ตอนที่ 24 นี่มันกล่องอัญมนีเลยไม่ใช่เหรอ
" พี่ชายยย.. ถึงแม้ว่าพี่จะเป็นท่านนายน้อยก็เถอะ แต่อย่างน้อยก็ไม่ควรที่จะขับรถม้าไม่เป็นนะ เข้าใจใช่ไหมคะ? "
[ เหมือนคนอื่นก็เรียกกันว่า ท่านนายน้อย สงสัยผมนี่แหละที่แปลกเอง ฮ่าๆ แล้วก็จริงๆต้องแปลว่ารถม้าไม่ใช่รถขนสินค้าครับ ผมไม่รู้ว่ามีม้าลากรถนี่นา นึกว่าเข็นกันมาเอง T_T ]”
ถึงแม้ว่าผมจะไม่ชินกับสภาพอากาศอันหนาวเย็นในตอนเช้าก็เถอะ แต่ตอนนี้เด็กผู้หญิงที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆผม และกำลังถือบังเหียนอยู่ กำลังทิ้มแทงผมด้วยคำพูดอันเย็นชาไม่ใช่ว่าผมขับรถม้าไม่เป็นหรอกแต่มันเป็นเพราะบทบาทแปลกๆที่มิโอะกับโทโมเอะจำลองขึ้นมา มีส่วนหนึ่งที่บอกว่า
ผมไม่สามารถขับรถม้าได้ถ้าหากผมลองดู ผมรู้สึกว่าผมสามารถบังคับมันได้ โดยไม่จำเป็นต้องจับบังเหียนเลยด้วยซ้ำเพราะว่าสิ่งที่กำลังลากรถอยู่ก็คือม้าที่ดูเหมือนจะเป็นม้าธรรมดา แต่จริงๆแล้วบริเวณส่วนหัว มีเขางอกออกมาสองอัน..
ตอนแรกผมก็ไม่มั่นใจหรอก ว่าผมจะปิดบังตัวตนของมันได้ด้วยความสามารถของผม แต่ตอนนี้ผมกลับทำสำเร็จมันคือเผ่าพันธุ์สัตว์ปีศาจเรียกว่า 'ไบคอร์น' และมันถูกใช้เป็นเขี้ยวและขาให้กับพวกออร์คและมนุษย์กิ้งก่า พูดง่ายๆก็คือ ผมสามารถพูดกับมันได้.. ผมหล่ะสงสัยจริงๆ ว่าความสามารถในการสื่อสารของผมจะไปได้ไกลถึงแค่ไหน..
ตอนนี้ถ้าหากไม่นับพวกที่ไร้รูปร่าง ฮิวแมน แล้วก็พวกพืช ผมสามารถสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆได้ทั้งหมดนั้นแหละเหตุผล ที่ผมสามารถแกล้งทำเป็นบังคับมันด้วยบังเหียน แต่จริงๆแล้วผมกำลังสั่งมันด้วยการสื่อสาร
เพื่อให้มันเคลื่อนไหวได้ตามที่ใจผมต้องการแต่ผมก็คงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เพราะความประหลาดและน่าสงสัยในตัวผม จะยิ่งเพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก..
พวกเขาจะจ้องมาที่ผมเหมือนกับว่าผมเป็นพวกวิกลจริต ที่สามารถพูดภาษาประหลาดกับม้าได้... ยังไงก็เถอะ ผมไม่อยากได้ยินคำพูดแบบนั้น จากคนที่เอาแต่ฝันถึงความเป็นซามูไรพเนจรหรอกนะผมรู้สึกว่า คนในสมัยปัจจุบันคงจะไม่ต้อนรับผมสักเท่าไหร่
" ขอโทษนะ เพราะผมแถบจะทิ้งทุกอย่างให้สองคนนั้นจัดการน่ะ " (มาโกโตะ)"
"โห~ ทั้งๆที่เป็นคนรวยและเป็นผู้สืบทอดกิจการ ปล่อยตัวตามสบายแบบนี้จะดีเหรอคะ~?"”
