ตอนที่ 6 The Reincarnated Princess’s Efforts (2)
“อาหาร? ...ของท่านแม่หรอ”
จอร์จเอียงหัวอย่างงุนงง ด้วยหน้าตาที่เหมือนแม่ทำให้เค้าน่ารักยิ่งกว่าเด็กผู้หญิงซะอีก
“ใช่แล้ว ข้าอยากให้เพิ่มผักเข้าไป”
“แต่... ท่านแม่ เกลียด...”
จอร์จเหมือนพยายามจะบอกบางอย่าง อา ฉันรู้ว่าแม่นายเกลียดผัก
“นั่นคือสิ่งที่ข้ากำลังจะบอก ข้าอยากทำอาหารอร่อยๆ ที่แม้ว่าจะเป็นคนที่เกลียดผักก็ทานได้ ท่านจูเลียสมีสิ่งใดอยากเสนอไหมคะ?”
เมื่อฉันเรียกเขา จูเลียสก็ละจากการลูบคางอย่างครุ่นคิด เขาไม่ได้มีรูปลักษณ์คล้ายผู้หญิงอย่างจอร์จ แต่ดูเป็นผู้ใหญ่สมชายชาตรี เขามีริมฝีปากบาง
เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนทิ้งตัวเคลียหลัง ดวงตาสีเขียวของเขาบ่งบอกว่าได้นอนน้อย แต่มันก็ดูอ่อนโยน เป็นจุดแข็งบนใบหน้าเลยล่ะ
“นางไม่ชอบเริ่มต้นทานอะไรหนักท้อง ข้าคิดว่า ซุปน่าจะง่ายที่สุด แต่น้องหญิงมีกฏว่าจะไม่ทานอาหารเยอะเนี่ยสิ”
“ใช้เครื่องปรุงอะไรบ้างหรือคะ?”
“ข้าคิดว่า... น่าจะแค่เกลือนิดหน่อย”
คำถามของฉันดูเหมือนจะทำให้ท่านจูเลียสต้องยกยิ้มแดกดันตัวเอง แต่จอร์จที่ยืนอยู่ถัดไปจากเขาตอบออกมาก่อนที่เขาจะทันได้ตอบ เกลือนิดหน่อย
ฮะ? นอกจากจะเกลียดผักแล้ว ฉันคิดว่าน่าจะพบความผิดปกติเพิ่มอีกอย่างด้วย ฉันเคยทำซุปมาก่อน แต่ก็ไม่คิดเลยว่า ในโลกนี้ยังจะได้ทำมันอีก
ถ้าต้องทำอย่างประณีตก็ต้องใช้เวลานาน ฉันเคยพยายามทำมาก่อนในชาติที่แล้ว มันต้องใช้วัตถุดิบหลายอย่าง และฉันจำได้เลยว่าใช้ความพากเพียรมาก
ขนาดไหนในการทำมัน ฉันสาบานว่าจะไม่ทำมันผิดพลาดอีกขณะที่นึกสูตรไปด้วย ไม่รู้ว่าในโลกนี้จะมีวัตถุดิบเหมือนกันหรือเปล่านะ
“โอ้...!”
ฉันทุบกำปั้นลงบนฝ่ามือ จอร์จที่อยู่ข้างๆ มองฉันอย่างสนใจ แต่ฉันไม่สนใจเขา ตอนนี้ฉันกำลังจดจ่ออยู่กับสูตรที่จำได้ ซุป Potage ดีไหมนะ?
แม้แต่เด็กที่เกลียดผักก็ยังชอบกินเลย แม้มันจะดูไม่ค่อยเหมือนซุป แต่มันก็เป็นสิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ แล้ววัตถุดิบก็หาง่ายที่สุดด้วย แต่ถ้ามีแต่ซุปสุดท้าย
ผลลัพต์มันก็จะเหมือนเดิมสิ อย่างดีที่สุดก็คือเพิ่มความหลากหลายเข้าไป เช่น มันฝรั่ง และ ฟักทอง หรือ สต็อก และ แครอท หลังจากที่เธอได้ชิมรสชาติของผัก
ที่อยู่ในน้ำซุปแล้ว ซุปเย็นเหมือนมะเขือเทศสดน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกันนะ ฉันสงสัยจังว่าจะมีน้ำมันมะกอก หรือน้ำส้มสายชูไหมนะ?
