ตอนที่แล้วตอนที่ 124 โจรนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 126 ทดสอบสุดเพี้ยน

ตอนที่ 125 ครูใหญ่แสนสวย


หลังจาก'เย่ว์หยาง'กลับมาปราสาทตระกูลเย่ว์แล้ว  องค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'ก็แยกจากมาและเข้าเฝ้า'จุนอู๋โหย่วฮ่องเต้'เพื่อรายงานเหตุการณ์สังหารหมอผีปีศาจที่หุบเขาอินทรีร้องที่เทือกเขากุ่ยเจี้ยนโฉว ตอนแรก'เย่ว์หยาง'คิดว่าเขาจะได้รับรางวัลทันที  เขาไม่เคยคิดว่า'จุนอู๋โหย่วฮ่องเต้'กลับทรงพิโรธ 'จุนอู๋โหย่วฮ่องเต้'ทรงคิดว่าเด็ก 2 คนนี้ไม่เพียงแต่ประมาทไม่รีบกลับมารายงานยามที่พวกเขาพบกับหมอผีปีศาจ

พวกเขากลับตัดสินใจสืบสาวด้วยตนเอง  ถือว่าเป็นการทำผิด  แม้ว่า'เย่ว์หยาง'และองค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'จะนำชัยชนะกลับมาบ้านได้ก็จริง แต่เขาคิดว่าเป็นการโชคดีแล้ว  ถ้าพวกเขาเจอพ่อมดปีศาจ (ลิช), หัวหน้าพ่อมดปีศาจแทนละก็  ชีวิตน้อยๆ ของพวกเขาจะตกอยู่ในอันตราย  จึงมีบัญชาให้กักบริเวณพระธิดาของพระองค์ผู้รับงานไปทำโดยพลการในค่ายทหารเป็นเวลา 3 เดือน

โชคดีที่'เย่ว์หยาง'ถูกตัดสินว่าเป็นผู้ถูกบังคับให้ร่วมงานกับองค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'และเป็นเหยื่อของความประมาทของพระธิดาของพระองค์ เขาจึงไม่ต้องรับโทษหนักมาก ทหารที่'จุนอู๋โหย่วฮ่องเต้'ส่งมา บอกว่าสำหรับมุกกันน้ำที่'เย่ว์หยาง'ต้องการ ไม่ใช่ว่า'จุนอู๋โหย่วฮ่องเต้'จะไม่พระราชทานให้เขา   เพียงแต่ว่าเขาต้องสอบผ่านความรู้ทั่วไปของการต่อสู้ของนักสู้เสียก่อน คำถามไม่ยากเกินไปสำหรับเขา  เขาน่าจะสอบผ่านได้ด้วยดี

อย่างไรก็ตาม นี่คือข้อสอบที่ไม่เหมือนการสอบในโรงเรียนทั่วไป สำหรับ'เย่ว์หยาง'แล้วมันทำให้ชีวิตยุ่งยาก  อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่'เย่ว์ปิง'ที่เรียนมาในสถาบันฉางจิงถึง 4 ปีก็ยังช่วย'เย่ว์หยาง'ไม่ได้เลย คิดจะโกงน่ะหรือ? เสียใจ ทำไม่ได้แน่ มีบางข้อที่ดูเผินๆ เหมือนจะง่าย  ยกตัวอย่างเช่น คำถามหนึ่งคือ  หอยสังข์ม่วงทองและเกลียวม่วงทองเกี่ยวข้องกันและกันอย่างไร? ตัวหนึ่งเป็นอสูรประเภทมีก้าม อีกตัวหนึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอสูรหุ่น  ใครจะไปรู้ได้ไอ้ 2 ตัวนี้มันเกี่ยวข้องกันและกันอย่างไร? 'เย่ว์ปิง'ก็ยังไม่เข้าใจ

ในที่สุด 'เย่ว์หยาง'ถือโอกาสถามปู่ห้าตอนที่ท่านเข้ามาเยี่ยม  ผู้อาวุโสห้าผงกหัวตีหน้าเคร่งขรึมบอกว่าทั้งสองต่างมีความสัมพันธ์ต่อกันและกันแน่นอน  ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันยังมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม  เมื่อ'เย่ว์หยาง'ถามเขาว่าพวกมันเกี่ยวข้องกันอย่างไร  ท่านผู้เฒ่ากลับแกล้งบอกว่าเป็นความลับ  ไม่ว่า'เย่ว์หยาง'จะแอบยุยง'เย่ว์ซวง'จอมซนให้ไล่ถอนเคราท่าน  ผู้เฒ่าก็ยังไม่ยอมบอกความเกี่ยวข้องกัน ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ตาม ตัวอย่างอื่นๆ เป็นคำถามง่ายๆ เรื่องสมุนไพร  ถ้านักรบคนหนึ่งถูกอสูรงูทรายลายดาวกัด  ยาชนิดไหนดีที่สุดในการรักษาได้ทันที?  น้ำลายของกิ้งก่าหลังหนามหรือว่าน้ำเลี้ยงของต้นราเงิน?

