ตอนที่ 122 เผาให้ราบ ฆ่าให้เรียบ ปล้นให้เกลี้ยง
หมอผีปีศาจซัวจ์ไม่เหมือนกับลูเบนบุรุษชุดดำ เขาไม่มีปฏิกิริยาสนองตอบต่อการโจมตีที่คาดไม่ถึงของตั๊กแตนมรณะ เขาไม่ได้ตกใจ แต่หลับตาสงบใจได้เร็ว และยื่นมือของเขาออกไปเรียกคัมภีร์ทองออกมาอย่างไม่รีบร้อน โล่แสงก่อตัวขึ้นป้องกันศีรษะของเขาจากการโจมตีรุนแรง อย่างไรก็ตามมังกรอสุภที่อยู่ใต้เขาไม่โชคดีเท่า ดาบวิเศษฮุยจินของเย่ว์หยางฟันเข้าที่ท้องมังกรที่เป็นจุดไม่มีโล่ป้องกันอย่างอำมหิต ผิวมังกรกลายสภาพเป็นเปราะบางหลังจากเน่ามาเป็นเวลานานก็ถูกฟันจนเปิด
ในอากาศแขนเคียวของตั๊กแตนมรณะฟันใส่ด้วยพลังที่น่ากลัว จนทำให้ส่วนที่โล่ครอบป้องกันยุบมาเล็กน้อย ในที่สุด การป้องกันของโล่แสงระดับทองก็แข็งแกร่งกว่า และตั๊กแตนมรณะได้แต่กลับไปอย่างล้มเหลว
ในทันใดนั้น เมื่อแขนเคียวของมันถูกโล่สะท้อนกลับมา ตั๊กแตนมรณะจึงเริ่มโจมตีอีกเป็นครั้งที่สอง มันกวาดแขนออกในแนวนอน จนทำให้ร่างกายขนาดมหึมาของมังกรอสุภถูกบังคับให้บิน ตั๊กแตนมรณะก็รวดเร็วอย่างมาก มันสยายปีกแล้วไล่กวดตามมา มันใช้แขนเคียวของมันจับหางของมังกรอสุภไว้แน่น
จากนั้นจึงเหวี่ยงมันลงกับพื้นและตามมาทุบซ้ำ มังกรอสุภไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ จนบัดนี้เนื่องจากมันเป็นเหมือนผีที่ถูกปลุกขึ้นมา ความเคลื่อนไหวและเวลาตอบสนองของมันค่อนข้างเฉื่อยช้าเพราะมันเป็นมังกรขนาดยักษ์ เมื่อสัญชาตญาณของมังกรอสุภที่จะสู้เกิดขึ้น ปากขนาดยักษ์ของตั๊กแตนมรณะก็อ้ารออยู่แล้ว มันงับลงทันทีโดยเล็งเป้าหมายที่หน้าผากของมังกร
“ช่างเป็นหนอนแมลงชั้นทองที่งดงามเสียจริง มันกล้ามาล่าเหยื่อบนภูเขาของข้า สงสัยมันคงสับสนตัวเอง”
หมอผีปีศาจซัวจ์แค่นเสียงหัวเราะ และเรียกลูกบอลน้ำแข็งออกมาจากคัมภีร์ลูกหนึ่ง ลูกบอลน้ำแข็งดูเหมือนสิ่งมีชีวิตขณะที่มันลอยได้เอง จากนั้นพุ่งวาบเข้าใส่หลังของตั๊กแตนมรณะราวกับดาวตก เมื่อได้สัมผัส มันแช่แข็งร่างของตั๊กแตนมรณะไว้ในน้ำแข็งทันที
ในทันทีก่อนที่ตั๊กแตนมรณะจะกินหัวของมังกรอสุภ น้ำแข็งสีขาวก็แพร่กระจายเกาะกุมไปทั้งร่างของมัน ตั๊กแตนมรณะถูกแช่แข็งจนกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็ง มังกรอสุภโต้ตอบกลับทันที มันกัดใส่ตั๊กแตนมรณะที่ติดอยู่ภายในน้ำแข็ง และโยนลงพื้นอย่างโหดเหี้ยม จากนั้นก็ตวัดหางขนาดยักษ์ของมันฟาด
*บึ้ม!*
ตั๊กแตนมรณะถูกหวดจนกระเด็นลอยไปในอากาศและกระแทกเข้ากับผนังภูเขา จนหินแตก