หรือบางทีนมถั่วเหลืองก็ได้? โลกนี้รสชาติจะมีอยู่จำกัดหรือเปล่านะ?
“ท่านจูเลียสคะ!”
ฉันเรียกเขาด้วยสียงดังขนาดที่ทำให้เขาสะดุ้ง
“มีอะไรหรือ?”
เขาถามดวงตาเบิกกว้าง
“เราอยากให้ท่านช่วยรวบรวมเครื่องปรุงจากต่างแดนหน่อยได้ไหมคะ?”
ท่านจูเลียสรีบไปจัดการให้ทันที แม้ว่าจะเกิดมาในตระกูลขุนนาง แต่ก็มีเพียงลูกชายคนโตเท่านั้นล่ะที่ประสบความสำเร็จ ในการทดสอบความสามารถ
ท่านจูเลียสประสบความสำเร็จในการค้าขาย เขาไปรับอาหารจากอาณาจักรเล็กๆ ทางภาคตะวันออก หรือสิ่งทอ และอื่นๆ ซึ่งมันก็เป็นความลับทางการค้าล่ะนะ
นำไปขายให้ทางภาคตะวันตก เขาเน้นสินค้าตามความต้องการของลูกค้า โดยไม่ให้ทางอาณาจักรรู้ เขาเหมือนกับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเลยล่ะ
“ปล่อยให้ข้าจัดการเอง ข้าคุ้นเคยดีทั้งเกลือและน้ำตาล เช่นเดียวกับน้ำส้มสายชูและน้ำมัน แล้วยังมีคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากปลาด้วย”
เขากำลังพูดถึงน้ำปลาอยู่หรือเปล่า? ให้ตายสิ... ฉันระงับความตื่นเต้นไม่ได้เลย ทั้งน้ำมันถั่วเหลืองเอย มัสตาร์ดเอย ผงกระหรี่เอย
“ท่านอยากเห็นไหม?”
ฉันรู้สึกเต็มไปด้วยอารมณ์อันหลากหลาย และครั่นเนื้อครั่นตัวอยากไปเต็มที่ ท่านจูเลียสมองมาที่ฉันด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์ ดวงตาเป็นประกายวิบวับอย่างขบขัน
เหมือนเด็กที่มีความคิดซุกซนเข้ามาในหัว อ๊า! ครอบครัวนี้พยายามจะฆ่าฉันด้วยความโมเอะสินะ?
“ด้วยความยินดียิ่งค่ะ!”
หลังจากนั้น ท่านจูเลียสและฉันก็ให้พ่อครัวตระกูลอีเชอร์พยายามทำตามสูตรให้ได้ ท่านลอร์ดมอริสถึงกับผงะเมื่อพบกับแขกประจำวันอย่างฉัน
แต่เมื่อเขาเห็นว่าฉันทำเพื่อประโยชน์ของท่านหญิงเอ็มม่า เขาก็ต้อนรับฉันอย่างดี เขาช่างเป็นสามีที่ดีจริงๆ ขณะที่ฉันกำลังสงสัยว่าจะทำตัวยังไงดี
ฉันก็ให้จอร์จที่มองฉันเหมือนจะร้องไห้ทำหน้าที่พิเศษ ทุกๆ วัน มากเท่าที่จะมากได้ ให้เขารับผิดชอบพาท่านหญิงเอ็มม่าไปเดินเล่น ถ้ามันเป็นคำขอจากลูกชาย
ที่น่ารักของเธอแล้ว เธอคงทำใจตอบปฏิเสธไม่ได้แน่นอน ไม่แน่นอน เพราะเธอเป็นคนใจดีไงล่ะ ดังนั้นแม้จะเป็นฉัน เธอก็คงไม่ปฏิเสธเช่นกัน อย่างไรก็ตาม
ฉันคิดว่ามันสำคัญนะ ที่แม่กับลูกจะมีเวลาอยู่ด้วยกันน่ะ สภาพอากาศไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนท่านหญิงเอ็มม่าได้ แค่เพิ่มระยะทาง
การเดินขึ้นทีละเล็กละน้อย ท่านลอร์ดมอริสและเหล่าคนใช้ก็มองทั้งสองคนที่กำลังเดินชมนกชมกันอย่างร่าเริง
“ข้าจะเอาดอกไม้มาเพิ่ม และจัดสวนใหม่ด้วย!”
