UWG#038 การจัดทัพที่ทรงพลัง

“แต่มันก็มีบางอย่างผิดไปจากที่ท่านหัวหน้าพันธมิตรเคยบอกเอาไว้ มันไม่ได้มีกันแค่2คน ทีมของมันมี5คน เป็นนักดาบ2คน นักเวท นักบวช นักฆ่า อีกอาชีพละหนึ่งคน ทางที่ดีเราควรจะวางแผนกันก่อน” ชายคนนั้นพูดเตือนคางูยะ หัวหน้าทีมที่ได้รับมอบหมายงานมาจากหัวหน้าพันธมิตร

“ไม่จำเป็น เรามีกับ7คนจะกลัวอะไร พวกเราก็เลเวล7-8ทั้งนั้น ต่อให้พวกมันเลเวล8ทั้งทีมก็สู้เราไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าหนุ่มที่ชื่อกีอัสนั้นมันก็เลเวลแค่6เท่านั้น งานนี้มันง่ายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก” คางูยะกล่าวและมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่กีอัสอยู่

“เมื่อพวกมันออกนอกเมืองเมื่อไรเราจะสังหารพวกมันยกทีม ยกเว้นเจ้าหนุ่มนั่น ข้าจะทรมานมันเอง จนกว่ามันจะยอมยกเกราะของท่านหัวหน้ามาให้แล้วค่อยสังหารมัน” คางูยะกล่าว

ทีมของคางูยะทั้ง7คนมุ่งหน้าไปหากีอัส และเฝ้ารอเวลาที่ทีมของกีอัสจะออกไปนอกเมือง เพราะในเมืองไม่สามารถฆ่ากันได้ ทำได้เพียงประลองกันเท่านั้น ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่าย หากจะทำการปล้นเช่นนั้น ก็ต้องดำเนินการนอกเมือง

…

…

…

ในด้านของพวกกีอัสเอง พวกเขาก็กำลังจะออกเดินทางไปยังป่าทางตอนใต้อันเป็นจุดนัดพบกับบอสคุรุรุกิอยู่พอดี  พวกเขาทั้ง5เริ่มออกเดินทางไปยังจุดหมาย และเตรียมพร้อมที่จะล่าสัตว์อสูรระดับบอส

ทันทีที่พวกเขาทั้ง5เดินผ่านออกมาจากประตูเมืองได้ไม่ไกลนัก พวกเขาทั้ง5ก็พบกับกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าคนพวกนั้นจะมาดักรอพวกเขาอยู่แล้ว

“เฮ้… เจ้าคนที่ชื่อกีอัสน่ะ แกได้สังหารพรรคพวกในพันธมิตรปีศาจดำของพวกเรา ทั้งยังแย่งชิงเกราะระดับRare(หายาก)ซึ่งเป็นของบรรณาการให้กับหัวหน้าพันธมิตรของเราไป หากเจ้ายอมส่งมันคืนมาดีดี พวกข้าจะอาจจะปล่อยให้พวกแกได้มีชีวิตรอดต่อไป หากไม่เช่นนั้นพวกแกจะต้องถูกฆ่า” คางูยะข่มขู่กลุ่มของกีอัสอย่างไม่ใยดี แต่ต่อให้กีอัสจะยอดคืนเกราะหายากนั่นมา มันก็ไม่คิดที่จะปล่อยพวกของกีอัสทั้งห้าคนไป เพราะการสังหารผู้เล่นทั้งห้าอาจทำให้ทีมของมันได้รับเงินมากถึง10000เหรียญเงิน

“ข้านำเกราะนั่นไปแลกเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นมาแล้ว ต่อให้พวกแกสังหารข้าอีกซักกี่ครั้ง เจ้าก็ไม่มีทางได้มันคืนไปได้” กีอัสตอบกลับไป

