ตอนที่ 137 ข้าจะส่งเจ้าไปสุขาวดี
แม้ว่า'เย่ว์หยาง'จะไม่สามารถฆ่านักรบหัววัว อสูรเงินระดับ 6 ได้ทันที แต่การจู่โจมอย่างเยือกเย็นของเขากลับทำลายตาทั้งสองของมันได้ ในอากาศ นักรบหัววัวสูญเสียกำลังเคลื่อนไหวและตาทั้งสองของมันถูกทำลาย
มันถูกฮุยไท่หลางกระโจนใส่เล่นงาน มันฝังเขี้ยวแหลมคมลงที่ขาของนักรบหัววัว มันยืมแรงเหวี่ยงจากตัวของมันพร้อมกับระเบิดพลังออกมา จากนั้นพุ่งเข้าใส่นักรบหัววัวและเหวี่ยงมันกระเด็นออกไป
ความเคลื่อนไหวแบบนี้เป็นผลจากการฝึกพิเศษที่ฮุยไท่หลางได้รับจาก'เย่ว์หยาง'หลังจากเขาได้ศึกษาจุดอ่อนของอสูรชนิดต่างๆ ยิ่งอสูรอยู่ห่างจากเจ้านายของตน ผลจากการควบคุมของเจ้านายมันก็อ่อนตามไปด้วย
ถ้าการเคลื่อนไหวของอสูรโง่อย่างนักรบหัววัวถูกเจ้านายควบคุมเบ็ดเสร็จ พลังต่อสู้ของมันจะมากขึ้นเหมือนกับเสือติดปีก ตรงกันข้าม ถ้ามันล้มเหลวในการรับคำสั่งที่เจ้านายสัตว์อสูรส่งออกมา และควบคุมนัยน์ตามันไม่ได้เหมือนเคย
มันกลายเป็นอสูรตาบอดไปแล้ว ฝีมือในการต่อสู้ของนักรบหัววัวจึงสูญเสียประสิทธิภาพไปมากมาย นักรบหัววัวล้มลงกับพื้นและมันโดดลุกกลับมาทันที ตาทั้งสองของมันมีเลือดพุ่งออกมา
อย่างไรก็ตาม ร่างกายที่ทรงพลังของมันยังมีความสามารถในการต่อสู้สูง
“งั้นมันก็ไม่ใช่อสูรพิทักษ์ ตายเสียเถอะ”
'เย่ว์หยาง'มีความคิดว่านักรบหัววัวเป็นอสูรพิทักษ์ในตอนแรก ใครจะรู้กันว่าผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น'ไม่ได้ควบคุมนักรบหัววัวไร้สมองตัวนี้ รังสีฆ่าฟันบนใบหน้าของ'เย่ว์หยาง'ปรากฏหนาขึ้นและด้วยท่าร่างที่เหมือนหงส์ทองเหินลงมาจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
เขาเตะเข้าที่หน้าของนักรบหัววัวจนมันกระเด็นไป 10 เมตร ตอนนี้นักรบหัววัวคลุ้มคลั่งไปแล้ว มันเหวี่ยงขวานอย่างบ้าคลั่ง แต่มันจะเคลื่อนไปฟัน'เย่ว์หยาง'ขณะที่มันยังตาบอดได้อย่างไร?
“กรรรร..”
