ตอนที่ 128 หญิงแพนด้าหนิวหนิว
พื้นที่ของสถาบันฉางชุนเฉิงกว้างใหญ่มาก อย่างน้อยใหญ่กว่าที่'เย่ว์หยาง'เคยจินตนาการไว้ถึง 10 เท่านอกจากมีอาคารที่แตกต่างกันแล้ว ยังมีแม้กระทั่งเนินเขาเขียวเล็กหรูหราและทะเลสาบธรรมชาติด้วย 'เย่คง'บอกว่าใต้ทะเลสาบ มีอสูรในตำนานก็คือ เต่าหมื่นปีที่เป็นเหมือนผู้คุ้มครองอาณาจักรต้าเซี่ย แน่นอนว่าอสูรพิทักษ์แห่งอาณาจักรนี้ไม่รู้วิธีต่อสู้เลย มันต่างจากสัตว์อสูรตามปกติ มันเป็นเพียงอสูรที่มีอายุยืนยาวและได้รับยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์แห่งโชค
ดังนั้นมันจึงเป็นเหมือนอสูรพิทักษ์ของอาณาจักรนอกจากนี้ยังมีทางเดินยาวและศาลาเหนือผิวทะเลสาบ มีเรือ 2 ลำจอดเทียบอยู่ข้างๆเดิมทีมันเคยใช้เป็นสถานที่ให้นักเรียนได้ฝึกเรียกอสูรน้ำ อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ สถานที่นี้ถูกยึดไปเป็นที่ฝึกร้องรำทำเพลงโดยนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งกลายเป็นที่ฝึกร้องรำทำเพลงไปโดยปริยายบนชายฝั่งเขียวของทะเลสาบ มีศาลาอยู่ไม่กี่หลัง มีอาคารที่โดดเด่นน่าสนใจสามารถมองเห็นได้จากทุกที่ ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ที่เขียวชอุ่มกอปรเป็นภาพที่สวยงามสร้างความอบอุ่นใจให้กับผู้ที่พบเห็นมีบ้านพักหลายหลังอยู่ตรงกึ่งกลางภูเขา กระจัดกระจายเหมือนดาวในท้องฟ้า ตรงกลางจะมีอาคารขนาดใหญ่อยู่หลังหนึ่ง
"พวกผู้หญิงจะอาศัยอยู่ในบ้านพักขณะที่พวกเราจะพักกันที่หอพักหลังสูงใหญ่ อาคารมหึมาที่อยู่ตรงกลางจะมีร้านอาหารและห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน ทั้งหญิงและชายจะอาบน้ำในบ่อขนาดใหญ่บ่อเดียวกัน แต่มีเขตแบ่งตรงกลาง สาวๆ สามารถไปอาบน้ำในฝั่งผู้ชายได้ แต่หนุ่มๆ จะไปอาบน้ำในฝั่งเดียวกับสาวๆ ไม่ได้ เว้นแต่หนุ่มๆ ที่เอาชนะ 4 องครักษ์ปีศาจได้ เราต้องจ่ายค่าห้องพักขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น เงื่อนไขใช้ได้ทีเดียว มาทางนี้สิ"”
'เย่คง'ยังบรรยายสถานการณ์ต่างๆ ของสถาบันให้'เย่ว์หยาง'ฟังตลอดทาง
"ข้าคิดว่าหากเราอยู่สูงเกินไป มันคงลำบากอีตอนลงมา อย่างไรก็ตาม เราสามารถสำรวจความเคลื่อนไหวบ้านพักนักเรียนหญิงได้จากตำแหน่งที่อยู่สูง ยังนับว่าไม่เลยอยู่นะ" เจ้าอ้วนไห่อธิบายต่อ "นี่มันหอพักนักเรียนไม่ใช่เหรอ?"”
'เย่ว์หยาง'ถูกดันกระเด็นเมื่อเขาเดินเข้าไปข้างใน สภาพแวดล้อมในโรงเรียนนี้ดีเกินไปจริงๆ ไม่ใช่เหรอ?ถ้า'เย่คง'ไม่พูด 'เย่ว์หยาง'คงจินตนาการไม่ออกเลยว่า สถานที่ซึ่งตกแต่งภายในไว้อย่างงามสง่า เครื่องประดับสวยงามเหมือนในวังจะกลายเป็นหอพักนักเรียนไปได้ 'เย่ว์หยาง'ไม่เคยไปราชวังมาก่อน แต่เขารู้สึกว่าหอพักของสถาบันฉางชุนเฉิงเหมาะสำหรับให้เจ้าชายเจ้าหญิงได้พักอยู่มากกว่านักเรียนของสถาบันฉางชุนเฉิงไม่เพียงแต่อยู่ในสถานที่สะดวกสบายเท่านั้น ยังมีสภาพแวดล้อมเหมาะให้ชายหญิงคบหากันอีกด้วย แล้วพวกเขายังจะมีแรงจูงใจให้เล่าเรียนศึกษาอีกหรือ?
