ตอนที่แล้วตอนที่ 18 สมัครเป็นนักผจญภัย ในเมือง 'สุดท้าย'
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 อ่า~ นี่มันร้านอาหารที่อยู่ริมแม่น้ำสินะ ใช่ที่ไหนหล่ะ

ตอนที่ 19 แก้แค้นคุณคาคุ


" ท่านมาจากบริษัท คุซึโนฮะ  ใช่ไหมครับ? มีบัตรสมาชิกของกิลด์ผู้ประกอบการค้าไหมครับ? "

" ไม่มีครับ ผมทำมันหายไประหว่างทางมาที่นี่.. ผมจะได้อันใหม่ตอนไปถึงเมืองต่อไป ดังนั้นดูแลพวกเราในฐานะลูกค้าทั่วไปด้วยครับ.. ไม่สิ.. ให้ที่พักกับพวกเราในฐานะนักผจญภัยละกันครับ " (มาโกโตะ)”

ขณะที่เขียนข้อความนั้น ผมหยิบบัตรของนักผจญภัยเลเวล 1 มาให้กับพนักงานต้อนรับในโรงแรมดูผมตัดสินใจแล้วว่า ถ้ามีคนถามผมเกี่ยวกับสถานะทางสังคม ผมจะแนะนำตัวในชื่อของบริษัท คุซึโนฮะ ซึ่งผมพึ่งคิดเมื่อกี้นี้เอง

เสร็จแล้วแสดงบัตรส่วนตัว ให้พวกเขาดู.. เพราะผมคิดว่า ถ้าหากนำบัตรของ 'โทโมเอะ' หรือ 'มิโอะ' มาแสดงตัวให้พวกเขาดู ก็รังแต่จะเกิดปัญหาขึ้นซะเปล่าๆ..

อ่าฮ้า~ แต่มันไม่เลวเลยใช่ไหมหล่ะ? ผมคือคุณ 'ไรโด'  ทายาทของบริษัทคุซึโนฮะครับผม!

(ตอนที่แล้วเหมือนผมอ่านผิดด้วย ไม่ใช่ไรโดะ แต่เป็นไรโดครับ ฮ่าฮ่า หรือไรโดะถูกอยู่แล้ว? การอ่านชื่อมันยากเหลือกัน T_T )”

หรือว่านี้จะเป็นการเปิดตัวที่ผมรอมาแสนนาน? ผมจะได้กลายเป็นซัมมอนเนอร์*แล้วสินะ! ถึงจะเป็นในรูปแบบที่ผมไม่ต้องการก็เถอะ...

(ผู้ที่สามารถเสกสัตว์หรือมอนสเตอร์รูปแบบต่างๆออกมาได้ )”

ผมมองไม่เห็นพ่อบ้านเลยสักคน แถมยังไม่มีหลอดทดลองอีกด้วย เพราะผมเอามาแต่ชื่อนี่นา

(ผมไม่เคยเล่นครับ Devil Summoner ฉะนั้นผมไม่รู้ว่ามาโกโตะพูดถึงอะไรบ้าง แปลจนงงเลยทีเดียว = =" )”

ถึงแม้ว่าผมต้องการมันมานาน แต่ผมก็จะไม่หวังมันหรอก! ฮ่าฮ่าฮ่า! มันฟังเหมือนปัญหาเชาเลยนะเนี่ยแต่ผู้ติดตามของผมทั้งสองคนต่างก็เป็นมอนสเตอร์ ฉะนั้นผมจะเรียกตัวเองว่าซัมมอนเนอร์มันก็ไม่แปลกหรอก! ถ้าพูดถึงเผ่าพันธุ์ พวกเขาก็น่าจะเป็น ราชามังกร กับ ปีศาจ หล่ะมั้ง?

" ทำหายเหรอครับ? โชคร้ายจริงๆเลย.. เพราะที่แห่งนี้มีแค่สำนักงานย่อยของกิลด์ผู้ประกอบการค้าเท่านั้นเอง.. คงจะลำบากน่าดูเลยสินะครับ "

"ผมเดินทางผ่านสถานที่อันตรายมามาก ดังนั้นแค่ทำหายก็ถือว่าโชคดีมากแค่ไหนแล้วครับ.. เพราะจริงๆแล้ว ผมไม่ได้วางแผนว่าจะมายังเขตชายแดนตั้งแต่แรกหรอกครับ " (มาโกโตะ)”

พูดให้ถูกกว่านี้ก็คือ.. ผมไม่มีแผนจะมาที่โลกแห่งนี้ด้วยซ้ำ..

" ดีแล้วหล่ะครับที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาเลย.. สำหรับคุณที่มาถึงที่นี่ได้นั้น ก็เทียบเท่ากับปาฏิหาริย์แล้วครับ ท่านลูกค้าผู้มีเกียรติ.. "

" นั้นก็เพราะว่า เพื่อนของผมค่อนข้างมีฝีมือครับ.. ผมอยากจะได้ห้องสัก 2 ห้อง ยังมีห้องว่างอยู่ไหมครับ? " (มาโกโตะ)

" แน่นอนครับ.. แต่ว่าตอนนี้ ทางเราเหลือแค่ห้องที่มีราคาแพงที่สุดเท่านั้น ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ? "”

ชิ.. กลายมาเป็นแบบนี้จนได้สิ.. แต่โรงแรมอื่นๆก็ไม่มีที่ไหนที่มองเห็นวิวจากที่สูงได้แบบนี้อีกแล้ว เป็นเพราะช่วงฤดูนั้นแหละ.. เลยไม่เหลือห้องที่เหมาะสมเลยสักห้องผมเกลียดที่จะพูดแบบนี้..

แต่ดูเหมือนว่านักผจญภัยกับลูกค้าทั่วไป จะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกัน.. ผมเลยอยากจะได้ความแตกต่างในราคาของห้องพวกนั้นไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนมาจองห้องพักกันเยอะขนาดนี้เฮ้อ.. ผมคิดว่าผมจะจองห้องได้ง่ายๆด้วยการพูดว่า 'ต้องจ่ายเงินเท่าไหร่สำหรับลูกค้าผู้มีเกียรติหนึ่งคน?' ซะอีก..