ฮุยไท่หลางคำราม ด้วยพลังเสียงดังกึกก้อง มันกระแทกใส่เอวของนักรบหัววัวอีกครั้งจนมันถอยหลังไปหลายเมตร 'เย่ว์หยาง'กับฮุยไท่หลางร่วมมือกันขณะเข้าทำร้ายนักรบหัววัว โดยไม่สนใจผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น'
ผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น'โกรธจัดเพราะเขาถูกหักหน้า ภายใน 10 วินาทีนักรบหัววัวก็กระเด็นกลับไปเกินกว่าร้อยเมตรด้วยฝีมือ'เย่ว์หยาง'และฮุยไท่หลางร่วมกัน ที่ด้านข้างของศูนย์รักษาพยาบาลมีหน้าผาสูงร้อยเมตร
ผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น''เห็นดังนั้น ก็เข้าใจแผนรบของศัตรูเขาได้ทันที พวกเขาวางแผนทำลายดวงตาของนักรบหัววัวก่อน และจากนั้นไล่ต้อนทำร้ายให้มันตกหน้าผาสูง ผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น'เรียกอสูรสายเสริมพลังออกมาอีก 2 ตัวรวดเดียว และผสานร่างเข้ากับพวกมัน จากนั้นเขายกดาบวิ่งเข้าใส่ศัตรูราวกับสายฟ้า
“เจ้าหนูสกปรก อย่านึกว่าเจ้าจะหนีไปแบบนี้ได้นะ”
พอเห็นท้องฟ้าเต็มไปด้วยเงาดาบ สีหน้าของ'เย่ว์หยาง'ดูสงบลงขณะโยนวัตถุชิ้นหนึ่งออกมา นี่เป็นของที่เขาเก็บมาจากพ่อมดปีศาจซอร์จ
“ลูกบอลมิติมรณะ”
เมื่อมันแตกออก เจ้าสิ่งนี้จะเทเลพอร์ตผู้ใช้และคู่ต่อสู้เข้าสู่สมรภูมิดวลมรณะ เมื่อ'เย่ว์หยาง'เผชิญหน้ากับผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น'ผู้หยิ่งยโสที่สุดเท่าที่เคยพบมานี้ เขาก็ได้ลอบกำหนดแผนสังหารไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว
ถ้าผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น'ไม่มีการป้องกันจากโล่พลังของคัมภีร์อัญเชิญ 'เย่ว์หยาง'รู้ว่าการฆ่าคนผู้นี้จะเป็นงานสุดง่าย แต่ตราบเท่าที่เขาละทิ้งการป้องกันและเอาตัวเข้ามาเสี่ยง อย่างนั้นก็จะถึงเวลาตายของเขาทันที ผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น'นี้เป็นนักรบผู้กล้าแน่นอน
เขาเชี่ยวชาญในการใช้อสูรสายเสริมพลัง 'เย่ว์หยาง'คาดว่า อสูรทั้งสองของเขาไม่ได้อ่อนแอกว่า
“หมีมาตุภูมิ”
อสูรชั้นทองที่อยู่ในตัวของผู้เฒ่า'เย่ว์ไห่' ความจริงมีแนวโน้มเป็นไปได้ว่า เขามีทักษะรบของนักสู้ระดับ 7 (เหนือมนุษย์) เหมือนกับ'จุนอู๋โหย่ว'ฮ่องเต้แห่งอาณาจักรต้าเซี่ย เจ้าผู้นี้เป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือยากแน่นอน เทียบกับอาจารย์ผู้สอนของ'เย่ว์เฟิง', ผู้เฒ่า'หมิง'
ความแข็งแกร่งของเขาจะมากกว่าถึง 2-3 เท่า 'เย่ว์หยาง'เคยได้ยินมาก่อนว่าภายใต้การนำของประมุขนิกายไป่หยุน นิกายภูเขาหมอกมี 2 ปรมาจารย์ และ 4 ผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่ เขาคาดว่าผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น'นี้ มีพลังมากและสามารถมองข้ามอาณาจักรต้าเซี่ยได้
