UWG#059 แผนการใหม่

มหาคธาเจ็ดผลึกเวทย์ ไอเท็มเลเวล10 ที่มีคุณสมบัติเพิ่มพลังโจมตีเวทย์ที่เลเวล10ถึง20% น่าเสียดายที่ยูมิโกะยังมีเลเวล10อยู่ หากเธอมีเลเวล20และอัพเกรดมหาคธาชิ้นนี้ให้เป็นเลเวล20แล้ว มันก็จะมีคุณสมบัติเพิ่มพลังโจมตีเวทย์ ถึง40% และด้วยความเป็นอาวุธเวทประเภทมหาคธา มันมีขนาดค่อนข้างใหญ่เทอะทะแต่ก็ได้มาซึ่งพลังทำลายร้างพื้นฐานที่สูง การเพิ่มพลังโจมตีที่สูงอยู่แล้วขึ้นอีก40%ไม่ใช้เรื่องที่ใครจะมองข้ามได้

แม้ว่ามหาคธาจะมีเลเวล10อยู่ แต่ด้วยการเทค่าพลังทั้งหมดไปที่ค่าINTทำให้ยูมิโกะมีค่าINTสูงถึง466หน่วย ซึ่งมันสูงมากจนน่าเหลือเชื่อ หากร่วมกับพรสวรรค์ 'แก่นแท้แห่งเวทมนต์' ระดับ4 ขอเธอ ที่จะเพิ่มพลังทำลายด้วยทักษะประเภทเวทมนต์ 26% แต่จะใช้MPในการร่ายเวทเพิ่มขึ้น35% จะทำให้เวทย์มนต์ของเธอทรงพลังเกินกว่าจะมีใครที่รอดชีวิตไปได้

ปึง!!

มหาคธาเจ็ดผลึกเวทย์ของเธอถูกปักลงบนพื้นดินตรงหน้าของเธอ แม้จะทำให้ยูมิโกะร่ายเวทย์ได้สะดวกสบายขึ้น แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะเคลือนไหวไปทางอื่นได้ หากเธอเคลื่อนไหวก็เท่ากับทิ้งอาวุธของเธอ แล้วนักเวทย์ที่ไร้ซึ่งอาวุธเวทย์ก็จะมีพลังโจมตีเวทย์ที่เบาลงอย่างเห็นได้ชัด

“ทักษะเวทย์มนต์ อัคคีเผาผลาญ!” เปลวเพลิงทรงกลมอันร้อนระอุปรากฏอยู่บนฝ่ามือของเธอ เธอเข้าใจการประยุกต์ใช้การทักษะเวทย์มนต์เช่นเดียวกับกีอัส หากเป็นการใช้งานแบบทั่วๆไป นักเวทย์ก็คงจะยิ่งมันออกไปธรรมดาๆ

ทักษะอัคคีเผาผลาญนี้ เป็นทักษะที่สองของนักเวทย์ ซึ่งสามารถเรียนได้เมื่อมีค่าINTอย่างน้อย300หน่วย

“สายฟ้าฟาด !!” ก้อนประจุพลังงานไฟฟ้าขนาดมหึมาปรากฏอยู่บนมืออีกข้าง เธอร่ายเวทย์สองอย่างขึ้นมาภายในเวลาเพียง1วินาทีเท่านั้น แทบจะร่ายขึ้นมาพร้อมๆกันเลยก็ว่าได้

มือด้านขวามีลูกบอลเพลิงอันร้อนระอุ มือด้านซ้ายมีก้อนพลังงานประจุไฟฟ้า ยูมิโกะกำลังใช้มือนำพลังทั้งสองเข้ามาผสานรวมกันบนมหาคธาที่ปักอยู่บนพื้น

มหาคธาเจ็ดผลึกเวทย์ดูดกลืนเวทย์มนต์ทั้งสองเข้าไปพร้อมๆกัน พร้อมกับเปล่งสองสีเหลือส้มบนหัวไม้คธา

ยูมิโกะดันพลังเวทย์ทั้งสองบนมือของเธอเข้ามาผสานกันที่มหาคธา และทันทีที่มือทั้งสองข้างของเธอได้สัมผัสกับมหาคธา แสงที่เคยค่อยๆเปล่งประกายขึ้นเรื่อยๆบนหัวไม้คธาก็หายวับไป

ปังงง! เวทย์มนต์ทั้งสองที่ถูกอัดลงบนมหาคธาเกิดระเบิดเป็นโนว่า จุดที่ไม้คธาปักอยู่เป็นจุดศูนย์กลางของวงเวทย์โนว่าที่ระเบิดขึ้นเป็นวงกลมไปรอบทิศทาง

พลังเวทย์ของเธอไม่ได้ระเบิดขึ้นที่สูง แต่ระเบิดไปรอบข้างเป็นรูปทรงกระบอกที่มีรัศมีกว้างไกลเกินกว่าขนาดของสนามประลองที่พวกเขาอยู่ แล้วความสูงของมันก็สูงกว่า5เมตรจากพื้นดิน พื้นของลานประลองลึกลงไปกว่า1ฟุตถูกเวทย์มนต์ของเธอพลังทลายแตกออกเป็นเสี่ยงๆพร้อมด้วยการเผาไหม้ที่ทำให้เศษซากหินเหล่านั้นกลายเป็นเถ้าทุลี

1218! 1114! 974! 1078! 1149!

แม้ทักษะเวทย์มนต์ประยุกต์นี้ จะไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ความรุนแรงมากนัก แต่เน้นไปที่ขอบเขตการทำลายร้างที่กว้างขวาง ทว่าด้วยค่าINTกว่า500หน่วยและมหาคธาที่มีพลังโจมตีสูงพร้อมด้วยคุณสมบัติเพิ่มพลังโจมตีเวทย์มนต์ของไม้คธา และยังพรสวรรค์'แก่นแท้แห่งเวทมนต์'ที่เพิ่มพลังโจมตีเวทย์มนต์อีก26% ทำให้การผสานของเวทย์มนต์ไฟกับสายฟ้าระเบิดสร้างความรุนแรงได้ถึงพันต้นๆ

ตั้งแต่ที่ยูมิโกะได้รอบรับคำสั่งจากยูซาคุ จนถึงเวลาที่โนว่าระเบิดเป็นวงกลมไปสุดขอบสนามประลอง ใช้เวลาทั้งหมดเพียง3วินาทีกว่าๆเท่านั้น ในตอนนี้ทั่วทั้งสนามประลองหลงเหลือแต่เพียงพื้นที่วงกลมเล็กๆขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง2ฟุตที่มีไม้คธาปักอยู่กับชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งที่ยืนอยู่ในพื้นที่ตรงนั้นเท่านั้น

นอกจากพื้นที่วงกลมรัศมี2ฟุตตรงนั้น พื้นที่รอบๆที่เคยเป็นหินอ่อนของลานประลองกลายเป็นขี้เถ้า บางบริเวณก็ทลายลงไปกลายเป็นหลุบลึก1ฟุต บางบริเวณก็ยังคงสภาพเรียบสูงเท่าเดิมเอาไว้ แต่เชื่อว่า หากไปเยียบบริเวณนั้นแล้ว มันจะต้องทรุดลงไปเกือบ1ฟุตอย่างแน่นอน

ไม่หลงเหลือแม้แต่วี่แววของศัตรูทั้งห้าที่เคยมีอยู่เมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว เหล่าศัตรูทั้งหมดถูกสังหารในพริบตา ต่อให้เป็นนักดาบสายชนที่เลเวล10 พวกเขาก็จะมีพลังชีวิตประมาณ1000หน่วยเท่านั้น และพวกเขาก็จะเน้นพลังป้องกันกายภาพเสียมากกว่า เมื่อเจอแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นคนไหนต่างก็ต้องตายในพริบตาทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะเอาค่าพลังทั้งหมดไปเพิ่มVITเหมือนกับยูซาคุ

[การประลองสิ้นสุด ผู้ชนะคือทีมปราการมหาอาคม]

ผู้คนทั่วลานอารีน่าต่างแตกตื่นกับพลังเวทย์ที่ได้เห็นตรงหน้า บ้าไปแล้ว ผู้เล่นเพียง2คนจากทีมอันดับหนึ่ง สามารถทำ1HIT-KILL ผู้เล่นทั้ง5คนจากอดีตทีมอันดับหนึ่งพร้อมๆกันได้  นอกจากนั่นพวกเขาทั้งสองยังไม่ได้ก้าวเท้าออกไปจากตำแหน่งแรกที่ได้เข้าไปอยู่ในลานประลองเลย

นี่น่ะหรือ ทีมปราการมหาอาคม!!