" เท่าไหร่ครับ? " (มาโกโตะ)

" อืม... มันเป็นการจองที่พักสำหรับนักผจญภัย ฉะนั้นการดูแลม้าและรถขนสินค้าจะแพงกว่าปกติครับ "”

อึก~ การมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับกิลด์ผู้ประกอบการ หมายความว่ารถขนสินค้าจะต้องนับรวมไปกับราคาด้วยสินะ

" ส่วนห้องพักนั้นจะถูกนับเป็นการจองแบบนักผจญภัยครับ ดังนั้นราคาของห้องจะถูกกว่าแบบผู้ประกอบการเล็กน้อย.. แล้วก็... "”

ดูเหมือนว่าเขาจะลังเลที่จะพูดอะไรบางอย่าง.. คุณพนักงานต้อนรับครับ คุณเป็นตัวละครรองจากเกมส์จีบสาวเกมส์ไหนกัน?รูปร่างของเขาก็เหมาะกับภาพลักษณ์ที่ดูงุ่มง่ามเช่นกัน

"ครับ? "

" มันเกี่ยวกับรถขนสินค้าของท่าน แต่ว่า... "”

ผมพยักหน้าเพื่อให้เขาพูดต่อไป

" สำหรับลูกค้าที่เป็นนักผจญภัย พวกเราจะดูแลรถขนสินค้าของท่านให้.. แต่ว่าพวกเราจะไม่รับประกันความปลอดภัยของรถขนสินค้าของท่าน.. ผมต้องขอโทษด้วยครับ แต่ว่าถ้าหากเกิดเหตุการณ์อย่างเช่นการปล้นเกิดขึ้น พวกเราจะขอไม่รับผิดชอบใดๆครับ... "”

มันก็เป็นเรื่องที่ควรลังเลที่จะพูดจริงๆนั้นแหละ..ช่วยไม่ได้สินะ.. เพราะปกติแล้ว นักผจญภัยคงจะไม่ทิ้งสัมภาระไว้ในรถขนสินค้าแล้วให้ทางโรงแรมดูแลให้หรอกการดูแลและรักษาความปลอดภัยให้กับพลเมืองของที่นี่ คงจะไม่ดีเท่าไหร่สินะ?

แต่จริงๆแล้วผมก็ไม่เคยได้ยินว่า ค่ายผู้ลี้ภัยจะมีการรักษาความปลอดภัยด้วยซ้ำ

" ไม่เป็นไรครับ.. เกี่ยวกับรถขนสินค้าของผม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็จะไม่เรียกร้องค่าเสียหายครับ " (มาโกโตะ)

" ถ้าอย่างนั้น.. 3 คน.. ดูแลรถขนสินค้า.. รวมเป็น 6 เหรียญทองต่อ 1 คืนครับ "”

โคตรแพงงงงง!!!! โอ้?!หรือความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ที่ผมเรียนมาจากพวกดวอร์ฟจะกลายเป็นเรื่องในอดีต    ไปแล้ว?ผมคิดว่าราคาสำหรับการจองที่พัก อย่างมากก็แค่หลายเหรียญเงินซะอีกในโลกนี้ พวกเงินตราจะแบ่งออกเป็นสีเงินกับสีทอง แล้วก็ยังมีเหรียญที่เรียกว่าโมเรียสีเงิน

ซึ่งสร้างมาจากเหล็กและมีร่องรอยของพลังเวทย์อยู่นิดหน่อย ถ้าหากเพิ่มมาอีกนิดก็จะเป็นเหรียญเงินปีศาจ.. แล้วเหรียญปีศาจ 5 เหรียญก็จะเท่ากับเหรียญทองเหลืองหนึ่งเหรียญ

( ตรงนี้แปลงงมากเลยครับ = = )”

ตอนแรกผมคิดว่าเหรียญโมเรียเงิน ก็คือนามแฝงของมิธริลซะอีก.. แต่ดูเหมือนในโลกแห่งนี้ มันจะเป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย เพราะถ้าหากมันเป็นชนิดเดียวกัน พวกเขาก็น่าจะสามารถสร้างบัตรของนักผจญภัยจากเหรียญปีศาจได้ยังไงก็ตาม..

มันเอามาคำนวณได้ง่ายๆเลย ถ้าหากเอามาคิดเป็นสกุลเงินของญี่ปุ่นเหรียญทองแดง = 10 เยน.. ก็น้อยสมชื่อเหรียญดองแทงหล่ะนะเหรียญเงิน = 1,000 เยนเหรียญทอง = 10,000 เยนประมาณนี้แหละ.. ส่วนเหรียญปีศาจก็จะเป็น 1,000,000 เยน.. แล้วก็เหรียญทองเหลืองจะค่อนข้างเป็นเหรียญที่มีระดับมากเลยหล่ะ

มันมีลักษณะคล้ายๆกับโกบาน* ผมเคยได้ยินมาว่า แค่เหรียญเดียวสามารถนำไปสร้างปราสาทได้ทั้งหลังเลยนะ

(โกบานคือเหรียญทองกลมดั้งเดิมของคนญี่ปุ่น]ในยุคเอโดะนั้น มีบางอย่างที่มีคุณค่ามากกว่าเหรียญโกบานซะอีก และอัตราแลกเปลี่ยนในยุคนั้นก็คล้ายๆกับอัตราในโลกนี้เลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น 5 เรียวกลาง กับ 10 เรียวใหญ่ [ตรงนี้คนแปลอังกฤษเองก็ไม่รู้ครับว่าหมายถึงอะไร 江戸時代にも小判以上の贈答用の貨幣があったのと同じ感覚だろう。五両の中判とか十両の大判みたいに )

(เรียวคือสกุลเงินของญี่ปุ่นในยุคคามาคุระ ค.ศ.1185-1333)”

เงินเดือนของลูกจ้างทั่วไปน่าจะประมาณ 2-30 เหรียญเงิน ผมรู้สึกว่ามันน้อยจนหมดกำลังใจทำงานเลยหล่ะยิ่งไปกว่านั้น มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรถ้าจะใช้เหรียญทองเพียงอย่างเดียว..

เพราะว่าคุณจำเป็นจะต้องเปลี่ยนเหรียญเงินให้เป็นเหรียญทองเพื่อที่จะซื้ออะไรสักอย่างในที่แห่งนี้ มันทำให้ค่อนข้างลำบากทีเดียว..

