ตอนที่ 25 เอ่อเกิดอะไรขึ้น
ผมกลับมาถึงโรงแรมหลังจากการสอบอันเหน็ดเหนื่อย...ล้อเล่นครับ ฮ่ะๆ สอบเสร็จแล้วครับผมช่วงนี้จะกลับมาแปลเหมือนเดิมครับ แต่ก็ยังติดงานอย่างอื่นบ้างเหมือนเดิมถ้าตอนต่อไปออกช้าหน่อยก็ขออภัยนะครับ^^
--------------------------------------------------
ผมกลับมาถึงโรงแรมแน่นอนว่าพี่สาวจอมโจรคนนั้นหายตัวไปแล้วถ้าในตอนที่เธอตื่นขึ้นมา แล้วตัวเธอไม่ได้ถูกพันธนาการอะไรไว้เลย หนำซ้ำยังไม่มีคนอยู่เฝ้าเธออีก.. ก็คงไม่มีใครหน้าไหนที่จะไม่ยอมฉวยโอกาสดีๆแบบนี้ ในการหลบหนี
ผมโยนร่างของผมลงบนเตียง และกางแขนและขาทั้งสองฝั่งออกเต็มที่.. ถึงจะกางเต็มที่ก็เถอะ แขนกับขาของผมยังเหยียดไม่ถึงขอบเตียงเลยด้วยซ้ำ
ในอดีตนั้น ผมมักจะนอนท่านี้อยู่บ่อยๆ ในตอนที่ผมเข้าสู่ห้วงความคิดของตัวเอง.. เสร็จแล้วก็จบลงด้วยการเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้นอยู่บ่อยๆ.. เหมือนผมกำลังจะออกทะเลสินะ..ร่างของผมฟุบลงกับเตียงอย่างอ่อนล้า แต่มันก็ทำให้ผมผ่อนคลายขึ้นมากนี่เป็นครั้งแรกเลย ที่ผมมีความคิดหรูราแบบนี้ 'รินอน' ไม่ได้อยู่ที่นี่.. เธอพูดว่า
"หนูขอตัวกลับไปที่บ้านสักครู่นะคะ"”
เสร็จแล้วก็เดินจากไปเลยน่าจะเป็นคำโกหกนั้นแหละ.. กลับไปบ้าน ที่ซึ่งพี่สาวของเธอหายตัวไป.. ไม่อยากจะเชื่อเลยตอนนี้ผมกำลังนอนอยู่ที่นี่ก็จริง แต่ผมได้ร่าย [ซากาอิ] รูปแบบเคลื่อนไหวเอาไว้ เพื่อสะกดรอยตามเธอไป.. พลังเวทย์ของทักษะนี้ คนอื่นจะไม่สามารถรับรู้ได้ และพวกเขาก็จะไม่รู้สึกถึงตัวตนของผมซึ่งกำลังตามเธออยู่ด้วยเช่นกัน
ตอนนี้ 'รินอน' ได้นัดเจอกับคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งห่างออกไปจากโรงแรมเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น.. ด้วยระยะทางแค่นี้ ถ้าหากผมใช้สมาธิเล็กน้อย ผมก็จะสามารถแอบฟังบทสนทนาของพวกเขาได้อย่างชัดเจน พลังที่ผมได้มาจากท่านสึคุโยมินี่มีประโยชน์มากจริงๆ.. แต่บางครั้ง การที่ผมไม่เข้าใจทฤษฎี มันก็ทำให้ผมเจ็บปวดเหมือนกันนะ
[ คนแปลอังกฤษเองไม่แน่ใจนะครับ > 取説(とりせつ)がないのが玉に瑕だけど ]--
" แล้วเธอได้ประวัติของเขามาบ้างรึเปล่า? "”
'รินอน' ส่ายหัวไปมา
" ไม่ค่ะ.. อย่างเดียวที่เขาบอกแก่หนูก็คือ เขาเป็นผู้สืบทอดของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง " (รินอน)
" อะไรกัน? แบบนี้มันก็ไม่ต่างจากข้อมูลที่กิลด์ผู้ประกอบการมีเลยสิเนี่ย "”
พวกนั้นคาดหวังอะไรกัน? คิดเหรอว่าผมจะยอมบอกทุกๆอย่างเกี่ยวกับตัวผม ให้กับเด็กที่ผมเพิ่งจะเจอเนี่ยนะ? พวกเขาปัญญาอ่อนกันเหรอไง?
