บทที่ 3 - เด็กหนุ่มและเด็กสาว
“ชิ เจ้าหมาบ้านี่!”
เด็กหนุ่มแกว่งดาบด้วยแรงทั้งที่มี มันโจมตีไปยังร่างของสุนัขคลั่ง แต่เพราะขนที่หนาของมัน ทำให้ดาบหยุดชะงักลงจนสุนัขตัวนั้นหลบไปได้ก่อนจะถูกปะทะจึงไม่ได้รับความเสียหายใดๆ เด็กหนุ่มเข้าสู่ระยะโจมตีของพวกมันอีกครั้ง
“--กร๊าก!!”
เด็กหนุ่มเล็งเป้าหมายไปที่สุนัขที่ท่าทางจะลืมเสื้อผ้าไว้ที่ไหนซักแห่งตรงหน้าเขา แต่เขากลับลืมไปว่ามันยังมีสุนัขอีกตัวที่อยู่ข้างหลังเขา และมันก็พุ่งเข้ากัดที่ข้อเท้าของเด็กหนุ่ม.
“หว่า--!?”
โชคดีที่เขี้ยวของมันพลาดไปโดนรองเท้าบูทหนาของเขา กันเขาจากการบาดเจ็บไปหวุดหวิด แต่ฝ่ายตรงข้ามยังไม่ยอมแพ้ มันกัดแล้วก็ดึงไปดึงมาราวกับกำลังพยายามฉีกกระฉากรองเท้าบูทถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มจะพยายามสะบัดออก แต่สุนัขตัวนั้นก็ยังคงกัดแน่นไม่ยอมปล่อย...
ทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจ ด้วยความเร่งรีบ เขาใช้ดาบในมือแทงมัน หลังจากนั้นสุนัขอีกตัวที่คอยจังหวะอยู่ก็กระโดหมายจะขย้ำคอของเด็กหนุ่ม
“อุหว่า…!?!”
เขาเอนตัวไปด้านหลังโดยสันชาติญาณ เขายกยกดาบขึ้นกันคมเขี้ยวไว้ได้หวุดหวิด เขาพยายามจะดันกลับไป แต่ไม่สามารถต้านทางแรงได้จึงล้มลงไปด้านหลังทั้งที่ยังมีสุนัขคลั่งอยู่ด้านบน
“…แฮ!!”
เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนั้น เขาก็พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด สุนัขคลั่งทั้งสองอ้าปากกว้าง
ในตอนนั้นเอง ด้วยอะไรบางอย่างร่างของสุนัขคลั่งทั้งสองก็ถูกดีดออกจากร่างของเด็กหนุ่ม พวกมันหันไปมองรอบๆอย่างขลาดกลัวและจ้องที่ว่างเปล่าที่หนึ่ง
“--เอ๊ง?!”
สุนัขทั้งสองวิ่งหนีหางจุกก้นจากไปพร้อมกับเสียงร้องไห้อย่างหวาดกลัว
“…ระ รอดแล้วสินะ…?”
เขาพึมพำ ทันใดนั้นก็เกิดเงาขนาดใหญ่ทาบทับร่างของเขา และเมื่อเขาหงายหน้าขึ้น เขาก็ต้องตกตะลึง
“วะ ไว...ไวเวิร์น?! นะ นี่... นี่มัน มะ มังกรโบราณ”
จากสายตาแล้ว ไม่ใช่มังกรไวเวิร์นที่ใช้ขี่อยู่ในเมืองหลวง ตัวของมันใหญ่มาก อีกทั้งยังส่องแสงเป็นสีทองและมี 4 ขา-ดูแล้วน่าจะกลืนไวเวิร์นทั่วไปได้ภายในคำเดียว มันเป็นอสูรกายที่ใหญ่โตมากจริงๆเพียงการชำเลืองมองจากดวงตาสีทองก็ทำให้เด็กหนุ่มขนลุกซู่ ดวงตาเบิกกว้าง ในเวลานั้นเขาได้พ่ายแพ้ให้กับความหวาดกลัวไปแล้วโดยสิ้นเชิง
“—อะ เอ๋----!!”
เขาโยนดาบในมือทิ้งเช่นเดียวกับหัวของเขาที่ว่างเปล่า
ในตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกถึงร่างที่ยืนอยู่บนหัวของมังกรโบราณ แต่มันอาจเป็นเพียงภาพหลอนเนื่องจากความกลัวมากเกินไปก็ได้
“……”
แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานก็ตามหรือว่าเราจะรอดแล้ว…? เขาคิด ก่อนจะหันไปมองรอบๆช้าๆราวกับเต่า ทันใดนั้นมีเสียงเด็กสาวที่ใสกังวานราวกับเสียงระฆังดังขึ้นจากด้านหลังเขา
“เฮ้ นายนะ เป็น NPC (Non-Player Character) ใช่ไหม คงไม่ได้เป็นผู้เล่น (Player) หรอกนะ?”