หลังจากค้นดูจากสารานุกรมสัตว์อสูรและยารักษาโรค  'เย่ว์หยาง'ดูอย่างใจหาย ทั้งนี้เป็นเพราะ ไม่ใช่แค่เพียงพิษของงูทรายเท่านั้น  ยาอีกสองอย่าง คือน้ำลายของกิ้งก่าหลังหนามและน้ำเลี้ยงของตะไคร่เงินทั้งหมดเป็นของเหลวมีพิษร้ายแรง  มนุษย์ปกติจะตายภายในอึดใจเดียวถ้าใช้อย่างใดอย่างหนึ่งทั้งสามมารักษาบาดเจ็บ  หรือว่าจะใช้หลักการพิษข่มพิษ?  'เย่ว์หยาง'เหงื่อตกเมื่อได้เห็นข้อเท็จจริงนี้   ช่างเป็นคำถามที่บ้าจริงๆ

แม้แต่'เย่ว์ปิง' นักเรียนตัวอย่างในสถาบันของนางก็ยังไม่รู้คำตอบ  แล้วตั้งคำถามแบบนี้มาได้อย่างไรกัน? มีบางคำถามที่'เย่ว์ปิง'ดูเหมือนทำได้ แต่ก็ทำไม่ได้  ตัวอย่างเช่น  ให้บรรยายระดับของสัตว์อสูร, คุณภาพของแก่นผลึกปีศาจ, หัวใจหุ่นและภาษาปีศาจ... 'เย่ว์หยาง'ตระหนักว่าถ้าเขาต้องทำข้อสอบด้วยกำลังตัวเอง  เขาคงได้คะแนนศูนย์ ตัวโตๆ แน่ ขนาดได้'เย่ว์ปิง'ช่วย เขายังทำได้เพียง 10 คะแนน

“จุนอู๋โหย่วฮ่องเต้นี้ต้องทรงว่างมากแน่ สงสัยคงนั่งเฉยๆ จนปวดก้น ข้าเกลียดคนแบบนี้ที่สุด   พระองค์ไม่ยอมมอบสมบัติให้โดยตรงเล่า ถ้าหากว่าพระองค์มีจริง  แต่กลับมาทดสอบเรื่องไร้สาระกับข้า”

'เย่ว์หยาง'หงุดหงิดมาก  ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยังเป็นเจ้าชายแห่งการทดสอบในอีกโลกหนึ่ง (ในเกม)  วิธีโกงของเขาทำให้เขาเลื่อนระดับไปถึงเป็นผู้วิเศษ  ใครกันจะรู้ว่าเขากลับสอบตกข้อเขียนอย่างหมดสภาพในเวลานี้ สิ่งที่ทำให้'เย่ว์หยาง'แทบบ้าก็คือตามรายงาน องค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'สามารถทำคะแนนได้ถึง 65

เมื่อนางสอบข้อเขียนนี้  สำหรับ'จุนอู๋โหย่วฮ่องเต้'  พระธิดาอีกคนหนึ่งของฮ่องเต้จอมเพี้ยนผู้มีชนมายุ 182 ปี  นางเป็นน้องขององค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน' อายุ 6 ปี ยังเล่นสนุกด้วยกันกับ'เย่ว์ชวง'เมื่อปีใหม่อยู่เลย  เธอยังทำคะแนนทดสอบได้ถึง 80 คะแนน นี่มันน่าขายหน้าสุดๆ เขาคงจะปล่อยวางดีกว่า ถ้าเขาไม่สามารถทำคะแนนได้สูงกว่าองค์หญิง'เชียนเชียน' นางมีการศึกษา ได้รับการพิจารณาว่าในอนาคตจะได้เป็นจักรพรรดินีแห่งต้าเซี่ย

ส่วนเขา...ยังเทียบกับเด็ก 6 ขวบไม่ได้เลย 'เย่ว์หยาง'เหมือนโดนระเบิดลงขนานใหญ่ เขาตัดสินใจไปเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาเพื่อเรียนรู้อย่างเข้มข้น ก็ตระกูลรังแกเขาจนไม่ได้มีการศึกษาขั้นพื้นฐานเหรอ? ถ้าไม่ใช่เขา แต่เป็นสหายผู้น่าสงสาร ที่เอาแต่อ่านหนังสืออยู่ในบ้านทุกวัน  เขาอาจจะสอบผ่านก็ได้  เขาเพิ่งเดินทางมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เอง  ดังนั้น เขาจะรู้เรื่องหลายอย่างเหล่านี้ได้อย่างไร?

