UWC#037 กลุ่มเด็กกำพร้าผู้เป็นเกมเมอร์
“ข้าจะแนะนำทีมของข้าหน่อยก็แล้วกัน เดิมที่ข้า น้องสาว และเพื่อนๆอีก3คนเป็นแค่เด็กกำพร้าเท่านั้น ซึ่งตั้งแต่จำความได้ พวกเราทั้งห้าก็อยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว พวกเราค่อยๆเติบโตขึ้นที่นั่น เมื่อโตขึ้นพวกเราก็ออกมาหางานทำบ้างเพื่อหาเงินกินของอร่อยๆและเล่นเกมสนุกๆ เหมือนเด็กคนอื่นๆ พวกเราทั้งห้าเติมโตมาด้วยกัน เล่นเกมและใช้ชีวิตร่วมกันมาตั้งแต่เด็ก เมื่อรู้ว่าเกมที่พวกเราเล่นนั้น พอจะสามารถทำเงินได้บ้าง พวกเราทั้งห้าที่มีความรักในเกมออนไลน์อยู่แล้วก็ยิ่งใช้เวลากับมันมากขึ้นมากขึ้น ทั้งเป็นทหารรับจ้างในเกม ช่วยผู้เล่นทำภารกิจแลกกับเงินในชีวิตจริงหรือเงินในเกมและนำมาขายในชีวิตทีหลัง และยังขายไอเท็มมากมายเพื่อเงิน เป็นเวลาเกือบ1ปี ในที่สุดพวกเราก็มีเงินเก็บจำนวนหนึ่งและสามารถนำมาเช่าที่พักเป็นของตัวเองได้ จากเดิมที่ต้องแกล้งทำเป็นว่าขอออกมาทำงานในตอนกลางวันเพื่อแอบไปเล่นเกม พวกเราก็ออกจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยวัย12ปี และมีที่พักเป็นของตัวเองซึ่งทำให้พวกเราสามารถเล่นเกมได้ทั้งวันทั้งคืน นับตั้งแต่นั้นมากว่า5ปีพวกเราทั้งห้าก็มีเงินเก็บได้มากพอจะซื้อบ้านขนาดกลางๆถูกๆหลังหนึ่งได้ และได้ซื้อไอดีเกม ‘มหาสงครามเกมวินาศจักวาล’ ทั้งห้าไอดีเพื่อทำงานเป็นเกมเมอร์อาชีพของพวกเราต่อไป” คุรุรุกิเล่าเรื่องราวของพวกเขาทั้งห้าให้กีอัสฟัง
“ว้าว.. สุดยอดไปเลย!! ผมเองก็เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่นะ แต่บังเอิญมีศาสตราจารย์บ้างานคนหนึ่งมาช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายและส่งผมเข้าโรงเรียนประจำ และก็พึ่งจะเรียนจบมานี่เอง ยังหางานประจำทำไม่ได้เลย”กีอัสตอบกลับไป
“งั้นหรอก็ไม่ต่างกับพวกเราเท่าไหร่ สนใจมาเป็นเกมเมอร์อาชีพอย่างพวกเรามั้ยล่ะ ฮ่าๆ”คุรุรุกิถามไปอย่างทีเล่นทีจริง
“ก็น่าสนใจนะ ผมก็กำลังหางานสนุกๆทำอยู่พอดี” กีอัสเองก็สนใจงานที่สนุกสนานแบบนี้อยู่แล้ว ยิ่งถ้ามีเพื่อนๆร่วมด้วยล่ะก็ มันคงจะเรียกได้ว่าเป็นงานในฝันเลยทีเดียว
“เยี่ยมไปเลย ไว้โอกาสหน้าค่อยคุยเรื่องนี้กันใหม่ ก่อนอื่นเตรียมตัวให้พร้อม อีกไม่นานข้าก็จะกลับไปถึงเมืองดาวห้าแฉกที่1แล้ว เราจะไปล่าบอสกัน ไปรอข้าที่ป่าทางตอนใต้ ข้าจะไปถึงในอีกชั่วโมงหนึ่งข้างหน้า”คุรุรุกิกล่าวก่อนจะออกจากการสนทนา
“แล้วนายคิดยังไงถึงได้เทค่าพลังทางเลือกทั้งหมดไปที่INTหะ ที่ชั้นอุส่าอธิบายให้นายฟังขนาดนั้นนายยังไม่เข้าใจความหมายที่ชั้นต้องการจะสื่ออีกอย่างนั้นหรือไง” ทันทีที่คุยกับบอสคุรุรุกิจบ ฮิโนกิก็เริ่มบ่นในทันที