ผมภาวนาว่าระบบแบบนี้จะมีแค่ที่เมืองนี้เมืองเดียว ถึงแม้ว่า 1 เหรียญทองจะเท่ากับ 1 เรียวก็เถอะ ได้โปรดอย่าบอกผมเลยว่าระบบซื้อขายเองก็ยุ่งยากเหมือนกันหวา~

แค่คนเดียวยังต้องใช้เงินถึง 20,000 เยนเลยเหรอ?หน้าด่านของเขตชายแดนที่ผมอยากจะเข้ามา แต่ก็เข้าไม่ได้.. แถมตอนเข้ามาได้ยังต้องมาเจอกับความเป็นจริงอันโหดร้ายนี่อีก.. นั้นมันไม่แพงเกินไปหน่อยเหรอ?มิหนำซ้ำ.. ยังไม่รับรองความปลอดภัยให้กับรถขนสินค้าอีกด้วย!ผมควรจะทำยังไงดี? หรือว่าพ่อค้าที่จำเป็นจะต้องมาที่นี้ จะต้องมาด้วยความใจกว้าง?

แต่ว่าเหรียญทองที่ผมได้มา มันเป็นเงินที่พวกดวอร์ฟมอบให้แก่ผม.. พวกเขาบอกผมว่ามันไม่มีความจำเป็นสำหรับพวกเขาแล้ว ฉะนั้นพวกเราจะเอามันไปทำอะไรก็ได้..

แต่ว่า..ถ้าพวกเราขายสินค้าที่พวกเรานำมาด้วย.. พวกเราจะได้กำไลคืนมามากพอรึเปล่านะ?ผมนี่มันสามัญชนจริงๆ

" ถ้าอย่างนั้น.. ขอจอง 10 วันค้าาา "”

?!?!?!!?!?!?!?!?!??!!ผมไม่อยากให้พนักงานโรงแรมลำบากใจ ผมเลยขยับหัวไปข้างๆอย่างช้าๆตรงนั้นผมเห็น 'โทโมเอะ' กำลังถือกระเป๋าเงินอยู่.. เสร็จแล้วก็หยิบเหรียญทองออกมาแล้ววางไว้บนเคาเตอร์หยิบออกมา 2 เหรียญทอง..3 เหรียญทอง..ผมได้ยินเสียงเพลงพื้นหลังดังเป็น ฮิ~ฟุ~มิ* เลยทีเดียว

(คนแปลอังกฤษไม่แน่ใจนะครับ แต่เขาบอกว่าเป็นเสียงเพลงญี่ปุ่น ตอนไหว้ศาลเจ้าครับ > Shrine offering )”

เธอไม่มีหลักการการใช้เงินบ้างเหรอไง? นั้นสินะ~ เธอจะไปมีได้ยังไงแต่ว่า.. เงินทั้งหมดที่เรามี มันแค่ 100 เหรียญทองเองนะรู้ไหม?แล้วเธอจะมาโยนมันทิ้งไป 60 เหรียญง่ายๆแบบนี้เนี่ยนะ?10 วันก็เท่ากับ 600,000 เยน..

เหวอ ผมรวยถึงระดับดาราตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?แถมต้องจ่าย 600,000 เยน.. เพื่ออาศัยในสถานที่ที่ทำจากท่อนไม้...

" ตกลงครับ.. ถ้าอย่างนั้นผมจะนำทางไปที่ห้องนะครับ "

" เอ~ แล้วก็อีกอย่างนึง.. " (โทโมเอะ)”

'โทโมเอะ' หยุดชายหนุ่มที่หน้าเคาเตอร์ ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง.. ยัยบ๊องนี่.. คราวนี้คิดจะพูดอะไรอีกหล่ะ?

" คะ..ครับ?! "

" นายน้อยหน่ะเป็นคนที่ใจดีมาก แต่ข้าอารมณ์เสียค่อนข้างง่ายเลยน้า.. จนถูกคนอื่นตำหนิบ่อยๆเลยหล่ะ " (โทโมเอะ)”

'โทโมเอะ' หยิบบัตรที่ถูกสลักด้วยเลเวลที่สูงจนน่ากลัวออกมาจากหน้าอก ด้วยท่าทีที่สบายๆเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เสร็จแล้วก็พูดต่อไป... นี่มันการขู่เข็ญชัดๆ

" ข้าหน่ะมองหาโรงแรมมาสักพักใหญ่แล้ว.. แต่ว่า 'ไม่เหลือห้องว่างสักที่เลย'?.. สำหรับพวกเราที่สามารถมาเช่าห้องที่โรงแรมแห่งนี้ได้ ช่างเป็นบุญของพวกเราจริงๆ.. แล้วราคานั้นเหมาะสมแล้วเหรอ? " (โทโมเอะ)

" แน่นอนครับ.. นอกจากตำแหน่งที่ตั้งของโรงแรมแล้ว ผมยืนยันได้เลยว่า โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมที่เยี่ยมที่สุดในเมืองนี้ครับ "”

ชายหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สั่นครอนเล็กน้อย.. เอ ดูน่าสงสัยอยู่นิดหน่อยใช่ไหมหน่ะ?

" ค่อยยังชั่วหน่อย.. เพราะห้องที่หรูที่สุดของโรงแรมก่อนหน้านี้ คน 3 คนมีราคาแค่ 1 เหรียญทอง ภายใน 1 คืนเท่านั้นเอง.. ข้าเลยสงสัยราคานิดหน่อย จริงๆข้าคิดจะเป่าโรงแรมนี้ให้หายวับไปจากผังเมือง ถ้าหากมีการหลอกลวงกันเกิดขึ้นเลยน้า.. ดีแล้วหล่ะที่มันไม่เป็นเรื่องจริง ใช่ไหม? หึๆๆๆ "”

'โทโมเอะ' หัวเราะเบาๆผมคิดว่าเธอไม่ได้สนใจอะไรรอบตัวซะอีก แต่ดูเหมือนว่าผมจะคิดผิดสินะตอนนี้ 'มิโอะ' เองก็กำลังหัวเราะอย่างมีเลศนัย.. สัมผัสได้ถึงความรุนแรงออกมาจากเสียงหัวเราะนั้น ถึงแม้ว่า เมื่อพวกเขาเปิดปากพูดเมื่อไหร่ ผมจะมองเห็นแต่อนาคตที่มืดมัวก็เถอะ..

" ข้าจะขอคำยืนยันเป็นครั้งสุดท้ายน้า.. โรงแรมนี้ราคา 6 เหรียญทองต่อคืน.. ใช่ไหม? " (โทโมเอะ)

" อือ... นั้นมันก็.. อืม... "”

ดูเหมือนทางโรงแรมจะคิดราคาแพงกว่าปกติจริงๆด้วยสินะ.. ด้วยหน้าตาของพนักงานที่ดูเหมือนจะฆ่าแมลงสักตัวยังทำไม่ได้เนี่ยนะ.. ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะกล้าทำตัวเป็นผู้ร้ายแบบนี้ไม่สิ มันเป็นเรื่องปกติสินะ? เขาก็แค่ผู้ชายที่ตัวเล็กกว่าปกติเท่านั้นเอง.. ฮืม..