อาจเป็น 1 ใน 4 ผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่ได้มากที่สุด ถ้าเขาไม่ใช้กระบี่ไร้ลักษณ์ปราณก่อกำเนิดของเขา อย่างนั้นคงเป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะเจ้าผู้นี้ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าศัตรูไม่ตายหลังจากเขาใช้กระบี่ไร้ลักษณ์ปราณก่อกำเนิดแล้วยังหลบหนีไปได้
ความจริงที่ว่า'เย่ว์หยาง'เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดจะถูกรายงานไปยังประมุขนิกายไป่หยุนทันที ดังนั้น เขาจะต้องตาย 'เย่ว์หยาง'ใช้ลูกกลมมิติมรณะอย่างไม่เต็มใจนัก ประกายแสงสีม่วงเข้มกระจายออก
ในทันทีที่ดาบของเขากระแทกลูกกลมมิติมรณะจนแหลกและปล่อยคลื่นแสงกระจายออกมาโดยรอบ ขณะที่ผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น'ถูกคลื่นกระแทกปกคลุม เขาไม่สามารถโดดหลบได้ทันเวลา ร่างของเขาถูกลำแสงกวาดใส่เต็มที่แล้วเขาก็หายเข้าไปอยู่ใน
“สมรภูมิดวลมรณะ”
'เย่ว์หยาง'ก็หายไปในเวลาเดียวกัน แต่ฮุยไท่หลางหลบหนีไปทางตรงกันข้าม และมันกระโจนห่างออกมาอย่างประหลาดใจ เมื่อการเทเลพอร์ตเสร็จสิ้นลง มันหลอกล่อให้นักรบหัววัวตามมาที่ขอบหน้าผา
จากนั้นก็ใช้ตัวมันกระแทกใส่นักรบหัววัวจนสุดกำลังของมัน ทำให้นักรบหัววัวร่วงตกหน้าผาสูงลงไป มันรีบวิ่งกลับมาและพุ่งเข้าใจปีศาจหมอกที่ห่อหุ้มหมอหญิงสูงวัยไว้ในหมอก ไม่มี'เย่ว์หยาง'อยู่ที่นี่
เห็นชัดว่ามันไม่ต้องเกรงใจใครแล้ว มันเริ่มกระทำนอกคำสั่งทันที ในอีกด้านหนึ่งของศูนย์การแพทย์ บุรุษตาอินทรีใช้ดาบใหญ่ฟันใส่งูขาวยักษ์ที่พยายามขดรอบตัวเขาอย่างดุเดือด แต่งูขาวยักษ์ตัวนั้นเจ้าเล่ห์ ใช้ขนดหางของมันรัดบุรุษตาอินทรี
มันรัดรอบเขาอย่างแรง เกราะดำของบุรุษตาอินทรีถูกทำลาย และร่างของเขาถูกบีบรัดทรมาน โชคดีที่การป้องกันตัวของเขาดีเยี่ยมและอาการบาดเจ็บที่เขาได้รับก็ยังไม่หนักมาก เขายังคงสู้ต่อไปได้ บุรุษตาอินทรีเจ็บปวดใจจนไม่อาจพูดออกมาได้
เขาไม่สามารถเรียกอสูรของเขาออกมาได้เพราะอสูรประเภทงูยักษ์ที่เขาเจอมันอยู่นี้เป็นดาวข่มของอสูรของเขา เขาจึงจำใจต้องใช้พลังของตนเองสู้กับงูยักษ์อสูรเงินระดับ 8 ในแผ่นดินมังกรทะยาน ผู้ใช้ลูกกลมมิติมรณะ
จะถูกเทเลพอร์ตส่งไปยังสมรภูมิดวลมรณะพร้อมกับคู่ต่อสู้ สมรภูมิดวลมรณะนี้ จะแตกต่างจากสมรภูมิดวลมรณะในแดนปีศาจเล็กน้อย พื้นที่แห่งนี้ใหญ่กว่าและสว่างกว่าเล็กน้อย ต่างจากสนามรบดวลมรณะในแดนปีศาจที่จะมืดกว่า
ซึ่งจะช่วยให้เผ่าพันธุ์ปีศาจได้เปรียบในการต่อสู้ สนามรบดวลมรณะอย่างนี้เหมาะกับการต่อสู้ระหว่างนักรบมนุษย์กันเอง
“ดี, ทำได้ดีนี่ เจ้าหนูสกปรก”
ตอนนี้ ผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น'โกรธจนได้ เขารู้สึกขายหน้า และนี่คือการขายหน้าที่มาจากการรู้ตัวว่าตนเองต้องเล่นตามบทที่คนอื่นกำหนด
“เจ้าหมาแก่! นี่คือคำพูดสุดท้ายของเจ้าใช่ไหม?”
'เย่ว์หยาง'ยังจะทำเป็นมีมารยาทต่อเขาทำไม? เขาเรียกนางพญากระหายเลือดและโคเงาออกมาทันที
“นางพญากระหายเลือดหรือ? จ้าวอสูรทอง นางพญากระหายเลือดหรือนี่?”