'เย่ว์หยาง'ไม่กล้าคิดเกี่ยวกับคำถามนี้... เขาต้องเสียเวลาในการเรียนสถาบันแห่งนี้อยู่แล้ว มีนักเรียนเพียง 300 กว่าคน พวกเขาก็ยังสร้างส่วนประกอบของโรงเรียนได้ใหญ่โตขนาดนี้ พวกเขาไม่คิดว่ามันฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลืองเกินไปหรือ? 'เจ้าอ้วนไห่'บอกว่า แม้สถาบันฉางชุนเฉิงจะถูกมองเป็นสวะ แต่ส่วนประกอบของโรงเรียนแค่เล็กกว่าสถาบันฉางจิงเพียงเล็กน้อยสถาบันฉางจิงที่ฝั่งตรงข้ามมีนักเรียนเกินหมื่นคน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแออัดเลยสถาบันฉางชุนเฉิงมีคนเพียง 300 คน มันช่างว่างเปล่าจริงๆ ดูราวกับไม่มีคนเลย
'เย่ว์หยาง'ไม่อาจจินตนาการได้ว่า ในฉางจิงที่ซึ่งที่ดินมีราคาสูงลิ่ว พวกเขาจะปล่อยให้สถาบันว่างเปล่าแบบนั้นได้อย่างไร?โชคดีที่ไม่มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใดๆ ในทวีปมังกรทะยาน มิฉะนั้น 'เย่ว์หยาง'คาดว่าสถาบันฉางชุนเฉิง จะต้องโดนจัดสรรหั่นแบ่งที่ดินและสุดท้ายก็ต้องย้ายไปที่อื่นเมื่อ'เย่ว์หยาง'เขาไปในหอพักนักเรียน รองอาจารย์ใหญ่ จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ มาปรากฏตัวต่อหน้า ขณะที่เขายังไม่สามารถให้บทเรียน'เย่ว์หยาง'ได้ เขาจัดเสื้อผ้าให้กระชับแน่นและพยายามอย่างหนักที่จะปั้นหน้าที่ถูก'เย่ว์หยาง'ซ้อมและฝืนยิ้มออกมา แค่ฝืนยิ้มเท่านั้น จากนั้นเขาผลักประตูเดินเข้าไปข้างใน เขาเดินขึ้นบันไดจนมาถึงห้องพักในชั้นสาม เคาะประตูไม้เบาๆ เขาพูดเสียงนุ่มนวลว่า
"ลูกรักของพ่อ! ให้พ่อเข้าไปได้ไหม?"
"ในช่วงเวลาทำงาน ช่วยเรียกข้าว่าอาจารย์ใหญ่เถอะ"”
น้ำเสียงไพเราะกังวาลเนิบนาบดังออกมาจากข้างใน
"ก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? เจ้าเป็นอาจารย์ใหญ่ แล้วยังเป็นธิดาข้าด้วย.."”
จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ดูเหมือนจะไม่ถือสาน้ำเสียงที่ห่างเหินเย็นชา หัวเราะคิกคักขณะสาวเท้าเข้ามาในห้อง
"ท่านมาที่นี่ทำไม? แล้วทำไมถึงถูกทุบตีหนักขนาดนั้นเล่า?"”
หญิงงามชุดขาวกำลังคร่ำเคร่งทำงานอยู่ข้างในมองดูเหมือนกล้วยไม้ขาวสะอาด ผมยาวของนางห้อยสยายเหมือนสายน้ำตกปกคลุมไหล่ทั้งสองขับเน้นดูแกร่ง มือของนางขาวราวหิมะ การณ์กลับกลายว่าจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ผู้ปั้นยิ้มตลอด เหมือนกับเป็นอีกคนหนึ่งยามอยู่ต่อหน้านาง ในขณะนั้น เขากลายเป็นพ่อแม่ที่น่ารักที่สุดในโลก จนถึงเวลานี้หญิงงามชุดขาวทำงานของนางอยู่ในที่สุดนางก็หยุดและเงยหน้าขึ้น เผยให้ประกายตาที่น่ารักของนาง นางมองดูหน้าจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ และใบหน้าน้อยๆที่ดูบอบบางงดงามจนล่มได้ทั้งอาณาจักรแสดงความแปลกใจถามว่า
"มีอะไรผิดปกติหรือ?"