ผมคงจะไม่ชินแน่ๆการไม่ตัดสินคนจากภายนอก มันยังดูยากอยู่นิดหน่อยสำหรับผมในตอนนี้ตอนที่ผมเห็นหญิงสาวที่สวยจนน่าตกตะลึง หน้าของผมยังแถบจะละลายเลย.. ยังไงผมก็เป็นผู้ชาย มันช่วยไม่ได้จริงๆนะ รู้ไหม? ผมยังเป็นเด็กมัธยมปลายอยู่เลยนี่นาจริงด้วยสิ..

พอผมคิดถึงโรงเรียนแล้ว ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าที่โลกแห่งนี้จะมีโรงเรียนอยู่รึเปล่า?

" ทะ.. ทั้งหมด 2 เหรียญทองต่อคืนครับ! มันเป็นข้อผิดพลาดครับ! ขะ..ขอโทษจริงๆครับ! "”

เขาพยายามขอโทษอย่างสุดชีวิต.. แต่ราคานั้น คืนเดียวมันก็ยังแพงกว่า 60,000 เยน อยู่ดีนะ

(อันนี้คนแปลอังกฤษไม่ชัวร์ครับ ฉะนั้นตัวเลขอาจจะผิด )”

เฮ้! ถึงแม้ว่าผมจะสวมหน้ากากทันสมัยแบบนี้ ก็อย่าขึ้นราคา 3 เท่าซะดื้อๆสิคร้าบ?!แต่ถ้าโรงแรมนี้มันหรูถึงขนาดเรียกได้ว่าพระราชวัง ผมก็ไม่เสียใจที่จะจ่าย 3 เท่าหรอกนะถึงแม้ว่าการพักอาศัยอยู่ใต้สถานที่ที่มีหลังคาจะสำคัญกว่ากลางแจ้งก็เถอะ อย่าขึ้นราคาซะเฉยๆแบบนั้นสิ

" โฮโฮวว~ เป็น 'ข้อผิดพลาด' ที่เล็กจริงๆเลยน้า.. อุ๊บ "”

โครม!โทโมเอะลื่นล้ม(แกล้งทำ) แล้วขาของเธอก็ดันไปทำพื้นของโรงแรมทะลุเป็นรูชายหนุ่มที่เห็นพื้นเป็นรูอยู่นั้น ได้แต่ยืนนิ่งด้วยสีหน้าที่ซีด

" อ๊ะ.. ขอโทษทีๆ.. ดูเหมือนว่าพื้นจะเก่าไปนิดหน่อยน้า " (โทโมเอะ)”

มันไม่เกี่ยวกับเก่าไม่เก่าเลย! ถ้าดูจากสีหน้าของชายหนุ่มก็คงจะสรุปได้

" คุณ 'โทโมเอะ' ค่ะ ได้โปรดระวังหน่อยสิ.. แล้วก็คุณผู้ชายค่ะ เงินที่เหลือพวกเราจะขอฝากไว้ก่อน แล้วจะมารับคืนทีหลังนะค่ะ.. ได้โปรดดูแลมันอย่างดีด้วย เข้าใจไหมคะ? " (มิโอะ)”

'มิโอะ' ก็ไม่น้อยหน้าด้วยเหมือนกัน.. ตอนนี้ชายหนุ่มต้องดูแลเงินของพวกเราอย่างช่วยไม่ได้ถ้าหากว่าจำนวนเงินมันน้อยลง.. หรือมีข่าวลือว่ามันถูกขโมยไปละก็...

" เดี๋ยวก่อนครับ?! ผะ..ผมจะกลับแล้ว ดังนั้น..! "

" ไม่ๆ.. การหอบเงินไปไหนมาไหนหน่ะ มันลำบากน่าดูเลยนะรู้ไหม?.. แต่นายน้อยหน่ะไม่สนใจเงินก้อนโตนี้หรอก.. ส่วนฉันจะตั้งหน้าตั้งตารอดูอาหารเย็นนะ หวังว่ามันจะสมกับราคานะค่ะ! " (มิโอะ)”

'มิโอะ' ยิ้มหวานออกมา ในขณะที่ชายหนุ่มค่อยๆก้าวเท้าถอยหลังไป.. ถ้าหากเขาไม่คิดจะรับฝากมันไว้หล่ะก็ พวกเธอก็คงจะไม่ยอมรับคำแก้ตัวอะไรเหมือนกันสินะ..

สักพักพวกเธอก็บอกให้ชายหนุ่มนำทางไปยังห้องพัก...ผมคิดเรื่องนี้มาได้สักพักแล้ว แต่ว่า...พวกเธอทั้งสองคน สามารถพูดคุยกับคนอื่นได้อย่างราบรื่นได้ขนาดนี้ แล้วทำไมตอนอยู่ที่กิลด์ถึงเกิดเป็นประเด็นขึ้นมาได้หล่ะ?

ยังไงผมก็ไม่เข้าใจ.. ตอนนี้ผมรู้สึกได้แต่เจตนาที่ชั่วร้ายจากการกระทำของพวกเขาเท่านั้นชายหนุ่มยืนนิ่ง   หลังจากที่พาพวกเรามาถึงห้องพักเขาหันมาจ้องหน้าผม แล้วทำสีหน้าที่เหมือนกับอ้อนวอนนายเป็นชิวาว่า     เหรอไง?!บอกไว้ก่อนเลยนะ.. ว่าผมไม่ใช่ทาสหมาหรอก ผมเป็นทาสแมวต่างหาก!ไม่ใช่สิ...ต่อให้ผมเป็นทาสหมาก็เถอะ ยังไงผมก็ไม่คิดจะช่วยเหลือชิวาว่าชั่วร้าย ที่พยายามจะหลอกกินเงินของผมหรอก!