ถ้าเขาไปเข้าเรียนสัก 1 ปี  มีหรือที่จะไม่รู้เรื่องง่ายๆ แบบนี้ 'เย่ว์ปิง'ที่เหมือนจะสอบตกในการเรียนรู้  นางรู้แต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับอสูรพฤกษาเท่านั้น  ก็ยังรู้สึกละอายใจตัวเอง  นางไม่รู้อะไรมากไปกว่าอสูรพฤกษาเลย

“พี่สาม! ข้ายังคงต้องการไปเรียนพร้อมกับพี่  อย่างไรก็ตาม มันค่อนข้างลำบากสำหรับข้าที่จะย้ายไปเข้าเรียนโรงเรียนของพี่ จากสถาบันฉางจิง”

'เย่ว์ปิง'ต้องการลาออกจากสถาบันฉางจิงซึ่งมีชื่อเสียงดีที่สุด และย้ายไปเรียนในสถาบันที่แย่ที่สุดอย่างฉางชุนเถิง  ความจริง มันไม่สำคัญว่านางจะไปเรียนที่โรงเรียนไหน  นางแค่ต้องการตามพี่ชายของนาง  สถาบันฉางชุนเถิงเป็นโรงเรียนเก่าแก่ที่เทียบกับสถาบันฉางจิงไม่ได้ ในเรื่องหลักสูตรอสูรสายพฤกษาและอสูรแมลง  อย่างไรก็ตาม หลักสูตรอสูรสัตว์ร้ายและอสูรปีกของที่นั่นยังนับว่าไม่ได้แย่กว่าสถาบันฉางจริงเลย  แน่นอนว่า ทั้งหมดนี้ไม่สำคัญต่อ'เย่ว์ปิง'ที่ถนัดเฉพาะอสูรสายพฤกษาเท่านั้น

“ดูเหมือนว่าข้าต้องส่งจดหมายถึงอี้หนานเสียแล้ว”

'เย่ว์หยาง'ตัดสินใจส่งจดหมายถึง'อี้หนาน'เพื่ออนาคตชีวิตที่สุขสม  เขาสั่งคนใช้ของเขาให้ไปสมาคมนักล่าในที่รวมนักรบเพื่อให้ส่งจดหมาย นี่คือข้อความในจดหมายเขา

“พี่อี้หนาน!  อย่างที่มีคำกล่าวไว้ว่า ความหนุ่มสาวของท่านอาจเสียไปเปล่าหาท่านไม่เห็นคุณค่าของเวลาและเราต้องสู้เพื่อให้ประสบความสำเร็จ  นั่นคือสาเหตุที่เราต้องเห็นคุณค่าเวลาของเรา  เราต้องจีบสาวๆ ให้ได้มากขณะที่เรายังหนุ่มสาวอยู่   นั่นจะทำให้เราเป็นผู้ใหญ่อย่างมีความสุข  ข้าได้ยินว่ามีสาวสวยเป็นจำนวนมากในโรงเรียน พวกนางเปิดเผยและน่าหลงใหล  บางครั้งพวกนางไม่สามารถทนรอให้ผู้ชายมาจีบก็มีบ้างที่ฉุดชายหนุ่มรูปหล่อไม่ว่าจะเป็นที่สวน สนามหญ้า, ป่า เนินเขาหรือแม้แต่ในศาลา  เพื่อช่วยรักษาสาวๆ เหล่านี้ผู้กำลังหมดหวังในความรัก เพื่อจะปลดปล่อยพวกนางจากความเจ็บปวดที่กำลังเผาผลาญความหลงใหลที่ทำลายร่างกายพวกนาง  ข้าตัดสินใจที่จะเสียสละครั้งยิ่งใหญ่แล้ว  ข้าตัดสินใจเข้าโรงเรียนเพื่อจะได้ไปสอนความรักที่ถูกต้องแก่พวกนาง  ข้าจะตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นเรื่องเพศตรงข้ามทุกอย่างเพื่อให้พวกนางได้เข้าใจมากขึ้น  ทั้งหมดนี้ก็เพื่อประโยชน์ในการสร้างรากฐานที่แข็งแรง สำหรับชีวิตรักที่สุขสมในอนาคต  มันยากที่จะสู้ได้เพียงลำพังนะ  ข้าออกจะหายใจไม่ออกถ้าหากหน้าอกพวกนางใหญ่พอ  สถานการณ์ที่สำคัญแบบนี้ ข้าต้องการความช่วยเหลือของเจ้านะ พี่อี้หนาน  เรามาว่ายทะเลอกสาวๆ ด้วยกันนะ...”