พูดอีกก็ถูกอีก.. ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป มันจะไม่ดีต่อตัวผมอย่างแน่นอนเลยครับสมกับเป็นบุคคลที่อาศัยอยู่กับความหิวโหยจริงๆ วุฒิภาวะของเธอสูงมากทีเดียวแม้ว่ารูปร่างภายนอกของเธอจะเทียบเท่ากับคนอายุ 10 ขวบก็เถอะ.. อายุของเธอ นำมาเทียบกับระดับความคิดของเธอไม่ได้เลยจริงๆ
" นั้นแหละเหตุผลที่ผมถูกถีบออกมาจากบ้าน มันเรียกว่าการเรียนรู้ผ่านการเดินทางน่ะ... แต่จริงๆแล้ว จะเรียกว่าผมถูกตัดออกจากกองมรดกก็ถูกเหมือนกันนะ " (มาโกโตะ)
" เอ~ เป็นอย่างนี้นี่เอง หนูเข้าใจแล้วค่ะ~ แต่ถ้าเป็นแบบนั้น.. ในเมื่อคุณ 'มิโอะ' ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย แล้วพี่ชายจะขายของพวกนี้ได้เหรอคะ? "”
เธอเข้าใจที่ผมพูดด้วยเหรอเนี่ย? แถมเธอยังมีบุคลิกที่เข้มงวดเหมือนพี่สาวของผมเลยด้วยแล้วก็ภาพวาดนั้น.. มันเหมือนกับใครบางคนในโลกใบเดิมของผมภาพวาดที่เด็กผู้หญิงคนนี้วาดเมื่อคืนนี้.. มันเหมือนกับคนที่ผมรู้จักคนหนึ่งมาก จนทำให้ผมเหมอลอยตอนที่ผมคิดได้ว่า ผมดันระบายความโกรธของผมลงไปที่ 'โทโมเอะ' และ 'มิโอะ' .. มันทำให้ผมรู้สึกผิดเล็กน้อย
" นั้นสินะ.. ถ้าดูจากสินค้าพวกนี้ ถ้าให้ผมพูดตรงๆ ไม่ว่าใครจะเป็นคนขายมัน ผลลัพธ์ที่ได้ มันก็คงจะไม่ต่างกันมากหรอก " (มาโกโตะ)”
สาวน้อยที่ตอนแรกกำลังพูดกับผมโดยที่ไม่ได้มองหน้าของผมเลย ได้หันมามองหน้าของผมด้วยสีหน้างุนงง
" เอ๋? ทำไมหล่ะคะ? "
" ของพวกนี้เป็นสิ่งที่ผมพึ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกเหมือนกัน.. ไม่ว่ามันจะขายได้เท่าไหร่ รายจ่ายจากการเดินทางของพวกเราก็คงจะทำให้พวกเราอยู่ได้อีกไม่นาน ผมเลยวางแผนจะขายมันให้หมดที่เมืองนี้.. เพราะพวกผลไม้กับพืชผัก มันก็คงจะเน่าเสียทั้งหมด ก่อนที่พวกเราจะไปถึงเมืองถัดไปอยู่ดีนั้นแหละ " (มาโกโตะ)
" เฮ้.. พวกเขาอาจจะไม่ได้บอกพี่ชายเรื่องนี้นะ แต่ว่า... "
" ฮืม? " (มาโกโตะ)”
สาวน้อยเหมือนจะอยากปิดบังสิ่งที่เธอจะพูดออกมา เธอเลยหยุดพูดไปชั่วขณะหนึ่ง.. เธอบอกผมว่า เธอต้องการที่จะตามหาพี่สาวของเธอ แต่ดูเหมือนว่านั่นจะไม่ใช่เป้าหมายเพียงอย่างเดียวของเธอสินะ
" ผลไม้พวกนี้.. มันเป็นผลไม้ที่หนูไม่เคยเห็นมาก่อนเลยค่ะ และยิ่งไปกว่านั้น พวกมันยังอร่อยอย่างน่าเหลือเชื่อมากเลยหล่ะค่ะ.. พี่ชายไปได้ผลไม้พวกนี้มาจากไหน แล้วนำมันมาขายที่นี่ได้ยังไงเหรอคะ? "”
ความประทับใจ ในตอนที่เธอได้ลองกินผลไม้พวกนั้นครั้งแรกมันเยี่ยมยอดมากจริงๆนั้นแหละ... ตอนนี้ผมรู้สึกได้ถึงดวงตาอันแหลมคมของเธอ.. เธออยากให้ผมขายข้อมูล? หรือถ้าแย่ยิ่งกว่านั้น เธออาจจะเป็นถึงหน่วยสอดแนมก็ได้สินะ?แต่ดูเหมือนว่า ส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ของพี่สาวของเธอจะเป็นเรื่องจริงนี่สิ..
ถ้าหากเป็นอย่างแรกหล่ะก็ เธอน่าจะมีจิตวิญญาณของคนเป็นผู้ประกอบการค้าอย่างแรงกล้าเลยสินะ.. แต่ถ้าเป็นอีกกรณีนึง...
"แลกกับการที่พวกเราจะปล่อยตัวพี่สาวของเธอไป จงไปสืบค้นข้อมูลมาให้พวกเราซะ"”
อะไรประมาณนั้นสินะ?แต่ไม่น่าจะใช่หรอก~ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ พวกที่ชักใยอยู่เบื้องหลังก็หมดหนทางเยียวยาแล้ว~ทำนองว่า
"พวกนายอยากจะให้เด็กอายุ 10 ขวบ ทำเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ?"”
.. เธอเทียบเท่าได้กับเด็กที่อยู่ชั้นประธมลยนะ รู้ไหม?