หน้าของผู้เฒ่า'เทียนเจิ้น'เปลี่ยนแปลงทันที หัวใจเขาเต้นรัว ไม่สามารถทำใจเชื่อได้ว่าเจ้าเด็กนี่จะเรียกอสูรทองในระดับที่เขาไม่สามารถครอบครองได้ ความริษยาเกิดขึ้นในใจเขา รังสีฆ่าฟันฉายแววอยู่ในดวงตาของเขามากกว่าเดิม
ถ้าเขาไม่ฆ่าเจ้าเด็กนี่ในตอนนี้ เขาจะผ่านคืนวันได้อย่างยากลำบาก โชคดีที่นางพญากระหายเลือดยังมีระดับที่ไม่สูงนัก นางเป็นแค่อสูรทองระดับ 4 มิฉะนั้น ในวันนี้ ไม่มีใครมั่นใจว่าเป็นฝ่ายชนะ นางพญากระหายเลือดบินขึ้นไปอยู่กลางท้องฟ้า
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การควบคุมของ'เย่ว์หยาง' โคเงายังไม่เริ่มเปิดฉากโจมตีทันที มันตาม'เย่ว์หยาง'อยู่ข้างหลังอย่างใกล้ชิด รอโอกาสเคลื่อนไหวโจมตี สำหรับต้นดอกหนาม, เสี่ยวเหวินหลี, และอสูรทองตัวเล็ก 'เย่ว์หยาง'สำรองเอาไว้
เขากะไว้ว่าจะเอาไว้เป็นไม้ตายระหว่างลอบโจมตี ผู้เฒ่า'เทียนเจิ้น'ดูเหมือนจะมีประสบการณ์ในการต่อสู้มามาก เขาไม่สามารถอัญเชิญคัมภีร์ของเขาได้อีก แต่เขาไม่ได้ใส่อสูรทั้งหมดของเขาลงในคัมภีร์ชั้นแพลตตินัม
เขาล้วงเอาแก้วผลึกที่เปล่งแสงออกมาจากนั้นเรียกอสูรภูผา อสูรทองแดงระดับ 7 ออกมาสู้กับโคเงาเถื่อนอสูรทองแดงระดับ 5 สำหรับนางพญากระหายเลือด เขาเรียกค้างคาวปีศาจสายฟ้า อสูรทองแดงระดับ 7
ค้างคาวปีศาจตัวนี้มี 2 หัวเคลื่อนไหวด้วยความเร็วดุจสายฟ้า และสามารถรับมือนางได้ ผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น'ในตอนแรกคิดว่า'เย่ว์หยาง'จะซ่อนตัวอยู่ภายในโล่แสงแทนที่จะออกมาสู้ แต่ใครเล่าจะคิดกันว่า'เย่ว์หยาง'กลับออกมา
อยู่ห่างจากคัมภีร์อัญเชิญของเขา พอเห็นว่า'เย่ว์หยาง'อยู่ห่างจากคัมภีร์ของเขา ผู้เฒ่า'เทียนเจิ้น'หัวเราะอย่างผยอง
“เจ้าคิดว่าสามารถเอาชนะข้าได้ด้วยนางพญากระหายเลือด อสูรทองระดับ 4 ของเจ้าหรือ? ตลกจริงๆ!”
'เย่ว์หยาง'ไม่ตอบ เขากลับยกดาบวิเศษฮุยจินในมือแทน เปลวเพลิงสีม่วงพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น'ฟาดฟันดาบโจมตีอย่างโหดเหี้ยมและมันใจในฝีมือตนเอง 'เย่ว์หยาง'หายไปราวกับกลุ่มควัน ขณะที่เขาเข้าจู่โจมอสูรศิลาทันที
“เจ้าโง่! เจ้ากำลังหาที่ตาย”
ผู้เฒ่า'เทียนเจิ้น'คิดว่าต้องการฆ่าอสูรศิลาของเขาด้วยความละโมบก่อน จากนั้นจึงร่วมมือกับโคเงาของเขามารุมสังหารตัวเขาเอง เขาแค่นเสียงดูถูกพลางใช้ดาบทันที เขากวัดแกว่งดาบไล่ฟัน'เย่ว์หยาง'อย่างกระชั้น
ขณะที่อสูรศิลายกกระบองยักษ์ของมันฟาดไปรอบๆ อย่างโง่เขลา โคเงาที่อยู่ต่อหน้ามันหลบการโจมตีตามตำแหน่งที่'เย่ว์หยาง'ส่งกระแสจิตบอกนาง ดาบสังหารยักษ์ในมือของนางฟันลงเข้าที่เอวของอสูรศิลาอย่างหนักหน่วง ตัดจนก้อนหินกระเด็นออกไป
'เย่ว์หยาง'ก้าวมาถึงก็เหยียบหลังของโคเงาก่อนที่จะกระโจนขึ้นไปในอากาศ โคเงาเคลื่อนไหวประสานเข้ากับเขา และขณะที่นางหมุนตัว นางใช้มือดันส่งให้ร่าง'เย่ว์หยาง'บินสูงขึ้นไปกว่าเดิม
ร่างของ'เย่ว์หยาง'พุ่งข้ามท้องฟ้าเหมือนกับดาวตก ตรงเข้าหาค้างคาวปีศาจสายฟ้าและนางพญากระหายเลือดที่กำลังสู้อยู่กลางอากาศ ดาบของผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น'ฟันใส่อากาศ
เมื่อเขาตระหนักว่าเจ้าเด็กเจ้าเล่ห์หลบไปได้ เขาคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วย่อตัวกระโจนขึ้นไปในอากาศไล่ตามเย่ว์หยางราวกับพยัคฆ์ดุร้าย เขารู้สึกว่าตราบใดที่มันยังเป็นแค่วิทยายุทธ์ ไม่มีผู้เยาว์แม้แต่คนเดียวที่จะรับการไล่ล่าของเขาถึง 3 ครั้ง
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเพิ่มความแข็งแกร่งจากอสูรสายเสริมพลังถึง 2 ตัว ตราบใดที่เขาบีบให้เจ้าเด็กเปรตลงไปอยู่กับพื้นได้สักครั้ง แล้วมันจะถูกฆ่าทันทีอย่างแน่นอน แต่เจ้าเด็กเปรตนั่นก็หลบได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
มันตั้งใจหลบแทนที่จะหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา ค้างคาวปีศาจสายฟ้าไม่กลัวการโจมตีของ'เย่ว์หยาง'เลย มันมั่นใจในความเร็วของมัน และมันใช้คลื่นเสียงตรวจสอบตำแหน่งของศัตรูได้ก่อน
ตอนแรกมันใช้หัวทั้งสองผลัดกันยิงลูกกลมไฟฟ้าที่มีกระแสไฟหุ้มอยู่รอบมีเสียงเหมือนผีผา (กีตาร์จีน) จากนั้นใช้ปีกยักษ์ของมันสร้างคลื่นไฟฟ้านับไม่ถ้วนขณะที่มันกระพือไปรอบๆ การโจมตีก่อนนั้นเป็นทักษะธรรมชาติของค้างคาวปีศาจสายฟ้า
ขณะที่การโจมตีเสริมครั้งหลังถูกควบคุมโดยผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น' ในสายตาของผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น' ตราบเมื่อเจ้าจิ้งจอกน้อยนี่แตะต้องคลื่นไฟฟ้าแม้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจะโดนไฟฟ้าดูดจนเป็นอัมพาตทันทีแล้วร่วงลงพื้น หมดหวังที่จะกลับมาได้อีก
ผู้เฒ่า'เทียนเจิ้น'ไม่มั่นใจว่าการโจมตีด้วยกระแสไฟฟ้าจะฆ่าศัตรูของเขาได้หรือไม่ แต่เมื่อร่างกายของเจ้าเด็กนี่เป็นอัมพาต แม้ว่าจะเป็นเพียงชั่วครู่ดาบของเขาสามารถเปลี่ยน'เย่ว์หยาง'ให้กลายเป็นผีได้...
