ตอนที่ 100 จับมันยัดใส่โลงทันที
พอได้ยินคำสั่งของ'เย่ว์หยาง' 'ฮุยไท่หลาง'พุ่งออกไปราวกับลูกธนูทันทีและบุกใส่นักรบชุดม่วง นักรบชุดม่วงได้แต่หวังจริงๆ ว่าคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์ผู้นี้เป็นเพียงสวะที่ไร้ประโยชน์ แต่แกล้งทำเป็นเข้มแข็งเท่านั้น เขาคิดว่าเจ้าเด็กนี่คงไม่บ้าพอที่จะต่อต้านทั้งตระกูล ต่อให้เขาต้องการทำก็ตาม
เขาคาดไม่ถึงเลยว่า'เย่ว์หยาง'ไม่ยอมพูดอะไรต่อ แต่สั่งให้ฆ่าทันที นักรบชุดม่วงกังวลใจอย่างมาก เขาโดดขึ้นไปในอากาศหลบการจู่โจมของ'ฮุยไท่หลาง' อสูรที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลังก็คือหมูป่าเขี้ยวยาว อสูรสามัญระดับ 4 กลับโชคร้ายพบจุดจบแทน หมูป่าเขี้ยวยาว อสูรสามัญระดับ 4 ไม่กล้าสู้กับ'ฮุยไท่หลาง' อสูรทองแดงระดับ 5 อยู่แล้ว แต่ภายใต้คำสั่งของเจ้านาย มันจำฝืนใจบุกใส่'ฮุยไท่หลาง'
'ฮุยไท่หลาง'ไม่ได้รำคาญการโจมตีของหมูป่าเขี้ยวยาวเลย มันพยายามทำให้การต่อสู้จบโดยเร็ว มันกระโจนขึ้นอย่างคล่องแคล่วและใช้กรงเล็บมันตะกุยฝ่าอากาศ ปรากฏรอยเล็บหลายรอยบนใบหน้าของหมูป่าเขี้ยวยาว หนึ่งในรอยนั้นทำให้ลูกตาข้างหนึ่งของหมูป่าหลุดออกมา แม้ว่าหมูป่าเขี้ยวยาวจะมีหนังหนาเนื้อเหนียวก็ตาม แต่ตาของมันเป็นจุดอ่อนที่สุดในร่างกายมัน 'ฮุยไท่หหลาง'ไม่รอให้หมูป่าเขี้ยวยาวได้ร้องด้วยความเจ็บปวด มันตะกุยกรงเล็บอีกครั้งเข้าที่ตาอีกข้างหนึ่งของหมูป่า
“อ๊า..ไม่นะ”
นักรบชุดม่วงรู้สึกทรมานอย่างมากขณะดูหมูป่าของเขาบาดเจ็บหนัก
ทันใดนั้นเงาดำสายหนึ่งพุ่งวาบขึ้นไปในอากาศและต่อยหมัดใส่เขาอย่างหนัก
“ท่านน่าจะเป็นอาเขยแปดใช่ไหม? อายุขนาดนั้น ท่านควรพักผ่อนอยู่บ้านพักคนชรารอเวลาตายได้แล้ว จะต้องมาบินอยู่ในอากาศทำไม”
ทันใดนั้นเองหลังจาก'เย่ว์หยาง'ปล่อยหมัดแล้ว เขาหมุนตัวกลางอากาศเตะเข้าที่ท้องของบุรุษชุดม่วง ขณะที่บุรุษชุดม่วงกระเด็นไปในอากาศจากแรงเตะ 'เย่ว์หยาง'ยกมือทั้งสองของเขาและโดดขึ้นไปหาเขา จากนั้นประสานมือทุบลงที่หน้าอกของบุรุษชุดม่วง พอบุรุษชุดม่วงถูกทุบอย่างหนัก ร่างของเขาพุ่งลงพื้นราวกับดาวตก ที่ข้างล่าง
'ฮุยไท่หลาง'ยังคงรับลูกกับ'เย่ว์หยาง' เมื่อนักรบชุดม่วงเกือบจะกระแทกลงพื้น มันก็พุ่งเข้าใส่เขาทันที มันใช้เรี่ยวแรงและร่างของมันซึ่งมีพลังมากกว่าควายป่าไบซันเสียอีก และกระแทกเข้ากับร่างของนักรบชุดม่วง ร่างของนักรบชุดม่วงกระเด็นขึ้นไปอีกจากแรงกระแทก เขาปลิวไปที่รถม้า
ในขณะเดียวกัน 'เย่ว์หยาง'หมุนตัวในอากาศและมารออยู่ตรงจุดที่นักรบชุดม่วงกำลังร่วงลงมา พร้อมกับไม้ยาวที่อยู่ในมือของเขา จากนั้นเขาหวดนักรบชุดม่วงลอยกลับไปในอากาศเหมือนว่าเขากำลังเล่นเบสบอล
“เจ้าบังอาจดูหมิ่นญาติผู้ใหญ่ของเจ้าและพยายามฆ่าผู้อาวุโสของเจ้าเหรอ?”
บุรุษผอมสูงกลัวจัดจนขวัญแทบกระเจิง เขาไม่เคยคิดว่าเขยที่แปดที่เป็นถึงนักสู้ระดับ 3 จะไม่สามารถโต้ตอบได้เลย เมื่อคุณชายสามผู้ไร้ประโยชน์นี้จู่โจมและถึงกับพ่ายแพ้ทันที แม้แต่หมาป่ารบที่ส้นเท้าของเขาได้ทิ้งการต่อสู้หนีไปเมื่อเห็น'ฮุยไท่หลาง' เขาเรียกหุ่นเกราะระดับ 3 ออกมาเพื่อปกป้องตัวเขาเอง
“อาเขยแปดไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องและพยายามฆ่าแม่สี่และน้องสาวทั้งสองคนในครอบครัวของข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขามุ่งมั่นจะทำเลวร้ายขนาดที่แม้แต่สวรรค์เบื้องบนยังคลั่งแค้น ข้าในฐานะผู้เยาว์รุ่นหลังจะไม่ยอมทนให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป ข้าจะต้องชำระเรื่องเหลวแหลกแบบนี้ และเนื่องจากว่าเจ้าพูดออกรับแทนเขา อย่างนั้นเจ้าก็ต้องเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย ฮุยไท่หลาง แกจะรออะไรอีก ฆ่าเขาซะ”
'เย่ว์หยาง'ยืนกรานความตั้งใจจนทำให้คนผอมสูงกลัวตาย
เขาไม่กล้าตั้งหน้าเป็นศัตรูกับ'เย่ว์หยาง'ต่อไปและวิ่งกลับไปที่กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังของเขา เขาตั้งใจจะขอความคุ้มครองจากกองคุ้มกันตระกูลเย่ว์และทิ้งการต่อสู้หนีไป 'ฮุยไท่หลาง'ไม่โง่พอที่จะบุกใส่หุ่นสวมเกราะที่บุรุษผอมสูงทิ้งไว้ มันไล่กวดบุรุษผอมสูงแทนโดยไม่ยอมปล่อยให้เขาหนี มันไล่กวดเขาและตามเข้าไปในกลุ่มคนส่งผลให้คนกลุ่มนั้นตกอยู่ในความโกลาหลทันที เหมือนกับพยัคฆ์โดดเข้าไปในฝูงแกะ
'ฮุยไท่หลาง' 2 หัวตะกุยกรงเล็บฝ่าอากาศใส่ตรงทุกจุดที่ขวางทางมันอยู่ ทำให้ใต้พื้นที่ๆ มีคนยืนอยู่มีเลือดไหลนอง ผู้คุ้มกันตระกูลเย่ว์ที่หนีไม่ทันก็ถูกตะกุยใส่ล้มลงทีละคนๆ ขณะเดียวกัน สัตว์อสูรระดับต่ำกลัวจัดจนพวกมันเริ่มแตกกระจายกันไป บางตัวก็รู้สึกว่ามันถูกต้อนจนมุมเริ่มหันมากัดทำร้ายคนที่ขวางทางหลบหนีของพวกมัน ไม่เว้นแม้กระทั่งเจ้านายตนเอง 'ฮุยไท่หลาง'ตระหนักดีว่าคนที่อยู่ต่อหน้าของมันเหล่านี้ไม่สามารถทนรับการโจมตีของมันได้แม้แต่เพียงครั้งเดียว