" หึๆ... นั้นสินะ.. ถ้าเป็นเรื่องนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับเธอเองแล้วหล่ะว่า จะเชื่อเรื่องที่ผมจะพูดรึเปล่า " (มาโกโตะ)
" เล่าเลยค่ะพี่ชาย! เล่าให้หนูฟังหน่อยน้าา? "”
เธอโคตรจะตื่นเต้นเลยแฮะ ทำตัวเปิดเผยจริงๆเลยเอาเถอะ ใครสนกันหล่ะ? ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมก็ได้ตัดสินใจไปแล้วว่าจะทำยังไงกับของพวกนี้การเผยแพร่ข้อมูลของสินค้าของผมสู่สาธารณะ มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่แล้ว.. ยิ่งถ้าผมได้ทราบถึง เจตนาที่แท้จริงของเด็กผู้หญิงคนนี้ ผมยิ่งปฏิเสธไม่ได้ไปใหญ่เลย
" ที่จริงแล้ว พวกเราไม่ได้วางแผนที่จะมายังชายแดนของโลกแบบนี้หรอก พวกเรามาที่นี่โดยบังเอิญน่ะ " (มาโกโตะ)
" อือ... "
" แล้วพวกเราก็เดินทางวนไปรอบๆพื้นที่นี้เลยหล่ะ.. แต่ว่าวันหนึ่ง พวกเราถูกห้อมล้อมไปด้วยหมอกที่หนาทึบ และในตอนที่พวกเราเดินเข้าไปในหมอกเรื่อยๆนั้น พวกเราตกใจมาก เพราะด้านหลังของหมอกแห่งนั้นมีเมืองตั้งอยู่ " (มาโกโตะ)
" เมือง? ใกล้ๆที่นี่เหรอค่ะ? "
" จากที่นี่น่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 3 หล่ะมั้ง? เมืองแห่งนั้น.. ผมตกใจมากเลย แต่มันเป็นเมืองของเหล่า 'มาโมโนะ' " (มาโกโตะ)
" มา... มาโมโนะ?! "
" ใช่แล้ว.. ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาเป็นมิตรกับพวกเราอย่างมาก แถมยังพูดภาษากลางได้อีกด้วย.. ผมเลยใช้เวลาอยู่ที่นั้นตั้งหลายวัน สุดท้ายแล้วพวกเราก็เลยได้ของพวกนี้เป็นของฝากกลับมา " (มาโกโตะ)
" ... "”
โอ้~ ดวงตาแบบนั้น กำลังคิดว่าผมโกหกสินะ~ ก็ไม่แปลกใจหรอก เพราะผมแต่งมันขึ้นมาทั้งหมดเลยนี่นา ดังนั้นจะคิดว่าผมโกหกก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแต่อีกไม่นานมันก็จะกลายเป็นความจริงแล้วหล่ะนะ
" เห็นไหมหล่ะ? ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหม? " (มาโกโตะ)
" คะ-ค่ะ.. ตอนที่พี่ชายพูดถึง 'มาโมโนะ' พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ไหนกันเหรอคะ? "
[ ออร์ค.. มนุษย์กิ้งก่า.. ดวอร์ฟ และที่น่าตกใจที่สุดก็คือ เผ่าอาร์เกะ.. มันเป็นสถานที่ที่ลึกลับมากเลยหล่ะ.. ตอนแรกผมคิดว่าผมฝันไปด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ผมก็ยังคงมีของพวกนี้ติดตัวอยู่ ]”
ผมพูดแบบนั้น เสร็จแล้วก็มองไปที่รถขนสินค้าการที่ผมมีผลไม้พวกนี้ติดตัวมาด้วย มันใช้โน้มน้าวให้อีกฝ่ายเชื่อเรื่องที่ผมเล่าได้ง่ายขึ้นมากเลยทีเดียว.. ยังไงก็ตาม ผมไม่ได้มีเจตนาจะเล่าเรื่องพวกนี้ที่เขตพื้นที่การค้าหรอกนะ ผมก็แค่จะบอกคนที่เข้ามาถามไปว่า พวกมันเป็นของแปลกที่หายาก เสร็จแล้วก็ขายพวกมันซะ
" มีอยู่หลายเผ่าขนาดนั้นเลยเหรอคะ?! ไม่อยากจะเชื่อเลย~ "
" ใช่แล้ว.. ตอนนี้ผมยังอดคิดไม่ได้ว่า มันเป็นเพียงแค่ความฝันในสายหมอกอยู่เลยด้วยซ้ำ " (มาโกโตะ)
" หมอกที่อยู่ไกลออกไป 2 ถึง 3 วันงั้นเหรอ? "”
เธอพึมพำไปมา.. เด็กของโลกนี้ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ร่าเริงหรอก แต่ตอนที่ผมเปรียบเทียบท่าทีของเธอเมื่อคืน กับเธอในตอนนี้.. เธอดูน่าสงสัยมากจริงๆนั้นแหละ