สามีคิด รักภรรยาจริงๆ เลยนะผู้ชายคนนี้นี่ เอาล่ะ ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ท่านหญิงเอ็มม่าจะได้ลิ้มรสซุป Potage มาดูกันเลยว่าเราจะแก้ปัญหาได้หรือไม่
น้ำตาฉันแทบไหล เมื่อเธออุทานออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจว่า
“อร่อยจัง!”
ฉันส่งมือชื่นชมให้พ่อครัวที่เขาพยายามอย่างหนัก ท่านจูเลียสดูอารมณ์ดีมาก เขายกฉันขึ้นแล้วหมุนตัวฉันไปรอบๆ การรับประทานอาหารของท่านหญิงเอ็มม่า
ดีขึ้นเรื่อยๆ ผิวของเธอก็ดูมีน้ำมีนวลขึ้นเช่นกัน ไม่นานมานี้เธอก็เชิญฉันและท่านจูเลียสไปดื่มชาด้วยกันในสวนด้วย เมื่อฤดูเปลี่ยน เธอไม่ต้องนอนอยู่บนเตียง
อย่างเดียวอีกแล้ว อีกแค่ปีเดียวจอร์จก็จะอายุ 8 ปี แต่เธอก็ไม่ได้มีท่าทางเหมือนจะเป็นโรคร้ายแรงอะไรเลย แต่... ฉันจะแน่ใจได้แล้วจริงๆ หรอ?
มันไม่ได้ช่วยให้ฉันยิ้มอย่างมีความสุขได้เลยแม้ฉันจะเห็นสีบนแก้มของเธอ ก็เธออาจจะทามันเองก็ได้นี่ เอาเถอะ ยังไงนี่ก็เป็นผู้หญิงที่ยิ้มแล้วเหมือนดั่งเด็กสาว
ผู้งดงามที่ทำให้ฉันหลงใหลได้ล่ะนะ
“ท่านแมรี่ จะแต่งงานกับจอร์จเมื่อไหร่หรือคะ?”
“... ฮะ?”
“ทะ ... ท่านแม่!”
จอร์จที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉันสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นสีแดง แล้วก็เปลี่ยนเป็นหน้าซีด อึก...! ฉันลืมไปซะสนิทเลย ฉันต้องทำลายพันธะแห่งหายนะนี่ด้วย! ฉันลืมได้ยังไง!!!
ดูเหมือนอนาคตจะถูกพวกเขากำหนดเอาไว้ซะแล้ว เมื่อฉันมาอยู่นี่ก็ทำเหมือนอยู่กับครอบครัว ฉันนี่โง่จริง! อยากจะบีบคอตัวเอง ฉันอุตส่าหยุดหายนะ
จากความตายของท่านหญิงเอ็มม่าได้แล้ว แต่มันดันนำความสิ้นหวังมาหาฉันแทนเสียนี่
“ข้าคุยกับท่านมอริสบ่อยๆ เลยล่ะค่ะ ข้าบอกเขาว่าข้าหวังว่าท่านจะได้มาเป็นลูกสาวที่น่ารักของข้าในเร็ววัน เขาเองก็เห็นท่านเป็นเหมือนลูกของเขาเช่นกัน แล้ววันนี้เขายังพูดอย่างอารมณ์ดีด้วยนะคะว่าเขาจะทำให้จอร์จเป็นผู้ชายที่คู่ควรกับท่านให้ได้” ”
ฉันควรจะทำยังไงดี? ฉันไม่มีแผนจะแต่งงานกับจอร์จ แต่เมื่อฉันมองไปที่ดวงตาของเธอที่มองฉันอย่างคาดหวังแล้ว มันก็เป็นเรื่องยากมากที่ฉันจะบอกเธอ
ออกไป มันจะไม่ทำให้ฉันเจ็บปวดเลยถ้าเธอแค่ต้องการจะเกี่ยวดองกับราชวงศ์ หรือทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่ฉันก็ไม่เห็นอะไรอย่างนั้นบนใบหน้า
อันยิ้มแย้มของเธอเลยน่ะสิ กลายเป็นลูกสาวของท่านหญิงเอ็มม่าก็ฟังดูไม่เลวนะ แต่ว่า... ฉันทำไม่ได้ ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะยกทุกอย่างของฉันให้กับ
ท่านผู้บัญชาการ ถึงฉันจะยังไม่ได้เจอเขาเลยก็เถอะ หรือฉันควรจะบอกไปตรงๆ เลยดีนะ ในสถานการณ์อย่างนี้ตัวฉันที่มีอายุวิญญาณมากกว่า 20 ปี
ก็ไม่สามารถมองจอร์จที่มีอายุแค่ 7 ปีในทางรักๆ ใคร่ๆ ได้ เหงื่อฉันเริ่มไหลออกมาเนื่องจากแรงกดดัน แต่ก็มีมือยื่นเข้ามาช่วยจากคนที่ไม่คาดคิดมาก่อน
“มันยังเร็วเกินไปนะน้องหญิง”
ท่านจูเลียสที่เงียบมาจนถึงเมื่อสักครู่วางถ้วยน้ำชาลง แล้วระบายยิ้มบนริมฝีปาก
“เอ๋ ท่านคิดเช่นนั้นหรือคะ?”