เขาไม่รู้ว่าสตรีอย่าง'อี้หนาน'จะทำหน้ายังไงเมื่อนางได้อ่านจดหมายนี้

อย่างไรก็ตาม 'เย่ว์หยาง'สามารถรับรองได้ว่า 'อี้หนาน'จะต้องรีบวิ่งตามมาที่สถาบันทันใด หลังจากได้อ่านจดหมายแล้ว ขณะเดียวกัน  'เย่ว์หยาง'ยังเขียนจดหมายถึง 'เจ้าอ้วนไห่', 'เย่คง',และคนอื่นๆ  อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องสาวสวย  จดหมายเขาแค่เขียนคำไม่กี่คำ ...

เข้าเรียนในสถาบันฉางชุนเถิง สมาชิกในตระกูลถึงกับถอนหายใจโล่งอกเฮือกใหญ่เมื่อพวกเขาได้ยินว่า'เย่ว์หยาง' เจ้าตัววุ่นผู้นี้ตัดสินใจไปโรงเรียน พวกเขาสนับสนุนทุนการศึกษาเป็นทอง 100 เหรียญ แน่นอนว่าในใจ'เย่ว์หยาง'คิดว่าเขายังคงสูญเสียมากกว่า  ทั้งนี้เป็นเพราะตระกูลเย่ว์ยอมรับโครงกระดูกของมังกรเยือกแข็งยักษ์  ผู้อาวุโสห้ากล่าวว่า โครงกระดูกมังกรยักษ์นี้สามารถเอามาสร้างหุ่นมังกรยักษ์ได้

ใช้เวลาสร้าง 3 ปี  เขาคาดว่าจะสามารถสร้างเป็นหุ่นมังกรยักษ์อสูรทองแดงระดับ 7 ได้ เมื่อเขาได้ยินว่ากระดูกมังกรยังสามารถสร้างของที่มีประโยชน์ได้ถึงเพียงนี้  'เย่ว์หยาง'รู้สึกว่าตนได้สูญเสียอย่างใหญ่หลวงเสียแล้ว เขาไม่เคยคิดเลยว่าโครงกระดูกมังกรยักษ์เป็นของที่ก่อนหน้านี้ เขาไม่ต้องการ กลับเป็นของที่คนในตระกูลเย่ว์ต้องการ เพื่อยกย่องที่'เย่ว์หยาง'สามารถสังหารมังกรเยือกแข็งยักษ์ได้

ผู้เฒ่า'เย่ว์ไห่'ยกย่องแม่สี่ว่าเป็นผู้มีความสามารถเลี้ยงดูเขาได้ดีในช่วงที่จัดงานเลี้ยงของตระกูล เขาเสนอให้แม่สี่เขียนเทคนิคดูแลเลี้ยงลูกไว้ในบันทึกเหตุการณ์ประวัติสำคัญของตระกูล เพื่อให้คนรุ่นหลังได้จดจำผลงานของแม่สี่ที่มีต่อตระกูลเย่ว์ในฐานะแบบอย่างของภรรยาผู้มีคุณงามความดี เขียนในนามสะใภ้ตระกูลบันทึกเหตุการณ์สำคัญของตระกูลใหญ่จำต้องต้องได้รับการอ้างถึงโดย 3 ผู้อาวุโสของตระกูล

แต่ผู้เฒ่า'เย่ว์ไห'เสนอขึ้นในระหว่างงานเลี้ยงตระกูลด้วยตนเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตกตะลึงกันทั้งตระกูล ตำแหน่งที่เพิ่มขึ้นมา โดยวัดจากความสำเร็จของบุตร เพราะพลังของ'เย่ว์หยาง' สถานะของแม่สี่ในตระกูล จึงได้รับการยกย่องอย่างสูงในระยะเวลาสั้นๆ  ตอนนี้ไม่มีใครกล้าเยาะเย้ยนางแล้ว ทั้งญาติและบริวารที่เคยรังแกนางก่อนหน้านี้ ต่างพากันไปเยี่ยนเยือนนาง ขอร้องให้นางยกโทษให้ โชคดีที่แม่สี่เป็นคนใจดี  นางไม่ถือสาพวกเขา มิฉะนั้นแล้วจะต้องมีคนหลายคนถูกเฆี่ยนด้วยไม้แผ่น...