"ไม่มีอะไรผิดหรอก ข้าแค่โดนนักเรียนใหม่ที่น่าสนใจมันซ้อมเอา...เอ๊ย..ไม่ใช่ ข้าหมายความว่า ข้าแค่ไม่รู้ว่าเขาจะซ้อมข้า จู่ๆ ก็มาซัดข้าไม่ทันตั้งตัวเลย มิฉะนั้นข้าคงทุบตีกลับไปบ้างแล้ว"”
จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์หัวเราะช้าๆ
"นักเรียนใหม่คนนี้ น่าสนใจจริงๆ เขาแข็งแกร่งสุดๆ แต่ความรู้พื้นฐานของเขาก็ห่วยสุดๆ เหมือนกัน เขาไม่รู้ว่าผู้แข็งแกร่ง คนที่มีทักษะจะใช้มัน ม้วนท้าประลองระดับยาก พอเห็นเขาโง่อย่างนั้นแล้ว ข้าก็เลยหลอกให้เขากลัว ฮ่าฮ่าฮ่า... เมื่อใดก็ตามที่ข้านึกถึงหน้าโง่ๆ ของเขา ข้าอยากจะหัวเราะดังๆ แต่เขาแข็งแกร่งจริงๆ นะ มังกรบินแม็กม่าที่ข้าบ่มเพาะมาอย่างระมัดระวังโดนเขาฆ่าตายภายใน 10 นาที น่าเสียดายที่ข้าไม่เชี่ยวชาญเรื่องมิติต่างๆ ก็เลยไม่เห็นวิธีต่อสู้ของเขา มิฉะนั้นข้าคงได้เห็นว่าเจ้าเด็กตัวแสบนี้หาวิธีฆ่ามังกรแม็กม่าของข้าได้อย่างไร"
"เขาใช้วิทยายุทธฆ่ามัน"”
หญิงงามชุดขาวตอบ
จากนั้นก็กลับไปทำงานของนางต่อ นางกำลังเขียนอะไรบางอย่าง
"เจ้ารู้ได้อย่างไร?"”
จิ้งจอกเฒ่าแปลกใจ
"นักเรียนใหม่คนที่ทุบตีท่านและเพิ่งลงทะเบียนเสร็จไม่นานมานี้ ต้องเป็นคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์แน่นอน ข้าได้ยินเรื่องของเขาจากเชี่ยนเชี่ยนมาก่อน เพื่อต้องการพาแม่สี่กลับมากู้คืนศักดิ์ศรี เด็กคนนั้นใช้กำลังป่าเถื่อนบุกลุยผ่านหมู่บ้านตระกูลเย่ว์และฆ่าคนจนมาถึงปราสาทตระกูลเย่ว์ ถ้าไม่ใช่เพราะผู้บัญชาการเย่ว์ไห่ปรากฏตัวมาห้ามเขาทันเวลาล่ะก็ เขาคงจะฆ่าคนในตระกูลเย่ว์จนเลือดนองเป็นสายธารแน่ เนื่องจากท่านค้นคว้าศึกษาเรื่องม้วนมิติมาตลอด ท่านถึงไม่รู้เรื่องราวของเขา"”
สตรีงามชุดขาวพูดเหมือนกับว่านางคุ้นเคย'เย่ว์หยาง'เป็นอย่างมาก
"มิน่าเล่า, ข้าคิดว่าเจ้าเด็กนั่นดูคล้ายอยู่บ้าง กลับกลายเป็นว่า เขาคือบุตรของเย่ว์ชิวนั่นเอง"”
จิ้งจอกเฒ่าโพล่งออกมา
"เขาแข็งแกร่งมาก เมื่อเร็วๆ นี้ที่หุบเขาอินทรีร้อง เขากับเชี่ยนเชี่ยนเอาชนะหมอผีปีศาจได้โดยลำพัง.. เชี่ยนเชี่ยนคาดว่าเด็กคนนั้นไม่ยอมศึกษาอะไรเลยเมื่อคราวที่เขาหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน ความจริงแล้วเขาฝึกแต่วิทยายุทธ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้สามัญสำนึกของเขาแย่และจะยากที่จะเอาตัวรอดได้ ถ้ามีคนในโลกนี้ที่ไม่มีความสามารถพอจะแยกแยะความแตกต่างระหว่างต้นใบผีเสื้อและต้นถั่ว ก็คงจะเป็นเขานั่นแหละ ท่านอย่าเพิ่งวุ่นวายจับเขาไปฝึกในแดนอเวจีเชียวนะ ท่านควรจะยัดความรู้พื้นฐานใส่สมองเขาก่อน รองอาจารย์ใหญ่! ถ้าท่านไม่มีปัญหาอื่นจะพูดต่อ เชิญไปได้แล้ว"”