" ตะ-แต่ว่า.. เพราะรถขนสินค้าของเขาถูกปล้น หนูก็เลยไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดคุยกับเขาเลย " (รินอน)
" จริงด้วยสิ.. ดูเหมือนว่าคนที่ถูกจับตัวไปจะกลับมาแล้ว พวกเราอุตส่าห์ชำระล้างร่างกายของเธอ เพื่อตรวจค้นเวทมนตร์และกลอุบายที่อาจจะถูกติดมากับตัวเธอเลยนะ แต่กลับไม่มีอะไรโผล่ออกมาเลยเนี่ยสิ.. นี่มันหมายความยังไงกัน? "
" ตอนที่หนูตื่นขึ้นมาในตอนเช้า พี่ผู้หญิงอีกสองคนที่อยู่กับเขาก็ออกไปข้างนอกแล้วค่ะ.. แล้วจากนั้น หนูก็เดินทางไปที่เขตการค้าพร้อมๆกับพี่ชายค่ะ "
" ผู้ติดตามรึ? พวกเขาคือคนที่มีเลเวลแปลกประหลาดนั่นสินะ.. แต่เราไม่รู้เนี่ยสิ ว่าจะมีคำสั่งให้ปิดปากรึเปล่า แต่มันก็ทำให้เหงื่อที่คิ้วของข้าไหลเลยทีเดียว.. แล้วยังไงต่อ? "
[*อันนี้คนแปลอังกฤษก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ (อะไรเหงื่อคิ้วไม่รู้ ฮ่าๆ) > 連れか、確か出鱈目なレベルの奴だとか。緘口令があるのか詳しくは聞けなかったが眉唾だな…それで?]...”
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะปิดปากคนอื่นด้วยสินะ? แล้วก็เหงื่อที่คิ้ว... ไม่ต้องสงสัยเลย..
[*อะไรไม่รู้ครับ เหงื่อที่คิ้ว > eyebrows sweat ]”
ตอนนี้.. แค่การที่ข้อมูลของผมไม่รั่วไหลออกไปมาก ก็ทำให้ผมดีใจมากพอแล้ว
" ตอนนี้พี่ชายกำลังหลับอยู่บนเตียงอยู่ค่ะ แล้วก็ตอนที่พวกเรากลับมาถึง พี่สาวคนที่ถูกจับตัวได้ก็ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว " (รินอน)
" ฮ่า~ "
" แล้วจากนั้น หนูก็บอกพี่ชายว่าจะขอกลับไปที่บ้านสักพักนึงค่ะ " (รินอน)
" ไอ้หนุ่มคนนั้นหัวทื่อจริงๆ.. จับตัวคนไว้ โดยไม่คิดแม้แต่จะมัดมือมัดขาเนี่ยนะ? แถมยังไม่มีคนเฝ้าอีกด้วย? "”
หุบปาก! การที่พวกเขาเชื่อเรื่องที่เชื่อได้ยากกันได้ง่ายถึงขนาดนี้ มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีใจนิดหน่อยนะ แต่มันทำผมหงุดหงิดชอบกลแต่ว่า.. ดูจากท่าทางของรินอน แล้วก็นิสัยของชายคนนั้น.. ดูเหมือนเขาจะเป็นคนประเภท เกินเยียวยาแล้วจริงๆสินะ?
" อืม... แล้วเรื่องรถขนสินค้านั่นหล่ะ? ได้ยินอะไรมาบ้างรึเปล่า? "
" คือว่าเรื่องนั้น... หนูไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ค่ะ " (รินอน)
" อ่า~ ไม่เป็นไรๆ เล่ามาเถอะ "
" จากที่นี่เดินทางไป 2 ถึง 3 วัน.. เสร็จแล้วจะถูกห้อมล้อมไปด้วยหมอกที่หนาทึบ ซึ่งใจกลางหมอกนั่นจะมี ถิ่นอาศัยของเหล่า 'มาโมโนะ' อยู่.. พี่ชายบอกว่า เขาได้ของพวกนั้นมาจากพวก 'มาโมโนะ' ค่ะ " (รินอน)
" ... "
" นะ-หนูพูดความจริงนะ! นั่นคือสิ่งที่พี่ชายบอกกับหนู! แถมเขายังไม่สนใจราคาของสินค้าพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ! " (รินอน)”
'รินอน' น่าจะรู้สึกถึงภัยอันตราย ซึ่งแพร่ออกมาจากตัวของผู้ชายที่ยืนนิ่งเงียบ เธอจึงพยายามอธิบายอีกครั้งอย่างเต็มที่.. พวกเขาน่าจะไม่ได้มีความสัมพันธ์กันฉันมิตรสินะ แค่นั้นผมก็พอจะมองออก
" เขาบอกว่ามันเป็นของที่เหมือนกับฝัน เขาเลยไม่ติดใจที่จะขายมันทั้งหมด.. ชายชราที่อยู่ในเขตการค้าพูดว่า พวกเขาจะขอซื้อมันทั้งหมดด้วยเงิน 500 เหรียญทองค่ะ " (รินอน)
" 500?! "”
เสียงของผู้ชายคนนั้นดังขึ้นแถบจะทันที.. เขาน่าจะเป็นคนประเภทต่ำช้าจริงๆด้วยสินะ
" คะ-ค่ะ " (รินอน)
" นั่นมันราคาต่ำที่สุดของต่ำที่สุดระดับไหนกัน? พวกเขาอาจจะได้ของล้ำค่ามานะ.. แต่ขายมันด้วยราคาแค่ 500 เหรียญทองเนี่ยนะ? "
[*โดนเล่นจริงๆ ]”
ใบหน้าที่หยาบคาย ปรากฎขึ้นมาบนใบหน้าของชายคนนั้น.. ผมสังเกตุได้เลยว่า แม้แต่ 'รินอน' เองก็ขยะแขยงยังไงก็ตาม.. ต่ำที่สุดของต่ำที่สุด? ด้วยเงินมากขนาดนั้นเนี่ยนะ? น่ากลัวจริงๆ.. แต่มันยังมีหนทางอื่นอีกเหรอ ที่จะใช้ประโยชน์จากผลไม้พวกนั้น นอกจากขายมันด้วยราคาที่สูงขึ้น ในรูปแบบของสินค้าชนิดใหม่?
" เฮ้.. เฮ้~! ให้หนูได้เจอพี่สาวของหนูหน่อยเถอะคะ! ถ้าหากหนูเล่าหลายๆอย่างให้พวกคุณฟังแล้ว พวกคุณจะยอมให้หนูเจอพี่ของหนูไม่ใช่เหรอคะ?! " (รินอน)
" เฮ้ยๆ.. นั่นคือคำพูด ที่มีไว้พูดตอนที่ทำงานเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ? ถ้าข้อมูลมีแค่นี้ เธอก็จะไม่มีวันได้เจอพี่สาวของเธอหรอกนะ "”
.... หนอย..จับเด็กตัวเล็กๆ แถมยังบังคับให้เธอทำงานโง่ๆแบบนี้อีกจิตสังหารของผมเริ่มที่จะเพิ่มมากขึ้นตอนนี้ผมกำลังคิดอย่างจริงจัง ว่าจะยิงเขาด้วยเวทมนตร์ของผม จากหน้าต่างบานนี้!ผมทำได้แน่!
เอาเลยละกัน!ผมเริ่มที่จะร่ายเวทมนตร์.. แต่เสร็จแล้วก็ปรับความคิดซะใหม่ชิ.. ถ้าหากผมยิงเขาตอนนี้ 'รินอน' ก็จะต้องเห็นคนตายต่อหน้าเธอแน่ๆ.. การได้เห็นใครสักคนตายต่อหน้าตัวเอง มันอาจจะกลายเป็นแผลลึกในจิตใจก็ได้บ้าที่สุด..
แกรอดตายฉิวเฉียดเลยนะ รู้ตัวไหม?! 'รินอน' เข้าไปเกาะผู้ชายคนนั้น แล้วขอร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า.. ผมหายใจเข้าอย่างลึกๆ เพื่อสงบจิตสังหารของตัวเองลง แต่จิตสังหารมันก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆอยู่ดี
" ถ้าหากยืนกรานขนาดนั้น ข้าก็ไม่มีทางเลือกแล้วหล่ะนะ.. ทำงานสุดท้ายนี้ เสร็จแล้วข้าจะคืนพี่สาวของเธอให้ แล้วก็จะลืมเรื่องหนี้ของพวกเธอด้วย.. "”
หนี้? ยังไงมันก็ต้องเป็นหนี้ ซึ่งเกิดจากแผนสกปรกของพวกเขาแน่ๆ
" !! คุณทำแบบนั้นได้จริงๆเหรอคะ?! " (รินอน)
" ใช่แล้ว~ ส่วนเรื่องงานที่จะให้ทำ มันง่ายนิดเดียว.. ตกลงไหม? "”
ผู้ชายที่ยื่นข้อเสนอพวกนี้ให้กับเด็กตัวเล็กๆแบบเธอ ช่างต่ำช้าจริงๆ..แน่นอนอยู่แล้วว่า 'รินอน' ปฏิเสธข้อเสนอพวกนั้นไม่ได้แต่ว่า...ผมปลด [ซากาอิ] ออก..ผมพอจะรู้ผลลัพธ์แล้ว.. ยังไงผมก็ไม่อยากจะได้ยินสิ่งที่เขากำลังจะพูดอยู่ดีถ้าหากเรื่องที่เขาพูดเป็นความจริง
พี่สาวของ 'รินอน' ก็น่าจะยังมีชีวิตอยู่แต่ถ้าหากมันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพหล่ะก็.. ผมก็จะเข้าสู่โหมดการทรมานแล้วก็การฆาตกรรมซ้ำซ้อนเลยไม่ใช่ว่าผมอยากจะสนับสนุนแนวคิดของ 'โทโมเอะ' หรอกนะ แต่ผมคิดว่า ผมควรที่จะใช้กำลังในการแก้ปัญหาให้มากขึ้นอีกสักนิดก็ยังดี..
ตอนนี้ผมเลยพยายามที่จะข่มตาลง เพื่อให้ตัวเองหลับ...ผมจะเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง เมื่อผู้ติดตามทั้งสองของผมกลับมา.. ตอนนี้ไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้วและถ้าผมคิดถึงสถานะของ 'รินอน' แล้ว มันคงจะเป็นผลดีกับตัวเธอมากกว่า ถ้าหากเธอกลับมา แล้วเห็นผมกำลังนอนหลับอยู่ผมจะขอหลับซัก 45 นาที...
ผมหายใจเข้าอย่างลึกๆ แล้วในที่สุดก็เผลอหลับไป...--หนวกหูจริง..อ่า.. จริงด้วยสิ.. เมื่อกี้ผมหลับอยู่สินะ? 'รินอน' ปลอดภัยรึเปล่า?จริงๆเลย ผมเริ่มที่จะคิดอีกแล้วว่า ผมควรจะทำยังไงกับเธอต่อไปดีถ้าหากผู้ติดตามของผม นำข้อมูลอะไรสักอย่างมาให้ผมในตอนที่ผมตื่นขึ้นแล้วถ้าหาก 'รินอน' ยังมีชีวิตอยู่.. ผมก็คิดจะอาละวาดนิดหน่อยแต่ถ้าหากไม่มีชีวิตอยู่.. ผมก็จะอาละวาด จนเมืองทั้งเมืองพังเลยคอยดู!
" อือ.. อรุณสวัสดิ์ "”
ผมมองไปรอบๆห้อง.. ผมเห็นคนอยู่ 4 คน..นี่มัน.... หึๆๆ... เป็น 'ครั้งแรก' เลยสินะ ที่ผมอาจจะได้ยินข่าวดี! 'โทโมเอะ' 'มิโอะ' .. ผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนในรูปวาด แล้วก็ 'รินอน' ..
" นายน้อย! ตื่นแล้วสินะ " (โทโมเอะ)
" ท่านนายน้อย อรุณสวัสดิ์ค่ะ " (มิโอะ)”
การที่พวกเขาพูดว่า 'อรุณสวัสดิ์' ทั้งๆที่ตอนนี้มันเป็นตอนบ่ายแล้วแท้ๆ หรือจะเป็นเพราะว่า? ประท้วงผม ที่ผมไม่ยอมให้พวกเขานอนเมื่อคืน? หรือจะเป็นการทักทายในเชิงธุรกิจกันนะ?
ผู้ติดตามของผม ทักทายผมอย่างที่คิด.. อย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่พวกควรจะทำแหละนะ เพราะยังไงตอนนี้ พวกเราก็อยู่ต่อหน้าคนอีกสองคนนี่นา 'รินอน' กำลังพยายามหลบสายตาของเธอไปจากผมอยู่ส่วนพี่สาวของ 'รินอน' ก็กำลังก้มหัวลงอย่างจริงจัง ด้วยกริยาที่ดูมีเสน่ห์.. แต่ถ้าอยากจะก้มลงไปต่ำถึงขนาดนั้น ทำโดเงซะ*เลยก็ได้นะ มันจะสบายกว่านี้เยอะ
[*โดเงซะจะประมาณนี้ครับ(ขอยืมรูปจาก google นะครับ) ]”
ดูเหมือนพี่สาวของเธอจะปลอดภัยแล้วสินะ ส่วนน้องสาวของเธอกลับมาเพื่อก่อคดีบางอย่าง... ไม่สิ เธอน่าจะถูกจับได้มากกว่า.. การที่ 'มิโอะ' ยังไม่ได้ฆ่าเธอ ก็คงจะเป็นเพราะ 'โทโมเอะ' ห้ามไว้สินะช่างเป็นเด็กสาวที่โชคดีจริงๆ.. ไม่สิ โชคดีทั้งพี่น้องเลยมากกว่าสินะ? โชคดีถึงขั้นที่ว่า ผมอยากให้พวกเขาแบ่งปันความโชคนั่นให้แก่ผมบ้าง
" สาวน้อย ยกหัวขึ้น " (โทโมเอะ)”
'โทโมเอะ' บอกพี่ของรินอนไปแบบนั้น เสร็จแล้วเธอก็ยกหัวขึ้นมาอย่างเขินเอย
" ขอโทษนะ ที่ผมจำเป็นต้องสื่อสารด้วยการเขียน.. เธออ่านออกใช่ไหม? " (มาโกโตะ)”
น้องสาวของเธออ่านออก แต่พี่สาวของเธอกลับอ่านภาษาเขียนไม่ออก.. เรื่องแบบนั้นไม่มีทางจะเกิดขึ้น ใช่ไหม?
" อะ..ค่ะ! อ่านได้ค่ะ! กะ-การที่คุณช่วยชีวิตฉันได้รวดเร็วขนาดนี้ ฉะ-ฉันต้องขอขอบคุณมากจริงๆค่ะ ขะ-ขอบคุณจากใจเลยค่ะ! "”
ด้วยอาการตื่นตกใจจนถึงขีดสุด เธอรีบพูดขอบคุณผม รีบจนพูดติดอ่างและติดๆขัดๆ.. หา? เธอเป็นคนประเภทที่ รับมือกับคนแปลกหน้าไม่เก่งหรอกเหรอ?แต่แค่สื่อสารกันยังพอเป็นไปได้สินะ โอเค..ยังไงก็ตาม เธอทำให้ผมตกใจมากจริงๆ.. แม้แต่เสียงที่ออกแนว 'อะแฮะๆ' ถ้าหากไม่นับเรื่องสีผมของเธอแล้ว เธอเป็นร่างโคลนของคนคนนั้นชัดๆ
" เธออยากจะใช้ภาษาพูดแบบไหนกับผมก็พูดมาเถอะ ไม่ใช่ว่าเธอเป็นผู้ติดตามของผม หรืออะไรทำนองนั้นซะหน่อยนะ " (มาโกโตะ)
" อย่างที่ท่านเห็น.. เธอกลับมาด้วยร่างกายที่ครบ 32 เลยน้า นายน้อย " (โทโมเอะ)
" ร่างกายของเธอ ถูกใช้เป็นตัวทดลองยาหลายชนิดมากเลยค่ะ.. แต่ฉันชำระล้างมันออกไปจนหมดแล้ว " (มิโอะ)”
เธอสองคน.. คำรายงานของพวกเธอ มันเป็นการหวังให้ผมชมพวกเธอชัดๆเลยสินะ.. แต่ยังไงก็ทำได้ดีมากจริงๆหมายความว่า 'มิโอะ' มีเทคนิคลับ ที่สามารถใช้ถอนพวกสารพิษได้สินะ? นี่จะต้องเป็นประโยชน์ในอนาคตมากแน่ๆ
ผมมองไปที่พี่สาวของ 'รินอน' อีกครั้ง.. จริงด้วยสิ พอผมมาลองคิดดูแล้ว ใบหน้าของเธอมีผลกระทบต่อจิตใจของผมมาก จนผมถึงกับลืมชื่อของเธอไปเลย.. เธอชื่ออะไรแล้วนะ?ผมจำได้ว่า 'รินอน' บอกชื่อของเธอกับผมแล้ว.. แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง ผมกลับหาความทรงจำส่วนนั้นไม่เจอเลยนี่สิ
แต่ว่า...ตอนที่ผมคิดที่จะถามชื่อของเธออีกครั้ง ผมมองไปที่ตัวเธอ ตั้งแต่หัวจรดเท้า..ยิ่งผมมองเธอมาก เท่าไหร่.. มันก็ยิ่งอยู่เหนือคำว่าคล้ายกันแล้วโลกคนละใบ แต่มีแตงโมลูกเดียวกัน.. น่าอัศจรรย์มากจริงๆ
เธอสูงกว่าผมเล็กน้อย ทรงผมของเธอที่เหมือนกับผู้หญิงคนนั้นจนเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ส่วนหน้าอกของเธออยู่ในช่วงที่เรียกว่าได้ว่าใหญ่พอสมควรและรูปร่างหน้าตาของเธอ พูดได้เลยว่าเป็นภาพสะท้อนบนกระจกของผู้หญิงคนนั้น.. แต่ดวงตาของเธอดูโหดร้ายกว่าเล็กน้อย..
แต่มันก็ไม่แปลกหรอก นี่เป็นดวงตาที่นักผจญภัยควรจะมีสินะมันคือดวงตาที่เต็มไปด้วยช่วงเวลาที่ยากลำบาก และความอยากรู้อยากเห็นส่วนสีผมของเธอ เป็นสีเดียวกับน้องสาวของเธอซึ่งก็คือสีแดง.. มันไม่ใช่สีดำที่ถูกย้อมด้วยสีแดง
" ฮาเซงาวะ ใช่ไหม? " (มาโกโตะ)”
ชื่อของคนที่ผมเผลอพูดออกมา เป็นชื่อของรุ่นน้อง ที่ 'โทโมเอะ' เคยรื้อฟื้นความทรงจำมาให้ผมดูหญิงสาวที่มาสารภาพรักกับคนอย่างผม.. มิหนำซ้ำ ยังเป็นรุ่นน้องที่ถูกผมหักอกจนต้องเจ็บปวด
[*สำหรับคนที่จำไม่ได้นะครับ ฮาเซงาวะคือคนที่มาสารภาพรักกับมาโกโตะใน Chapter 7 คือตอนที่เช็นขังมาโกโตะไว้ในหมอกนั้นแหละครับ หน้าตาแบบในรูปด้านล่างนี่เลยครับ อิงจากมังงะ (ผมจำได้ว่าผมเคยลงรูปนี้ของฮาเซงาวะไว้ในตอนที่ 7 นะ แต่เหมือนจะหายไปไหนไม่รู้ ในรายการอัพโหลดก็ไม่มี ผมอาจเบลอนิดๆ) ]”
รุ่นน้องที่น่ารักและกระตือรือร้น แถมยังทุ่มเททุกๆอย่างให้กับการยิงธนูนี่แหละคือสาเหตุ ที่ทำให้ช่วงนี้หัวใจของผมมันไม่ยอมสงบนิ่ง ถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่าพวกเขาเป็นคนละคนกันอย่างสิ้นเชิงก็เถอะ..แถมมันยังเป็นเหตุการณ์ ที่ผมถูกเช็นทำให้นึกขึ้นได้เมื่อไม่นานมานี่อีกด้วย มันเลยยิ่งมีผลกระทบไปกันใหญ่ คิดว่านะ?
" เอ๋? "”
ผมเผลอเรียกเธอด้วยชื่อนั้นไป ริมฝีปากของเธอขยับเล็กน้อย และส่งเสียงออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ 'โทโมเอะ' ปล่อยให้มันผ่านไป แต่หูของ 'มิโอะ' เหมือนจะมีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่ผมพูด.. ผมรู้สึกได้เลยว่า อีกเดี๋ยวเธอก็คง ตื้อถามผมไม่ปล่อย ไปอีกสักระยะแน่ๆมันเป็นชื่อของคนที่อยู่อีกโลกหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาไม่น่าจะคิดว่า มันคือชื่อเรียกของใครสักคนหรอก..
" ไม่มีอะไร.. ยังไงก็ตาม ผมได้ยินเรื่องราวจากรินอนแล้ว และมันก็ทำให้ผมอดคิดที่จะช่วยคุณ ไม่ได้.. ผมดีใจมากเลยนะที่คุณปลอดภัย " (มาโกโตะ)
" ฉันทำตัวของฉันเองค่ะ.. แต่คุณช่วยเหลือพวกเราไว้จริงๆ.. พวกเราพึ่งจะสามารถปะคองตัวเองได้ฉันเลยได้ใจเกินไปหน่อยค่ะ "”
หลักความคิดของเธอที่มักจะหาจุดบกพร่องในตัวเองนั้น ก็เหมือนกับฮาเซงาวะมากเลยทีเดียวแต่การที่เธอสามารถยืนหยัดต่อสู้ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ได้ มันก็ไม่แปลกหรอก ที่จะกลายเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงท้ายที่สุดแล้ว ด้วยความผิดพลาดเพียงแค่ครั้งเดียว.. น้องสาวของเธอก็เลยกลายมาเป็นหมากตัวหนึ่งของพวกโจร และเร่ร่อนไปรอบๆเมืองในตอนกลางคืนเพื่อหาเหยื่อให้พวกมัน.. ส่วนตัวเธอเองก็ถูกทดลองยา จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด
" ดูเหมือนที่นี่จะเป็นสถานที่ที่อันตรายน่าดูเลยนะ.. ภายนอกก็แน่นอนอยู่แล้ว ภายในเองก็เหมือนกัน.. ผมมีผู้ติดตามทั้งสองคนนี้อยู่ ผมเลยเอาตัวรอดมาได้จนถึงปัจจุบัน " (มาโกโตะ)”
ผมตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มเล็กนน้อยในความเป็นจริง เลเวลของทั้งสองคนนี้ก็เกินขอบเขตของคำว่าปกติแล้วหลังจากได้ยินว่าผมพูดถึงพวกเธอ สีหน้าของพวกเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ราวกับกำลังแสยะยิ้มแล้วพูดว่า
"ก็ไม่เท่าไหร่หรอก"”
จริงๆเลยแต่ในตอนนี้ที่ผมพูดถึง 'โทโมเอะ' และ 'มิโอะ' นั้น ผมสังเกตุเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไป ของคนที่หน้าตาคล้ายฮาเซงาวะ และน้องสาวของเธอคนโตนั้นตื่นเต้น ส่วนคนเล็กนั้นเหมือนจะหวาดกลัว
" ความแข็งแกร่งของผู้ติดตามของคุณ มันสุดยอดจนน่ากลัวมากๆเลยค่ะ! อย่างแรกเลย พวกเขาปรากฎตัวขึ้น อย่างไร้ซุ่มไร้เสียง ใจกลางห้องที่พวกเราถูกคุมขังอยู่! มันเจ๋งสุดๆ แถมยังน่าอัศจรรย์มากๆเลยค่ะ! "
" ไม่หรอกๆ มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอกน้า " (โทโมเอะ)
" ถ้าหากฉันใช้ความสามารถด้านธาตุมืดของฉัน เรื่องแค่นั้นก็ง่ายนิดเดียวเองค่ะ " (มิโอะ)”
นั้นคือเหตุผลที่ผมบอกพวกเธอไง ว่าพวกเธอเก็บอาการไม่เก่งเลย.. จะดีใจกับคำชมก็ให้มันน้อยๆหน่อยสิ
" ใช่แล้ว! หลังจากนั้นก็เวทมนตร์ธาตุมืดค่ะ! มันชำระล้างพิษจากยาทดลอง ซึ่งอยู่ในร่างกายของฉันออกจนหมด แล้วตอนที่พวกเรากำลังจะหลบหนีออกมา เธอก็พังประตูเสริมเวทมนตร์ด้วยมือเปล่า โดยที่ไม่ได้ใช้พลังเวทย์เลยสักนิดค่ะ! "”
ถ้าหากไม่นับเรื่องประตูอะไรนั่นหล่ะก็.. ความสามารถในการชำระล้างพิษของเธอมันต้องสุดยอดมากๆเลยสินะ คราวหน้าผมควรจะให้เธอสอนผมบ้าง.. แต่การที่เธอพังประตูออกมา มันก็เกินไปหน่อยนะ แต่ยังไงตอนนี้ก็ขอบวกหนึ่งแต้มให้เธอก็แล้วกันนะ 'มิโอะ'
ยังไงก็ตาม จากเรื่องที่เธอเล่ามา ผมก็ยังหาสาเหตุที่ 'รินอน' อยู่ในสภาวะหวาดกลัวถึงขนาดนี้ไม่ได้อยู่ดี แม้ว่าเธอจะได้พี่สาวของเธอกลับมาแล้วก็ตามเธอน่าจะถูกผู้ชายคนนั้น สั่งให้ขโมยเงินของผมสินะ? ในตอนที่เธอกำลังจะขโมยนั้น ทั้งสองคนนี้ก็กลับมาซะก่อน แล้วก็จับตัวเธอไว้..
เรื่องมันเป็นแบบนี้รึเปล่า?ผมพอจะเข้าใจ ว่าเธอน่าจะรู้สึกผิดต่อการกระทำของเธอแต่เป้าหมายหลักของเธอ ก็คือการช่วยเหลือพี่สาวของเธอ ซึ่งตอนนี้ก็สำเร็จแล้ว.. ผมเลยคิดว่า ตอนนี้เธอควรจะทำตัวร่าเริงให้มากกว่านี้สักหน่อยนะ
'รินอน' ที่กำลังมีสีหน้าที่เหมือนกับกังวลอะไรบางอย่างอยู่ พยายามที่จะพูดอะไรสักอย่างออกมา.. แต่สุดท้ายแล้วก็ขยับหน้าเพียงเล็กน้อย แล้วก็หดหัวของเธอลงไป
" ยิ่งไปกว่านั้น! คนเฝ้า แล้วก็พวกทหารรับจ้าง ต่างก็ถูกจัดการด้วยท่วงท่าอันงดงามของท่าน 'โทโมเอะ' ค่ะ! ร่างของพวกเขาส่งเสียงดัง *แคร่ก *แคร่ก! "”
โอ้? ผมรู้สึกว่าเธอกำลังพูดอะไรบางอย่างที่ดูอ้อมค้อมเกินไปหน่อยนะ.. เธอพูดเกินจริงไปรึเปล่า? ผมพึ่งจะเตือน 'โทโมเอะ' ไปไม่นานนี้เองนะ ว่าอย่าทำอะไรรุนแรงจนเกินไป
" !!! ธะ-เธอพูดเกินจริงไปแล้ว 'โทอา' ข้าไม่ได้ทำถึงขนาดนั้นซักหน่อย... " (โทโมเอะ)”
มีคนโง่หนึ่งคนที่นี่ ซึ่งกำลังทำตัวเหมือนกับเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำเรื่องที่ไม่สมควรทำ เธอพยายามห้าม 'โทอา' ไม่ให้เล่าต่อ แต่ผมก็สั่งให้ 'โทโมเอะ' หยุด ด้วยสายตาของผม.. แล้วจากนั้นผมก็หันไปมอง 'มิโอะ' ซึ่งตอนนี้กำลังเหงื่อตกเล็กน้อย
พี่สาวของ 'รินอน' ซึ่งชื่อว่า 'โทอา' .. ตอนนี้กำลังเล่าเรื่องอย่างตื่นเต้นและร่าเริง ยังคงเล่าต่อไปโดยที่ผมไม่จำเป็นต้องบังคับให้เธอพูดต่อเลยด้วยซ้ำ
" หมายความว่ายังไงค่ะ ที่บอกว่าพูดเกินจริง! มันเป็นครั้งแรกของฉันเลยนะคะ ที่เห็นอะไรแบบนั้น!! แม้กระทั่งตัวอาคาร ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากวัสดุพิเศษเพื่อป้องกันการโจมตีของพวกดีม่อน ยังถูกทำลายจนไม่เหลือแม้แต่เศษ ด้วยกำปั้นของท่าน 'โทโมเอะ' และความมืดของท่าน 'มิโอะ' เลยนะคะ! " (โทอา)
'มิโอะ' แล้วก็ 'โทโมเอะ' ซึ่งกำลังนั่งขนาบข้างคุณ 'โทอา' อยู่นั้น ต่างทำเสียง
"อะแฮะๆๆ"..”
จริงๆเลยให้ตายสิ ช่างเป็นปฏิกิริยาที่เข้าใจง่ายจริงๆ
" ยิ่งไปกว่านั้น! คนที่แข็งแกร่งที่สุดในกิลด์อย่างคุณเอซ ซึ่งกำลังร่วมมือกับเหล่านักผจญภัยรับจ้างกว่า 50 คน ยังถูกทั้งสองคนเป่าจนกระเด็นอย่างง่ายดายอีกด้วยค่ะ! ".....”
อือ.. เฮ้ย?!เดี๋ยวก่อนนะ?! เกิดอะไรขึ้นนะ?! อย่าบอกนะว่าตอนที่ผมกำลังนอนหลับอยู่ ทุกๆอย่างมันก็เข้าสู่ช่วง 'ทุกๆอย่างจบลงแล้ว รอติดตามต่อตอนหน้านะคะ!' งั้นเรอะ!!!!ผมดีใจเหลือเกิน ที่ตอนนี้ผมกำลังสวมหน้ากากอยู่.. เพราะตอนนี้ใบหน้าของผม คงกำลังแสดงสีหน้าต่างๆมากมาย จนเรียกได้ว่ารวมมิตรอยู่แน่ๆ! เดี๋ยวก่อนนะ.. กระทั่งน้ำตาก็ไหลด้วยเรอะ?ผมไม่รู้เลยว่า จะพูดยังไงกับความรู้สึกในตอนนี้ดี..คำพูดล่าสุดของโทอา ได้ทิ้มแทงเข้าใส่หัวใจของผม โดยที่ผมไม่ทันได้รู้สึกตัว...
--------------------------------------
ไปก่อเรื่องอะไรกันไว้หล่ะนั้น ติดตามต่อตอนหน้าครับขอบคุณกำลังใจจากทุกๆคอมเมนท์ และจากทุกๆคนที่ติดตามครับผม ^^แล้วก็ผมอาจจะเผ่นไปไล่จับโปเกม่อนช่วงนึงนะครับ ได้ข่าวว่าไม่นานเกินรอจะเข้าสโตร์ไทยแล้ว แฮะๆ
ที่มา:https://my.dek-d.com/hitomi-yuriko/writer/viewlongc.php?id=1474392&chapter=28