เฮ้อ~ถึงแม้ว่าผมจะพยายามไม่ถอนหายใจอีกแล้วก็เถอะ.. ผมเมินเฉยต่อใบหน้าของชายหนุ่ม แล้วเดินเข้าไปข้างในห้องพัก----

" หึๆๆๆ.. ข้าไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนว่าพวกเราจะจบเรื่องได้นะ " (โทโมเอะ)

" นับจากนี้ เด็กหนุ่มคนนั้นคงจะแข็งไปทั้งตัวเลยค่ะ.. เพราะเขาพยายามจะหลอกเอาเงินก้อนโต แต่ตอนนี้เขากลับต้องมาปกป้องเงินก้อนโตนั้นซะเอง หึๆๆ " (มิโอะ)

" 'โทโมเอะ'  'มิโอะ'  นิสัยของพวกเธอนี้มันแย่จริงๆเลยนะ.. แต่ผมก็ว่าอะไรไม่ได้หรอก เพราะเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นฝ่ายผิดเองนี่นา.. " (มาโกโตะ)”

ตอนนี้พวกเราเข้ามาอยู่ข้างในห้องแล้ว ดังนั้นถ้าผมจะเปลี่ยนจากการเขียน กลับมาเป็นการพูดเหมือนเดิม        ก็คงจะไม่เป็นไรแล้วแน่นอน.. ผมไม่ได้คาดหวังว่าห้องนี้จะเก็บเสียงได้หรอก แต่ถ้าผมไม่ได้พูดอะไรเสียงดัง ยังไงคนข้างนอกก็คงจะไม่ได้ยินที่พวกเราพูด

" ดูเหมือนว่าราคาจะสูงกว่าที่พวกเราเคยได้ยินมามากเลยนะ " (มาโกโตะ)

" ไม่แปลกหรอก เพราะมันอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลนี่นา.. และดูเหมือนว่าการบริการจะมีปัญหาอีกด้วยนะ " (โทโมเอะ)

" นั้นสินะ.. ขนาดราคาของสินค้ายังไม่ปกติเลย.. แค่น้ำก็ราคาแพงกว่ามีด 1 เล่มแล้ว ส่วนเขี้ยวกับเล็บของพวกมอนสเตอร์ ยังมีราคาแพงกว่าน้ำเข้าไปอีก " (มาโกโตะ)

" ทำไมมันแพงหล่ะ? มันอร่อยเหรอค่ะ? " (มิโอะ)

" ไม่ใช่! เพราะว่าพวกมันเป็นวัตถุดิบไม่ใช่เหรอไง?  'มิโอะ'  เลิกคิดว่าทุกๆอย่างเป็นอาหารซักทีได้ไหม? " (มาโกโตะ)”

แต่ก็ไม่แปลกใจหรอก เพราะเธอเป็นแมงมุมที่ไม่รู้จักพอนี่นา

" ของที่สามารถหามาได้จากบริเวณนี้เท่านั้น ส่วนใหญ่จะมีราคาแพงกว่าอย่างอื่นมาก.. ถูกลงมาหน่อยก็ของที่หาได้ยากจากที่อื่น.. ถูกลงมาอีกนิดก็มีอาวุธและชุดเกราะขั้นพื้นฐาน. ดูราคามันเละเทะยังไงไม่รู้สิ? " (โทโมเอะ)”

ดูเหมือนว่า 'โทโมเอะ' จะสนใจสิ่งรอบข้างมากกว่าที่ผมคิดซะอีกมันเป็นเรื่องจริง ที่พวกอาวุธและชุดเกราะขั้นพื้นฐานจะราคาถูกมากๆ.. หนึ่งในสาเหตุนั้นก็น่าจะเป็น ระยะเวลาการใช้งานที่ค่อนข้างต่ำ.. เพราะมันใช้ได้แปบเดียวนั้นแหละนะ อีกไม่นานก็ต้องเปลี่ยนอยู่ดีส่วนสินค้าที่พิเศษ

ถ้าให้เจาะจงอีกหน่อยก็คือพวกวัตถุดิบต่างๆที่หาได้จากที่นี้ กลับถูกขายในราคาที่แพงมากๆแต่มันกวนใจผมนิดหน่อยนะถึงแม้ว่าพวกเราจะเรียกมันว่าอุปกรณ์ขั้นพื้นฐานก็เถอะ.. ที่นี้ยังคงมีแรงงานทั่วๆไปอยู่ แถมยังต้องใช้วัตถุดิบอีกด้วย..

ทั้งอย่างนั้นมันก็ยังถูกกว่าปกติอยู่ดีส่วนพวกของหายากกับสินค้าโภคภัณฑ์ก็แพงหูฉี่เลยหล่ะผมไม่ชอบเลย..  ดูเหมือนว่าแม้แต่ที่ต่างโลกเอง ก็ยังมีอิทธิพลทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยสินะ

" ว่าแต่.. ดูเหมือนว่าจะมีกิลด์สำหรับผู้ประกอบการด้วย.. ถ้าเป็นแบบนี้มันจะไม่เป็นเหรอ ถ้าพวกเราจะขายสินค้าตามใจชอบ? " (มาโกโตะ)

" อืม.. ดูเหมือนว่าที่นี่จะมีพื้นที่ไว้ให้จองขายสินค้าด้วยนะ " (โทโมเอะ)

" ถ้ามันมีปัญหา เดี๋ยวพวกเขาก็มาไล่เราเองไม่ใช่เหรอค่ะ? " (มิโอะ)”

แบบนั้นไม่ดีแน่.. ดูเหมือนว่า 'มิโอะ' จะไม่เหมาะกับการทำธุรกิจสินะ

" ถ้าทำแบบนั้น นายน้อยก็จะ 'แพ้'.. บริษัทที่ไม่รู้มีแต่เรื่องขั้นพื้นฐานของกิลด์ผู้ประกอบการ มีแต่จะทำให้คนที่เป็นถึงทายาทบริษัทอย่างนายน้อย ต้องเสียเครดิตซะเปล่าๆ " (โทโมเอะ)”

คนที่น่าจะเป็นแค่คนโง่คนนึงอย่าง 'โทโมเอะ' .. กลับพูดในสิ่งที่ผมอยากจะพูดซะอย่างนั้น

(บางทีผมก็คิดว่ามาโกโตะโหดร้ายกับทั้งสองคนเกินไปนะ 55)

" ก็อย่างที่โทโมเอะบอกมานั้นแหละ.. ขอโทษนะ 'มิโอะ'  แต่ช่วยไปยังสาขาย่อยของกิลด์ผู้ประกอบการ แล้วพูดว่าอยากเข้าร่วมกับกิลด์แบบหน้าซื่อๆทีสิ เธอจะได้ขอข้อมูลเกี่ยวกับกฎและข้อบังคับของทางกิลด์ได้ " (มาโกโตะ)

" เอ๋? ตอนนี้เลยเหรอคะนายน้อย? " (มิโอะ)