หญิงงามชุดขาวยังคงเย็นชากับบิดาของนาง นางปฏิบัติต่อเขาอย่างห่างเหินขณะที่เขาเดินจากไป
"เจ้านึกหรือว่า เจ้าตัวลามกน้อยนั่นจะยอมฟังคำสอนของตาแก่กระดูกผุคนนี้? ข้าโดนมันทุบตีตั้งแต่วันแรก ถ้าขืนข้าต้องสอนเขาในอนาคต ข้าคงโดนตีตายเร็วๆ นี้ หรือไม่ก็หลังจากนั้นก็ได้"”
จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ส่ายศีรษะขณะหัวเราะลั่นเดินจากไป
"ตอนนี้ข้ายังคงคิดเรื่องผนึกอยู่ ดังนั้นข้าไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนี้ ไปตามพี่(หญิง)เย่ก็แล้วกัน"”
สตรีงามชุดขาวหันไปเขียนหนังสือลงกระดาษที่อยู่หน้านาง ไม่สนใจจิ้งจอกเฒ่าต่อไป
"ถ้าเจ้าขอให้นางผู้นั้นสอนนักเรียนคนหนึ่ง อย่างนั้นโลกคงปั่นป่วนแน่.."”
จิ้งจอกเฒ่าถอนหายใจ'เย่คง'กับพี่น้องตระกูลหลี่วุ่นวายกับการซื้อของไม่กี่ชิ้นให้'เย่ว์หยาง'ขณะที่'เจ้าอ้วนไห่'กำลังหาพ่อครัวที่ว่ากันว่ามาจากครัววังหลวงมาทำอาหารจานพิเศษฉลอง วัตถุประสงค์ไม่ใช่แค่เฉลิมฉลองต้อนรับ'เย่ว์หยาง'เท่านั้น แต่ยังเป็นการต้อนรับ'เย่ว์ปิง'ที่ย้ายเข้ามาเรียนด้วย มิฉะนั้นเขาคงไม่สุภาพและยอมฟุ่มเฟือยขนาดนั้นแน่เย่ว์หยางไม่มีอะไรทำในช่วงที่รอ เขาเห็นว่าเย่คงและคนอื่นๆ จะยังไม่กลับมาในช่วงเวลาสั้นๆ จึงตัดสินใจเดินสูดอากาศบริสุทธิ์สถาบันแห่งนี้ก็ไม่เลว จุดด้อยประการเดียวคือคนน้อยไปหน่อยไม่ค่อยมีเสียงมนุษย์ มีแต่เสียงนกและแมลง มันก็เงียบสงบดีอยู่เหมือนกัน แต่มันขาดความศิวิไลที่จะพึงมี
"แล้วไปเถอะ ยังไงเสีย เรามาที่นี่เพื่อเป็นนักเรียนที่ดีและตั้งใจเรียนต่างหาก"”
'เย่ว์หยาง'คิดว่า อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน ด้วยความเงียบสงบ เขาสามารถสงบใจเรียนรู้ความรู้พื้นฐานทั้งหมดที่เขาต้องการรู้โดยเร็ว จากนั้นค่อยไปฝึกหาประสบการณ์ต่อที่หอทงเทียนขณะที่เขาเตรียมตัวเป็นนักเรียนที่ดี ทันใดนั้นเขาพบสตรีกำลังมึนเมานางหนึ่งสวมชุดแดงรัดรูปกำลังเดินตรงมาหาเขา รูปร่างนางเซ็กซี่ยั่วยวนเดินเซขณะเข้ามาหาเขา ก้าวย่างของนางเหมือนแมวมึนชาเล็กน้อย
ดูเหมือนจะล้มได้ทุกเมื่อ 'เย่ว์หยาง'ตะลึง เป็นไปได้ว่าพี่สาวคนนี้คงเป็นอาจารย์ใหญ่ของสถาบันฉางชุนเฉิงแห่งนี้กระมัง?เหมือนแมวขี้เมา 'เย่ว์หยาง'คาดว่า นางคงไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ ถ้าหากเขาพานางกลับไปที่หอพักแล้วมีอะไรๆ กันเกินร้อยครั้งถ้าไม่ใช่เพราะมีทักษะญาณทิพย์ระดับ 3 มองเห็นอสูรที่ทรงพลังนอนหลับอยู่ในตัว "พี่แมวขี้เมา" ผู้นี้ คอยปกป้องนางอย่างเงียบๆ แล้ว 'เย่ว์หยาง'คงมีแรงกระตุ้นให้ก่อเรื่องลามกเป็นแน่
"อ๊า.. มีเด็กหนุ่มรูปหล่อเสียด้วย"”
นางแมวขี้เมาเห็น'เย่ว์หยาง'โดยบังเอิญไม่รอให้'เย่ว์หยาง'ได้โต้ตอบ นางเคลื่อนตัวเข้าหา'เย่ว์หยาง'ราวสายฟ้า ร่างของนางเบลอไปในชั่วพริบตาแล้วนางก็มาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้า'เย่ว์หยาง' ทำให้'เย่ว์หยาง'ที่มั่นใจในความว่องไวของตัวเองถึงกับตกตะลึงได้ 'เย่ว์หยาง'ตะลึงจ้องมอง เขาไม่เชื่อจริงๆ ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา นางแมวขี้เมามีกลิ่นเหล้าคละคลุ้งทั้งตัว ขณะที่นางเดินมาอย่างน่ารัก นางยื่นหน้าสีอมชมพูเข้ามาใกล้'เย่ว์หยาง' ตากลมโตของนางจ้องมอง'เย่ว์หยาง'อย่างตั้งใจ
"เจ้าก็ดูหล่อดีนะ เสียแต่ว่ายังเด็กเกินไป เจ้ายังเป็นเด็กคนหนึ่ง..นี่..เจ้าหนู.. เจ้าจูบเป็นหรือเปล่า? เจ๊จะสอนให้เอาไหม?"”
'เย่ว์หยาง'พยักหน้าทันที เมื่อเขาได้ยินนางกล่าวเจ๊แมวขี้เมาเผยอยิ้ม
"เด็กดี, แม้ว่าเจ้ายังเป็นเด็กน้อย เจ้าก็ยังหล่อ ดังนั้นข้าไม่ปล่อยเจ้า หลับตาซะ เจ๊จะสอนวิธีจูบให้"”
นางจะจูบเขาจริงๆ เหรอนี่?'เย่ว์หยาง'ตัดสินใจใช้ชีวิตรอแม่เสือสาว ไม่สิ หมายถึงนางแมวยั่วยวน เขาจะยอมให้เจ๊แมวขี้เมาผู้นี้ทำมิดีมิร้ายกับเขาก็ได้ขณะที่นางแมวขี้เมากำลังจะจูบเขา ทันใดนั้นแสงสีทองเปล่งออกมาจากตัวของนาง อสูรสีขาวดำกระโดดออกมาและต่อยเย่ว์หยางที่กำลังจะถูกผลักให้นอนลงกระเด็นออกไป ขณะที่สัตว์อสูรออกมาจากร่างนาง นางแมวขี้เมาก็ฝืนอาการเมาของนางต่อไปไม่ไหวล้มลงนอนกับพื้น
"โอว..พระเจ้า เด็กหญิงแพนด้า อสูรทองระดับ 5"”
เมื่อ'เย่ว์หยาง'พลิกตัวขณะที่ร่วงลงพื้น เขามองเห็นอสูรที่เห็นแล้วรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิดให้ได้อสูรร่างมนุษย์ที่ต่อย'เย่ว์หยาง'นี้เป็นอสูรที่ทรงพลังที่หลับอยู่ในตัวพี่สาวขี้เมานางนี้ ร่างมนุษย์ของเธอท้วมเล็กน้อย และน่ารักมีกลิ่นอายความเคร่งครัดเจ้าระเบียบอยู่ในตัว บนหัวของนางประดับไปด้วยผมเปียเล็กๆ มีลักยิ้มน่ารัก 2 ข้างประดับบนใบหน้าเธอ เธอมีนัยน์ตาโต จมูกเล็ก ปากน้อยๆ ดูอิ่ม มีฟันขาว หมัดของเธอตั้งอยู่ในท่าพร้อมสู้ คล้ายจะบอกว่า