ตอนนี้ คนทั้งตระกูลเย่ว์เข้าใจสถานะของแม่สี่แล้ว  ยิ่งไปกว่านั้นสถานะของนางจะไม่ตกต่ำไปอีกนาน สถานะของนางมีแต่จะสำคัญมากยิ่งขึ้นในอนาคต  ทั้งนี้เป็นเพราะเจ้าบ้า'เย่ว์หยาง' ที่ฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบตา  จู่ๆ ก็ขึ้นมามีอำนาจ ในอนาคตไม่มีใครรู้ว่ายังจะมีอำนาจมากขนาดไหน คนเป็นอันมากคิดว่าแม้ใช้การประเมินแบบอนรักษ์นิยม  เจ้าเด็กบ้านี่อย่างน้อยก็คือ'เย่ว์ชิว'คนที่สอง  เขากำลังก้าวเท้าตามบิดาของเขา และจะกลายเป็นนักสู้ระดับ 7 (เหนือมนุษย์)

คนที่ 2 'เย่ว์หยาง'ไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงของตระกูล  แต่ผู้เฒ่า'เย่ว์ไห่'ได้จัดที่นั่งให้เขาและนั่งใกล้ๆ ที่นั่งของเขา เขาแค่เป็นรองจากนายใหญ่'เย่ว์ซาน', และนายรอง'เย่ว์หลิ่ง' ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่าผู้เฒ่า'เย่ว์ไห่'ได้ยืนยันสถานะให้'เย่ว์หยาง'ชัดเจนแล้ว ผู้เฒ่า'เย่ว์ไห่'ไม่เห็น'เย่ว์หยาง'  ดังนั้นท่านจึงไม่พูด'เย่ว์หยาง'ระหว่างงานเลี้ยงของตระกูล เขายกย่องแม่สี่อยู่หลายครั้ง แม้กระทั่งให้รางวัลนางเป็นบันทึกบรรพบุรุษ  ดูผิวเผิน เขาบอกว่าบันทึกนั้นเป็นรางวัลสำหรับคุณงามความดีของนาง

แต่แม้แต่คนโง่ก็ดูออกว่านี่เป็นวิธีการฝากคู่มืออสูรหุ่นไปให้'เย่ว์หยาง' นี่คือหนังสือที่ถูกบันทึกในการร่วมทำงานระหว่างภูตอัจฉริยะ'เย่ว์กง'และปรมาจารย์หุ่นทั้ง 5 ของตระกูลเย่ว์ ไท่, หัว, เหอ, หง,และซง ก็คือคู่มืออสูรหุ่น  มันเป็นสมบัติที่ล้ำค่ำที่สุดของตระกูลเย่ว์  จำนวนคนในตระกูลเย่ว์ที่เป็นเจ้าของคู่มือนี้แทบจะนับนิ้วได้เลย  คุณชายใหญ่'เย่ว์เทียน'และคุณชายสี่'เย่ว์เยี่ยน'อยากได้มันเป็นเวลานานแล้ว

แต่ผู้เฒ่า'เย่ว์ไห่'และผู้อาวุโสคนอื่นๆ ไม่เคยให้พวกเขา  ใครจะคิดว่าวันนี้ คนที่ได้รับสมบัติที่ล้ำค่านี้จะเป็น'เย่ว์หยาง'คนที่สร้างศัตรูทั้งตระกูล? นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่าความแข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในโลก  มันก็ยังเป็นความจริงตามวิถีของตระกูลเย่ว์ที่มีมาโดยพวกเขาได้ยึดถือกันมาหลายรุ่นแล้ว  ใครก็ตามที่โดดเด่นที่สุดจะได้รับผลประโยชน์มากที่สุดและการสนับสนุนจากทั้งตระกูล ในฐานะผู้รักษาการหัวหน้าตระกูล

'เย่ว์ชาน'ไม่โกรธเลย แล้วยังปรบมือกระตือรือร้นมอบคู่มืออสูรหุ่นให้แม่สี่  ยิ่งไปกว่านั้น เขายังกล่าวขอโทษสำหรับเรื่องเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ เมื่อ'เย่ว์ปิง'บอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากที่นางกลับมา  'เย่ว์หยาง'ชักกลัวจริงๆ 'เย่ว์ซาน'ผู้นี้เป็นนักแสดงผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ  โชคดีที่เขาไม่ใช่'เหล็งฮู้ชง' (จากเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร) มิฉะนั้นคงเป็นเรื่องน่าเศร้าจริงๆ...