พวกเขาอ่อนแอมากกว่าสัตว์ประหลาดหัวแกะในวิหารราศีเมษพวกนั้นเสียอีก มันกลับกลายเป็นเรื่องตื่นเต้นยินดีกับตัวเองที่จะได้เริ่มสังหารหมู่ทุกคนมันกวาดกรงเล็บอย่างรุนแรงและตะปบคนหรือสัตว์อสูรที่หนีไม่ทันเหมือนตบแมลงออกไปด้านข้าง อย่างไรก็ตาม มันยังคงไล่ตามบุรุษผอมสูงอยู่ พวกผู้คุ้มกันตระกูลเย่ว์กลัวจัดจนต้องหนีเอาชีวิตตัวเองให้รอด แตกกระจายไปคนละทิศทาง พวกเขาปรารถนาให้มีเท้างอกขึ้นมาอีกคู่หนึ่งเพื่อที่จะได้หนีได้เร็วยิ่งขึ้น
ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีบางส่วนที่โชคร้ายถูก'ฮุยไท่หลาง'ตบกระเด็นเหมือนกับแมลง แรงกระแทกนั้นส่งผลให้พวกเขากล้ามเนื้อฉีกขาดกระดูกหัก เลือดไหลไม่หยุดขณะที่พวกเขาอ้าปากหายใจพะงาบๆ แม้ว่าพวกเขาจะกลัวคนบางพวกจนยอมช่วยเหลือบางคนทำเรื่องชั่วร้ายเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น แต่หลังพบกับ'เย่ว์หยาง' เจ้าเด็กแสบนี่มีพลังมากเหลือเฟือ ไม่เกรงกลัวผลกระทบใดๆ ในการฆ่าคน ชีวิตดีๆ ของพวกเขาจึงต้องมาถึงจุดสิ้นสุด
บุรุษผอมสูงพยายามตะเกียกตะกายหนีอย่างเต็มกำลัง แต่เขาจะหนีพ้นการไล่ล่าของ'ฮุยไท่หลาง'ได้อย่างไร? เมื่อเขาหันศีรษะกลับมาดูอย่างหมดหวัง ก็พบว่า'ฮุยไท่หลาง'เกือบจะไล่เขาทันอยู่แล้ว เขาเริ่มร้องอย่างหวาดกลัว แต่'ฮุยไท่หลาง'จะจัดเขาแบบสุภาพได้อย่างไร?
ด้วยกรงเล็บที่ตะกุยตัดฝ่าอากาศ ทั้งชุดและเลือดเนื้อของคนผอมสูงฉีกขาดกระจายอยู่ในอากาศ คนผอมสูงร้องแหกปากร้องอย่างเจ็บปวดทรมาน ขณะที่เขากลิ้งตัวไปตามพื้นปรากฏเป็นรอยเลือดตรงที่เขากลิ้งผ่าน ก่อนที่เขาจะได้มีโอกาสร้องขอความเมตตา หัวทั้งสองของ'ฮุยไท่หลาง'ก็ก้มลงมาหาเขา ตามมาด้วยเสียงกร๊อบๆ มันหักขาทั้งสองข้างของเขาแล้ว ถ้า'ฮุยไท่หลาง'ต้องการฆ่าบุรุษผอมสูง กลับเป็นเรื่องง่าย แค่อ้าปากกว้างขึ้นก็ทำได้แล้ว แต่มันเป็นสุนัขฉลาดที่รู้จักวิธีเอาใจเจ้านายของมัน มันไม่ได้กินเขาทันที แต่ลากบุรุษผอมสูงไปหา'เย่ว์หยาง'แทน หลังจากลากมาไว้ต่อหน้า'เย่ว์หยาง' มันกระดิกหางเป็นการใหญ่ ทำเหมือนจะสื่อความรู้สึกให้รู้ว่า
“ข้าก็นักเลงใหญ่ไม่เบา ใช่ไหม?”
“ไว้ชีวิตข้าด้วยเถอะ คุณชายสาม, โปรดไว้ชีวิตข้า...”