ทั้งสะเก็ดหินและเศษน้ำแข็งกระเด็นกระจายสู่ท้องฟ้า ตั๊กแตนมรณะเพิ่งจะหลุดออกมาจากน้ำแข็งได้ ใช้แขนเคียวของมันฟันใส่มังกรอสุภ จากนั้นกางปีกและทำอย่างดีที่สุดเพื่อสลัดเศษน้ำแข็งที่เหลือบนร่างกายของมัน
'เย่ว์หยาง'รู้สึกประหลาดใจ ตั๊กแตนมรณะ อสูรทองระดับ 7 และยังเป็นจ้าวอสูรทองอีกด้วย มีจุดอ่อนเรื่องน้ำแข็งได้อย่างไร? จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ทันทีว่า มันต้องเป็นเพราะลูกๆ ในท้องของมัน ไข่ค่อนข้างจะอ่อนแอและไม่สามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่เนื่องมาจากน้ำแข็ง เหตุการณ์ควรจะเป็นว่าแม่ตั๊กแตนมรณะคงตามไล่ล่ามังกรบินพิษและมังกรอสุภเพื่อกินผลึกมังกรของพวกมัน
ผลึกมังกรจะมีสารอาหารสำคัญสำหรับการฟักตัวอ่อนของมันนั่นเอง หมอผีปีศาจซัวจ์เรียกทหารปีศาจเลือดออกมาตัวหนึ่ง ซึ่งตัวของมันมีปีกและไฟลุกโหมทั่วร่าง มือถือขวานอยู่เล่มหนึ่ง มันคือ ปีศาจชั้นทองแดง ระดับ 7 จากแดนอเวจี ถูกเรียกออกมาเพื่อจู่โจม'เย่ว์หยาง' นางพญากระหายเลือดถือดาบจันทร์เสี้ยวไว้ในมือขวา และมือซ้ายถือมีดทองฆ่ามังกร นางเคลื่อนตัวอย่างเร็วมาอยู่ข้างหลังทหารปีศาจเลือดที่กำลังควงขวานอยู่
นางต้องการจะโจมตีที่ปีกของมันทันที อย่างไรก็ตาม ทหารปีศาจมีปฏิกิริยาโต้ตอบว่องไว มันกระพือปีกและพลิกตัวกลางอากาศ ใช้ขวานที่ลุกเป็นไฟในมือของมันฟันเข้าใส่นางพญากระหายเลือดอย่างดุร้าย บีบบังคับให้นางจำต้องล่าถอย 'เย่ว์หยาง'ปล่อยทหารปีศาจไว้ แต่กลับกังวลเกี่ยวกับการต่อสู้ภาคพื้นดินมากกว่า เขาพบว่าลูกบอลน้ำแข็งได้ผสานตัวเข้ากับมังกรอสุภ และวิวัฒนาการไปเป็นอสูรสายผีอมตะชั้นเงิน ระดับ 8 มังกรน้ำแข็งยักษ์
นั่นไม่ดีเลย 'เย่ว์หยาง'กู่ร้องยาวทันทีและพุ่งเข้าหามังกรน้ำแข็งที่กำลังวิวัฒนาการ การวิวัฒนาการของมันต้องถูกขัดขวาง ถ้าไม่หยุดมันไว้ ได้เกิดหายนะแน่ อสูรสายผีอมตะจากแดนอเวจีมีความสามารถที่อสูรสายอื่นไม่มี มันมีความสามารถรวบรวมวิญญาณผู้ตายแล้วและวิวัฒนาการโดยผ่านการรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกัน
นี่คือวิธีอัญเชิญอย่างหนึ่งที่แน่นอน มันทำให้เกิดความกังวลโดยเฉพาะ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าเมือง'โล่วฮัว'ได้บอกไว้ก่อนแล้วว่าในแดนอเวจี พวกที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ปีศาจ แต่เป็นพวกผีอมตะ มันเป็นวิธีอัญเชิญที่ไม่คำนึกถึงเผ่าพันธุ์และขีดจำกัดของร่างกาย ตราบใดที่ยอดฝีมือที่อัญเชิญสามารถหาเคล็ดลับในการผสานร่างได้