“พวกแกจงหลีกทางไปซะ คิดว่าพวกชั้นแค่5คนจะกลัวพวกแกอย่างนั้นหรอ  พวกเราทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์ ทีมอันดับหนึ่งแห่งเมืองดาวห้าแฉกที่1 ไม่เคยเกรงกลัวผู้ใด หากยังขวางทางชั้นอยู่ อย่าหาว่าชั้นไม่เตือน” ฮิโนกิกล่าวสวนกลับไปบ้าง

“ฮ่าๆ อันดับหนึ่งงั้นรึ พวกแกฝันกลางวันอยู่รึไงที่อันดับหนึ่งในเมืองนี้คือทีมปราการมหาอาคม พวกข้ารู้เรื่องของพวกเจ้าเป็นอย่างดี ทีมของพวกแกคงมีทั้งหมด6คนสินะ อีกหนึ่งคนที่ไม่ได้อยู่ด้วยตอนนี้ก็คงจะเป็นนักธนูสาวแสนสวยคนนั้นที่ถูกหนึ่งในนักฆ่าของเราสังหารไปแล้ว” คางูยะพูดเหมือนจะรู้ดี ก่อนจะมาดักรอทีมของกีอัส มันได้ตรวจสอบทีมที่กีอัสอยู่มาเป็นอย่างดี และจากการบอกกล่าวของหัวหน้าพันธมิตรปีศาจดำ ทำให้มันรู้ว่าหนึ่งในสมาชิกในทีมของกีอัส ซึ่งเป็นนักธนูชื่อคิโยมิตายไปแล้ว

แต่มันหารู้ไม่ว่ากีอัสพึ่งจะย้ายมาเข้าทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ไม่นาน และนักธนูที่ตายไปคนนั้นก็เป็นสมาชิกทีมเก่าของกีอัส ไม่ใช่ทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์ที่กีอัสอยู่ตอนนี้ แต่ด้วยการที่มันเห็นพวกกีอัสอยู่กันแค่5คน ทั้งที่ทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์มีสมาชิกทั้งหมด6คน ทำให้มันเข้าใจผิดเช่นนั้น

ฮิโนกิเองก็แอบเปิดหน้าอันดับของทีมขึ้นมาเพื่อตรวจดูข้อเท็จจริง

อันดับของทีมในเมืองดาวห้าแฉกที่1

อันดับที่ 1 ทีมปราการมหาอาคม  สมาชิก 7 คน เลเวลเฉลี่ย 8.14

…

อันดับที่ 5 ทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์ สมาชิก 6 คน เลเวลเฉลี่ย 8.00

…

อันดับที่ 13 ทีมมาเฟียปีศาจ สมาชิก 7 คน เลเวลเฉลี่ย 7.72

…

เพราะการเข้าร่วมทีมของกีอัสซึ่งมีเลเวล7 ทำให้เลเวลเฉลี่ยของทีมลดลงมา และตกมาเป็นทีมอันดับ5 ฮิโนกิเข้าใจสาเหตุที่ทำให้มันพูดเช่นนั้น ทีมของเธอไม่ได้เป็นอันดับหนึ่งอีกต่อไปแล้ว แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจเรื่องที่คางูยะพูดเกี่ยวกับนักธนูสาวคนนั้น เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่ากีอัสเคยอยู่ทีมอื่นมาก่อน เธอคิดว่าการที่กีอัสมาซื้อดาบด้วยตัวคนเดียวและดูกลั้นแกล้งจากผู้เล่นที่เลเวลสูงกว่า กีอัสจะต้องเป็นผู้เล่นโซโล ที่ออกล่าสัตว์อสูรด้วยตัวคนเดียวอย่างแน่นอน

“แกพูดเรื่องอะไรของแก ตอนนี้ทีมของชั้นมีสมาชิกที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้ง6คน หากสมาชิกอีกคนหนึ่งของพวกเรามาถึง พวกแกไม่มีทางที่จะมีชีวิตรอดไปได้แม้แต่คนเดียว หากยังคิดจะมีเรื่องกับพวกชั้นเช่นนี้” ฮิโนกิตอบไปด้วยความโมโหแต่ถึงอย่างไรเธอก็ยังดูน่ารักในแบบของเธอ