" อืม..'รินอน' ที่นี่คือเขตการค้าใช่ไหม? " (มาโกโตะ)”
ผมเรียกสาวน้อยคนนี้ด้วยชื่อของเธอ ซึ่งฟังดูไม่เหมาะกับอายุของเธอเลยสักนิด.. เด็กผู้หญิงคนนี้ชื่อว่า 'รินอน' และเธอบอกว่าพี่สาวของเธอชื่อว่า คุณ'โทอา'.. คุณ'โทอา' เป็นผู้หญิงที่เด็กกว่าผมหนึ่งปี ถึงแม้ว่าการหาที่อยู่อาศัยจะเป็นปัญหาใหญ่ก็เถอะ แต่ดูเหมือนว่าพี่สาวของเธอจะยืนขึ้นสู้ และสามารถหาที่พักพิงให้กับน้องสาวของเธอได้.. ผมนับถือเธอในส่วนนั้นจริงๆ
[*อ่านถูกรึเปล่าไม่รู้นะครับ ผมให้ google ช่วยอ่านให้ ฮ่าๆ / Rinon = รินอน , Toa = โทอา ]”
ในโลกเดิมของผม คนที่อายุ 16 ปีนั้น ยังเป็นเด็กมัธยมที่ถูกพันธะด้วยการเรียนอยู่เลย
" แต่พวกเราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเมืองอะไรก็ตามที่อยู่ในเขตนี้เลยนะคะ? " (รินอน)”
การสื่อสารด้วยการเขียน มันค่อนข้างลำบากในเวลาแบบนี้จริงๆด้วยถ้าหากเธอไม่ได้มองที่ผมเขียนอยู่หล่ะก็ เธอก็คงตอบคำถามของผมไม่ได้หรอกผมไม่มีทางเลือก.. ผมแตะไปที่ไหล่ของเธอหลายครั้ง เพื่อให้เธอหันกลับมามองข้อความ
" วะ-ว๊าย! โธ่~ นั่นมันการลวนลามทางเพศนะคะพี่ชาย! อือ.. อะ เอ๋? " (รินอน)”
มีการละ-ลวนลามทางเพศด้วยเรอะ?! ผมจะดูถูกโลกแห่งนี้ไม่ได้จริงๆ! ในโลกที่ไม่มีแม้แต่กฎหมายที่เป็นรูปธรรม แต่ดันมีคำศัพท์ชั้นสูงอย่างการลวนลามทางเพศเนี่ยนะ!
" ผมถามว่า.. อาคารตรงนั้น คือเขตการค้าใช่ไหม? " (มาโกโตะ)
" อ่า! พวกเราเลยมาแล้ว! หนูต้องขอโทษด้วยค่ะ! " (รินอน)”
ผมเกาไปข้างใต้หน้ากาก.. โลกแห่งนี้มีการลวนลามทางเพศด้วยรึ? ผมยังตกใจอยู่เลยนะเนี่ยพวกเราเคลื่อนไปข้างหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นก็หมุนรถม้ากลับ และเตรียมตัวลงจากรถม้าที่นี่คือ.. เขตการค้าสินะอย่างที่คิดเลย..
การเป็นหน้าใหม่นี่ดึงดูดสายตาของคนอื่นจริงๆ แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะหน้ากากที่ผมใส่นั้นแหละด้วยเหตุผลบางอย่าง
'รินอน' บอกว่าเธอจะขอรออยู่ในรถขนสินค้า และปฏิเสธที่จะเข้ามายังเขตการค้าแห่งนี้หรือเป็นเพราะ? เสื้อผ้าของเธอดูโทรมเกินไป เธอก็เลยไม่ยอมเข้ามา?ถึงแม้ว่าผมจะอยากไปที่ร้านขายเสื้อผ้าก็เถอะ แต่ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่า แถวนี้จะมีอยู่สักร้านรึเปล่า.. ถึงจะมีก็เถอะ มันก็คงจะไม่เปิดตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้หรอก
แล้วอีกอย่าง.. สำหรับเด็กผู้หญิงที่ผมเพิ่งจะเจอไม่นาน แถมยังซื้อเสื้อผ้าให้เธออีกด้วย.. มันจะทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับเป็นเสี่ยคนนึง ซึ่งผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่.. ผมอยากจะทำตัวให้ธรรมดาๆมากกว่า
" อรุณสวัสดิ์ครับ ผมคิดว่านี่คงจะเป็นครั้งแรกที่พวกเราเจอกันสินะครับ.. มีธุระอะไรเหรอครับ? "
" อรุณสวัสดิ์ครับ.. เมื่อวานผมได้ยินเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้มาจากผู้ช่วยของผม ผู้หญิงผมดำที่ใส่ชุดที่ดูเป็นเอกลักษณ์ " (มาโกโตะ)
" ! อืม.. นี่อาจจะเป็นการเสียมารยาท แต่ว่า... "