◆◇◆◇
เด็กสาวที่แปลกประหลาด นั่นคือสิ่งที่เด็กหนุ่ม—นักผจญภัยหน้าใหม่ที่เพิ่งจะอายุได้ 15 ปีชื่อ 'โจอี้'
ใช้บรรยายเธอเขาหันไปมองเจ้าของคำถามที่เขาไปไม่เข้าใจ
“….เทพธิดาจันทรา”
เขาหลุดปากพูดออกไป เมื่อได้เห็นเด็กสาวที่งดงามเสียจนไม่น่าเชื่อผิวกายสีขาวนวลไร้ซึ่งรอยด่างพร้อยราวกับถูกปกคลุมไว้ด้วยไอแสงจันทร์ เส้นผมสีดำขลับทิ้งตัวยาวจนถึงเอวเหมือนถูกมนต์ของราตรียามค่ำคืนและหมู่ดารา และเมื่อเพ็งมองดวงหน้าของเธอ ก็ทำให้เขารู้สึกว่าเหล่าสาวงามที่เขาเคยเห็นในงานเทศกาล กลายเป็นฝักทองหรือหุ่นไล่กาไปเลย
ถึงแม้เขาจะเคยอ่านเทพนิยายต่างๆมามากมาย แต่สิ่งที่ใช้ ‘หญิงงามล่มเมือง’ หรือ ‘ไซเรน’ ก็ไม่อาจเทียบเท่า มันเป็นความงามถึงขนาดที่ทำให้แทบลืมหายใจ
“-การถูกชมตรงๆแบบนี้ มันก็ทำให้อายนิดหน่อยนะ”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กสาว นิ้วเรียวบางแตะลงใบหน้าของตัวเองอย่างลำบากใจ ด้วยท่าทางเช่นนั้นของเธอ ทำให้'โจอี้'ตระหนักขึ้นมาได้ว่าคนตรงหน้ามีตัวตนจริงๆ เขาฟื้นคืนสติขึ้นมา
เขาลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างเชื่องช้าและปัดเศษฝุ่นทรายออกจากร่าง แล้วหันไปทางเด็กสาวอย่างใจเย็นดูจากสายตา เธอนั้นประมาณ 10-12 ปี ชุดที่สวมใส่เป็นของชั้นหนึ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ ชุดกระโปรงสีดำยาวถึงหัวเข่าประดับตกแต่งด้วยช่อดอกกุหลาบสีแดงที่หรูหราและดูสดใหม่ราวกับยังมีชีวิต
ตามจริงแล้ว ทั้งที่คาดผม ถุงเท้าสีขาวบริสุทธิ์และรองเท้าสีดำของเธอนั้นล้วนถูกตกแต่งด้วยดอกกุหลาบ การตกแต่งเช่นนั้นทำให้ดูสมบูรณ์แบบอย่างน่าลึกลับหลายๆส่วนของกระโปรงส่องแสง มันถูกตกแต่งด้วยบางสิ่งที่ไม่ใช่แก้วสี แต่เป็นอัญมณีชนิดหนึ่งที่ไม่รู้จัก ในมือของเธอคือร่มกันแดดชั้นดีที่มีรอยจีบอยู่มากมาย
โดยไม่ต้องสงสัยเธอช่างดูราวกับเจ้าหญิงที่ไม่น่ามีอยู่จริงเกินกว่าคำใดจะบรรยายเพียงแค่เพียงคำเดียวคงไม่พอที่จะบรรยาย หากจะบรรยายเธอออกมาคงต้องใช้ถ้อยคำมากมาย แต่ทว่าตอนนี้เขามีบางอย่างที่จะต้องทำ
“อะ เอ่อ มังกรโบราณสีทองบินจากไปแล้วใช่ไหม?!”
ประโยคนั้นทำให้เด็กสาวตกอยู่ในความตกใจครู่หนึ่ง
“-อา ดูเหมือนมันจะบินหนีไปแล้ว ช่างน่ากลัวจริงๆ ว่าไหม?~”
ตามทางเธอชี้ไป ฟิ้ว~
(TL: เสียงถอนหายใจ)
มันไม่มีอะไรในไกลๆนั่น
“…ถะ…ถ้างั้น…ก็รอดแล้วสินะ…”
'โจอี้'ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ด้วยเหตุผลบางอย่างเด็กสาวดูแปลกๆ.
“อืม~ ดูจากท่าทางของเขาไม่ต่างไปจากคนปกติเลย ยังกับไม่ใช่พวก AI อือ...”