" ใช่.. เพราะว่าถ้ารอจนถึงพรุ่งนี้ ข้อมูลของพวกเธอสองคนก็คงจะกระจายไปทั่วทั้งเมืองแล้ว ดังนั้นวันนี้นี่แหละที่เหมาะที่สุด เอาหล่ะไปได้แล้ว " (มาโกโตะ)

" เฮ้อ.. เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะไปหาข้อมูลมาให้นะค่ะ " (มิโอะ)”

'มิโอะ' เดินออกไปจากห้องอย่างไม่เต็มใจ

" ต้องแบบนี้แหละ! เริ่มที่จะหัดใช้คนติดตามให้เป็นประโยชน์แล้วสินะ สมกับเป็นผู้สูงศักดิ์ของข้าจริงๆเลยน้า "(โทโมเอะ)

" ผมไม่ใช่ผู้สูงศักดิ์สักหน่อย! เพราะถ้าหากพวกเธอไม่ทำตัวโดดเด่น พวกเราก็คงไม่จำเป็นจะต้องมาทำตัวลับๆล่อๆแบบนี้หรอก รู้ไหม? " (มาโกโตะ)

" ยังไงก็ตาม.. การตรวจสอบข้อมูลหลังจากมาถึงห้องพัก.. นั้นมัน 'มิโตะ'  'โกมอน'  ชัดๆเลยไม่ใช่เหรอน่ะ? " (โทโมเอะ)”

'โทโมเอะ' ส่ายหัวไปมา.. ผมบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าให้หยุดพูดเรื่องของท่านโกมอนสักที?

" ไม่ใช่เลย.. เพราะเรายังไม่มั่นใจเลยว่า จะมีเรื่องชั่วร้ายอะไรให้ตรวจสอบที่เมืองนี่เลยนี่นา "    (มาโกโตะ)

" แต่ข้าว่ามีนะ " (โทโมเอะ)

" ทำไมมั่นใจแบบนั้นหล่ะ?! " (มาโกโตะ)”

หรือว่าโลกนี้ จะถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายของความชั่วร้ายมากกว่าที่ผมคิด?!

" ราคาของสินค้ามันดูไม่ปกติเลยใช่ไหมหล่ะ? ไม่ว่าจะคิดยังไง ข้าก็อดคิดไม่ได้ว่า เรื่องนี้จะต้องมีเงื่อนงำ " (โทโมเอะ)”

เธอเฉียบแหลมมาก.. หรือว่าตอนนี้เธอเข้าสู่โหมด 'ละครย้อนยุค' ไปแล้วกันนะ?

" เธอนี่หลักแหลมกว่าที่คิดนะ 'โทโมเอะ'  " (มาโกโตะ)

" นายน้อยเองก็คิดแบบข้าใช่ไหมหล่ะ.. ที่นี่ ต้องมีใครบางคนที่หาเงินแบบนอกรีตแน่ๆเลยน้า~♪ " (โทโมเอะ)”

อย่าพูด 'นอกรีตแน่ๆเลยน้า~♪' ใส่หน้าของผมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขแบบนั้นสิ ขอร้องหล่ะ

" ถ้าหาก 'มิโอะ' ได้ข้อมูลอะไรสักอย่างมา พวกเราก็น่าจะเคลื่อนไหวกันได้ง่ายขึ้น.. แต่ว่า.. "        (มาโกโตะ)

" เป็นไปไม่ได้หรอก.. 'มิโอะ' เป็นคนที่ไม่สนใจอะไรรอบตัวเลยน้า มิหนำซ้ำยังไม่ระมัดระวังตัวอีกด้วย.. ไม่แน่ว่าบางที เธออาจจะโดนสะกดรอยกลับมาด้วยน้า " (โทโมเอะ)”

แล้วทำไมเธอถึงทำหน้ามีความสุขแบบนั้นหล่ะ?ผมยอมแพ้แล้ว.. จริงอยู่ว่ารถขนสินค้าของเรามีแต่ของหายาก ดังนั้นมันก็ไม่แปลกหรอก ที่จะโดนจ้องเป็นเป้าหมายของการปล้นแบบนี้

อ่า~ ไม่ดีแล้ว.. นี่มันแค่ 15 นาทีเองนะ แต่ผมรู้สึกเหมือนกับว่า พวกเราได้เดินเส้นทางสาย 'มิโตะ'  'โกมอน'   ไปซะแล้ว..

" ผมมั่นใจเลยว่า  'โทโมเอะ' จะต้องเหมาะเป็นผู้พิพากษาความอยุติธรรมแน่ๆ หรือไม่ก็  'อิชิโงยะ' * " (มาโกโตะ)

( Echigoya ผมไม่รู้ว่าหมายถึงอะไรนะครับ )”

เสียงหัวเราะ 'หึๆๆ' นั่นก็เหมาะกับเธอมากเลยพูดให้ถูกกว่านี้ก็คือ มันไม่มีใครเลย ที่ทำตัวเหมือนคนในครอบครัว  'มิโตะ'  'โกมอน'  มากไปกว่าเธออีกแล้วถ้าไม่นับเรื่องที่กล่าวมาก่อนหน้านี้น่ะนะ

(น่าจะพูดถึง ตอนวัดเลเวลในกิลด์นักผจญภัยมั้งครับ? )

" แต่ไม่ว่าจะมองยังไง ข้าก็เหมาะจะเป็น คุณ 'คาคุ'  นะ! " (โทโมเอะ)

" แต่ปกติแล้วคุณ 'คาคุ'  จะสู้ด้วยมือเปล่านะ! " (มาโกโตะ)

" ถ้าอย่างนั้น.. ข้าก็เป็นคุณ 'คาคุ'  ที่ใช้ดาบยังไงหล่ะ! " (โทโมเอะ)

" อะไรก็ยอมงั้นเรอะ?! " (มาโกโตะ)”

ถ้าอย่างนั้นมันก็ไม่ต่างกับการที่ใครบางคนพูดว่า 'ลิงที่กำลังบินชื่อคุณกิน(Gin)ชนะ' เลยสิเนี่ย!*

( อันนี้คนแปลอังกฤษไม่รู้ครับ เขาบอกว่าเป็นสำนวนอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับลิงบิน )”

อึก~ แค่คิดก็ขยะแขยงแล้ว

" แต่ไม่ว่าจะยังไง ข้าก็จะรับบทเป็นคุณคาคุต่อไป! ดังนั้น ข้าขอฝากตัวด้วย!! " (โทโมเอะ)”

นี่เธอบังคับให้ผมยอมรับมันชัดๆ!

