UWG#052 กวาดล้างเหล่ายักษ์กินคน

กีอัสออกเดินทางไปทางด้านทิศตะวันออกของเมืองดาวห้าแฉกที่1 ระหว่างทางเขาก็กำจัดสัตว์อสูรเพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์และหาเงินหาไอเท็มไปด้วย สัตว์อสูรที่เขาได้กำจัดไปมีตั้งแต่สัตว์อสูรเลเวลน้อยๆ ไปจนถึงเลเวล10

ไม่นานก็มีข้อความจากผู้เล่นอื่นส่งมาหาเขา

[ พวกเรากลับมาแล้ว พวกเรากำลังจะไปล่าสัตว์อสูรกันต่อ เจ้าอยู่ไหน? ] ข้อความจากคุรุรุกิ

[ คือผม.. ผมกำลังไปทำภารกิจที่อื่นอยู่ หลังจากผมทำภารกิจเสร็จแล้วผมจะตามไปสมทบนะครับบอส] กีอัสตอบข้อความกลับไป

[ รีบๆมาล่ะ ไว้เจอกัน …] คุรุรุกิตอบและออกจากการสนทนาไป

ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงเขาก็มาถึงคฤหาสน์ที่อยู่ทร่ามกลางป่าไม้ธรรมชาติ ที่แห่งนี้จะต้องเป็นคฤหาสน์อดีตขุนนางที่บาซอนพูดถึงไม่ผิดแน่ แม้ว่าสิ่งปลูกสร้างตรงหน้าเข้าจะดูเหมือนคฤหาสน์ร้างก็ตาม

กีอัสเดินเข้าไปด้านหน้าของคฤหาสน์ ประตูขนาดใหญ่สองบานดูเก่าแก่มีรูปสลักสิงโตคาบเหล็กเส้นวงกลมเอาไว้อยู่กลางบานประตู มันจะมีไว้สำหรับใช้เคาะเพื่อส่งสัญญาณถึงคนข้างในอย่างแน่นอน

โดยไม่รอให้เสียงเวลา เขาใช้ห่วงเหล็กที่รูปสลักสิงโตคาบอยู่เคาะประตูไปสองสามครั้ง

“ปึง ปึง!”

สังครู่ประตูบานนั้นก็เปิดออกมา เผยให้เห็นชายชราตัวเตี้ยถือไม้เท้าผมหงอกคนหนึ่ง เมื่อชายชราเห็นกีอัส เขาก็กล่าวถามออกมา

“เจ้าเป็นใคร มีธุระอะไร?!” ชายชราพูดด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

“คือ.. ผมมาเพื่อรับภารกิจจากคฤหาสน์อดีตขุนนาง ตามคำแนะนำของบาซอน”กีอัสตอบพร้อมกับหยิบเอาจดหมายแนะนำตัวออกมายื่นให้ชายชราคนนั้น

“อย่างนั้นเองรึ เจ้านั่นหาคนมาทำภารกิจของข้าได้แล้วสินะ”ชายชรากล่าวในขณะที่รับเอาจดหมายบางอย่างจากมือของกีอัสมาตรวจสอบ

“ดี! ข้าต้องการคนมาทำภารกิจให้อยู่พอดี ภารกิจของข้าไม่ได้ยากเท่าไรและยังให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าภารกิจทั่วๆไปหลายเท่า เจ้าต้องสนใจที่จะทำมันอย่างแน่นอน”ชายชราพูด

“แต่ภารกิจของข้านั้นมีเงื่อนไขพิเศษที่สำคัญอย่างหนึ่ง นั้นก็คือเจ้าห้ามเปิดเผยข้อมูลใดใดเกี่ยวกับภารกิจของข้าให้ผู้ใดฟังเด็ดขาด รวมถึงเรื่องที่บาซอนแนะนำให้เจ้ามาที่นี่เจ้าก็ห้ามบอกใครเช่นกัน มิฉะนั้นภารกิจทั้งหมดที่เจ้าได้รับจากข้าจะถือว่าล้มเหลว และหมดสิทธ์ที่จะมารับภาคกิจที่นี้อีก เจ้าเข้าใจงั้นสินะ?!” ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

“เราเข้าใจแล้ว” กีอัสตอบรับ

“งั้นมาเริ่มที่ภารกิจแรกกันได้เลย สำหรับภารกิจแรกข้าต้องการให้เจ้าไปสังหารสัตว์อสูรระดับบอสที่มีเลเวลเท่ากับเจ้าหรือมากกว่าซักตัว แน่นอนว่าเจ้าจะต้องจัดการมันให้ได้ด้วยตัวคนเดียว ก่อนที่ข้าจะมอบหมายให้ใครมาทำภารกิจที่สำคัญของข้า ข้าจะต้องทดสอบความสามารถของคนๆนั้นเสียก่อน หากเจ้ายังไม่สามารถเอาชนะสัตว์อสูรระดับบอสที่มีเลเวลไม่น้อยกว่าเจ้าได้ด้วยตัวคนเดียว เจ้าจงอย่าได้กลับมาให้ข้าเห็นหน้าอีก แต่หากเจ้าทำได้จงกลับมาเพื่อรับรางวัลจากข้าได้เลย หึหึ”ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เจ้าเล่ห์

“แน่นอน เราจะทำมันให้สำเร็จด้วยตัวคนเดียว เรามีเวลานานเท่าไรสำหรับภารกิจนี้”กีอัสกล่าวถามเพื่อความแน่ใจ

[ท่านได้รับภารกิจพิเศษ พิสูจน์ความกล้าหาญ]

“ระยะเวลาของภารกิจจากข้านะรึ ก็จนกว่าเจ้าจะหมดความพยายามไงล่ะ แต่เจ้าอย่าลืมเมื่อเจ้ามีเลเวลสูงขึ้น ในการทำภารกิจแรกขอข้านี้เจ้าก็จำเป็นต้องสังหารบอสสัตว์อสูรที่มีเลเวลสูงขึ้นตามไปด้วย แม้ว่าเจ้าจะเก่งขึ้นซักเท่าไร แต่ความยากสำหรับภารกิจของข้าก็มิได้ลดลง” ชายชรากล่าวอย่างทรงภูมิปัญญา

“แล้วเรื่องของรางวัลจากภารกิจล่ะ เราจะได้รับอะไรเป็นการตอบแทน?” กีอัสกล่าวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ของรางวัลสำหรับภารกิจของข้านะรึ ไว้เจ้าทำภารกิจให้ข้าสำเร็จแล้วค่อยรู้ก็ยังไม่สาย ข้ารับรองว่ามันมีค่ามากกว่าที่เจ้าได้จินตนาการเอาไวแน่นอน ไว้เจอกันใหม่หากเจ้าสามารถทำภารกิจแรกของข้าได้สำเร็จ ปึ้ง!!” ชายชรากล่าวอำลาพร้อมกับปิดประตูคฤหาสน์เสียงดัง

“หึ เราจะรอดูว่ารางวัลตอบแทนจากภารกิจของท่านจะน่าสนใจเพียงใด ภารกิจแรกนี้เราใช้เวลาไม่นานนักหรอก” กีอัสกล่าวและออกเดินทางอีกครั้งเพื่อทำภารกิจ

กีอัสไม่ต้องการเสียเวลาเดินทางไกล แม้ว่าสภาพพื้นที่แถวๆคฤหาสน์จะไม่ค่อยเหมาะสมต่อการต่อสู้เท่าไรนัก แต่มันก็พอจะมีแหล่งที่อยู่ของสัตว์อสูรอยู่บ้าง เป็นไปได้ว่าอาจจะมีบอสของเหล่าสัตว์อสูรพวกนั้นอยู่ด้วยก็เป็นได้

ถึงแม้ชายชราเจ้าของคฤหาสน์อดีตขุนนางคนนั้นจะกล่าวว่าภารกิจของเขาไม่ใช้ภารกิจยากอะไร แต่ในความเป็นจริงนั้น มันคือภารกิจที่ยากเย็นอย่างยิ่ง เพราะบอสสัตว์อสูรส่วนใหญ่จะอยู่ทร่ามกลางสัตว์อสูรประเภทเดียวกับมัน และในกรณีที่เขาต้องทำภารกิจนี้ด้วยตัวคนเดียวนั่นก็หมายความว่า เขาจะต้องกวาดล้างสัตว์อสูรเหล่านั้นให้หมดด้วยตัวคนเดียวเสียก่อน ก่อนจะไปสู้กับบอสของพวกมันได้ ไม่เช่นนั้นแล้วเขาก็จะถูกรุมโดยสัตว์อสูรมากมายในขณะที่สู้กับบอสของพวกมัน