พวกมันสามารถรวมร่างให้เป็นหนึ่งชั่วคราวและวิวัฒนาการอสูรสายผีอมตะให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้นได้ นี่มันทำให้คนเป็นบ้าได้จริงๆ ก่อนหน้านั้นก็ผีหัวขาดขี่ม้ากับโครงกระดูกเหล็กรวมร่างกันเป็นอัศวินแห่งความตาย
ตอนนี้ก็ยังเอาวิญญาณที่ตายแล้วและมีพลังมากกว่ามาผสานรวมร่างกัน มังกรอสุภกับลูกบอลน้ำแข็งกลายเป็นมังกรเยือกแข็งยักษ์ ตั๊กแตนมรณะกระโจนเข้าใส่และมันใช้แขนเคียวฟันใส่มังกรเยือกแข็งยักษ์อย่างรัดกุม มันเตรียมใช้ความแข็งแกร่งที่น่าตระหนกฉีกทึ้งร่างของฝ่ายตรงข้ามให้หมด
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การควบคุมของหมอผีปีศาจซัวจ์ มังกรเยือกแข็งยักษ์โจมตีใส่จุดอ่อนของตั๊กแตนมรณะทันที นั่นคือท้องที่นูนของมัน การจู่โจมครั้งนี้อาจใช้ไม่ได้ในสถานการณ์ปกติ อย่างไรก็ตาม ตั๊กแตนมรณะกำลังจะกลายเป็นแม่ลูกอ่อน เห็นได้ชัดว่าไม่อยู่ในสถานการณ์ปกติ
ยิ่งไปกว่านั้น มันกลัวว่าลูกในท้องของมันอาจได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นมันจึงเลิกโจมตีและกระโดดถอยหลังกลับมา ลูกบอลน้ำแข็งลอบจู่โจมอย่างไร้ซุ่มเสียงมาจากท้องฟ้าเป็นครั้งที่สอง 'เย่ว์หยาง'โต้ตอบโดยเร็ว เพื่อหยุดการโจมตีด้วยคลื่นของดาบวิเศษฮุยจินของเขา
ดาบวิเศษฮุยจินฟันลูกบอลน้ำแข็งจนขาดแต่ไม่ส่งผลอะไรกับมัน บอลน้ำแข็งไม่เสียหายแม้แต่รอยขีดข่วนมันฟื้นคืนสภาพเดิมทันที และยังพุ่งลงไปข้างล่างต่อ มันกระทบเข้าที่หลังของตั๊กแตนมรณะราวกับดาวตก แล้วผนึกร่างของตั๊กแตนมรณะทั้งร่างไว้ในน้ำแข็งอีกครั้ง มังกรเยือกแข็งยักไม่ได้กัดโต้ตอบเหมือนครั้งก่อน
ภายใต้การควบคุมของหมอผีปีศาจซัวจ์ มันพ่นลมหายใจเยือกแข็งใส่รูปปั้นน้ำแข็งของตั๊กแตนมรณะ เพื่อเสริมการแช่แข็งให้มากขึ้นไปอีก ตั๊กแตนมรณะกวัดแกว่งแขนทั้งสองของมันอย่างดุเดือด เพื่อละลายน้ำแข็งที่เกาะร่างมันอย่างรวดเร็วและสลัดน้ำที่ละลายไปรอบๆ
อย่างไรก็ตาม มีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่เกาะอยู่ที่ท้องนูนของมัน มันยื่นออกมาเหมือนเป็นเนินเขาเล็กๆ และยังขยายอย่างต่อเนื่อง “ทายาทราตรี” หมอผีปีศาจซัวจ์ เรียกเงาดำและชี้นิ้วไปที่หัวของมัน จากนั้นเงาดำก็ระเบิดกระจายหายไป กลายเป็นหมอกดำปกคลุมไปทั่วหุบเขา ทั่วทั้งหุบเขากลายเป็นมืดมิดประดุจยามราตรี และยังไม่สามารถมองเห็นนิ้วมือยามที่ยื่นมือออกไป
“ถ้าพ่อมดปีศาจยังทรงพลังมากแล้ว แล้วระดับราชาจะไม่มีพลังที่ยิ่งขึ้นไปอีกหรือ?”