" ต้องขอโทษด้วยครับ มีบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวผม ทำให้ผมไม่สามารถพูดได้.. ยกโทษให้ผมด้วย ที่ใช้การเขียนในสื่อสารนะครับ " (มาโกโตะ)”
ผมอธิบายสั้นๆ ต่อรูปลักษณ์ของ 'มิโอะ' ที่มาที่นี่เมื่อวานนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไปทำอะไรสักอย่างไว้ จนผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าผม มีความทรงจำบางอย่างเกี่ยวกับเธอแล้วก็ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยอมรับการสื่อสารด้วยการเขียนของผมได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรเลย.. ผมรู้สึกปลื้มมากจริง
" อ่า..อืม.. ถ้าเป็นแบบนั้น หมายความว่าคุณคือ คนที่ทำหลักฐานจากกิลด์ผู้ประกอบการหายสินะครับ? "
" ใช่ครับ ผมรู้สึกละอายใจมากเลยจริงๆ.. ผมพึ่งจะเข้ามาทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าเมื่อไม่นานมานี่เอง ตอนที่ผมทำมันหาย ผมรู้สึกเครียดมากๆ " (มาโกโตะ)
" ไม่แปลกหรอกครับ.. แถมการที่คุณมาถึงที่นี้ได้ ก็แถบจะเรียกได้ว่าปฏิหาริย์เลยทีเดียว.. สงสัยว่าคุณคงจะเป็นคนที่โชคดีมากๆเลยครับ มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าอิจฉาทีเดียว "”
ผมฟังมันได้เป็นแค่คำประชดเท่านั้นแหละ เพราะผมน่ะมันไม่มีโชคหรอก! ใช่! ไม่มีเลยยยยยย!
" ผมผ่านประสบการณ์ลึกลับมามากมาย ก่อนที่จะมาถึงที่นี่ครับ.. แล้วก็ ผมมาที่นี่ก็เพื่อขายของต่างๆ ที่ผมได้รับมาจากประสบกาณณ์ลึกลับพวกนั้นแหละครับ " (มาโกโตะ)
" อืม.. ก็จริงนั้นแหละ ที่คุณไม่สามารถขายของอย่างอิสระได้ หากไม่มีหลักฐานจากทางกิลด์.. แต่ถึงอย่างนั้น คุณก็ยังยอมมาขายสินค้ายังสถานที่ใต้ดินอย่างเขตการค้าแห่งนี้.. ในฐานะที่ผมเองก็เป็นพ่อค้า ผมรู้สึกดีใจมากเลยจริงๆครับ "”
เขาส่งเสียงหัวเราะอย่างร่าเริง เสร็จแล้วก็บอกให้ผมพาเขาไปดูสินค้าของผม.. นี่มันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกโจรเมื่อคืนเลยเหรอ? พวกเขาไม่ได้ทำข้อตกลงอะไรกันไว้เลยจริงๆเหรอ?แต่ดูเหมือนว่าผมจะสื่อสารกับเขาได้สินะ ดังนั้นผมจะถามข้อมูลกับเขาแบบอ้อมๆแทนละกัน
" มันอยู่ในรถขนสินค้า ของรถม้าคันนี้แหละครับ " (มาโกโตะ)”
'รินอน' ยังคงนั่งอยู่ในรถสินค้า ดูเหมือนว่าเธอไม่มีเจตนาจะหนีสินะ
" หึๆ เด็กคนนี้เป็นทาสของคุณสินะครับ? เฮ้ นำสินค้ามาให้ดูหน่อย "”
หา? ทาส?... เข้าใจหล่ะ.. ก็ไม่แปลกหรอก สวมเสื้อผมโทรมขนาดนั้น แถมยังนั่งอยู่ข้างในรถขนสินค้าแบบนี้ จะเข้าใจผิดมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสินะ
ฮืม~ ดูเหมือนจะมีแต่คำที่ผมไม่ได้ยินอยู่บ่อยๆทั้งนั้นเลย จริงๆผมก็ไม่ค่อยใส่ใจมันนะ แต่ว่า...นี่เป็นโลก ที่การมีทาสเป็นเรื่องปกติงั้นเหรอ?เพราะว่าพ่อค้าชราคนนี้ พูดเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องปกติอย่างงั้นแหละ
ถ้าอย่างนั้น ทำไมถึงมีคำว่าการลวนลามทางเพศอยู่อีกหล่ะ? ผมรู้สึกได้ว่าคำๆนี้ จะเป็นคำที่ทำให้ผมต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องต่างๆในอนาคตอีกเยอะเลย.. สำหรับผม ที่มีรูปร่างหน้าตาขี้เหร่กว่าชาวบ้าน..