" เธอ... โอ้ยย โอเคๆ เข้าใจแล้ว คุณ 'คาคุ' * "

( ตรงนี้เขาใช้ 核 ซึ่งแปลว่าอาวุธนิวเคลียร์ แทนการใช้ 格 ครับ )”

สำหรับเธอที่เป็นคุณคาคุก็เหมาะเกินพอ! ยัยระเบิดนิวเคลียร์เอ๋ยยย!

"ข้ารู้สึกว่า คำว่า 'คาคุ' ของท่านมันแปลกๆอยู่นะ! " (โทโมเอะ)”

ยังจะถามอีกเรอะ?!

" ผมกำลังสงสัยว่า.. เธอมีเจตนาที่ชั่วร้ายอะไรบางอย่าง ตอนที่เธอสร้างความวุ่นวายในกิลด์นักผจญภัยรึเปล่า? " (มาโกโตะ)

" เอ๋? " (โทโมเอะ)”

อย่า 'เอ๋?' ใส่ผมเลย! ทำไมมันฟังดูเหมือนเธอกำลังสารภาพผิดเลยหล่ะ?!ผมรับมือเธอไม่ไหวแล้ว!แสดงว่าเธอเข้าสู้โหมดละครย้อนยุค(ดราม่า)เต็มตัว แล้วจงใจก่อปัญหาสินะ?

" ตอบกลับมาว่า 'เอ๋?' สินะ?  'โทโมเอะ' จัง~ " (มาโกโตะ)

" หวาๆๆๆๆๆ " (โทโมเอะ)

" ช่างมันเถอะ ปล่อยเรื่องนั้นไปก่อนละกัน.. มีบางอย่างที่ผมอยากให้เธอทำ ตกลงไหม? " (มาโกโตะ)

" โอ้~ และบางอย่างนั่นก็คือ? " (มาโกโตะ)

" ตอนแรกทำแบบนี้..... แล้วจากนั้นก็..... เสร็จแล้วก็ทำแบบนี้ " (มาโกโตะ)

" เข้าใจหล่ะ ฟังดูน่าสนใจดีน้า " (โทโมเอะ)”

ผมรู้สึกได้ว่าเธอจะต้องยอมร่วมด้วยแน่ๆ

" ถ้าอย่างนั้นขอฝากด้วย " (มาโกโตะ)

" ตามที่ท่านปรารถนา.. ข้าจะเตรียมมันให้พร้อมให้เร็วที่สุดเลย " (โทโมเอะ)”

*ก๊อก *ก๊อกหือ? ใครกันนะ?ผมกับโทโมเอะหันมามองหน้ากัน

" นั่นใครน่ะ? " (โทโมเอะ)

" มิโอะเองค่ะ.. จะว่าอะไรไหมถ้าจะขอเปิดประตู? "

" ไม่.. เข้ามาได้เลย " (โทโมเอะ)”

'มิโอะ' กลับมาแล้วรึ?ผมกาง [ซากาอิ] ออกไปรอบๆดูเหมือนว่ารอบๆโรงแรมจะมีคนอยู่ 6 คน สินะ? พวกเขาเคลื่อนไหวได้ดีที่เดียว ไม่ใช่มือสมัครเล่นแน่ๆไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะปล่อยให้คนสะกดรอยตามมาจริงๆ

" เอ๋? นายน้อยมีอะไรเหรอคะ? อยู่ดีๆก็จ้องกันแบบนี้ " (มิโอะ)”

มีเป้าหมายอะไรกันแน่นะ~? ดูเหมือนว่า 'โทโมเอะ' เองก็รู้สึกถึงตัวตน ของคนที่ตาม 'มิโอะ' มาเหมือนกัน      แต่ตอนนี้พวกเขายังไม่ได้เข้ามาหมายความว่ารถขนสินค้าเรายังปลอดภัยอยู่พวกเราขู่พนักงานไปซะขนาดนั้น

ดังนั้นข้อมูลมันไม่น่าจะรั่วไหลเร็วขนาดนี้หรอกแต่การที่เขาทำตัวแบบนั้น ผมรู้สึกได้เลยว่าเขาเองก็ถูกเงินล่อลวงได้ง่ายๆยังไงที่นี้ก็ยังเป็นโรงแรมระดับหรูอยู่ดี..

ผมคงจำเป็นจะต้องไว้ใจเขาอยู่ดีสินะ เฮ้อ.

." เปล่าหรอก ไม่มีอะไร " (มาโกโตะ)

" ฉันได้ไปพูดคุยกับกิลด์ผู้ประกอบการมาแล้วค่ะ " (มิโอะ)

" ได้ผลว่ายังไงบ้าง? " (มาโกโตะ)

" ดูเหมือนว่าพวกเราจะเปิดกิจการไม่ได้ ถ้าหากไม่มีหลักฐานจากทางกิลด์ค่ะ.. ถ้าหากพวกเราอยากจะทำบัตรใหม่ พวกเราก็ควรจะไปที่เมืองยาโดริกิ(Yadoriki) หรือไม่ก็ เมืองซึเงะ(Tsige) ค่ะ"

ระยะทางหล่ะ?

" (มาโกโตะ)" หลังจากเดินทางผ่านเมืองอีก 3 เมือง.. ระยะทางทั้งหมดจะประมาณ 1 เดือนค่ะ พวกเขาบอกมาแบบนั้น " (มิโอะ)

เมือง.. พวกเราจำเป็นต้องผ่านค่ายอีก 3 ค่ายเหมือนกับที่นี่ ก่อนที่จะถึงจุดหมายอย่างนั้นเหรอ?นั้นมันไกลมากเลยนะ.. แล้วพวกเราก็จะไม่มีหนทางอื่นในการหาเงินเลยสิเนี่ย.. ถึงแม้ว่าผมจะให้ทั้งสองคนนี้ไปรับภารกิจมาทำก็เถอะ ยังไงพวกเขาก็ยังเป็นแค่ แรงค์ E อยู่ดี

" ไม่มีหนทางอื่นที่จะขายสินค้าของพวกเราเลยเหรอ? " (มาโกโตะ)

" ดูเหมือนว่า ถ้าหากพวกเราใช้พื้นที่ทางการค้า มันจะไม่มีปัญหาอะไรค่ะ" (มิโอะ)

" พื้นที่ทางการค้า? " (มาโกโตะ)”

มีอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ?