10 วันต่อมา 'เย่ว์หยาง'กับ'เย่ว์ปิง'จำต้องอำลาแม่สี่และเดินทางไปฉางจิง เมืองหลวงของอาณาจักรต้าเซี่ย 'เย่ว์ปิง'ไปเตรียมตัวทำเรื่องขอลาออกจากสถาบันฉางจิง ขณะที่'เย่ว์หยาง'ตรงไปที่สถาบันฉางชุนเถิงที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสถาบันฉางจิงเพื่อรายงานตัวเข้าศึกษา เมื่อเทียบความสูงเด่น  ความเก่งที่เห็นได้จากหน้าประตูสถาบันฉางจิง  สถาบันฉางชุนเถิงที่ถูกถนนใหญ่แบ่งแยกจากสถาบันฉางจิง ก็เหมือนขยะที่ไม่มีอะไรจะขยะยิ่งกว่า นอกจากดูเขียวขจีสวยดี นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเลย

“มีใครอยู่นี่ไหม?”

'เย่ว์หยาง'กังวลว่าถ้าเขาตะโกนดังเกินไป  หลังคาและผนังทรุดโทรมจะพังทลายลงมา  ดังนั้น เขาทำได้เพียงเรียกออกไปด้วยเสียงเบา

“เอาล่ะ, ประตูนี้เป็นแบบนี้มาหลายร้อยปีแล้ว  มันไม่พังหรอก อย่าห่วงมากนักเลย  เข้ามาเถอะ”

มีชายชราไว้เคราแพะคนหนึ่งโผล่หัวออกมาจากข้างในโบกมือให้'เย่ว์หยาง' 'เย่ว์หยาง'เริ่มเหงื่อตกจนพูดไม่ออก   เขาควรจะไปเข้าเรียนสถาบันฉางจิงที่สูงเด่น ยามมองจากประตู ข้างในมีนักเรียนสาวรุ่นพี่หุ่นดีรอต้อนรับน้องใหม่ และแต่งตั้งนักเรียนหนุ่มหล่อให้เป็นหัวหน้านักเรียน และยังมียามเกราะเงินมองดูสูงตระหง่านเฝ้ายามอยู่ด้านนอก  ส่วนสถาบันฉางชุนเถิงนี้ เหมือนกับนรก

ถ้าเขาต้องการถ่ายหนังสยองขวัญ เขาไม่ต้องทำเอ็ฟเฟ็คปล่อยควันสีขาวเลย  แค่ลงมือถ่ายทำได้ทันที  ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว  พวกเขาแค่ส่งชายชราไว้เคราแพะมาต้อนรับนักเรียนใหม่  อย่างนี้ก็เหมือนกับบีบบังคับให้นักเรียนไปเข้าเรียนที่ฉางจิงแทนไม่ใช่หรือ? ในโรงเรียนอย่างนี้ เขาจะไปหาสาวงามได้จากไหน? 'เย่ว์หยาง'เหงื่อตกเป็นห่าฝน เขาไม่สามารถหยุดคิดเกี่ยวกับการพิชิตสาวงาม 2-3 คน ตามที่เจ้า'อ้วนไห่'พูดถึง   โอกาสที่เขาจะพิชิตใจสาวงามจากสถาบันฉางจิงคงจะแน่นอนดีกว่า พอเห็นชายชราไว้เคราแพะผู้นี้ที่เป็นเหมือนเจ้าบ้านจอมละโมบ  'เย่ว์หยาง'ถามกันแบบไม่มีกั๊กเลยว่า

“คุณครูสาวสวยจากสถาบันของท่านไปไหนหมด?  ทำไมพวกนางส่งท่านมารับนักเรียนใหม่ล่ะ?  ท่านไม่รู้หรือว่าสารรูปท่านจะไล่นักเรียนใหม่ให้หนีไปง่ายๆ ได้?”

ชายชราเคราแพะโบกมือพัลวัน

“นักเรียนที่อยู่ตรงนี้ ข้าเป็นครูที่ดูดีที่สุดในสถาบันนี้แล้ว  ไปที่พักได้แล้ว”

“ข้าจะกลับบ้านล่ะ”

พอได้ยินว่าครูสาวสวยไม่อยู่ที่นี่ และคนหล่อที่สุดในโรงเรียนนี้เป็นตาแก่คนหนึ่ง  เขาคิดว่าเขาคงทรมานใจแน่ถ้าเข้าเรียนในสถาบันนี้

“อย่าทำแบบนี้เลย ครูคนสวยก็ยังสอนอยู่ที่นี่  อย่างไรก็ตาม ข้าเชื่อว่าเจ้าควรจะเข้าใจว่าบรรยากาศที่ดีเป็นเรื่องใหญ่  มันดูเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่า ถ้ามีครูคนงามมายืนต้อนรับนักเรียนใหม่ที่นี่ นั่นก็หมายความว่า นางไม่ใช่ของจริง ความงามที่แท้จริง  สิ่งดีๆ หลายอย่างมักยากจะจับต้องได้ ถ้าเจ้ามองแต่เพียงผิวเผิน แล้วเจ้าจะพบไข่มุกที่วางอยู่บนเตียงในมหาสมุทรได้อย่างไร?  ชายชราเคราแพะยับยั้งไม่ให้เย่ว์หยางจากไป  และเอาหนังสือมีภาพสีประกอบออกมาจากชุดของเขา ”ไม่มีทางเลือกอื่น ข้าจะยอมให้เจ้า นักเรียนใหม่ได้ดูแคตตาล็อคภาพสาวงามประจำโรงเรียนของเรา มีสี่สาวงามในโรงเรียนของเรา  แต่ละนางงามล่มเมืองทั้งนั้น ยังมีสี่บุปผางามของสถาบัน และแต่ละนางก็สดใส นุ่มนวล อ่อนหวานทั้งนั้น  สุดท้ายนี้เรายังมีครูคนงามอีก 2 นาง เจ้า...ต้องการดูไหม?”

“ต้องการสิ”

ภูมิต้านทานคนงามของ'เย่ว์หยาง' เป็นศูนย์

“จ่ายมาก่อน, แคตตาล็อกคนงามของสถาบันเรา ใช่ว่าจะเปิดดูได้ทั่วไปนะ”

ผู้เฒ่าเคราแพะเกือบจะน็อค'เย่ว์หยาง'ลงกับพื้น แต่มันก็ยังเป็นวิธีที่ดี  อย่างน้อยเขาคงไม่จำเป็นต้องสู้กับหมาป่าสถาบันฉางจิงที่มาปล้นคนงามที่มีอยู่อย่างจำกัดไป 'เย่ว์หยาง'อดทนเจ็บใจจ่ายเงินไป 5 เหรียญทอง เตรียมพร้อมที่จะจ่ายค่าลงทะเบียนและรับแคตตาล็อกคนงามไป ใครจะรู้กันว่าผู้เฒ่าเคราแพะผู้นี้โบกมือส่ายศีรษะพูดว่า

“นักเรียน ค่าลงทะเบียนของเจ้าไม่ใช่ 5 เหรียญทอง แต่เป็น 50 เหรียญทอง  ดีที่สุดหากเจ้าจ่ายเพิ่มอีก 50 เหรียญทองเป็นเงินฝาก  มิฉะนั้นข้าจะไม่ช่วยให้เจ้าได้ลงทะเบียน”

พอได้ยินเช่นนี้ 'เย่ว์หยาง'แปลกใจอย่างมาก ไม่นานหลังจากนั้น เขาคว้าเสื้อของชายชราเคราแพะแผลเสียงอย่างโกรธเคือง

“ตาแก่, กล้าขึ้นราคาต่อหน้าต่อตาข้าหรือ?  ทุกคนจ่ายกันแค่ 5 เหรียญทอง ทำไมข้าถึงต้องจ่าย 50 เหรียญทองเล่า”

ชายชราเคราแพะถูก'เย่ว์หยาง'ยกจนลอย แต่สีหน้าของเขายังยิ้มเป็นปกติ

“เราสถาบันฉางชุนเถิงสอนนักเรียนอยู่บนพื้นฐานความสามารถของพวกเขา แม่นางน้อยที่มาคู่กับเจ้ามีพลังภายในที่สมบูรณ์และอนาคตสดใสรออยู่  นางยังเป็นคนงาม และสามารถดึงดูดนักเรียนใหม่มาเข้าโรงเรียนเรา  เราไม่ว่าอะไรที่จะรับให้นางลงทะเบียนเรียนฟรีๆ  แต่สำหรับตัวเจ้า  เจ้ามันตัวลามกอย่างเห็นได้ชัด  ถ้าเจ้าลงทะเบียนได้ เจ้าจะต้องขโมยแคตตาล็อกคนงามของเราไปแน่  เจ้านิสัยตรงกันข้ามกับแม่นางน้อยนั่น ยิ่งไปกว่านั้น  เจ้ายังอารมณ์วู่วาม  ถ้าเจ้าไปต่อสู้กับคนอื่นๆ เดือนละไม่กี่ครั้ง  เป้นไปได้อย่างไรที่เราจะไม่ยอมรับเงินจากคนโง่อย่างเจ้าให้มากไว้?  ทอง 50 เหรียญเป็นเงินประกันพิศษที่จะระมัดระวังไม่ให้เจ้าไปก่อเรื่องสูญเสียชื่อของสถาบัน”