“ใช่แล้วล่ะ เจ้าหญิงอาจจะดูเฉลียวฉลาดเกินวัย แต่ท่านก็เพิ่งจะอายุ 6 ปี ยังมีเวลาอีกมากที่จะพูดเรื่องแต่งงานนะ น้องเอาแต่รบกวนท่านอยู่เรื่อยเลย” ”
เขาดุ ท่านหญิงเอ็มม่าดูสลดลงทันที
“เข้าใจแล้วค่ะ... ต้องขออภัยด้วยนะคะท่านแมรี่ ข้าไม่ได้มีเจตนาจะรบกวนท่านเลยแม้แต่น้อย แต่ข้าอาจจะรีบมากเกินไป”
“ไม่หรอกค่ะ โปรดอย่าคิดมากเลย มันทำให้เรามีความสุขจริงๆ ที่ท่านอยากให้เราไปเป็นลูกสาวของท่าน” ”
ในความหวาดกลัว ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันเลิกลังเลและกระโดดลงไปอย่างกล้าหาญ นี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวที่มีก็ได้
“คือว่า... เรามีคนที่สนใจอยู่แล้วค่ะ”
“... ฮะ?!” “อะไรนะ?!” ”
คนแรกที่ตอบสนองต่อคำพูดของฉันคือจอร์จ จากนั้นคือท่านหญิงเอ็มม่า และคนสุดท้ายคือท่านจูเลียส จอร์จลุกขึ้นด้วยใบหน้าซีดเผือด ท่านหญิงเอ็มม่า
เบิกตากว้าง ส่วนท่านจูเลียสเพียงแค่ยิ้ม แล้วมองมาอย่างสนใจ
“ว้าว! เขาเป็นใครกันหรือคะ?” ”
ฉันคิดว่าท่านหญิงเอ็มม่าคงจะผิดหวังมาก แต่เปล่าเลย เธอดูกระตือรือร้นมาก ดูเหมือนเรื่องความรักนี่จะเป็นที่นิยมของผู้หญิงทุกโลกเลยสินะ!
พอไล่ผู้ชายออกไปหมดแล้ว ท่านหญิงเอ็มม่าก็คะยั้นคะยอจนสุดท้ายฉันก็ต้องยอมแพ้ ฉันยังไม่ได้พบกับท่านผู้บัญชาการอัศวินหลวงเลย ดังนั้นมันคงทำให้
เรื่องยุ่งยากขึ้น แต่ฉันก็ตอบไปอย่างคลุมเครือ และดูเหมือนเธอจะเข้าใจด้วย ขณะที่ฉันกำลังจะกลับนั่นเอง เธอก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า
“ข้าจะช่วยเองค่ะ!”
ไม่รู้จะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง... ฉันไม่อยากจะคิดถึงมันเลยซุป PotageCredit : https://paleoleap.com/pictures/2/carrot-potage-main-large-2.jpg
ที่มา : https://my.dek-d.com/Vandas/writer/viewlongc.php?id=1486732&chapter=6