เธอพึมพำบางอย่างแล้วพยักหน้ายืนยันในอีกด้านหนึ่ง 'โจอี้'ที่ถูกจำแนกว่าเป็น 『คนปกติ』ก็เกิดโกรธขึ้นมา
“ขอโทษนะ ฉันนะเป็นนักผจญภัยผู้เก่งกาจ อย่าตัดสินฉันว่าเป็นคนธรรมดาสิ”
เขาพูดออกมาขณะยึดอกขึ้นอย่างทะนงตนครั้นแล้ว เด็กสาวก็เปลี่ยนไปด้วยความประหลาดใจ เธอมองไปที่เด็กหนุ่มด้วยดวงตาเป็นประกายราวกับเด็กๆ
“เห~~ นักผจญภัย! ช่างน่าประหลาดใจที่ได้เห็นนักผจญภัยจริงๆแบบนี้”
เด็กสาวแสดงท่าทางออกมาอย่างที่คิด ด้วยความอารมณ์ดี 'โจอี้'โชว์บัตรกิลด์ที่เอาออกมาจากกระเป๋า
“แน่นอน และบัตรนี้คือสิ่งยืนยันว่าฉันคือนักผจญภัย”
แม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงนำออกมาเช่นนี้ แต่สิ่งที่เขียนอยู่บนแผ่นเหล็กบางๆนั้นคือชื่อเต็มของ'โจอี้' ความเป็นสมาชิก และอะไรบางอย่างที่เหมือนกับเลเวล เด็กสาวสำรวจมันด้วยดวงตาที่เหมือนมองเหยื่อ
“โจอี้ อลัน 15 ปี สังกัดเมืองอาระ.... โอ สมาชิกกิลด์นักผจญภัยเมืองอาระสินะ? Rank F นักดาบ.... ไม่สิ นักสู้มือเปล่าที่มีดาบ งั้นหรอ? ไม่มีประวัติต้องโทษ อา อ่านยากจัง ทำไมถึงใช้แต่ฮิราคานะกับคันตาคานะนะ- ทำไมถึงไม่ใช่คันจิละ?”
(TL: ภาษาญี่ปุ่นมีการเขียนสามแบบ คือ ฮิราคานะ, คันตาคานะ และคันจิ)
“อะไรคือคันจิ?”
“…มันเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักดีในการแบ่งแยกคำที่ความหมายต่างกัน”
อย่างไรก็ตามเด็กสาวถอนหายใจเมื่อได้เห็นสีหน้าสับสนของเขา
“-อา ช่างมันเถอะ ลืมสิ่งที่พูดไปซะ ดูเหมือนจะรบกวนเกินไปแล้ว ขอตัวละ”
เด็กสาวก้มศีรษะลงเล็กน้อยเร็วๆแล้วหันหลังไป 'โจอี'หยุดเธอไว้อย่างลนลาน
“ดะ เดี๋ยวก่อน เธอจะไปที่ไหน?”
“แน่นอน ก็ต้องเมืองอยู่แล้วไม่ใช่หรอ? ก่อนหน้านี้จากข้างบน... อืม ไม่จากระยะนี้ก็เห็นทางไปเมืองอยู่ ตอนนี้ฉันก็คงจะไปที่นั้นแหละ”
ด้วยสีหน้านึกไม่ถึง เธอชี้ปลายร่มไปทางเมืองอาระ ขณะที่เด็กสาวกางร่มในมือ แต่ไม่ว่าจะดูอย่างไรเธอก็ดูอ่อนแอ ไร้ทางสู้ 'โจอี้'ไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่งถ้าเธอเดินเท้าจากที่นี้ไปตามแสงอาทิตย์ก็อาจจะถึงได้
ไม่ อย่างแรกคือ เด็กสาวมีใบหน้าที่สวยงามมากและสวมชุดที่มีราคาแพง ไม่มีทางที่เธอจะไปถึงได้ด้วยตัวคนเดียวมันจะต้องมีพวกโจรผู้ร้ายมาอย่างแน่นอน ขโมยและอาชญากรรมจะตามเธอไปทุกที่ เมื่อกลุ่มคนเห็นเธอ เพียงได้สบตา พวกเขาจะล่อลวงให้ทำร้ายเธอ
เธอเหมือนป้ายเดินได้เขียนไว้ว่า 「ได้โปรดลักพาตัวฉันที」
'โจอี้'กังวลเกี่ยวกับคำร้องขอที่ยังไม่สำเร็จดีอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็ตัดสินใจทิ้งความลังเลนั้นไป
“….ถ้าอย่างนั้น ให้ฉันคุ้มกันเธอไปแล้วกัน!”
โดยไม่เข้าใจคำที่เขาประกาศ เด็กสาวเอียงคออย่างน่ารัก
End
ที่มา:https://my.dek-d.com/anom0206/writer/viewlongc.php?id=1475351&chapter=5