'เย่ว์หยาง'มีเหงื่อผุดพราวไปทั้งหน้า
การณ์กลับกลายเป็นว่าพ่อมดปีศาจนี้ มีระดับนักสู้มีพลังพอๆ กับนักสู้ชาวมนุษย์ระดับ 7 (เหนือมนุษย์) 'เย่ว์หยาง'รู้สึกว่าพ่อมดปีศาจซัวจ์ผู้นี้น่าปวดเศียรเวียนเกล้ายิ่งกว่าผู้เฒ่า'เย่ว์ไห่'เสียอีก อย่างไรก็ตาม ยังโชคดีที่พ่อมดปีศาจซัวจ์มีแต่อสูรอัญเชิญ และไม่เหมือนกับผู้เฒ่า'เย่ว์ไห่'ที่ท่านมีอสูรสายเสริมพลัง มิฉะนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องสู้กันแล้ว
แม้ว่าพ่อมดปีศาจจะทรงพลังมากขนาดนี้ น่าจะแข็งแกร่งพอๆ กับราชาปีศาจกรุน 'เย่ว์หยาง'ไม่สามารถจินตนาการถึงได้ แน่นอนว่า สัตว์อสูรอัญเชิญของเขาก็แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามพวกมันก็ยังไม่เทียบเท่ากับนักสู้ที่มีอสูรเสริมพลังไม่ได้ 'เย่ง์หยาง'ยังคงมีกระบี่ไร้ลักษณ์ปราณก่อกำเนิดและโอกาสต่อสู้อีกเล็กน้อย เขาไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับศึกใหญ่ครั้งนี้ ถ้าไม่มีตั๊กแตนมรณะ อสูรทองระดับ 7
'เย่ว์หยาง'รู้สึกว่าเขาอาจเจ็บตัวเพราะพ่อมดปีศาจผู้นี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาไม่สนว่าตัวเองจะเป็นอย่างไรแล้ว ยิ่งศัตรูประมาทเขามากขึันเท่าใด โอกาสของเขาก็มีมากขึ้นเท่านั้น แน่นอนในสายตาของพ่อมดปีศาจ'ซัวจ์' ตราบใดที่ตั๊กแตนมรณะ อสูรทองระดับ 7 ถูกฆ่า เจ้ามนุษย์ตัวเล็กนี้สามารถจะฆ่ามันได้ทันทีโดยง่าย ตั๊กแตนมรณะพบว่าศัตรูมุ่งโจมตีที่ท้องของมัน ไข่ในท้องของมันเกิดเสียงเป๊าะแป๊ะ เหมือนกับว่าเย็นจัดจนเกิดรอยร้าว มันยิ่งคลั่งทันที
ในฐานะมารดา มันระเบิดความโกรธและรวบรวมพลังความแข็งแกร่งของมันทั้งหมดลากแท่งน้ำแข็งที่หนักพอๆ กับภูเขาย่อมๆ ก่อนที่มังกรเยือกแข็งยักษ์ที่กำลังพ่นลมหายใจเยือกแข็งจะบินหนีไป แขนเคียวข้างหนึ่งก็คว้าร่างมันได้และลากลงมา แขนเคียวอีกข้างหนึ่งเกี่ยวเข้าที่คอของมังกรเยือกแข็งยักษ์ มันกระชากคอจนกระทั่งดูเหมือนมีรอยร้าวและเสียงแตก