“ท่านคิดว่าข้าเป็นคนชั่วร้ายที่เอาแต่ไล่ปล้ำผู้หญิงหรือไง? ข้า และครอบครัวข้าจนจริงๆ นะ มันเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะทำมาหากินหาทรัพย์มาได้ ผู้คนทั้ง 18 รุ่นของตระกูลข้าจะต้องเป็นแรงงานข้ามชาติ  จึงต้องแสวงหาความรู้  พวกเราทุกคนยังเป็นเกษตรกรอยู่  หลังจากพ่อแม่ข้าตาย  ข้าก็ได้ท่านอาคอยเลี้ยงดูให้ความรู้ข้า  ข้าได้กินแค่ยามหิวเท่านั้น  5 เหรียญทองเป็นเงินที่ข้าอดออมเก็บไว้หลังจากอดอยากมาเป็นเวลา 10 ปี  เมื่อสะสมทีละนิดๆ ในที่สุดก็ได้มากเท่านี้”

'เย่ว์หยาง'เกือบจะพูดว่าเขาเป็นเหมือนเด็กหญิงไม้ขีดไฟ จากหนังสือของฮานส์ แอนเดอสัน

“ข้าเข้าใจ และก็เห็นอกเห็นใจสถานะของครอบครัวเจ้า  อย่างไรก็ตาม เจ้าเป็นนักเรียนคนแรกในประวัติศาสตร์โรงเรียนที่กล้าคว้าคอเสื้อครูใหญ่โรงเรียน  ขอแค่ 50 เหรียญทองจากเจ้า ก็ไม่ถือว่ามากเกินไปหรอก”

ชายชราเคราแพะอธิบายอย่างใจเย็น

“ท่านเป็นครูใหญ่โรงเรียนเหรอ?”

'เย่ว์หยาง'รีบวางชายชราเคราแพะลงเมื่อได้ยินเขาพูด

“รองฯ”

ผู้เฒ่าเคราแพะยอมรับ

“อย่างงั้น ใครเป็นครูใหญ่จริงๆ?”

ก่อนที่เขาจะมาโลกนี้ 'เย่ว์หยาง'อ่านนิยายมาหลายเรื่อง บ่อยครั้งที่มีโรงเรียนในเรื่องเหล่านั้น  รองครูใหญ่เป็นคนเลว  ขณะที่ครูใหญ่จะเป็นคนดี  บ่อยครั้งที่ครูใหญ่จะไม่สนใจเรื่องการบริหารกลับดื่มจนเมาแทน  อย่างไรก็ตาม  แม้ว่าเขาจะทำท่าเหมือนเป็นคนโง่  เขาก็ยังแข็งแกร่งเชี่ยวชาญยอมรับพระเอกเป็นศิษย์  ที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าครูใหญ่จะเป็นคนน่าเกลียดอย่างไรก็ตาม  เขามักจะมีหลานสาวที่โสดและสวย

สรุปได้ว่า แม้หลังจากที่เขาเดินทางข้ามมิติมาอีกโลกหนึ่ง เขาต้องอยู่ห่างๆ จากรองครูใหญ่ให้ดี แต่ถ้าเขากลายเป็นคนคุ้นเคยกับรองครูใหญ่นี้  ก็จะทำให้เขาเข้าถึงสาวๆ ได้ง่ายกว่า

“ครูใหญ่ตัวจริงก็คือ ครูสาวแสนสวยที่ข้าเพิ่งเอ่ยถึง  นางเป็นหนึ่งในครูแสนสวยของเรา  และยังเป็น 1 ใน 10 สาวงามของเราอีกด้วย”

ผู้เฒ่าเคราแพะจงใจ พลิกหนังสือไปที่ภาพประกอบสาวสวยต่อหน้า'เย่ว์หยาง'  ภาพสาวงามเป็นภาพกึ่งเปลือยที่ดูยั่วยวนอารมณ์เหมือนกับนางเพิ่งขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำ  'เย่ว์หยาง'กลืนน้ำลายทันทีที่เห็นภาพนี้  เป็นไปได้หรือที่สาวเซ็กซี่นางนี้จะเป็นครูใหญ่

 

ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=125

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด