UWG#053 ท่าไม้ตายคลื่นพลังสายฟ้าฟาด
พระอาทิตย์เกือบจะจะลับขอบฟ้าในอีกไม่กี่ชั่วโมง ใช้เวลาเพียงไม่ที่นาทีกีอัสก็กลับมาอยู่หน้าทางเข้าของค่ายยักษ์ ยังเหลือยักษ์เลเวล9อีก6ตนที่เขาจะต้องสังหารก่อนที่บุกเข้าไปกำจัดบอสของพวกมัน
แม้ว่าในตอนนี้เขาจะแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนหลายขั้น แต่เขาก็ไม่สามารถจะรับมือยักษ์ทั้ง6ตนพร้อมๆกันได้ เขายังรู้ถึงขีดจำกัดของตัวเองดี เขาควรจะรอให้พวกมันปลีกตัวออกมาเพื่อลอบสังหารอีกครั้ง
ในเวลานี้เขาหาที่กำบังเพื่อสังเกตการพวกยักษ์อีกครั้ง เขาหวังว่าในช่วงที่เขาออกไปจัดการกับยักษ์ทั้ง2ตตนนั้น ยักษ์อีก6ตนและบอสของพวกมันจะยังคงอยู่ในกระโจมที่พักเช่นเดิม
แต่บางสิ่งบางอย่างก็มิได้เป็นดั่งที่เขาหวัง…
เงาจางๆขนาดใหญ่ปกคลุ่มทั้งร่างของเขาอยู่ หมายความว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่มีขนาดสูงใหญ่กำลังยืนอยู่ด้านหลังของเขาในตอนนี้
เขาเห็นเงาด้านหน้ายกแขนซึ่งกำลังถืออาวุธอะไรบ้างอย่างและกำลังจะฟาดลงมาที่เขา กีอัสไม่เสียเวลาแม้แต่จะหันหลังกลับไปมอง เขากลิ้งตัวหลบไปด้านข้างในทันที
ฟับ!!
ขวานขนาดยักษ์ฟากลงบนพื้น คมขวานจมดินลงไปลึกหลายนิ้ว หากเขารู้สึกตัวช้ากว่านี้เพียงเล็กน้อย ในตอนนี้เขาคงถูกแยกเป็นสองท่อนไปแล้วอย่างแน่นอน
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายักษ์ที่ตัวใหญ่โตขนาดนี้จะสามารถมาอยู่ด้านหลังของเขาได้อย่างเงียบเชียบเช่นนี้ มันเป็นไปได้อย่างไร
ปับ!!
175!
กระบอกหนามยาวไม่ต่ำกว่าเมตรครึ่งฟาดมาจากด้านหลังของเขาอย่างรุนแรง ทำให้กีอัสกระเด็นลอยไปกลางอากาศไกลกว่า5เมตร
มันไม่ได้มีกันแค่ตนเดียว พวกมันอย่างน้อย2ตนกำลังปิดล้อมทางหนีทีไล่ของเขาอยู่ กีอัสสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันนี้เป็นอย่างมาก
จากการที่เขาเตียมตัวที่จะลอบสังหารพวกมัน กลับกลายเป็นว่าพวกมันดักรอที่จะสังหารเขาอยู่ เขาโดนซ้อนแผนโดยพวกสัตว์อสูรเหล่านี้อย่างนั้นรึนี้
พวกมันรู้ได้อย่างไร กีอัสมั่นใจว่าเขาได้จัดการยักษ์สองตัวนั้นอย่างเงียบเชียบ ไม่มีทางที่พวกยักษ์ที่อยู่ในค่ายจะรู้ถึงการมีอยู่ของเขา ในความคิดของเขาเหตุผลที่สอดคล้องกับเรื่องทั้งหมดเหล่านี้ได้มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
พวกมันสามารถ เชื่อมโยงความคิดถึงกันได้!!
ยิ่งสังเกตุจาก ตอนที่ยักษ์ตนหนึ่งใช่ขวานฟาดลงมา ด้วยความเร็วที่ค่อนข้างน้อยของพวกมันจึงทำให้เขาสามารถกลิ้งหลบออกมาได้ทันเวลา ทว่าเหมือนยักษ์ที่ใช้กระบอกหนามจะรู้ล่วงหน้าว่าเขาจะหลบออกมาทางนี้ มันฟาดกระบอกหนามของมันก่อนที่เขาจะกลิ้งหลบออกมาเสียอีก
หากพวกมันสามารถเชื่อมโยงความคิดถึงกันได้เช่นนั้นแล้วล่ะก็ ความสามัคคีของพวกมันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ไม่มีทางที่เขาจะเอาชีวิตรอดกลับมาได้เลยหากพวกมันอยู่กัน6ตัว
แต่จากการสังเกตุของเขา พวกมันมีกันแค่2ตนเท่านั้น นี่ถือเป็นโชคดีของเขาที่จะได้จัดการลดทอนจำนวนของพวกมัน
กีอัสค่อยๆลุกขึ้นยืนหลังจากถูกฝาดกระเด็นออกมา ทักษะสายฟ้าฟาดถูกใช้งานเกิดเป็นก้อนพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่กำลังผสานเข้ากับดาบต้องสาปในมือขวาของเขา
เขากำชับดาบในมือไว้แน่นก่อนที่จะพุ่งตัวออกไปหายักษ์หนึ่งในสองตัวนั้น พร้อมกับใช้ทักษะการจู่โจมอันหนักหน่วงเพื่อเพิ่มพลังการโจมตี
ยักษ์ตนนั้นก็ยกกระบองหนามของมันขึ้นมา เตรียมที่จะฟาดสวนมาหาเขา
ฟับบ! สตั้น!
211!672!
ด้วยทักษะการจู่โจมอันหนักหน่วงขั้น2ของนักดาบ เมื่อใช้งานโจมตีเป้าหมายมีโอกาสที่จะเพิ่มความรุนแรงขึ้นอีก60%และทำให้เป้าหมายชะงักเล็กน้อย
ด้วยความเสียหายที่รุนแรงทำให้ยักษ์ตนนั้นเกือบจะตายลงไปด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว และจากการชะงักจากทักษะของกีอัส ก็ทำให้มันไม่สามารถที่จะสวนกลับการโจมตีของกีอัสได้
ยักษ์ที่ใกล้ตายตนนั้นนกำลังมึนงงอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับมัน กีอัสก็ไม่ปล่อยให้โอกาสดีดีเช่นนี้ผ่านไปเปล่าๆ เขาเตรียมตัวที่จะโจมตีครั้งต่อไปเพื่อสังหารมันโดยไม่ลังเล
ตู้มมม!!!
382! 570! 574!
ลูกบอลเพลิงโลกันต์ขนาดมหึมาถูกยิงออกมาจากที่ไหนซักแห่ง มันสร้างความเสียหายให้กีอัสถึง382หน่วย และสร้างความเสียหายให้ยักษ์ถือกระบอกนั้น570หน่วยทำให้มันตายลงไปในทันที แม้แต่ยักษ์ถือขวานที่อยู่ห่างออกไปกว่า5เมตรก็ยังได้รับความเสียหายจากลูกบอลไฟลูกนั้น
เป็นทักษะเวทย์มนต์ยิงจู่โจมระยะไกลที่กินพื้นที่กว้างมาก หากเป็นไปได้เขาก็อยากจะมีทักษะเวทย์มนต์แบบนี้บ้าง
สำหรับกีอัสในตอนนี้ เขาก็เหลือพลังชีวิตอยู่เพียง 68/625 หน่วยเท่านั้น เขารีบให้ทักษะ‘รักษาฟื้นฟู’ในทันทีก่อนจะหันไปทางทิศที่ลูกบอลไฟนั่นพุ่งมา
ฟู่ว! แสงแห่งการฟื้นฟูพลังชีวิตปรากฏขึ้นรอบกายเขา
+230!
ทิศทางที่ลูกบอลไฟนั่นพุ่งมา มียักษ์ขนาดใหญ่สูง2เมตรเศษๆ4ตัวกำลังเดินมา พร้อมกับยักษ์ตัวเล็กๆถือไม้เท้าผลึกเวทย์เปล่งแสงเรือนลางที่ยืนอยู่บนไหล่ของยักษ์หนึ่งในสี่ตนที่กำลังเดินเข้ามา
ยักษ์ถือไม้เท้าผลึกเวทย์นั้นคือบอสของพวกมันอย่างนั้นหรือ ถึงแม้ว่ามันจะดูเล็กเท่ามนุษย์ธรรมดาๆไม่แข็งแรงเหมือนยักษ์ตนอื่นๆ แต่หากดูจากไม้เท้าผลึกเวทย์ของมัน มันต้องมีเวทย์มนต์ที่ทรงพลังอย่างแน่นอน
ยักษ์ถือกว่าก็แสดงสีหน้ายิ้มแยมออกมาเมื่อได้เห็นหัวหน้าและเพื่อนๆของพวกมัน พวกมันคงจะแบ่งออกเป็น3กลุ่ม กลุ่มละ2ตนเพื่อค้นหาเขาและมารุมจัดการเขาสินะ นี้ก็เป็นเพียงแผนการพื้นๆ หากสามารถติดต่อสื่อสารกันได้เป็นใครก็จะต้องเลือกใช้แผนการนี้
กีอัสที่ตกอยู่ในสถานการณ์ตรึงเคลียด เมื่อได้เห็นรอยยิ้มอย่างมีความสุขของยักษ์ถือขวาน เขาก็รู้สึกเคืองขึ้นมาทันตา ดาบต้องสาปถูกควงรอบหนึ่งก่อนที่จะคางของยักษ์ตนนั้นจะถูกแทงทะลุไปถึงหัว เป็นยักษ์ที่อ่อนประสบการณ์เกินไป หากมันไม่ประมาทเพราะการมาเยือนของพวกพร้อมมันก็คงไม่ต้องจบชีวิตลงเช่นนี้
สำหรับเกมนี้ กฏเกณฑ์ในการใช้สกิล(ทักษะ)นั้น แทบจะไม่มีอยู่เลย หากจะคิดค้นทักษะใหม่ก็ไม่ใช้เรื่องที่ยากเท่าไหรยิ่งมีความคุ้นเคยและเข้าใจในทักษะที่จะสร้างสรรค์ขึ้นมา ก็สร้างทักษะขึ้นมาให้ได้ง่าย เหมือนกับในกรณีของฮิโรชิ ที่สร้างทักษะ ‘สี่เพลิงดาบแผดเผา’ และ ‘เพลงดาบจตุรทิศ’ ขึ้นมาจากการฝึกฝนดาบซามูไรในชีวิตจริง