พอโน้มหัวลงได้ ตั๊กแตนมรณะก็ขย้ำที่คอของมังกรเยือกแข็งยักษ์อย่างเมามัน พ่อมดปีศาจ'ซัวจ์'นับว่าบ้ามาก เป็นเรื่องโชคร้ายจริงๆ ที่แม้แต่มังกรเยือกแข็งยักษ์ อสูรเงินระดับ 8 ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตั๊กแตนมรณะ พลังแขนเคียวทั้งคู่ของมันควบคู่กับรังสีฆ่าฟันโดยธรรมชาติของมันทำให้แม้แต่มังกรเยือกยังไม่สามารถดิ้นรนให้หลุดมาได้ มันทำได้เพียงดิ้นรนเพื่อชีวิตของมันเอง
ขณะที่ทหารปีศาจร่ายรำขวานอยู่ในอากาศ ไล่ล่านางพญากระหายเลือดซึ่งก็กำลังตามฆ่ามันเช่นกัน หมอผีปีศาจ'ซัวจ์' ไม่มีทางเลือกในตอนนี้ ได้แต่เรียกมันกลับมา เขาสั่งให้ทหารปีศาจเลือดเข้าไปช่วยมังกรเยือกแข็งยักษ์สู้กับตั๊กแตนมรณะและฆ่ามันให้ได้ หรืออย่างน้อยก็ทำให้มันไม่เข้าโจมตีมังกรเยือกแข็งยักษ์
อย่างไรก็ตาม 'เย่ว์หยาง'ไม่ยอมปล่อยให้ซัวจ์ทำตามอำเภอใจ เขารวบรวมพลังปราณขณะที่รอโอกาสจู่โจม เขารออยู่นานมากแล้ว เงาปีศาจยักษ์ที่เพิ่มพลังให้เขาร้อยเท่าผสานเข้ากับร่างของ'เย่ว์หยาง' ในชั่ววินาทีต่อมา'เย่ว์หยาง'ทะยานขึ้นไปในท้องฟ้า ต่อยเข้าที่หน้าอกของทหารปีศาจเลือดอย่างดุดัน
'เย่ว์หยาง'ใช้พลังดรรชนี 2 สายของเขาต่างกระบี่แทงเข้าระหว่างคิ้วของทหารปีศาจเลือด จุดอ่อนของเจ้านี่อยู่ที่หว่างคิ้ว ไม่ใช่ที่หน้าอก หมอผีปีศาจ'ซัวจ์'ตอนแรกก็ทำเป็นไม่สนใจ และเตรียมควบคุมทหารปีศาจเลือดของเขาให้ใช้โล่ระเบิดเพลิงเป่าเจ้าเด็กตัวแสบให้กระเด็น โดยไม่คาดคิด เขาประหลาดใจที่พบว่าเขาสูญเสียอำนาจการควบคุมเหนือสัตว์อสูรของเขา
ทหารปีศาจยังคงลอยตัวอยู่ในอากาศเหมือนท่อนไม้ ไม่ยอมขยับแม้แต่นิ้วเดียว นิ้วของ'เย่ว์หยาง'เจาะลึกลงไปตรงกลางระหว่างดวงตาของทหารปีศาจเลือด กระบี่ไร้ลักษณ์ปราณก่อกำเนิดของเขาระเบิดออกทางหลังศีรษะของทหารปีศาจเลือด
เลือดและสมองจำนวนมากระเบิดกระจายออกมา หลังจากลอบโจมตีคราวนี้ 'เย่ว์หยาง'จับร่างของทหารปีศาจเลือดที่บาดเจ็บหนักใกล้ตายไว้แน่นและฉีกปีกข้างหนึ่งของมันอย่างโหดเหี้ยม 'เย่ว์หยาง'เหวี่ยงร่างมันขึ้นไปในอากาศ ปล่อยให้นางพญากระหายเลือดสานงานต่อให้จบ ด้วยความเร็วปานสายฟ้า
'เย่ว์หยาง'หันกลับแล้วร่อนลงมาที่พื้น เขาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วขนาดที่สายตาเปล่าของพ่อมดปีศาจ'ซัวจ์'มองไม่ทัน 'เย่ว์หยาง'พุ่งไปอยู่บนหัวของมังกรเยือกแข็งยักษ์ และยิงปราณกระบี่ไร้ลักษณ์เป็นครั้งที่ 2 หลังจาก'เย่ว์หยาง'เจาะกะโหลกที่แข็งเหมือนหินของมันจนเป็นรู เขารีบปล่อยให้อสูรทองตัวน้อยให้รีบเข้าไปตามช่องเล็กที่เจาะไว้