พวกเขาเป็นดังป้อมปราการอันแข็งแกร่งและทรงพลัง ด้วยการประสานระกว่างพลังชีวิตที่สูงล้ำของชายหนุ่มทำให้ป้อมปราการแห่งนี้คงทนเกิดกว่าใครจะทำลายได้ และด้วยพลังเวทย์มนต์ของหญิงสาวที่มีพลังชีวิตเพียง25หน่วยคนนั้น พลังโจมตีเวทย์มนต์พื้นฐานที่สูงถึง591หน่วย (กีอัสมีพลังโจมตีเวทย์มนต์พื้นฐานตอนเลเวล9 180หน่วย สูงกว่ากีอัสประมาณ3เท่ากว่าๆ)

“ไม่จริง เงินทองทั้งหมด400เหรียญทองของข้า…”

“บ้าไปแล้ว นั่นมันเวทย์มนต์อะไรกัน…”

“คนอย่างคุรุรุกิถูก1HIT-KILL หรือเนี้ย ชั้นไม่อยากจะเชื่อ…”

“หญิงสาวคนนั้นเป็นใครกัน ทำไม่ชั้นไม่เคยเห็นเธอมาก่อน?”

“เธออยู่เบื้องหลังของทีมปราการมหาอาคมมาตลอด เมื่อครั้งที่ยูซาคุก่อตั้งทีมปราการมหาอาคม เธอก็เข้าร่วมเป็นคนแรก ชั้นว่าพวกเขาทั้งสองต้องรู้จักกันในโลกจริงถึงได้เล่นเกมผสานกันได้สุดยอดขนาดนี้ ชั้นเสียดายที่วันนั้น วันที่พวกเขาประกาศรับสมัครสมาชิก ชั้นมองข้ามพวกเขาไป”

“นายไม่ต้องเสียใจหรอกน่า ขนาดชั้นที่เป็นนักฆ่าที่มีเลเวล8ในตอนที่พวกเขายังเลเวล7 พวกเขายังไม่รับชั้นเลย พวกเขาคัดเอาแต่ผู้มีพรสวรรค์ที่สามารถผสานกับป้อมปราการของพวกเข้าได้เข้าร่วมทีมเท่านั้น นี้แค่การผสานพลังของคนสองคน ชั้นไม่อย่างจะคิดถึงเวลาที่พวกเขาทั้ง7สู้พร้อมๆกันเลย ป้อมปราการของพวกเขามันก็ประตูนรกดีดีนี่เอง”

มีเสียงวิพากษ์วิจารย์จากผู้ชมการประลองมากมาย แน่นอนว่านอนจากทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์จะต้องสูญเสียไอเท็มระดับRare(หายาก)อีก3ชิ้นพร้อมกับเงินอีก790เหรียญทอง พวกเขายังเสียชื่อเสียงที่เคยมีมาอีกด้วย ซึ่งมันจะส่งผลต่อผลประกอบการทางการค้าขายของพวกเขา

ในช่วงแรกเริ่มทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธ์คือทีมอันดับหนึ่งมาตลอด พวกเขามีชื่อเสียง มีธุรกิจการค้าที่น่าเชื่อถือ และแม้ในเวลาต่อมาทีมปราการมหาอาคมจะแย่งที่หนึ่งไปจากพวกเขา ทว่าความเชื่อในทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์ของผู้คนในเมืองนั้นมิได้ลดลง การค้าขายของพวกเขาก็ยังทำกำไรได้ในระดับที่สูง แต่เหตุการณ์ในวันนี้ที่พวกเขาพ่ายแพ้อย่างราบคาบ หากทีมปราการมหาอาคมคิดจะทำการค้าขายพวกเขาก็คงจะขายดีกันเป็นเทน้ำเทท่า

ร้านของทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์ก็คงไม่ต่างกับร้านค้าแผงลอยทั่วๆไป การพ่ายแพ้ในครั้งนี้จะต้องทำให้ทีมของพวกเขาตกต่ำอย่างแน่นอน

ฟู่ว! ฟู่ว! ….

ร่างของพวกเขาทั้งห้าถูกส่งกลับออกมาหน้าลานประลองอารีน่า

โห่ โห่…

“ไอ้ทีมห่วยแตก เลเวล10ตั้ง4คนกับเลเวล11อีก1คน สู้เลเวล10แค่2คนก็ไม่ได้…”

“ไอ้พวกสวะเอ้ย แกรู้มั้ยว่าเราลงเดิมพันกับทีมสวะๆของพวกแกไปเท่าไหร…”

เสียด่าจากผู้คนที่ลงเดิมพันกับสมาชิกทั้งห้าของทีมปราการมหาอาคมดังลั่นไปทั่ว เดิมทีการที่พวกเขาทั้งห้าออกมารับเดิมพันเช่นนี้ก็เป็นแผนการของยูซาคุอยู่แล้ว เขารู้ว่าผู้คนในเมืองต่างเชื่อในทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์ การเดิมพันในครั้งนี้ทำกำไรให้ทีมของพวกเขากว่า5000เหรียญทอง

“ได้เวลาที่พวกคุณต้องส่งไอเท็มและเงินตามที่ตกลงเดิมพันเหล่านั่นให้พวกเราแล้ว คุณฮิโนกิ”ยูซาคุกล่าว

“เอาของพวกนั้นให้มันไป”คุรุรุกิกล่าว

“คะ” ฮิโนกิตอบพร้อมกับหยิบอาวุธระดับRAREอีก3ชิ้นออกมาพร้อมกับบัตรเงินสด790เหรียญที่เคยได้รับมาจากยูมิโกะ และก็ส่งของพวกนั้นให้ยูซาคุ

“ซักวันพวกเราจะมาทวงคืนเป็นสิบเท่า”คุรุรุกิตอบ

“ซักวันงั้นเรอะ คงจะไม่มีวันนั้นหรอก มันหมดยุดของทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธ์ของพวกนายไปแล้ว”ยูซาคุพูดอย่างไม่ใยดี

“แกว่ายังไงนะ ระวังปากเอาไว้บ้าง พวกแกจะต้องพินาศย่อยยับ”เมื่อได้ยินเช่นนั้นคุรุรุกิก็โกรธเป็นฟืนเป็นไป

“หึ ชั้นขอประกาศ ณ ที่นี้เลยว่า ทีมปราการมหาอาคมพร้อมที่จะรับคำท้าจากทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์ทุกเมื่อ หากพวกแกยังคิดว่าในอนาคตพวกแกมีโอกาสที่ชนะสู้กับพวกเราได้ก็เข้ามา ชั้นหวังว่าครั้งต่อไปทีมสวะๆของพวกแกจะมีอะไรที่น่าบันเทิงว่านี้ ลาก่อน ขอบคุณสำหรับอาวุธพวกนั้น”ยูซาคุกล่าวพร้อมกับนำทีมกลับไป

“แก… ทีมของแกจะต้องพินาศย่อยยับ คอยดูซะเถอะ”คุรุรุกิคำรามขณะที่ยูซาคุเดินจากไป

“พวกเรากลับ ชั้นจะเปลี่ยนแผนใหม่ของทีมใหม่ ยกเลิกแผนเน้นหาเหรียญทองขายแลกเงินจริง พวกเราจะใช้แผนฟาร์มเพื่อความยิ่งใหญ่ในเกม ตอนนี้พวกเรามีเงินเก็บจากการขายเหรียญทองในเกมนี้มากพอจะอยู่ได้อีกหลายสิบวันโดยไม่ต้องหารายได้เพิ่ม พวกเราจะหยุดทำการค้าขาย พวกเราจะใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีเพื่อก้าวไปเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ใช่แค่ในเมืองแห่งนี้ แต่เป็นในเกมแห่งนี้!!!” คุรุรุกิพูดด้วยความมุ่งมั่น