ห่างออกไปไม่กี่ไมล์จากคฤหาสน์อดีตขุนนาง มีค่ายเล็กๆตั้งอยู่ มันเป็นค่ายของเหล่ายักษ์กินคน ความสูงของพวกมันไม่ต่ำกว่าสองเมตร หลังจากกีอัสเดินทางมาถึงค่ายเล็กๆแห่งนี้ เขาก็ใช้เวลาสังเกตพวกมันอยู่พักหนึ่ง ค่ายแห่งนี้มีกระโจมทั้งหมด5หลัง 4หลังรอบนอกจะมียักษ์อยู่หลังละ2ตัว และกระโจมที่อยู่ตรงกลางค่ายจะเป็นกระโจมของหัวหน้ายักษ์

เขาสามารถมองเห็นเลเวลของพวกมันได้ และทำให้รู้ถึงรายละเอียดของพวกมัน พวกยักษ์เหล่านี้เป็นสัตว์อสูรเลเวล9 พวกมันมีพลังโจมตีกายภาพ ป้องกันกายภาพ และพลังชีวิตที่สูงมาก แต่จะมีค่าต้านเวทย์มนต์ และความเร็วต่ำ

เมื่อรู้ถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของพวกมันแล้ว มันก็ไม่ใช้เรื่องยากสำหรับกีอัสที่จะกวาดล้างยักษ์จากหมู่บ้างแห่งนี้ เขารอเวลาที่พวกมันจะแยกย้ายกันเพื่อสังหารมันที่ละตัว

เขารอพวกมันอยากอดทนกว่าหนึ่งชั่วโมงเต็ม จนในที่สุดยักษ์สองตัวก็ออกมาจากค่ายของพวกมัน พวกมันทั้งสองเดินเข้าไปในป่า กีอัสจึงสะกดลอยตามพวกมันเพื่อหาโอกาสที่เหมาะสม

ตอนนี้เป็นช่วงเย็น ยักษ์ทั้งสองเดินมาถึงต้นมะพร้าวต้นหนึ่ง ยักษ์ตัวหนึ่งก็ขี่หลังเพื่อของมันเพื่อปีนขึ้นไปเก็บมะพร้าวที่อยู่ด้านบน นี่แหละโอกาสของเขา

กีอัสใช้ทักษะ สายฟ้าฟาดสร้างพลังสายฟ้าออกมา และผสานมันเข้ากับดาบต้องสาป เข้าต้องการที่จะจัดการพวกมันอย่างรวดเร็วที่สุด เขาออกตัววิ่งเข้าไปหาพวกมันแล้วกระโดดสูงฟัดพวกมันที่ต่อตัวปีนต้นไม้กันอยู่ด้วยดาบต้องสาปที่ผสานกับดาบสายฟ้าพร้อมกันถึงสองตัวใรคราเดียว

ฟับ!

119! 362!

121! 360!

เกิดเป็นความเสียกายภาพตามด้วยความเสียหายเวทย์มนต์ที่รุนแรง แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะสังหารยักษ์ที่มีพลังชีวิตสูงทั้งสองตนลงได้

พวกมันมีท่าทีตกใจชั่วครู่จากการถูกจู่โจมอย่างกระทันหัน เมื่อได้สติพวกมันทั้งสองก็หยิบอาวุธออกมา พุ่งเข้าหากีอัสด้วยจิตสังหารและความโกรธแค้น

ยักษ์ตัวหนึ่งเข้าโจมตีกีอัสจากทางด้านซ้าย อีกตัวหนึ่งก็เข้าโจมตีเขาจากทางด้านขวา พวกมันสามารถโจมตีผสานกันได้อย่างยอดเยี่ยม น่าเสียดายที่พวกมันยังไม่ฉลาดพอที่จะมาเป็นคู่ต่อสู่ของกีอัส

กีอัสชูดาบต้องสาปชี้ขึ้นบนฟ้าและคำราม

“คืนสภาพดาบสายฟ้า!!”

สายฟ้าที่เคยอัดแน่อยู่ในดาบต้องสาประเบิดขึ้นกลางอากาศ มันมีความรุนแรงเทียบได้สายฟ้าฟาดที่ถูกใช้แบบปกติเลยที่เดียว

เปรี้ยง!!

728!

740!

ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้ต้องกายกีอัส ยักษ์ทั้งสองก็ไหม้เกรียมไปเสียก่อน

เขายิ้มออกมาเล็กน้อย และเดินย้อนกลับไปยังค่าของพวกมันเพื่อจักการกับยักษ์อีก6ตัวที่เหลือและหัวหน้าของพวกมัน

ด้วยความฉลาดของเขาบวกกับความชำนาญในการใช้เวทย์มนต์ชนิดนี้ การจะกวาดล้างค่ายสัตว์อสูรเล็กๆค่ายหนึ่งไม่ได้ยากเย็นสำหรับเขาเลย