'เย่ว์หยาง'ปล่อยให้มันจัดการแก่นเวทปีศาจภายในกะโหลก เขาไม่ได้กังวลเรื่องสูญเสียผลึกมังกรในตอนนี้ ขณะที่'เย่ว์หยาง'รีบฆ่าลูกบอลน้ำแข็งลูกที่สอง มิฉะนั้น เขาจะไม่สามารถโจมตีหมอผีปีศาจที่ซ่อนตัวอยู่หลังโล่ของคัมภีร์ทองได้ ลูกบอลน้ำแข็งที่กำลังเล่นงานท้องของตั๊กแตนมรณะกระโจนออกมาและหันมาเล่นงาน'เย่ว์หยาง'ทันที
ในทันใดนั้น ตลอดทั้งร่างของเขาถูกแช่แข็งจนเปลี่ยนรูปสลักมนุษย์น้ำแข็ง
“ฟ้าผ่าเข้าให้แล้ว”
หมอผีปีศาจ'ซัวจ์'ไม่กล้าอยู่ต่อสู้กับเจ้าเด็กมนุษย์ผู้นี้ต่อไปอีกแล้ว
เขาตระหนักได้ว่าเจ้าเด็กนี่แท้ที่จริงแล้วเป็นหนึ่งในนักสู้ปราณก่อกำเนิดในตำนาน แต่เขายังอายุน้อยมาก ดังนั้น ดังนั้นเขาจึงลังเลจนแทบไม่อยากจะเชื่อ หมอผีปีศาจเรียกหุ่นเกราะทองมีค้อนเป็นอาวุธตัวหนึ่ง และสั่งให้มันทุบ'เย่ว์หยาง'ที่กลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งแบบไม่ต้องยั้งมือ มีเสียงดังสนั่นกึกก้อง
'เย่ว์หยาง'แช่แข็งถูกหวดจนปลิวทันที ร่างของ'เย่ว์หยาง'ถูกหวดกระเด็นไปหลายสิบเมตรไปกระแทกกับต้นไม้สีเลือดต้นใหญ่ต้นหนึ่ง ต้นไม้นั้นโค่นล้มเสียงดังสนั่น โคลนหนาสาดกระเซ็นขึ้นไปในอากาศ และบดบังจนไม่เห็นร่างของ'เย่ว์หยาง'
“เกือบไปแล้ว”
หมอผีปีศาจ'ซัวจ์'ปาดเหงื่อเย็นออกไป
โชคดีที่ลูกบอลปีศาจน้ำแข็งของเขาแข็งแกร่งพอและสามารถแช่แข็งเจ้าเด็กนั่นได้ มิฉะนั้น บางทีเขาคงตกอยู่ในอันตรายไปแล้ว พลังดรรชนีของเจ้าเด็กนี่สามารถสังหารทหารปีศาจเลือด อสูรทองแดงระดับ 7 ได้ทันที ถ้าเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง คงไม่มีใครเชื่อแน่ แต่เขามีประสบการณ์ต่อสู้ที่น่ากลัวจริงๆ โชคดีที่เขาฆ่าเจ้าเด็กนั่นได้ด้วยพลังค้อนทุบเพียงครั้งเดียว มิฉะนั้น ถ้าพวกเขาสู้ต่อไป แม้แต่เขาก็ไม่อาจพูดได้อย่างมั่นใจว่าผลการต่อสู้จะเป็นเช่นไร
“ฮ่าาาห์”
ทันใดนั้น ต้นไม้ใหญ่ระเบิดเสียงดังบึ้ม ขณะที่มีร่างหนึ่งก้าวออกมาจากในนั้น เขาบ้วนเลือดเต็มปากออกมาพูดว่า
“เจ้าคิดหรือว่าพลังถึกๆ อย่างนั้นจะพอที่จะฆ่าข้าได้? เจ้าโง่!”
