาง พยายามอย่างดีที่สุดที่จะล้มมันให้ได้ แต่สื่อจินโหวมีลางสังหรณ์ที่อันตราย
สังหรณ์ของนักสู้บอกเขาว่า เขาไม่อาจปล่อยให้เจ้าเด็กหน้ากากนี้เรียกต้นดอกหนามออกมา มิฉะนั้น อาจเป็นหายนะก็ได้
มันคือบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของแดนปีศาจ ถึงแม้นักสู้ในแผ่นดินมังกรทะยานจะลืมเรื่องมันไปแล้วก็ตาม แต่ในแดนปีศาจ สิ่งมีชีวิตที่มีความฉลาดยังจำมันได้ชัดเจน ครั้งหนึ่งมีต้นดอกหนามต้นเดียวที่ทุกคนดูถูก ได้สร้างความพินาศให้จ้าวปีศาจคุกเลือดทั้งสองและทหารปีศาจอีก 5 พัน...
พอได้ยินว่าเจ้าผู้นี้มีอสูรสายพฤกษาก็คือต้นดอกหนาม และรู้สึกว่าเขายังมีพลังเหลืออยู่อีก สื่อจินโหวรีบเทเลพอร์ตมาอยู่ใกล้ปีศาจของเขาที่นอนอยู่และใช้แส้ปีศาจหวดใส่หน้าเย่ว์หยาง
เมื่อเย่ว์หยางหลบได้ สื่อจินโหวก็ปล่อยพลังเต็มที่ เขาไม่ออมพลังอีกต่อไป เขาใช้พลังเต็มที่ ขณะเดียวกัน ก็ใช้อาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อใช้สู้กับพลังที่แข็งแกร่งที่สุด
สามง่ามจ้าวปีศาจ ปรากฏอยู่ในมือของเขา
สามง่ามจ้าวปีศาจนี้จะมีเปลวไฟนรกสีดำลุกท่วมตลอดเวลา และมีปราณปีศาจจำนวนมาก เขาแทงสามง่ามเข้าใส่เย่ว์หยางอย่างรวดเร็ว
หญิงงามลึกลับที่อยู่ด้านหลังเย่ว์หยางใช้ปีศาจสายลมเทเลพอร์ตออกมา นางต้องการใช้ร่างนางปกป้องเย่ว์หยาง
อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางไม่ยอมให้นางตายเพื่อเขา เขาใช้ขากวาดใส่ก้นนางจนพ้นทาง และใช้มือซ้ายต้านรับสามง่ามจ้าวปีศาจโดยเสี่ยงอันตรายแทงมือสวนกลับไป กระบี่ไร้ลักษณ์ปราษก่อกำเนิดถูกรวมไว้มือขวาจนกลายเป็นรูปกระบี่ประกายสีทองเจิดจ้า
นี่คือการเสี่ยงชีวิต เย่ว์หยางเตรียมใช้ท่านี้ต้านรับสื่อจินโหวและแลกชีวิตกัน ใครรอดในที่สุดจะเป็นผู้ชนะ
สื่อจินโหวใจสั่นสะท้าน เขารู้สึกว่าเจ้าเด็กหน้ากากนี้ เหี้ยมหาญพอแน่นอน
บรรดามนุษย์อื่นๆ ไม่มีใครเหี้ยมหาญเท่าเขาจริงๆ
เมื่อเย่ว์หยางพุ่งสู้กับเขา สื่อจินโหวคำรามลั่นไม่ยอมขยับแม้แต่นิ้วเดียว เขายกสามง่ามจ้าวปีศาจแทงใส่อกของเย่ว์หยาง
เขามุ่งมั่นที่จะต่อสู้จนจบ
ถ้าแม้แต่มนุษย์ยังทุ่มชีวิตเข้าสู้กัน นักสู้จากแดนปีศาจจะแสดงความอ่อนแอต่อพวกเขาได้อย่างไร?
ใครจะเป็นฝ่ายชนะ?
นั้นขึ้นอยู่กับว่าพลังโจมตีสุดท้ายของผู้ใดแข็งแกร่งกว่า และผู้ใดอดทนมากกว่า
ที่มา : https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=154