ไม่เอาน้าาาา ผมไม่ต้องการแบบนั้นนนน... ถูกส่งมาต่างโลก โดนกล่าวหาว่าลวนลามทางเพศ แล้วก็ถูกจองจำ.. อย่าให้ชีวิตของผมต้องลงเอยแบบนั้นเลยยยยแต่ว่า ผมต้องแก้ไขเรื่องเข้าใจผิดก่อน.. ถึงแม้ว่ารินอนจะไม่คัดค้านสักคำ แถมยังนำสินค้าออกมาให้เขาดูก็เถอะ ดูเหมือนว่าเธอจะเคยชินกับเรื่องแบบนี้แล้วสินะ
" ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิดนะครับ.. เธอเป็นคนรู้จักของผม ที่พึ่งจะนำทางผมมาที่นี่.. เธอไม่ใช่ทาสครับ " (มาโกโตะ)
" โอ้ เป็นแบบนั้นหรอกเหรอครับ? "”
เขามองไปที่รินอนอย่างเงียบๆ
"ขอโทษที่ผมทำตัวหยาบคายนะครับ "”
บางทีเขาอาจจะคิดว่า มันอาจทำให้เกิดความบาดหมาดต่อกันได้ เขาก็เลยขอโทษรินอน.. ดูเหมือนรินอนจะดูตกใจเล็กน้อยต่อสถานการณ์ ด้วยดวงตาที่ยังกลมโตด้วยความตกใจ เธอน้อมคำนับ แล้วก็เข้าไปเอาชุดที่ถูกซ่อนไว้อยู่ส่วนในด้านข้างของรถขนสินค้า
[*ไหนบอกไม่มีชุด ]
" นะ-นี่คือ?! "
" เป็นยังไงบ้างครับ? พวกมันเป็นผลไม้ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนเลยใช่ไหมหล่ะ? พวกมันทุกผล อร่อยมากเลยนะ ลองชิมมันได้เต็มที่เลยครับ " (มาโกโตะ)”
ผมหยิบแอปเปิ้ลขึ้นมาสองผล ผมส่งผลนึงให้แก่เขา ส่วนอีกผลนึงผมหยิบขึ้นมากินให้เขาดู เพื่อให้เขาเห็นว่ามันปลอดภัย
" ถ้าอย่างนั้น ไม่เกรงใจละนะครับ "”
หลังจากที่เห็นผมกินมันได้อย่างปกติ ดูเหมือนเขาจะรู้สึกโล่งใจขึ้น จึงกัดเข้าไปหนึ่งคำในตอนนั้นเอง.. ดวงตาของเขาได้เบิกกว้างขึ้น และจ้องไปที่ลูกแอปเปิ้ล เสร็จแล้วก็กัดไปอีกคำหนึ่งเขากินมันทั้งผลอย่างรวดเร็ว โดยไม่ปล่อยให้น้ำแอปเปิ้ลไหลออกมาเลยสักหยด..
นี่มันเหลือเชื่อมาก... เขาคงจะชอบมันมากเลยสินะถ้าเป็นแบบนี้ เรื่องการนำไปขายก็คงไม่ต้องห่วงอะไรแล้วถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากจะหาเงินมาทดแทนค่าเช่าห้องที่โรงแรมนั่นสักหน่อย.. แต่ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
" ดูเหมือนว่ามันจะถูกปากคุณสินะครับ " (มาโกโตะ)
" นี่มัน ผมไม่เคยกินผลไม้ที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย! คุณไปได้มันมาจากไหนกัน?! "
" มันเป็นความลับทางธุรกิจน่ะครับ.. ผมอยากจะขายสินค้าทุกอย่างที่ผมมีที่นี่ แต่คุณอนุญาตให้ผมขายไหมหล่ะครับ? " (มาโกโตะ)
" ความลับทางธุรกิจ?! บ้าน่า... คุณตั้งใจจะผูกขาดผลไม้พวกนี้ไว้คนเดียวเหรอ?! "
" ถึงคุณจะพูดว่าผูกขาดก็เถอะ.. สินค้าพวกนี้ กว่าผมจะได้มันมา ต้องผ่านเรื่องราวมามากมายเลยหล่ะ.. ผมยังไม่รู้เลยว่า ผมจะหามันมาได้อีกเป็นครั้งที่สองรึเปล่าด้วยซ้ำ" (มาโกโตะ)
" เอ๋?! คุณกำลังจะบอกว่า นี่เป็นของประเภทโอกาสเดียวงั้นเหรอ? "
" ใช่แล้วครับ.. ผมวางแผนจะเดินทางต่อในอีกไม่กี่วันนี้ ผมเลยอยากจะขายทุกอย่างที่นี่ " (มาโกโตะ)
" อือ.. อย่างงั้นเองสินะ.. โอกาสเดียวจริงๆด้วย "
" แล้วคุณจะให้ราคามันเท่าไหร่เหรอครับ? " (มาโกโตะ)
" ขอผมลองชิมผลไม้ชนิดอื่นด้วยได้ไหมครับ? "
" ได้ครับ แต่ผมมีเหลือไม่มากนะ ดังนั้นช่วยห้ามใจตัวเอง แล้วกินชนิดละผลด้วยครับ " (มาโกโตะ)
" เข้าใจแล้วครับ... จำนวนทั้งหมดมีเท่าไหร่ครับ? "
" ทั้งหมดก็อยู่ในรถเนี่ยแหละครับ... จะมีอยู่ทั้งหมด 4 ชนิด ชนิดละ 4 กล่อง ทั้งหมดรวมเป็น 16 กล่องครับ " (มาโกโตะ)”
เขาเรียกเพื่อนร่วมงานของเขามา และส่งแอปเปิ้ล (ลูกที่ผมถืออยู่ ผมกัดมันไปแล้ว ผมเลยส่งลูกใหม่ให้พวกเขาเป็นกรณีพิเศษ),พีช ,แพร แล้วก็ ทับทิม ให้พวกเขาลองชิม...