"พร้อมจะทุบตีเจ้าอีก ถ้าเจ้ายังมองต่อไป"”
กำลังจ้องมอง'เย่ว์หยาง'เธอสวมชุดแปลกสีขาวดำหน้าผากของเธอมีการลงตัวอักษร "ราชา" เอาไว้ เป็นที่ชัดเจนว่าเธอคือ สาวแพนด้า แต่เธอกลับแสดงท่าทางเหมือนเสือ 'เย่ว์หยาง'เกือบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่เมื่อมองเธอ
"เดี๋ยวเจ็บตัวกว่านี้แน่ เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้หัวเราะ ไม่อย่างนั้นข้าจะโกรธจริงๆ นะ และข้าจะทุบตีเจ้า หากว่าข้าโกรธขึ้นมา"”
เด็กหญิงแพนด้านี้พูดได้ด้วย
"มานี่เถอะ, ข้าจะเลี้ยงขนมเจ้า"”
'เย่ว์หยาง'พยายามใช้วิธีนี้ มันช่วยกลบเกลื่อนได้
"มันหวานเกิน"”
สาวแพนด้านี้รับมือง่ายกว่า'เย่ว์ชวง'จอมซนเสียอีก นางไม่ต่อต้านลูกอม อย่างไรก็ตาม เมื่อนางเห็น'เย่ว์หยาง'ยิ้ม นางคายลูกอมหวานออกจากปากและคืนให้'เย่ว์หยาง'อย่างไม่เต็มใจ
"อย่าคิดว่าจะติดสินบนให้ข้าได้นะ หนิวหนิวไม่มีทางถูกศัตรูล่อลวงแน่"”
พอพูดอย่างนี้แล้ว เด็กหญิงแพนด้าผู้น่ารักดูเหมือนจะมีน้ำตาคลอเบ้า'เย่ว์หยาง'ไม่เคยเห็นอสูรโต้เถียงมาก่อนในชีวิตเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอคงอยากกินลูกอม แต่ยืนยันที่จะคืนให้เขา น้ำตาเอ่อขึ้นมาเต็มเบ้าตาเธอ ดูเหมือนพร้อมจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อเป็นครั้งแรกในชีวิตเขาที่'เย่ว์หยาง'รู้สึกผิดการรังแกเด็กน้อยเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง 'เย่ว์หยาง'เผยยิ้มจริงใจ เนื่องจากเขาไม่ใช่คนที่รังแกเด็ก เขารังแกพี่สาวคนนั้นแทนดีกว่า เขาเอื้อมมือไปลูบหัวเด็กหญิงแพนด้าเบาๆ จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มอ่อนโยน
"หนิวหนิวเป็นเด็กดีนะ พี่ชายไม่ใช่คนเลว พี่เป็นเพื่อนที่ดีกับพี่สาวที่นอนอยู่ตรงนั้น พี่สาวเมาหนัก และพี่ชายแค่จะพานางกลับไปจับกด..เอ๊ย..พี่หมายถึงพาไปสงบอารมณ์"
"จริงเหรอ?"”
เมื่อสาวแพนด้าหนิวหนิวได้ยินแบบนั้น นางจึงรับลูกอมกลับมาใส่ปากต่อ และอมมันอย่างตื่นเต้น อย่างไรก็ตาม ไม่กี่วินาทีต่อมา นางก็เริ่มสงสัยอีก
"แล้วพี่ชายเป็นเพื่อนของแม่จริงๆ เหรอ? ทำไมหนิวหนิวจำไม่ได้เลย? ไม่ถูกแน่ ท่านเป็นคนไม่ดี ข้าจะคืนลูกอมท่านทั้งหมด.."”
นางคายลูกอมที่กินไปครึ่งหนึ่งแล้วออกมาจากปากใส่ในมือน้อยๆ ของนางอีก และคืนให้เย่ว์หยางอีกครั้งใบหน้าที่น่ารักของเธอดูเหมือนกำลังจะร้องไห้อีกครั้ง
ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=128