บุรุษผอมสูงร้องอย่างหวาดหวั่น
“ร้องให้ดังกว่านี้อีก ข้าไม่ได้ยินเจ้า!”
จิตใจของ'เย่ว์หยาง'ต้องทำด้วยหินแน่นอน
ในสายตาของเขา คนอื่นในตระกูลเย่ว์นอกจากแม่สี่และครอบครัวของเขา ล้วนเป็นคนนอกไร้ความหมาย ถ้าเขาอยู่ในอารมณ์ที่ดี เขาอาจยอมคุยด้วยเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าพวกนั้นพยายามหาเรื่องให้เขาลำบาก ไม่มีประโยชน์ที่เขาจะรับฟังข้อกล่าวหาแก้ตัว เขาจะฆ่าพวกมันทันที กลุ่มคนที่ซ่อนอยู่ภายในหมู่บ้านตระกูลเย่ว์ ไม่อาจนั่งซ่อนอยู่ในที่ลับได้ พวกเขามองที่เกิดเหตุและสิ่งที่เกิดขึ้น และเริ่มออกมาทีละคนๆ
หัวหน้ากลุ่มคนพวกนี้เป็นบุรุษสูงอายุศีรษะล้านกำลังขี่หุ่นเสือออกมา พอเห็นกลุ่มคนที่ซ่อนอยู่ปรากฏตัวออกมา 'เย่ว์หยาง'ก็หัวเราะอย่างขมขื่นใจ เป็นอย่างที่คาดไว้ นี่เป็นแผนที่เตรียมไว้แล้ว พวกเขาคาดการณ์ไว้แล้วว่าเขาและครอบครัวจะโต้ตอบเหล่าผู้อาวุโสในตระกูล
อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจไม่ได้คาดไว้เลยว่าคนที่กำลังเป็นฝ่ายโจมตีจะเป็นตัวเขา คุณชายสามผู้ไร้ประโยชน์ เดิมทีพวกเขาคาดว่า บรรดาสัตว์อสูรระดับต่ำแต่คล่องแคล่วจะถูกเรียกออกมาต่อกรกับนักรบพฤกษาชอง'เย่ว์ปิง' ใครจะคิดกันว่าเขาจะใช้งาน'ฮุยไท่หลาง'แทน ซึ่งมันก็เป็นดาวข่มของสัตว์อสูรทั้งหลายเหล่านี้ ฉะนั้นการปรากฏตัวของบุรุษศีรษะล้าน 'เย่ว์หยาง'ไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เขารอคอย
เนื่องจากเขาตัดสินใจวิวาทกับตระกูลของเขาแล้ว จากนั้นก็เล่นเกมต่อด้วยเดิมพันที่สูง เขาจะใช้การฆ่าเบิกเส้นทางขึ้นไปยังปราสาทตระกูลเย่ว์และใช้กำปั้นคุยกับคนที่อาศัยอยู่ในปราสาทตระกูลเย่ว์ เขาคิดว่า
“ตอนนี้ กำปั้นของเราแข็งแกร่ง ทรงพลังและอาจหาญที่สุด พยายามข่มเหงเราก็ได้ ถ้าพวกเจ้าต้องการ แล้วมาดูกันว่าใครจะเป็นฝ่ายรังแกใครกันแน่”
ใบหน้าของชายชราหัวล้านเป็นสีคล้ำขณะที่เขาโบกมือสั่งให้ทหารฝีมือดีข้างหลังเขาเรียกอสูรหุ่นรบออกมา สัตว์อสูรธรรมดาไม่มีผลกระทบต่อ'ฮุยไท่หลาง'แต่อย่างใด ระดับของพวกมันแตกต่างมากเกินไป สัตว์อสูรใดๆ ก็ตามที่ยังมีชีวิตจะพากันหนีไปให้ห่างไกลสนามรบทันทีที่พวกมันเห็นฮุยไท่หลาง อสูรทองแดงระดับ 5 มีแต่เพียงอสูรหุ่นที่ไม่มีชีวิตและความกลัว นี่คือประโยชน์อย่างหนึ่งของมันไม่มากก็น้อย