" มันเป็นสถานที่ของทางกิลด์ผู้ประกอบการค่ะ และมันก็ยังเป็นพื้นที่กลางสำหรับการขายส่ง... ฉันสงสัยมากเลยว่า พื้นที่กลางสำหรับการขายส่ง หมายถึงอะไร " (มิโอะ)”

ถ้าหากไม่รู้ ตอนที่อยู่ที่นั้นก็ได้โปรดถามจากทางกิลด์ด้วยเถิด ไม่ใช่มาถามผมแบบนี้

" มันหมายความว่า พวกเราจะสามารถขายสินค้าให้กับพ่อค้าคนอื่นได้เช่นกัน.. แต่ว่านั่นมัน... "  (มาโกโตะ)”

ถ้าอย่างนั้นผมก็สามารถใช้พวกเขาเป็นตัวประเมินราคาของสินค้าได้หน่ะสิ? แต่มันก็ไม่สนุกเลยที่จะต้องมาใช้วิธีขายสินค้าแบบนี้

" แต่มันก็จริงนะ.. ที่พวกเรามีแต่ของที่จะเน่าเสียอย่างรวดเร็ว... ดังนั้นพวกเราควรจะไปที่พื้นที่ทางการค้านั้นพรุ่งนี้กันเลย แล้วก็ขายทุกอย่างให้หมด " (มาโกโตะ)”

คงจะทำกำไรได้ไม่น้อยเลยในที่สุดภารกิจวันนี้ก็จบลงสักทีหลังจากนั้นก็เหลือแต่ กินข้าว แล้วก็เข้านอน...อย่างที่คิดเลย มีเรื่องให้ทำตั้งมากมาย หลังจากที่มาถึงเมืองเป็นครั้งแรกสำหรับวันนี้.. ขอหลับที่นี่เลยละกัน ไว้วันหลังค่อยกลับไปที่อะโซระ

" อ๋อแล้วก็... ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ท่านจะไม่พูดถึงพวกสะกดรอยพวกนั้นเลย " (โทโมเอะ)

" พวกสะกดรอย? " (มิโอะ)

" เธอถูกแอบตามสะกดรอยมาน่ะ " (โทโมเอะ)

" ผู้ยิ่งใหญ่แบบฉันเนี่ยนะ?! " (มิโอะ)”

ไม่แปลกหรอก เพราะปกติเธอจะไม่พยายามหลบหลีกอะไรเลยนี่นา.. ปกติแล้วเธอจะพุ่งเข้าไปแล้วก็กลืนกินทุกอย่างมันมากถึงขั้นที่ผมจะเรียกเธอว่า ท่านฮาร์ท ยังได้เลย*

(ไม่รู้ว่าพูดถึงอะไรนะครับ)

" ฉันจะไปจัดการพวกมันเดี๋ยวนี้ค่ะ! "  (มิโอะ)”

'มิโอะ' เดินอย่างมุ่งมั่นไปที่หน้าต่าง

" ไม่เป็นไรหรอก 'มิโอะ' .. ผมจะปล่อยให้พวกเขาเดินเล่นกันไปก่อน " (มาโกโตะ)

" แต่ว่า! " (มิโอะ)

" ไม่เป็นไรจริงๆ " (มาโกโตะ)

" อือ~ " (มิโอะ)

" อีกไม่นานก็จะถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว หยุดคิดเรื่องอื่นแล้วมากินอย่างเป็นสุขกันดีกว่า "           (มาโกโตะ)”

ดูเหมือนว่า คำว่า 'อาหารเย็น' จะดึงดูดความสนใจของมิโอะได้สำเร็จ

" อีกเรื่องนึง.. 'โทโมเอะ'  " (มาโกโตะ)

" มีอะไรเหรอนายน้อย? " (โทโมเอะ)

" คืนนี้ ผมจะไว้ใจให้เธอดูแลรถขนสินค้าของพวกเรา.. ดูเหมือนวจะมีคนน่าสงสัยอยู่เต็มไปหมด ผมมองเห็นการเคลื่อนไหวที่จ้องจะตะครุบรถขนสินค้าของพวกเราได้ทุกเมื่อเลยหล่ะ "      (มาโกโตะ)

" อะ..อะไรนะ?! " (โทโมเอะ)

" เพราะว่าเธอน่ะเป็น คุณคาคุ ไม่ใช่เหรอ? งานแบบนี้ คือหน้าที่ของคุณคาคุไม่ใช่เหรอคร้าบ~♪? " (มาโกโตะ)

" อะ..อาหารเย็นของข้าหล่ะ? " (โทโมเอะ)

" ม่าย-มี♪ " (มาโกโตะ)

" ทะ..ท่านเป็นยักษ์หรือไง นายน้อย?! " (มาโกโตะ)

" อ๋อแล้วก็.. อย่าคิดแม้แต่จะยื่นนิ้วเข้าไปกินอาหารในรถขนสินค้าของพวกเรานะ เข้าใจไหม? มันเป็นหนึ่งในหน้าที่ ของคนที่เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทนี่นา " (มาโกโตะ)

" มะ..ไม่ใช่ยักษ์แล้ว! นี่มันปีศาจ.. ปีศาจชัดๆ! " (โทโมเอะ)

" เธอคิดว่าผมเหนื่อยกับเธอมามากแค่ไหนหล่ะ? ใช่.. นี่ไม่ใช่คำขอร้อง แต่เป็นคำสั่ง! "              (มาโกโตะ)”

ผมต้องแสดงให้ดูซะบ้าง ว่าใครมีอำนาจมากกว่ากัน!ผมไม่สนหรอกว่าเธอจะเรียกผมว่ายักษ์หรือว่าปีศาจ...

ฮึหึๆๆ ฮ่าาาฮ่าๆๆๆๆๆ!!--------------------------------------------------------หายไปนานอีกแล้วครับ

ต้องขอโทษด้วย T_Tช่วงนี้เริ่มติดเรียนแล้วครับ เสาร์ที่ผ่านมาก็ต้องไปสอบด้วย บวกกับงานอื่นๆอีกมากมาย เลยไม่ค่อยมีเวลามาแปลให้ได้อ่านกันครับยังไงก็ขอให้สนุกกับการอ่าน และหวังว่าจะชอบกันนะครับ ^^ขอบคุณกำลังใจจากทุกๆคอมเมนท์ และจากทุกๆคนที่ติดตามครับผม

ที่มา:https://my.dek-d.com/hitomi-yuriko/writer/viewlongc.php?id=1474392&chapter=22

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด