UWG#047 อดีตหน่วยลอบสังหาร

…

…

…

[ท่านได้รับค่าพลังทางเลือก 81 แต้ม จากการเลื่อนระดับเป็นเลเวล 9 ]

หลังจากจัดการกระทิงป่าไปอีกสิบกว่าตัว ในที่สุดกีอัสก็ได้เลื่อนระดับเป็นเลเวล9แล้ว การออกผจญภัยมาล่าสัตว์อสูรในครั้งนี้ทำให้เขามีเลเวลมากขึ้นถึง2เลเวล และจากการแลกเปลี่ยนเกราะอ่อนสีครามก็ทำให้เขามีเลเวลเพิ่มขึ้นมาอีก1เลเวล

ด้วยระยะเวลาเพียง10กว่าชั่วโมงเท่านั้น ทำให้เขามีเลเวลเพิ่มขึ้นถึง3เลเวล เขาเปิดเมนูค่าพลังตัวละครของเขาขึ้นมาเพื่อใช้ค่าพลังทั้ง81แต้มที่พึ่งได้รับมาใหม่

[ กีอีส เลเวล 9 อาชีพหลัก:นักดาบ อาชีพเสริม:นักเล่นแร่แปรธาตุ ขั้น7 เผ่ามนุษย์ ]

พรสวรรค์เฉพาะตัว:นักปราชญ์ผู้เข้มแข็ง

-STR,VIT,INT เพิ่มขึ้น 5%

-ทักษะเรียกใช้ 'เสียงเรียกแห่งผู้กล้า' ระดับ5 – บังคับฝ่ายศัตรูในระยะ3.8เมตรเข้ามาโจมตีตนเอง1.4วินาที

-ทักษะลับนักดาบขั้น1 เพิ่มพลังชีวิต 100 หน่วย

ค่าสถานะทั้งหมด

STR 77+23 (+5%)

AGI 8

INT 100+34 (+5%)

DEX 7

VIT 76+24 (+5%)

LUK 10

เขาเพิ่มค่าSTRให้ถึง100หน่วยเพื่อให้ทักษะ ‘การจู่โจมอันหนักหน่วง’ ของสายอาชีพนักดาบยกระดับเป็นขั้นที่สอง และเพื่อเพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพของเขา

ในการต่อสู่กับพวกกระทิงป่าที่ผ่านมา ทำให้เขาได้ฝึกใช้ดาบและดาบสายฟ้าที่เขาสร้างขึ้นมาต่อสู้ไปพร้อมๆกัน เขารู้สึกสนุกกับการต่อสู่ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก การฆ่าฟันสัตว์อสูรตัวแล้วตัวเล่าอย่างเมามันส์ทำให้เขาลืมเรื่องแย่ๆที่ผ่านมาไปเสียจนหมดสิ้น

เขารู้สึกชอบการต่อสู้ที่ผสานการโจมตีกายภาพและเวทมนต์ให้เข้ากันได้อย่างลงตัวเช่นนี้ แม้ว่าการคงสภาพดาบสายฟ้าไว้จะสิ้นเปลืองมานา แต่มันก็มีพลังรุนแรงคุ้มค่ากับมานาที่เสียไป

ในตอนนี้เขาต้องการกลับไปดูที่เมืองว่า มีภารกิจอะไรที่น่าสนใจหรือไม่ และเขายังต้องการที่จะหาซื้ออุปกรณ์ดีดีซักชิ้นสองชิ้นเป็นรางวัลให้ตัวเองที่สามารถคิดค้นการใช้ทักษะสาดฟ้าฟาดมาสร้างเป็นดาบในการต่อสู้อีกด้วย

แต่เขาก็ยังไม่ต้องการที่จะเปิดเผยพลังดาบสายฟ้าของเขา กีอัสตัดสินใจว่าจะใช้มันเฉพาะในการล่าสัตว์อสูรคนเดียวหรือยามคับขันจริงๆเท่านั้น

เขามุ่งหน้ากลับเมืองด้วยเส้นทางเดียวกันกับทางที่เขาใช้เดินทางมาพร้อมๆกับพวกคุรุรุกิ

…

…

…

ในด้านของคุโรซากิ น้องสาวของเขาคิโยมิฟื้นขึ้นมาแล้วเมื่อหลายชั่วโมงก่อน พวกเขาทั้งสองตัดสินใจเข้าร่วมกับพันธมิตรดาบกายสิทธ์เพื่อร่วมมือกับเพื่อนๆและแก้แค้นพันธมิตรปีศาจดำที่มาหาเรื่องพวกเขา

ในขณะนี้พวกเขาทั้งสองกำลังล่าอสูรร่วมกับสมาชิกคนอื่นๆในพันธมิตรดาบกายสิทธ์ เดิมที่เขาต้องการที่จะเชิญกีอัสมาร่วมพันธมิตรของเขาด้วย แต่เมื่อได้เห็นเลเวลของกีอัสที่มากกว่าเขาถึง2เลเวล เขาจึงตัดสินใจที่จะเพิ่มเลเวลของเขาให้เท่ากับกีอัสก่อนเพื่อที่จะชวนกีอัสมาร่วมพันธมิตรในอนาคต

ในตอนนี้พันธมิตรดาบกายสิทธ์มีสมาชิก20กว่าคน ถือว่าเป็นเพียงพันธมิตรเล็กๆเท่านั้น เพราะสมาชิกทุกคนก็เป็นเพื่อนๆของเขาทั้งนั้น พวกเขาทุกๆคนร่วมแรงร่วมใจกันสร้างพันธมิตรขึ้นมาและผลักดันให้พันธมิตรของพวกเขามีชื่อเสียง

ในตอนนี้คุโรซากิและคิโยมิก็เกือบจะเลเวล8แล้ว ยิ่งไปกวาดล้างสัตว์อสูรกันเป็นพันธมิตรยิ่งทำให้พวกเขาสามารถเพิ่มเลเวลได้ไวมากขึ้น เลเวลเฉลี่ยของสมาชิกในพันธมิตรดาบกายสิทธ์ถือว่าสูงมาก สมาชิกส่วนใหญ่กว่า75%จะมีเลเวล9 และสมาชิกที่มีเลเวล10อีกเล็กน้อย นอกจากนั้นก็เป็นสมาชิกที่เลเวล7-8อย่างเขาและคิโยมิ

แม้เขาจะรู้ดีกว่าพันธมิตรปีศาจดำที่เขาต้องการแก้แค่นั้น จะมีสมาชิกถึง100คนเต็มพันธมิตร นอกจากนั้นยังมีสมาชิกที่รอเขาร่วมด้วยอยู่อีกหลายร้อยคน ไม่แปลกอะไรที่พวกมาเฟียจะมีแนวร่วมเยอะเช่นนั้น

คุโรซากิต้องการที่จะสร้างพันธมิตรให้แกร่งแกร่งอย่างน้อยก็เพื่อปกป้องน้องสาวของเขาให้ปลอดภัย สมาชิกในพันธมิตรของเขาต่างก็เป็นพวกวัยรุ่น พวกเขาเล่นเกมกันอย่างหักโหมไม่หลับไม่นอน เขาเองก็เช่นกัน เขาตั้งใจจะเพิ่มเลเวลตามกีอัสให้ทันเพื่อชวนกีอัสเข้าร่วมพันธมิตร เป็นกำลังให้พวกของเขาอีกแรง

…

…

…

ในด้านของยูซาคุ เมื่อเขาบังเอิญได้ฟังความจริงจากปากของนายทุนยาชิดะ ความโกรธแค้นก็เข้าครอบงำ จากเดิมที่เขาไม่คิดที่จะเสียเวลากลับออกมาในโลกจริงแม้แต่น้อย เข้ากลับเลิกเล่นเกมออกมาดูแลยูมิโกะแฟนของเขา และพยายามหาหลักฐานฟ้องร้องเอาผิดบริษัทซอฟแวร์ยูนิเวอร์แซลเวิลด์ ของนายทุนยาชิดะ ที่เป็นเจ้าของเกมมหาสงครามวินาศจักวาล

แม้ว่ายูซาคุที่มีความสามารถในด้านซอฟแวร์สูงจะพยายามหาหลักฐานซักเท่าไร แต่หลักฐานที่มีอยู่เพียงน้อยนิด รวมถึงเสียงของนายทุนยาชิดะที่ถูกบันทึกเอาไว้ในชิปการ์ดของเขาก็ยังถูกบุกเข้ามาเพื่อลบทิ้งทำลายหลักฐาน

มันต้องเป็นฝีมือของไอ้หัวหน้านักซอฟแวร์ของบริษัทซอฟแวร์ยูนิเวอร์แซลเวิลด์คนนั้นแน่ๆ มันมีความสามารถสูงถึงขั้นสามารถที่จะมาลบไฟล์เสียงบันทึกที่เขาแอบบันทึกเก็บไว้ได้เลยอย่างนั้นหรือนี้

แม้เขาจะพยายามกู้ข้อมูลนั้นซักเท่าไร แต่มันก็ไร้ประโยชน์ เหมือนกับว่าไฟล์เสียงนั้นไม่เคยมีอยู่จริงมาก่อนแม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าเขาบันทึกและเก็บรักษามันเอาไว้เป็นอย่างดี

ในระหว่างที่คอยดูแลยูมิโกะ เขาก็วางแผนหาทางอื่นเพื่อที่จะจัดการกับบริษัทซอฟแวร์ยูนิเวอร์แซลเวิลด์ และนายทุนสารเลวนั่นให้ได้ ในเมื่อเขาไม่มีหลักฐานที่ยืนยันในความผิดของพวกมัน และทำให้พวกมันได้รับโทษตามกฎหมายแล้ว เขาก็จำเป็นสำเร็จโทษให้พวกมันด้วยตนเอง

เขาลอบสั่งซื้ออาวุธปืนและอุปกรณ์อื่นๆมาเพื่อวางแผนที่จะลอบสังหารนายทุนสารเลวคนนั้น เขากำลังทำตัวเองให้เป็นสารเตี้ยแห่งหนึ่ง

ด้วยความแค้น ทำให้เขาขาดจิตสำนึกและไม่อยู่ในกรอบของกฎหมายของมนุษย์ธรรมอีกต่อไป เขาจะต้องฆ่าไอ้สารเลวที่หลอกให้เขาเอาชีวิตของเขาและแฟนของเขาไปเสี่ยงให้ได้

ในที่สุดอุปกรณ์มากมายที่เขาได้สั่งเอาไว้ก็มาถึง เขารอมันมากว่า3ชั่วโมงแล้ว เขาเคยมีประสบการณ์การทำสงครามและปลอมตัวเป็นสปายอยู่2-3ปีก่อนที่จะออกมาประกอบอาชีพเป็นนักเขียนโปรแกรม

เขาเอาแผนผังของบริษัทซอฟแวร์ยูนิเวอร์แซลเวิลด์ออกมา ทำการทบทวนแผนการที่เขาวางเอาไว้อีกครั้งหนึ่งและจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆให้ครบถ้วนสมบูรณ์

อุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม แผนการทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ ที่เหลือก็เพียงรอให้ฟ้ามืดลงเท่านั้น ภารกิจในครั้งนี้ของเขาถือว่าเสียงอันตรายยิ่งนัก แต่สำหรับมนุษย์ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่า ‘มือลอบสังหารกระดับพระกาฬ’ มันก็ยังมีโอกาสสำเร็จ

เขาบรรจุทุกสิ่งที่จำเป็นลงในกระเป๋าและมุ่งหน้าไปยังบริษัทซอฟแวร์ยูนิเวอร์แซลเวิลด์ เพื่อลอบเข้าไปและสั่งสอนไอ้พวกสารเลวที่ไม่เห็นคุณค่าของชีวิตคน

เขากำลังจะเริ่มทำสิ่งที่เขาเกือบจะจำไม่ได้ว่าเขาเคยมีประสบการณ์ในด้านนี้มาก่อน

การปลอมตัวและ…การลอบสังหาร!!!