“เจ้ามาได้ถูกเวลาทีเดียว”
จู่ๆ 'เย่ว์หยาง'ก็หมุนดาบวิเศษฮุยจินอย่างลึกลับ เขาปลดปล่อยพลังทรงกลม พลังโจมตีที่เขาค้นพบด้วยตนเอง ปลาแฝดหยินหยางที่ไล่กวดกันและกัน พลังคลื่นไฟฟ้าถูกตัดผ่านทันทีที่มันสัมผัสดาบที่หมุนวนของเขา
ขณะที่ลูกบอลไฟฟ้าทั้ง 2 ลูกเข้าโจมตี มันเปลี่ยนรูปเป็นวงกลมหยินหยางในทันใด คลื่นไฟฟ้าที่ยุ่งเหยิงสับสนในท้องฟ้าก่อนหน้านี้ถูกดูดซึมเข้าไปตามแรงหมุนวนของดาบ และเปลี่ยนเป็นวงกลมหยินหยางที่สวยงามสมบูรณ์
'เย่ว์หยาง'ใช้มือขวาควบคุมวงกลมไฟฟ้าให้มารับดาบที่ผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น'เล็งมาที่หลังของเขา ผู้เฒ่า'เทียนเจิ้น'ถึงกับตะลึง วิทยายุทธ์ที่ลึกซึ้งเหมือนมีมนต์ขลัง สำหรับเขาไม่เคยแม้แต่จะได้ยินมาก่อน นี่...เป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน?
นี่คือยอดวิชาใดกันแน่? ในท้องฟ้า นางพญากระหายเลือดเคลื่อนไหวทันทีด้วยความเร็วที่เขาไม่สามารถเห็นชัดได้ด้วยตาเปล่า นางบินโฉบลงแล้วใช้ดาบจันทร์เสี้ยวฟันลงตรงกลางหัวข้างหนึ่งของค้างคาวปีศาจสายฟ้าที่สูญเสียพลังไฟฟ้าไปจนขาดกลาง
มีดทองฆ่ามังกรในมือของนางพญากระหายเลือดอีกข้างหนึ่ง แทงเข้าที่ไหล่ขวาของค้างคาวปีศาจสายฟ้า ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งหัวใจของมัน จากนั้นแทบจะทันที
'เย่ว์หยาง'มาถึงก็ฟันที่อกของค้างคาวปีศาจสายฟ้าด้วยดาบวิเศษฮุยจิน จากนั้นใช้มืออีกข้างจับค้างคาวยักษ์เหวี่ยงมันตรงไปที่ผู้เฒ่า'เทียนเจิ้น' ที่เพิ่งจะหลบดาบที่แฝงพลังหยินหยางตามมา ประกายดาบของเขาจำแนกไม่ได้ว่าใครเป็นมิตรหรือศัตรู
มันฟันเข้าใส่ค้างคาวปีศาจสายฟ้าที่บาดเจ็บหนักอยู่แล้ว จนขาดเป็นสองส่วน 'เย่ว์หยาง'พุ่งมาถึงและด้วยความช่วยเหลือจากนางพญากระหายเลือด เขากระโดดต่อโดยใช้ซากของค้างคาวปีศาจสายฟ้าที่ถูกฆ่าตายไปแล้วเป็นที่หยั่งเท้า
ขณะที่ผู้เฒ่า'เทียนเจิ้น'ต้านรับการโจมตีด้วยท่าทีหยิ่งยโส 'เย่ว์หยาง'และนางพญากระหายเลือดร่วมกันบุกใส่เขาทันที นางพญากระหายเลือดไปทางด้านขวาใกล้หูของผู้เฒ่า'เทียนเจิ้น'แล้วอ้าปากปล่อยคลื่นเสียงกรีดร้องทันที
“ฮ้าาาาาาาาาาาา..........”
ผู้อาวุโส'เทียนเจิ้น'รู้สึกว่าสมองของเขาว่างเปล่า ทั้งที่มีอสูรเสริมพลังไว้คอยปกป้องแล้ว เขาไม่สามารถต่อสู้กับพลังโจมตีได้ขณะที่เขายังรู้สึกมึน ในที่สุดเมื่อเขาหมดความรู้สึกมึนงง จู่ๆ เขาก็มองเห็นรูปวงกลมหยินหยางไฟฟ้าพุ่งมาหาเขาอย่างเร่งร้อน
เขาไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่ตกใจอย่างหนัก และตาของเขาพยายามดูรอบๆ ขณะพยายามหลบมัน... 'เย่ว์หยาง'พูดอย่างเย็นชา
“สายไปแล้ว ข้าจะส่งเจ้าไปแดนสุขาวดี”
*********************
ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=137