พวกมันเป็นผลไม้ 4 ชนิด ที่ผมเลือกมาแบบครึ่งจิตครึ่งใจ แต่พวกมันทั้งหมดก็ล้วนแต่เป็นผลไม้ที่กินแบบดิบๆได้ไม่ใช่แค่นั้น ตอนที่ผมมองพวกมันแบบนี้ ผมก็อดช็อคไม่ได้ว่า มันเป็นผลไม้ที่โตขึ้นแบบส่งเดชน์ใน อะโซระ...
ดังนั้น พวกผลไม้พืชผักที่โตตามฤดูกาลน่ะ ไสหัวไปได้เลย!หรือบางที มันอาจจะโตจากพื้นที่ๆจำกัดมากๆ และภูมิอากาศก็ทำงานต่างออกไปจากปกติ คล้ายๆกับที่ไหนสักแห่ง ซึ่งถูกเรียกว่าแกรนไลน์*เลย
[*อิงถึงวันพีชครับ ตะหงิดใจตั้งแต่คำว่า Logia ตอนไหนจำไม่ได้แล้วครับ ฮ่าๆ ]”
เอาเถอะ ขนาดรสชาติเองก็ยังเหมือนกันเลย.. พวกมันยังได้ชื่อว่า เป็นผลไม้ที่อร่อยมากในโลกเดิมของผมเช่นกัน ผมเคยคิดเกี่ยวกับการเพิ่มคุณภาพของสินค้า แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนั้นจะไม่เป็นปัญหามากสินะเรื่องนี้อาจจะต้องไปขอบคุณพวกออร์ค ในความสามารถด้านการเกษตรสินะ
" พวกมันทั้งหมด อร่อยมากเลยครับ "
" ขอบคุณมากครับ " (มาโกโตะ)
" แล้วก็.. เรื่องของราคา "
" ครับ " (มาโกโตะ)
" เรื่องของคุณภาพนั้น เป็นเอกฉันท์ว่าไร้ข้อโต้แย้ง แต่ของพวกนี้ยังคงเป็นผลผลิตที่มาถึงเมืองนี้เป็นครั้งแรก ผมอยากให้คุณเข้าใจถึงความขี้ขลาดของพวกเราด้วยครับ "”
เขากำลังบอกกับผมว่า 'มันอร่อยก็จริง แต่มันเป็นผลผลิตปริศนา พวกเราเลยจำเป็นต้องซื้อมันในราคาที่ต่ำ ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ' สินะ
" ... "
" หนึ่งกล่องพวกเราจะให้ราคา 30 เหรียญทอง.. ทั้งหมด 16 กล่อง จะเป็น 480 เหรียญทอง... นี่เป็นราคาที่ผมต้องการจะซื้อครับ " ”
โคตรแพงงงงง?!พวกเขาอาจจะกดราคาลงมานิดหน่อยก็จริง แต่นั้นก็ยังแพงมากๆอยู่ดี.. ราคานี่มันโลหะล้ำค่าชัดๆ! ไม่สิ.. กล่องอัญมนีเลยต่างหาก!ผมไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า แต่ผมกำลังคิดในใจอย่างจริงจัง.. ว่าคนพวกนี้โง่มากลืมเรื่องทดแทนค่าเช่าห้องส่วนหนึ่งไปได้เลย
ตอนนี้ผมจ่ายทั้งหมดได้เลยด้วยซ้ำเอาหล่ะ ผมจะพยายามต่อรองราคา.. ถ้าหากผมตอบตกลงเร็วเกินไป คุณค่าของสินค้าอาจจะต่ำลง..
ตอนแรกผมวางแผนจะเพิ่มราคาของมันทั้งหมด อย่างน้อย 100 เหรียญทองนี่นา.. ผมแผ่รังสีร้าย ออกมาจากตัวด้วยซ้ำ ตอนที่คิดแบบนี้ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พวกเขากำลังจ้องมาที่หน้าของผม เพื่อรอคำตอบจากผมอยู่ ช่างเข้าใจง่ายสะเหลือเกินนะ.. สำหรับพวกเขา นี่น่าจะเป็นตัวเปิดชนวนการต่อรองจากราคาที่ต่ำที่สุดสินะ
" เอาใจใส่ผมจริงๆเลยนะครับ แต่โปรดจำด้วยว่า ผมเป็นคนที่พวกคุณจะซื้อของพวกนี้ไปนะครับ... ราคานั่นจะไม่ต่ำเกินไปหน่อย? "
" ถะ-ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็จะไม่ซื้อนะครับ?! "”
พวกคุณนี่ไม่เนียนกันเลยนะครับ!