การจะประยุกต์ทักษะที่มีอยู่แล้วในเกมก็เช่นเดียวกัน อย่างการที่กีอัสปรับเปลี่ยนการทำงานของทักษะสายฟ้าฟาด ที่แต่เดิมจะยิงพลังสายฟ้าออกไป ให้กลายเป็นสร้างพลังสายฟ้าไว้เฉยๆ และนำพลังสายฟ้านั้นมาปรับใช้งานอีกครั้ง
ซึ่งสำหรับกีอัสในตอนนี้ เขาถนัดการประยุกต์ใช้งานมากกว่า เพราะมีพื้นฐานจากทักษะดั่งเดิมของมันอยู่แล้ว หากจะต้องมาเรียบเรียงและสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆขึ้นมาโดยไม่มีพื้นฐานมันคงจะเป็นการเสียเวลาอย่างมาก
เขาถ่ายเทพลังเวทย์มนต์ของเขาลงไปในดาบต้องสาปที่มีสายฟ้าฟาดอยู่ พลังสายฟ้าในดาบก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับพลังเวทย์มนต์ที่ลดลงไปของเขา เขาส่งพลังเวทย์ลงไปเรื่อยๆจนมันอิ่มตัว ใช้เวลาไปเกือบ10วินาที
กลุ่มของพวกยักษ์นั่นก็ใกล้เขามาเรื่อยๆ พวกมันวิ่งได้ไม่เร็วนัก ซึ่งเปิดโอกาสให้กีอัสได้ประยุกต์และชาร์จพลังเวทย์มนต์สายฟ้าฟาดของเขาเอาไว้จนเต็มเปี่ยม
เมื่อพวกยักษ์ทั้งสี่วิ่งเขามาในระยะ20เมตร กีอัสก็ดันพลังของสายฟ้าไปไว้ที่ปลายดาบและใช้ทักษะ ‘การจู่โจมอันหนักหน่วง’ ฟาดดาบไปในอากาศ
เกิดเป็นคลื่นพลังสายฟ้าอันทรงพลังพุ่งไปยังกลุ่มของยักพวกนั้น ด้วยการชาร์ตพลังสายฟ้าจนถึงขีดสุดที่กินพลังเวทย์มนต์ของเขาไปเกินกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมด มันมีพลังรุนแรงมากพอที่จะสังหารพวกยักษ์ทั้งกลุ่มนั้นได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
โดยเฉพาะกับพวกยักษ์ที่แทบจะไม่มีพลังต้านเวทย์อย่างพวกมัน คงไม่มีทางที่จะรอดชีวิตไปได้อย่างแน่นอน ภารกิจพิสูจน์ความกล้าหาญ ที่ให้จัดการกับบอสด้วยตัวคนเดียว ไม่ได้ยากสำหรับเขาเอาเสียเลย
ปัง!!!
คลื่นพลังสายฟ้าฟาดที่ถูกเหวี่ยงออกไปด้วยดาปต้องสาปปะทะเข้ากับกลุ่มของพวกยักษ์ทั้งสี่อย่างรุนแรง จนพื้นปฐพีต้องสนั่นหวันไหว
กีอัสยิ้มออกมา แต่แล้วรอยยิ้มของเขาก็จากหายไปในเวลาเดียวกันกับที่กลุ่มควันจากการปะทะกันระหว่างคลื่นพลังของเขากับพวกมันค่อยๆจางลง
เมื่อควันที่เกิดจากการปะทะจากคลื่นพลังของเขาจากลง เผยให้เห็นบาเรียขนาดมหึมาที่มีศูนย์กลางเป็นไม้เท้าผลึกเวทย์ส่องแสงที่อยู่บนมือของยักษ์ตัวเล็กๆตนนั้น
พื้นดินรอบๆบาเรียเกิดเป็นรอยทรุดลงไปอย่างเห็นได้ชัด ทว่าพื้นที่วงกลมในบาเรียแห่งนั้นกลับไร้ซึ่งการแตะต้อง
ท่าไม้ตายที่เขาคิดค้นขึ้นมาจาก การผสานพลังเวทย์มนต์อันรุนแรงที่ชาร์จจนถึงขีดสุดกับการเหวี่ยงออกไปด้วยทักษะที่รุนแรงของนักดาบกลับไม่สามารถทำอะไรบาเรียนั่นได้เลย
ความสับสนและความสิ้นหวังเริ่มเกิดขึ้นในจิตใจของกีอัสอีกครั้ง