“เสี่ยวซาน, เจ้ากำเริบเสิบสานใหญ่แล้ว บังอาจฆ่าคนในหมู่บ้านตระกูลเย่ว์หรือ? ข้าขอสั่งให้เจ้าปล่อยหลินเหย้าเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นอย่ามาโทษว่าข้าลงโทษเจ้าสถานหนักตามกฎไม่ได้นะ”
ดูเหมือนคนหัวล้านจะเป็นคนที่ทรงอิทธิพลอยู่ เขาขี่อยู่บนหุ่นพยัคฆ์ชั้นทองแดงระดับ 4 ผู้คุ้มกันชุดแดงฝีมือดี 2 คนที่ด้านหลังของเขาได้เรียกเสือเขี้ยวดาบชั้นทองแดงระดับ 3 ออกมาแล้ว ด้านหลังพวกเขา เป็นกลุ่มผู้คุ้มกันฝีมือดีซึ่งได้เรียกอสูรหุ่นเตรียมพร้อมไว้แล้ว แม้ว่าจะไม่มีอสูรชั้นทองแดงมากนัก แต่ทั้งหมดก็เป็นหุ่นหมาป่าหรือไม่ก็หุ่นเสือดำระดับ 3 หรือระดับ 4 'ฮุยไท่หลาง'เป็นอสูรระดับสูงสุดในที่นั้น แต่แรงกดดันของมันไม่มีผลต่ออสูรหุ่นที่ไม่มีปัญญาเหล่านี้
ผู้เฒ่าศีรษะล้านมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด เขาไม่รู้ว่าคุณชายสาม สวะที่ไร้ประโยชน์ผู้นี้ไปได้หมาป่าปีศาจ 2 หัวชั้นทองแดงระดับ 5 มาได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกว่า แม้ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่การท้าทายตระกูลเย่ว์ทั้งปวงที่เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ด้วยหมาป่าปีศาจ 2 หัวเพียงตัวเดียวเป็นเรื่องตลกมาก! ชายชราหัวล้านไม่เชื่อว่า'เย่ว์หยาง'จะกล้าต่อต้านเขาที่เป็นผู้อาวุโสผู้มีตำแหน่งสูงในตระกูล
ในอดีต เจ้าสวะอย่าง'เย่ว์หยาง'นี้จะตัวสั่นทันทีเมื่อเขาจ้องมองครั้งเดียว เจ้าสวะจะพูดจาผิดๆ ถูกๆ ยามที่เขาปรากฏตัวขึ้น แค่พลังของเจ้าเด็กนี่ตามลำพัง เขายังต้องลงมือต่อสู้กับเขาด้วยหรือ?
“ตาแก่! บ่นอะไรของเจ้า? พูดดังๆ หน่อยซิ ข้าไม่ได้ยินเจ้าเลย!”
'เย่ว์หยาง'แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินขณะที่เขายังคงใช้ไม้หวดบุรุษผอมสูงต่อไป
เขามั่นใจว่าคนผอมสูงจะไม่ถูกตีจนตายหรือหมดสติ 'เย่ว์หยาง'ต้องการให้เขาทนทรมานเจ็บปวดเจียนตาย แต่ไม่อาจตายได้
“เสี่ยวซาน! เจ้าจะขัดขืนคำสั่งของข้าไปถึงไหนกัน, อาเซียน ถ้าเจ้าไม่ห้ามเสี่ยวซานเดี๋ยวนี้ ข้าจะคร่ากุมเขาตามกฎของตระกูลเรา!”