" ไม่ๆ.. ถ้าไม่ซื้อก็แย่สิ.. ผมขอเพิ่มราคาทั้งหมดเป็น 500 เหรียญทองละกัน คิดว่าไงครับ? ถ้ายินยอมราคานั้น ผมจะไม่คัดค้านอะไรอีกแล้ว " (มาโกโตะ)”
ราคาเพิ่มเติมที่เรียกได้ว่าค่อนข้างน้อย... 20,000,000 เนี่ยนะน้อย? ผมพูดอะไรออกมาเนี่ย?
" 500? ตกลงครับ! เอาตามนี้เลยนะครับ! เฮ้! "”
คุณพ่อค้าตะโกนเรียกให้คนนำกระเป๋าใส่เงินมา และเรียกอีกคนให้ไปนำเงินมาพวกเขาทุกคนมีใบหน้าที่แสดงออกถึงความปิติยินดีต่อการต่อรอง
[*โดนเล่นแล้ว 'มาโกโตะ' เอ๋ย ]”
พวกมันน่าจะถูกส่งไปยัง พวกคุณชนชั้นสูง หรือไม่ก็พวกพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่สินะ...ถ้าหากผมขอความช่วยเหลืออย่างไม่ระมัดระวัง เพื่อที่จะขายผลไม้พวกนี้ในเมืองนี้.. ผมมีความรู้สึกว่า พวกเขาจะโก่งราคาผม จนสูงเกินกว่าขีดจำกัดของของราคาแพง*
[*เศรษฐศาสตร์มาเพียบ ผมไม่รู้ว่า high priced bar คืออะไรนะครับ T_T I feel like they will overcharge me more than a high priced bar ]”
คนพวกนี้ที่ผมขายผลไม้ให้ พวกเขาจะเอาไปขายต่อชนิดละกี่เท่ากันน้า~? 2 เท่า 3 เท่า อาจจะยังเป็นตัวเลขที่ต่ำอยู่ก็ได้ถ้าหากมันกลายเป็น 10 เท่าขึ้นมา มันคงจะขำน่าดู ผมจะขำน้ำตาเล็ดเลยหล่ะ.. แค่นี้ก็ราคาเกินร้อยล้านแล้วนะ รู้ไหม?
ผมเป็นมือสมัครเล่นที่ยิ่งใหญ่แค่ไหนกัน?ส่วน 'รินอน' ตอนนี้ อยู่ในสภาพที่เหมอลอยไปไกล หลังจากได้ยินราคาของผลไม้พวกนี้ถ้านับเป็นกรณีของเด็กผู้หญิงคนนี้ มันอาจจะนับเป็นรายได้ต่อปีเลยก็ได้ ดีไม่ดีอาจจะเป็นรายได้ต่อปีของพี่สาวของเธอเลยด้วยซ้ำ.. นี่แหละคือความแพงของผลไม้ที่เธอพึ่งจะกินเข้าไป
" โอเคครับ ผมได้รับเงิน 500 เหรียญทองมาครบถ้วนแล้ว.. ต้องขอบคุณมากเลยครับ " (มาโกโตะ)
" พวกเราก็เช่นกันครับ! ถ้าหากคุณได้รับของแปลกๆอะไรมาอีกหล่ะก็ แวะมาเยี่ยมพวกเราได้เสมอเลยนะครับ! "
" โอเคครับ ถ้าอย่างนั้นขอตัวนะครับ " (มาโกโตะ)”
'รินอน' ถูกปลุกให้ฟื้นคืนชีพจากศูนย์อีกครั้ง และกลับมานั่งถือบังเหียนเหมือนเดิมเธอน่าจะยังหลงเหลืออาการช็อคอยู่ แต่ว่า 'รินอน' ก็สามารถบังคับรถม้า ซึ่งมีเงิน 500 เหรียญทองอยู่เต็มรถ กลับไปที่โรงแรมได้ผลไม้ที่ผมหยิบติดมือมามั่วๆ ถูกเปลี่ยนให้เป็นเงิน 500,000,000 เยน....
---------------------------------------------
ช่วงนี้อาจไม่ได้ว่างแปลแล้วนะครับ ต้องเตรียมตัวสอบละแต่ก็จะยังพยายามค่อยๆแปลทีละนิดครับ ถ้าตอนต่อไปสั้น อาจจะแปลเสร็จเร็วหน่อยถ้าแปลผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยนะครับขอบคุณกำลังใจจากทุกๆคอมเมนท์ และจากทุกๆคนที่ติดตามครับผม ^^
ที่มา:https://my.dek-d.com/hitomi-yuriko/writer/viewlongc.php?id=1474392&chapter=27