“อย่าได้มาเล่นลิ้นกับข้า!! ข้ารู้ดีว่าสมาชิกคนหนึ่งในทีมของแกตายไปแล้ว พวกแกที่เหลือเพียง5คนไม่มีทางที่จะต่อกรกับพวกข้าทั้ง7ได้ แม้ว่าทีมของแกจะมีเลเวลเฉลี่ยถึง8.00ก็ตาม ทีมของข้าที่มีเลเวลเฉลี่ยเพียง7.72 จะสังหารพวกแกทั้งหมดให้ดูเป็นขวัญตา ให้พวกแกได้รู้ว่าการถูกรุมเป็นยังไง ข้าจะให้โอกาสพวกแกได้ตัดสินใจอีกครั้ง จะยอมส่งเกราะนั่นมาแต่โดยดี หรือจะตายอยู่ที่นี่”คางูยะกล่าว หากเป็นในสถานการณ์ปกติ มันก็คงบุกเข้าไปสังหารพวกของกีอัสให้สิ้นซากตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่มันยังไม่ทำเช่นนั้นก็เพราะว่า เป้าหมายที่แท้จริงของมันไม่ใช้การสังหารแต่เป็นเกราะระดับRare(หายาก)ตัวนั่นต่างหาก

หากมันสังหารกีอัสก่อนที่กีอัสจะยกเกราะระดับRare(หายาก)ตัวนั้นมาให้ มันก็มีโอกาสที่จะได้รับเพียงแค่เงิน1000กว่าเหรียญจากการสังหารเท่านั้น แม้กีอัสจะมีเกราะนั่นอยู่ก็มีโอกาสน้อยมากที่มันจะตกลงมา มันจึงต้องอดทนเพื่อให้ได้เกราะนั่นมาก่อนที่จะลงมือ และเลือกที่จะให้โอกาสให้กีอัสส่งเกราะระดับRare(หายาก)ตัวนั้นมาอีกครั้งหนึ่ง

“ชั้นจะบอกอะไรให้ก็ได้ ตอนนี้เกราะอ่อนสีครามตัวนั้นอยู่กับชั้นเอง หากพวกแกคิดจะลองตายดูซักครั้งก็เรียงหน้าเข้ามาได้เลย แม่จะฆ่าให้เรียบ”ฮิโนกิกล่าวด้วยความโมโหพร้อมกับกำชับมีดสั้นทั้งคู่ในมือของเธอเอาไว้อย่างมั่นคง เธอเองก็เป็นนักฆ่าที่มีฝีมือคนหนึ่ง

“เปลี่ยนแผน!! ข้าจะไม่เสียเวลาอดทนเจรจากับพวกแกอีกต่อไปแล้ว สังหารพวกของมันทั้ง3คน เหลือไอ้หนุ่มกีอัสกับนังปากเก่งนี่ไว้ให้ข้าทรมาน เริ่มได้!!!” คางูยะซึ่งเป็นหัวหน้าพูดกับสมาชิกในทีมของมันและพุ่งมายังกลุ่มของกีอัสพร้อมกับดาบมีดคู่ในมือและสมาชิกในทีมของมันซึ่งเป็นดาบอีกสองคนที่พุ่งตามมาด้วยและอารักษ์ขาอยู่ด้านซ้ายและด้านขวาของมันด้านละคน

นักธนูอีกสองคนและนักเวทย์อีกคนที่อยู่ด้านหลังก็เริ่มทำการโจมตีจากระยะไกล ส่วนอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นนักบวช เขาก็ก้าวมาอยู่ด้านหน้าของนักธนูและนักเวทย์ในทีมเพื่อปกป้องแนวหลังในทีมของมันและช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตให้แนวหน้า หากมีนักฆ่าหรือนักดาบซักคนสามารถพุ่งฝ่าแนวหน้าที่คางูยะนำไปเข้ามาได้ นักบวชคนนั้นก็จะคอยต้านเอาไว้ละให้นักธนูและนักเวทเป็นคนจัดการสังหาร ช่างเป็นรูปขบวนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