หมอผีปีศาจ'ซัวจ์'พบว่าเจ้าเด็กบ้านี่ยังไม่ตาย
เสื้อผ้าของเขาแค่ฉีกขาด ร่างกายท่อนบนของเขาเปลือยขณะที่เสื้อของเขาป่นเป็นผุยผงไปแล้ว กางเกงของเขายังเสียหายหนักขนาดที่ดูแล้วขอทานยังไม่กล้าใส่ อย่างไรก็ตามนอกจากบ้วนเลือดเต็มปากออกมาแล้ว ดูเหมือนเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างอื่น
'เย่ว์หยาง'ถูกทุบไปหนึ่งค้อนแน่นอน อย่างไรก็ตาม ในฝันของเขา เขาเคยถูกสาวน้อยทุบตีมาแล้ว มากขนาดที่ทำให้ฝีมือการหลบหลีกของเขาก้าวหน้าขึ้น แม่หญิงงามในฝันนั้นไม่ใช่แค่มีพลังมากจนน่ากลัวเท่านั้น แต่ฝีมือของนางยังสูงส่งกว่า'เย่ว์หยาง' ยิ่งไปกว่านั้น 'เย่ว์หยาง'เพียงแต่สนใจฝึกเทคนิคตะครุบอกสาวของเขาเป็นหลัก
ดังนั้นการฝึกจึงมักลงเอยด้วยเจ็บตัวฟกช้ำดำเขียวเป็นประจำ ตอนนี้เขาต้องมาเจ็บตัวจากพลังค้อนของหุ่นเกราะทอง เขาจึงตระหนักได้ว่าพลังของมันน้อยกว่าพลังทุบตีของสาวน้อยในฝันอยู่มาก แต่ทักษะของมันเป็นทักษะที่งุ่มง่ามที่สุด มันไม่เหมือนวิชาพลังปราณภายในหรือพลังย้อนกลับ ฝีมือของมันยากจะทำร้ายเขาได้ ง่ายมากที่จะโต้ตอบกลับไป เขาจะยังสามารถจัดการกับมันได้ตราบเท่าที่เขายังเคลื่อนที่ไปมาบนท้องฟ้าได้ แล้วปล่อยปราณกระบี่ของเขาตัดกำลังหุ่นไปเรื่อยๆ
“นี่มันเป็นไปไม่ได้”
หมอผีปีศาจไม่เชื่อสายตาตัวเองเด็ดขาด
“ที่นี่ไม่มีอะไรแปลก นอกจากข้าสลายพลังโจมตีทั้งหมด ส่วนที่เหลือก็กระทบเข้ากับร่างของอสูรของข้า ถ้าพลังแค่นั้นยังทำร้ายข้าได้ อย่างนั้นข้าคงสร้างมาจากเต้าหู้กระมัง”
'เย่ว์หยาง'ยิ้มสดใส
ข้างหลังเขา 'โคเงา'กำลังเดินออกมา มีรอยร้าวที่เกราะตรงหน้าอกของ'โคเงา'เล็กน้อย นี่เป็นผลที่'เย่ว์หยาง'กระจายพลังกระแทกส่วนน้อยไปที่นาง นางไม่รู้ทักษะป้องกันตัวใดๆ ทั้งนั้นและร่างของนางถูกโยนไปกระแทกต้นไม้ใหญ่ 'เย่ว์หยาง'ร่อนลงพื้นอย่างปลอดภัย แต่เนื่องจากโคลนที่กระเซ็นจากแรงกระแทกปลิวไปทั่วบริเวณ มันจึงบังร่างของเขาจนมองไม่เห็น
“แล้วผลึกน้ำแข็งปีศาจของข้าเล่า? ลูกบอลน้ำแข็งล่ะ?”
หมอผีปีศาจ'ซัวจ์'คิดว่าแม้เจ้าเด็กนี่จะไม่ตายจากการถูกทุบ แต่เขาก็ยังกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งได้
“ขอบคุณน้ำใจไมตรีของเจ้า ข้าได้รับของขวัญของเจ้าแล้ว”
'เย่ว์หยาง'ชูมือขวาอย่างสะใจ
ในมือของเขา เขาถือก้อนน้ำแข็งที่ดูคล้ายแก่นผลึกปีศาจ นี่คือสิ่งที่เขาชิงมาจากลูกบอลน้ำแข็งด้วยตัวเอง เขาใช้ปราณก่อกำเนิดแยกวิญญาณปีศาจภายในผลึก เปลี่ยนลูกบอลน้ำแข็งให้เป็นผลึกแก่นปีศาจคุณภาพสูงที่อันตราย 'เย่ว์หยาง'คงไม่ยอมโดนทุบเพราะเรื่องที่ไร้สาระแน่นอน กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือปีศาจลูกบอลน้ำแข็งนั้น เสนอตัวเองถึงมือ'เย่ว์หยาง'จนทำให้สูญเสียผลึก