“ผมเข้าใจถึงสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อเป็นอย่างดีนะครับ แม้การใช้ค่าพลังส่วนใหญ่เพิ่มค่าSTRจะทำให้ผมได้รับคุณสมบัติพิเศษของทักษะนักดาบ แต่ในทางกลับกันขณะที่ผมเป็นนักดาบแม้จะไม่ได้รับคุณสมบัติพิเศษจากทักษะของนักเวทและนักบวช แต่ผมก็สามารถใช้การฟื้นฟูที่เพิ่มพลังชีวิตมากขึ้นและเวทย์มนต์ที่มีพลังโจมตีรุนแรงขึ้นไปพร้อมๆกันได้ ซึ่งผมคิดว่าการที่ผมสามารถใช้ทั้งการฟื้นฟูและเวทย์มนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปพร้อมๆกันจากการเพิ่มค่าINTเพียงค่าเดียวมันวิเศษยิ่งว่าการได้รับคุณสมบัติพิเศษของทักษะนักดาบเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้นเหล่านักเวทย์และนักบวชทั้งหลายก็ไม่มีทางที่จะใช้การฟื้นฟูและเวทย์มนต์ไปพร้อมๆกันเหมือนผมได้อีกด้วย”กีอีสอธิบายความคิดของเขาให้เธอฟัง
ทันทีที่ฮิโนกิได้ฟังกีอัสอธิบาย เธอถึงกับต้องตะลึงในความคิดที่เหลือเชื่อของเขา ความคิดของเขามันสวนทางกับความเชื่อที่ยึดถือกันมาตลอด ทั้งยังสวนทางด้วยความสมเหตุสมผลอีกด้วย ไม่แน่ว่าเส้นทางที่เขากำลังเลือกเดินต่อไปมันอาจจะเป็นเส้นทางที่มีเฉพาะเหล่าอัจฉริยะเท่านั้นที่มองเห็น
แต่แม้จะเป็นอัจฉริยะ เขาก็ยังมีบางสิ่งที่ยังสงสัยมาตลอด และกล่าวถามออกไป
“เอ่อคือว่า ที่ผมยังไม่เข้าใจก็คือ ในเมื่อบอสคุรุรุกิมีอาชีพเสริมเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุแล้ว เขาจะต้องการนักเล่นแร่แปรธาตุอีกคนในทีมเพื่ออะไร” กีอัสถามเธออย่างตรงไปตรงมา
“แม้พวกเราจะรู้ดีว่า ผู้เล่นที่สามารถใช้พลังธาตุได้อย่างอิสระจะได้รับอาชีพนักเล่นแร่แปรธาตุ แต่การจะทำเช่นนั้นมันไม่ใช้เรื่องง่ายๆเลย ไม่แน่ว่าผู้ที่จะทำได้จะต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในศาสตร์วิชาเคมีในชีวิตจริง ยังโชคดีที่บอสเคยคิดจะสร้างสารแก้หิวขึ้นมาในชีวิตจริง ทำให้เขาใช้เวลาเป็นปีๆในการอ่านตำราเคมี แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกไปด้วยสาเหตุหลายๆอย่าง เท่าที่พวกเรารู้ในตอนนี้ความสามารถของนักเล่นแร่แปรธาตุก็คือ สามารถสลับค่าพลังที่ถูกเสริมเข้ามาในอุปกรณ์แบบสุ่มโดยช่างตีเหล็กได้ในระดับหนึ่ง”เธออธิบาย
“อย่างเช่นดาบเหล็กกล้าของนาย เดิมที่คิริฮาระ ช่างตีเหล็กในทีมของเราได้เสริมพลังให้มัน ซึ่งการเสริมพลังจะได้ค่าพลังออกมาแบบสุ่มเท่านั้น ยิ่งเป็นช่างตีเหล็กที่มีระดับขั้นสูงและอุปกรณ์ที่เลเวลสูงก็ยิ่งเสริมค่าพลังได้เยอะ แต่มันก็จะถูกสุ่มออกมาอยู่ดี ซึ่งค่าพลังทั้งหมดที่เสริมมาได้จะเท่ากับ ระดับขั้นของช่างตีเหล็กxเลเวลของอุปกรณ์ เช่น ช่างตีเหล็กขั้น2 เสริมอุปกรณ์เลเวล6 ก็จะได้ค่าพลัง12หน่วย ซึ่งดาบโลหะของนายก็ถูกสุ่มค่าพลังทั้ง12หน่วยออกมาเป็น STR 2 AGI 1 INT 4 VIT 3 DEX 1 LUK 1 และบอสคุรุรุกิซึ่งเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุก็มาแปรค่าพลังของมันให้เป็น STR 4 INT 4 VIT 4 แม่ว่าจริงๆแล้วบอสจะต้องการSTR 6 VIT 6 แต่เขาก็บอกว่าด้วยการเล่นแร่แปรธาตุขั้นที่2 เขาสามารถทำได้แค่นี้”
“แม้ในตอนนี้พวกเราจะรู้ความสามารถของนักเล่นแร่แปรธาตุเพียงแค่สลับค่าพลังในอุปกรณ์ แต่ชั้นคิดว่าในอนาคตเราจะต้องรู้มากกว่านั้นอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็คงจะต้องเกี่ยวข้องกับพลังธาตุ ซึ่งบอสคิดว่าการที่บอสแค่บังเอิญไปศึกษาวิชาเคมีมาเล็กน้อยจะไม่สามารถเลื่อนขั้นขึ้นไปให้สูงขึ้นและใช้ความสามารถของนักเล่นแร่แปรธาตุได้ถึง100%หรือมากว่านั้น ซึ่งการจะเล่นสายอาชีพเสริมนี้บอสบอกว่าต้องเป็นคนที่มีความรู้และสมองที่ดีมีความคิดสร้างสรรค์และมีไอคิวสูง”
“บอสคาดว่า ไม่ว่าใครที่ได้รับอาชีพเสริมนี้มาก็คงจะสามารถใช้ความสามารถของมันได้มากกว่าเขาที่มีความรู้เพียงเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นบอสไม่ต้องการที่จะมีอาชีพเสริมที่ตัวเองไม่ถนัด บอสได้บรรลุเงื่อนไขของอาชีพผู้ขนส่งแล้ว แต่เพราะผู้เล่นสามารถมีอาชีพเสริมได้เพียงอาชีพเดียว และเห็นว่าทีมยังขาดนักเล่นแร่แปรธาตุไม่ได้จึงยังไม่ได้ตอบรับอาชีพใหม่นี้”
“ที่บอสต้องการคนที่เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุก็เพราะทีมนี้จำเป็นต้องมีนักเล่นแร่แปรธาตุที่เก่งกว่าเขา มาแทนเขา เพื่อให้เขาได้เป็นผู้ขนส่ง โชคดีที่พวกเราได้เจอนาย แม้นายจะเป็นเด็กกำพร้าเหมือนพวกเรา แต่นายก็มีการศึกษาในระดับสูง นายมีความคิดสร้างสรรค์ นายจะต้องใช้ความสามารถของอาชีพนักเล่นแร่แปรธาตุได้ไม่น้อยกว่า100%อย่างแน่นอน” เธออธิบายพร้อมกับยิ้มให้เขา
เขาเองก็ยิ้มตอบเธอเช่นกัน เขาแอบดีใจได้กลายมาเป็นคนสำคัญของทีมเช่นนี้
…
…
…
ณ อีกด้านหนึ่งของเมืองดาวห้าแฉกที่1
ทีมของคางูยะซึ่งพึ่งจะเดินทางมาถึงได้ไม่นาน และส่งสมาชิกออกไปค้นหาเป้าหมายของพวกเขา เป้าหมายที่ทำให้พวกเขาต้องลงทุนเดินทางข้ามเมือง
“คางูยะ ข้าเจอไอ้เด็กคนนั้นแล้วนะ มันพึ่งจะประลองฝีมือและเอาชนะชายอีกคนหนึ่งมา มันอยู่อีกด้านหนึ่งของเมืองใกล้ๆนี่เอง” สมาชิกคนหนึ่งในพันธมิตรปีศาจดำกล่าว
“งั้นรึ?! พวกเรารวมตัวไปกันได้แล้ว เราจะไปทวงเกราะอ่อนสีครามของท่านหัวหน้าพันธมิตรคืนมา และสั่งสอนให้มันได้รู้จัก ‘ปีศาจดำ’ และจำไปจนวันตาย” คางูยะซึ่งเป็นหัวหน้าทีมคำราม