พอเห็นว่า'เย่ว์หยาง'ไม่สนใจเขา ชายชราศีรษะล้านตะโกนไปทางหญิงงามผู้นั่งอยู่ในรถ
“เซียนยึดมั่นในคำสอนของขงจื้อและสาบานว่าจะยึดมั่นใน 3 โอวาท 4 คุณธรรม ข้าจะเชื่อบิดาในฐานะเป็นธิดา จะเชื่อฟังสามีในฐานะเป็นภรรยาและบุตรของเราเมื่อสามียังไม่ปรากฏตัว เนื่องจากบิดาและสามีของข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ ปกติแล้วข้าจะฟังบุตรของข้า ไม่ว่าบุตรของข้าต้องการสิ่งใด ข้าจะอนุโลมตามเขา บุตรชายของข้าคือคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์ผู้มีเกียรติ มันเป็นเรื่องปกติ หากว่าเขาต้องการกลับไปปราสาทตระกูลเย่ว์ อย่างไรก็ตาม บ่าวทาสเลวร้ายได้ขัดขวางปิดกั้นเส้นทางไม่ให้เขากลับ เหตุผลในเรื่องนั้นอยู่ที่ไหนกัน? บุตรของข้าเติบใหญ่แล้ว เป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ เป็นคนแข็งแกร่ง มีความสามารถและมีจิตวิญญาณที่ไม่ย่อท้อ เขามีความต้องการและความคิดเป็นของตนเอง ข้ายุ่งเกี่ยวเรื่องนั้นไม่ได้ พอพูดถึงเรื่องความผิด ทำไมท่านถึงไม่รอจนกว่าเราจะกลับไปยังปราสาทตระกูลเย่ว์แล้วค่อยสนทนากับผู้อาวุโสอื่น? มาล้อมพวกเราไว้เหมือนกับจะฆ่าบุตรชายข้า นี่คือสิ่งที่เรียกว่ากฎหรือ?”
หญิงงามปฏิเสธคำสั่งบุรุษหัวล้านในชั่วอึดใจเดียว
“อาเซียน! เจ้าตามใจลูกและกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการก่อความผิดที่ร้ายแรงของเขาใช่ไหม? ดี, ดีมาก เจ้ากล้ามาก”
ชายชราศีรษะล้านโกรธจัดจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเขียวเหมือนกับกิ้งก่า
“ฮุยไท่หลาง! ฆ่าเจ้าแก่บ้ากามที่เอาแต่ผายลมใส่แม่สี่ของข้าเดี๋ยวนี้ เย่ว์หยางตัดสินใจเล่นงานชายชราหัวล้านผู้คุกคามสะใภ้ของตระกูลก่อน ไม่ว่ายังไงก็ตามความผิดนี้จะต้องเกิดขึ้นแน่ ขึ้นอยู่กับหมัดของเขาแข็งแกร่งพอที่จะพูดแทนได้”เสี่ยวซาน! เจ้าบังอาจใส่ร้ายคนอื่น!””
บุรุษหัวล้านไม่เคยคิดเลยว่า'เย่ว์หยาง'จะไร้ยางอายถึงเพียงนี้ เขาตะโกนลั่นอย่างโกรธจัดจนปอดแทบระเบิด
“ตาแก่ปากเหม็น, เจ้าชราแล้ว หรือว่าสมองตายกันแน่? คิดหรือว่าคนโง่อย่างเจ้าจะเรียกข้าว่าเสี่ยวซานได้? สถานะของข้าคือคุณชายสาม! สุนัขเฒ่า! ลืมวิธีทักทายเจ้านายเมื่อยามที่เจ้าพบแล้วหรือ? ตอนนี้ให้เรียกข้าว่าคุณชายสาม”
ถ้าเป็นเจ้าเด็กที่น่าสงสารในอดีต เขาอาจกลัวชายชราศีรษะล้านก็ได้ แต่น่าเสียดาย 'เย่ว์หยาง'เป็นคนจากโลกอื่น เขาไม่รู้จักชายชราศีรษะล้านผู้นี้แม้แต่น้อย เนื่องจากพวกเขาวิวาทกับตระกูลแล้ว 'เย่ว์หยาง'จึงไม่เสแสร้งทำเป็นสุภาพอีกต่อไป ด้วยคำพูดหาเรื่องและก้าวร้าวของเขา เขาทำให้ชายชราโกรธจนเส้นเลือดแทบระเบิด ชายชราศีรษะล้านถึงกับหน้ามืดไปชั่วครู่และร่วงลงจากหลังหุ่นพยัคฆ์ของเขา
“พี่สาม!”
'เย่ว์ปิง'ปาดเหงื่ออย่างกังวล ดูเหมือนว่าพี่ชายของนางโกรธจนฆ่าได้ทุกคน เขาเรียกหัวหน้าห้องลงทัณฑ์ ที่เขากลัวมากในอดีตว่า“สุนัขเฒ่า”
“เจ้าโง่นี้เป็นใคร?”
'เย่ว์หยาง'สงสัย ว่าเขาอาจเป็นคนเขาไม่สามารถล่วงเกินได้กระมัง?
“เขา เขาคือผู้อาวุโสห้องลงทัณฑ์...”
'เย่ว์ปิง'อธิบายอย่างกังวล นางต้องการบอก'เย่ว์หยาง'ว่าคนผู้นี้เป็นคนที่เขากลัวที่สุดในอดีต แต่ใครจะรู้ 'เย่ว์หยาง'หัวเราะลั่นทันทีที่ได้ยินแบบนั้น
“เขาเป็นแค่ผู้อาวุโสห้องลงทัณฑ์ไม่ใช่หรือ? เจ้าทำเอาเสียข้าตกใจ เขาเป็นตาแก่ที่ไม่มีความสำคัญอะไร เป็นคนแก่หง่อมที่อยู่ในวัยชราแล้ว แค่จะยืนให้มั่นยังเป็นเรื่องยากด้วยซ้ำ มีอะไรจะต้องกลัวเจ้า? อย่ากลัวไปเลย เดี๋ยวพี่จะเขายัดลงโลงเดี๋ยวนี้แหละ”
“ทุกคน! คร่ากุมไอ้เด็กเปรตที่ไม่มีสัมมาคารวะผู้อาวุโสและกฎตระกูลเดี๋ยวนี้, ข้า..ข้าจะทำตามกฎของตระกูลพวกเรา”
ชายชราศีรษะล้านได้รับการช่วยเหลือจากบริวาร แต่พอได้ยินคำพูดของ'เย่ว์หยาง' เขากระอักโลหิตออกมาคำหนึ่งทันที คนอย่างเขาที่ได้รับการนับถือจนกลายเป็นนิสัยหยิ่งผยอง เป็นครั้งแรกจริงๆ ในชีวิตของเขาที่ต้องทนทุกข์จากการเยาะเย้ยและความอดสูดังกล่าว ภายใต้ความอับอายและอัปยศดังกล่าว เขาโกรธจนถึงกับกระอักเลือด
“ข้าคิดว่าท่านคงเบื่อหน่ายที่จะมีชีวิตแล้ว สุนัขเฒ่าอย่างท่านอยู่ไปมีแต่จะสิ้นเปลืองอาหารในโลกนี้เปล่าๆ ขอให้เด็กรุ่นหลังผู้นี้ได้แสดงความเคารพพวกท่านทุกคนเป็นครั้งสุดท้ายเถอะ เข้ามาเลย, ข้าจะฆ่าใครก็ตามที่ต่อต้านข้า, ไม่สำคัญหรอกว่าข้าจะฆ่าพวกเจ้าคนเดียวหรือทุกคน เพราะนั่นเป็นวิธีจบการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว ฮุยไท่หลาง! ส่งตาเฒ่านี่ ไปตามทางของเขา”
'เย่ว์หยาง'ยิ้มเล็กน้อย
เจ้าผู้นี้ต้องเป็นหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดต่อต้านครอบครัวที่สี่ เขาต้องเกี่ยวข้องอย่างปฏิเสธไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการแต่งงานใหม่ของอาสี่ และมีส่วนร่วมเกี่ยวกับการยกเลิกการหมั้นหมายของเจ้าเด็กที่น่าสงสารจนเขาไปโดดน้ำตาย
ถ้า'เย่ว์หยาง'ไม่ฆ่าเขา อย่างนั้นจะให้เขาปฏิบัติต่อเจ้าผู้นี้เหมือนเป็นผู้อาวุโสอย่างนั้นหรือ? ทุบตีบ่าวทาสบัดซบ ยังเป็นการเริ่มต้นที่ยังไม่น่ากลัวพอ ถ้าเขาต้องการทุบตีใครบางคน เขาควรทุบตีเต็มกำลัง ต้องเป็นผู้อาวุโสที่ห้าวที่สุดนี่แหละ แววตาของ'เย่ว์หยาง'เปล่งประกายอำมหิต
“การแสดงจะเริ่ม ณ บัดนี้!”
ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=100