ปีศาจให้'เย่ว์หยาง' ทำให้มันเสียชีวิตอย่างไร้สาระจริงๆ นอกจากฆ่าศัตรูได้ทันทีแล้ว 'เย่ว์หยาง'ยังเก็บเกี่ยวแก่นผลึกปีศาจคุณภาพสูงไว้อีกด้วย นี่คือแนวคิดในการต่อสู้ของ'เย่ว์หยาง' หมอผีปีศาจ'ซัวจ์'ร่ำร้องในใจว่า
“ซวยแล้ว”
ความเคลื่อนไหวก่อนนั้นที่เขาอัญเชิญ “ทายาทราตรี” ออกมา, อสูรสายผีอมตะแต่ละตัวจะมีทักษะที่เพิ่มขึ้นต่างกัน แต่จะทำให้ลูกกลมเทเลพอร์ตใช้งานไม่ได้ ทั้งนี้เป็นเพราะอสูรหมอกมืดนี้ ครอบคลุมสถานที่นี้ทั้งหมด มันถูกมองว่าอยู่ภายในตัวอสูรชนิดพิเศษ ตอนนี้เขาคาดคะเนถึงความเคลื่อนไหวครั้งนี้และอสูรของเขาทั้งหมดได้รับบาดเจ็บหนัก
ส่วนเจ้าเด็กนี่ยังไม่สูญเสียอะไรเลย ดูเหมือนเขาแข็งแกร่งพอๆ กับนักสู้ผู้มีประสบการณ์ที่ใกล้จะบรรลุขอบเขตปราณก่อกำเนิดเหล่านั้น ถ้าเขาทำผิดพลาดโดยประมาท คงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะถูกแผดเผาจนตาย เขาต้องคิดหาทางออกให้ดี
มิฉะนั้นสถานการณ์จะอันตรายมากๆ ตอนนี้ หมอผีปีศาจ'ซัวจ์'ไม่ได้คิดว่า'เย่ว์หยาง'เป็นหนอนมนุษย์ตัวน้อยที่เขาจะฆ่าทันทีเมื่อไหร่ก็ได้อีกต่อไป ในตอนนี้ เขารู้สึกว่า ตัวเขาเองพบกับคู่ต่อสู้ที่ต่อกรได้ลำบากเข้าให้แล้ว
'เย่ว์หยาง'ยังคงลังเลเล็กน้อย หรือว่าหมอผีปีศาจ'ซัวจ์'กำลังคิดจะหนี? เขาควรจะรีบโจมตีมังกรเยือกแข็งยักษ์และชิงแก่นผลึกมังกรของมัน หรือไม่ก็โจมตีหุ่นเกราะทองแล้วชิงแก่นผลึกปีศาจแทนดีไหม? ถ้าหมอผีปีศาจนี้ต้องการหลบหนี อย่างนั้นเขาจะไม่สามารถทำอะไรได้ เขาต้องรีบเลือกเป้าหมาย
ขณะที่'เย่ว์หยาง'ลังเล 'เสี่ยวเหวินหลี'ก็ตัดสินใจออกมาเอง เกี่ยวกับการปรากฏตัวของเธอ ถึงกับทำให้'เย่ว์หยาง'กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ หมายความว่าอย่างไร? นี่หมายความว่า ถ้าหมอผีปีศาจต้องการหลบหนี เธอสามารถช่วยเขาฆ่าเจ้าตลกที่แข็งแกร่ง หมอผีปีศาจ'ซัวจ์'ได้
“เจ้าครอบครองอสูรหลายตัวได้อย่างไรกัน?”
พ่อมดปีศาจ'ซัวจ์'อยากจะสลบเสียให้ได้
เจ้าเด็กนี่ไม่เพียงแต่มีนางพญากระหายเลือด อสูรทองระดับ 3 และโคเงา อสูรทองแดงระดับ 5 เขายังมีอสูรแปลกๆ ที่ดูเหมือนอสูรหุ่นสีทองตัวเล็ก ตอนนี้เขายังเรียกปีศาจอสรพิษน้อยมี 6 แขนออกมาอีก คัมภีร์ของเจ้าเด็กนี่เป็นเพียงคัมภีร์เงินชั้นเริ่มต้น และระดับของเขายังเป็นระดับเริ่มต้น เขาเรียกอสูรออกมาได้มากพร้อมกันได้อย่างไร?
“เมื่อเจ้าใกล้ตาย ข้าอาจจะบอกเจ้าก็ได้”
'เย่ว์หยาง'โบกมือและตะโกนเหมือนดาวร้ายว่า
“เอาเลยพี่น้อง! บุก.. ถ้ามีสมบัติ ก็ให้กวาดสมบัติ ถ้ามีแก่นผลึก ก็ให้เก็บแก่นผลึก ข้าจะพูดแค่ประโยคนี้ประโยคเดียว เผาให้ราบ ฆ่าให้เรียบ ปล้นให้เกลี้ยง”
ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=122