ตอนที่ 78 ศัตรูแข็งแกร่ง มังกรกระดูกและจ้าวอัคคี
ถ้าเขาสู้กับพวกมันทีละคน ก็ยังไม่ง่ายสำหรับ'เย่ว์หยาง'ที่จะล้ม'ขุนพลปีศาจ'ได้ แต่ร่างกายที่แข็งแกร่งของ'ขุนพลปีศาจ'มีจุดอ่อนที่ร้ายแรง หากเกิดความเสียหายร้ายแรงได้รับบาดแผลที่หัวใจ พวกมันจะล้มลงทันที ไม่สามารถจะลุกขึ้นมาได้
แน่นอนว่า เปรียบเทียบกันแล้ว มนุษย์มีจุดอ่อนอยู่มากมาย หัว, หัวใจ, ท้องน้อย กล่องดวงใจ กระดูกสันหลัง ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งที่กล่าวมานี้ถูกกระแทกอย่างแรง พวกเขาจะหมดความสามารถต่อสู้ทันที พวก'ขุนพลปีศาจ'มีจุดอ่อนที่เดียวคือหัวใจของ และเป็นเรื่องที่ยากมากเสียด้วยที่จะสู้ได้
'ขุนพลปีศาจ'ไม่กี่ตนที่เป็นพวกเผ่าพันธุ์หนอนสามารถสู้ต่อได้แม้ว่าพวกมันจะถูกตัดหัวก็ตาม ความสามารถในการเปลี่ยนรูปของพวกมันน่ากลัวถึงขนาดนั้น จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวก็คือหัวใจไม่อาจปล่อยให้เสียหายหนักได้ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะ'เย่ว์หยาง'มีปราณกระบี่ขั้นก่อกำเนิด ร่างกายที่ทรงประสิทธิภาพของพวกมันและเกราะเวทสำหรับป้องกันจะไม่ปล่อยให้พวกมันสูญเสียความสามารถในการต่อสู้
แม้ว่าร่างกายจะมีบาดแผลเต็มไปหมด ต่อให้มือและขาของพวกมันถูกทำลายก็ตาม ต่อให้หนักกว่านั้นพวกมันก็ยังไม่ตกอยู่ในอันตรายถึงตาย เป็นเรื่องโชคร้ายสำหรับพวกมันที่มาเจอคนที่ผิดปกติอย่าง'เย่ว์หยาง'
ผู้ใดจะคาดคิดกันว่า ผู้อัญเชิญชั้นฝึกหัดจะกลายเป็นนักสู้ชั้นนปราณก่อกำเนิด ปราณขั้นก่อกำเนิดของ'เย่ว์หยาง'สามารถเจาะผ่านเกราะเวทเข้าไปทำร้ายหัวใจทั้งที่มีกล้ามเนื้อป้องกันอยู่ พลังของมันเหนือกว่าพวกระดับต่ำอย่างระดับ 6 ไม่มีใครป้องกันต่อต้านพลังโจมตีของปราณก่อกำเนิดของนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิดได้ เป็นที่น่าเสียดายก็คือ'เย่ว์หยาง'สามารถปล่อยปราณกระบี่ได้เพียง 3 ครั้งในตอนนี้
ถ้า'เย่ว์หยาง'สามารถเป็นได้อย่างเทพธิดากระบี่ฟ้า ที่ปลดปล่อยปราณกระบี่ได้หลายพันสาย เขาคงไม่ต้องทำเป็นอ่อนแอเพียงเพื่อหลอกล่อเหยื่ออย่าง'ขุนพลปีศาจ'ทั้งสองให้ประมาทเข้ามาหา
ดังนั้นเมื่อพวกมันกำลังเยาะเย้ยล้อเล่น เขาก็สามารถลอบทำร้ายพวกมันได้ ถ้าเขาสามารถปล่อยได้ถึง 10 กระบี่ เขาจะเสี่ยงลุย 5 'ขุนพลปีศาจ'และทำลายพวกมันด้วยตัวเอง 2 กระบี่ถูกใช้ออกไปเพื่อกำจัด'ขุนพลปีศาจ' 2 ตน ผลการต่อสู้ปรากฏชัดแล้ว ที่สำคัญที่สุด เพื่อให้ได้เพิ่มระดับของต้นดอกหนาม 'เย่ว์หยาง'เพิ่มปุ๋ยที่ดีที่สุดให้มัน
จะไปหาปุ๋ยชั้นดีอย่าง'ขุนพลปีศาจ'ได้ที่ไหน? เขาคาดว่าถ้ามันย่อย'ขุนพลปีศาจ'ทั้งสองนี้เสร็จแล้ว มันจะเลื่อนชั้นวิวัฒนาการเปลี่ยนรูปเป็นนางปีศาจดอกหนาม จากนั้นหลังจากย่อยแขนของเจ้าปีศาจ'ฮาซิน'เสร็จมันอาจเลื่อนชั้นวิวัฒนาการเปลี่ยนรูปอีกครั้ง
การปลูกต้นนางพญาดอกหนามมงกุฎทองไม่ใช่ง่ายๆ ต้องการปุ๋ยชั้นดีเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่เพียงแค่นั้น มันยังต้องเลื่อนระดับสูงขึ้นไปอีกและพวกระดับสูงจะต้องเป็นปุ๋ยของมัน นี่เป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ในตอนนี้เขาสามารถฆ่าศัตรูและบ่มเพาะต้นดอกหนามไปด้วย เขาสามารถจะยกระดับขั้นของคัมภีร์อัญเชิญด้วย ทั้งยังได้รับเกียรติทางทหารได้รับการยอมรับผลงานเขาที่มีต่อประเทศ การต่อสู้ครั้งนี้ สนองวัตถุประสงค์ได้หลายอย่าง
“คนประเภทที่แทงทะลุเกราะเวทและทำลายหัวใจปีศาจได้อย่างง่ายดายเห็นจะมีแต่นักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิด”
'ขุนพลปีศาจ'ชุดดำมีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วที่สุดและคำรามด้วยใบหน้าที่น่ากลัว
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็เป็นนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิดแน่นอน ไม่มีข้อกังขาแล้วว่าที่เจ้ากล้าบุกเข้ามาในแดนปีศาจด้วยตนเอง คงเป็นแผนที่เตรียมไว้แล้ว แม้ว่าข้าสงสัยอยู่แล้วตั้งแต่แรกเริ่มว่า ขโมยธรรมดาไม่สามารถครอบครองม้วนเทเลพอร์ตที่จะส่งพวกมันเข้ามาในสมรภูมิโบราณในแดนปีศาจได้ และแน่นอนว่าเจ้าครอบครองดาบจันทร์เสี้ยวของขุนพลปีศาจอยู่ไม่ใช่หรือ? แต่เจ้าปลอมตัวได้ดีเกินไป ข้ายังโดนเจ้าลวงเรื่องที่ไฮดรา 9 หัวไล่ล่าตามเจ้าเข้ามาถึงแดนปีศาจจนไขว้เขวเป็นอย่างอื่น ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว มิฉะนั้น 2 คนนั้นคงไม่ต้องตายอย่างอนาถแบบนั้น มนุษย์นักรบผู้ต้องการใช้พวกเราบ่มเพาะความก้าวหน้า นักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิดที่แสร้งทำตัวเป็นขโมยน้อยอ่อนแอ เจ้ายังกล้าไปจากสมรภูมิมรณะอีกหรือ? ไม่ เจ้าจะต้องพินาศไปพร้อมกับพวกเรา เจ้าปีศาจลิช ข้าขอพลีทุกอย่างให้ท่าน โปรดประทานพลังให้ข้าด้วยเถิด....”
กระบี่ของ'ขุนพลปีศาจ'ชุดดำทำให้ใจของ'เย่ว์หยาง'ตกวูบ
เจ้าผู้นี้ต้องการใช้ทุกสิ่งที่ตนมี ทำการบูชายัญบ้าๆ บอๆ ด้วยชีวิตตัวเองแบบนั้นอีกแล้ว 'เย่ว์หยาง' ดึงดาบจันทร์เสี้ยวและซัดออกไปจากม่านแสงคุ้มกัน ตรงไปที่'ขุนพลปีศาจ'ชุดดำ เจ้าผู้นี้คือศัตรูที่น่ากลัว เขาจะต้องถูกฆ่าเสียก่อน
แม้ว่า'ขุนพลปีศาจ'ชุดดำนี้จะมีม่านแสงคอยปกป้องร่างของเขาไว้ แต่ฝีมือต่อสู้ในร่างเนื้อคงไม่ค่อยแข็งแกร่งนัก ขณะที่อสูรอัญเชิญของเขาถูกฆ่า ม่านแสงคุ้มกันจะหายไป
ในช่วงเวลานั้น เขาจะไม่สามารถรับการกระแทกกระทั้นรุนแรงที่มุ่งเป้ามาที่เขาโดยตรงได้แน่นอน ตอนนี้ 'เย่ว์หยาง'ต้องรีบค้นหาดูว่าสัตว์อสูรอัญเชิญซ่อนอยู่ที่ใดกันแน่ แล้วฆ่าพวกมัน จากนั้นทำลายม่านพลังที่น่าชังนี้ แม้ว่ามันจะเป็นอสูรอัญเชิญที่มีธาตุเฉพาะ แต่มันต้องมีร่างจริงแน่นอน หรืออย่างน้อยก็ต้องมีแก่นพลังของมันอยู่ด้วย ตราบใดที่แก่นพลังแตกทำลาย อสูรอัญเชิญที่มีธาตุเฉพาะจะตายทันที...
แต่ สัตว์อสูรอัญเชิญที่มีธาตุเฉพาะทั้งสองนั้น ตอนนี้พวกมันซ่อนอยู่ที่ใดกันแน่?
“ฮ่าาาาาาห์”
'ขุนพลปีศาจ'ผู้อ้วนราวกับหนอนคำรามลั่นขณะที่วิ่งออกมา
ขณะที่มันวิ่งมาถึงหน้า'เย่ว์หยาง' มันได้ใช้พลังอัญเชิญไปด้วย ไขมันมีครอบคลุมร่างของมันได้รวมตัวกับอสูรอัญเชิญกลายเป็นหนอนปีศาจยักษ์สีดำกำลังเคลื่อนตรงมาหา'เย่ว์หยาง'เหมือนคลื่นยักษ์ ที่หุบเขายู่หลง 'เย่ว์หยาง'เคยเห็นหนอนปีศาจกินเนื้อชนิดนี้ พวกมันไม่กลัวไฟ และชอบกินเนื้อมนุษย์สดๆ หนอนปีศาจกินเนื้อแห่งหุบเขายู่หลงเป็นแค่อสูรระดับ 1 เท่านั้น
แต่กลุ่มหนอนที่มาจากการอัญเชิญของ'ขุนพลปีศาจ' กลุ่มหนอนทั้งหลายเหล่านั้นเกิดขึ้นจากการรวมตัวกับร่างของมัน ทั้งหมดเป็นหนอนปีศาจชั้นทองแดงระดับ 3 ด้วยฟันที่คมของพวกมัน หนามแหลมที่คลุมอยู่ทั้งหัว ตอนนี้กลุ่มหนอนดำตรงเข้ามาผ่านเปลวไฟได้โดยไม่เป็นอันตรายเหมือนกับคลื่นยักษ์ ต่อให้เป็นคนกล้าก็ต้องหวาดกลัวอย่างแน่นอน
ในท้องฟ้า 'ขุนพลปีศาจ'ที่มีปีกได้อัญเชิญสัตว์ปีกที่ดูคล้ายอีกาออกมาหลายตัว แนบตัวมันกับลูกศร และเปลี่ยนมันเป็นลูกศรที่ปล่อยควันสีดำออกมา ทันทีที่ลูกศรทั้งหลายถูกยิง พวกมันทั้งหมดจะสามารถบินไปรอบๆ โดยอัตโนมัติ มันถูกยิงออกมาเป็นแนวโค้ง มุ่งตรงไปที่หลังศีรษะของ'เย่ว์หยาง'อย่างประหลาด
“อ้อ..พวกเจ้าอยู่ตรงนี้เอง เจอแล้ว”
'เย่ว์หยาง'ขยับร่างเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็หลบลูกธนูดำที่ระดมโจมตีมาเป็นห่าฝน เขาเหินร่อนไปหากลุ่มหนอนปีศาจกินเนื้อแล้วผ่านตรงไปพื้นที่ที่โดดเด่นของสมรภูมิมรณะอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า
เมื่อ'เย่ว์หยาง'ยังคงบินอยู่ในอากาศ 'ขุนพลปีศาจ'ชุดดำได้ใช้มีดตนเองกรีดหน้าอกและท้องของตัวเองให้เปิด ทันใดนั้นอวัยวะภายในของเขาได้ถูกทำลาย ลำไส้ของเขาฉีกขาด และอวัยวะภายในต่างๆ ไหลออกมาพร้อมกับเลือด เลือดสีดำฉีดพุ่งออกมาขนาดที่ใครเห็นก็อาจอาเจียนได้ง่าย
ก่อนที่เลือดจะกระเซ็นลงพื้น ประตูเทเลพอร์ตสีแดงเข้มก็ปรากฏข้างบน มันขยายใหญ่ จากนั้นก็หดตัวลงมาอีกครั้ง ภายในไม่กี่วินาที มังกรโครงกระดูก มีดวงตาดำสนิททั้ง 2 ข้าง มีขา 4 ข้างพร้อมกับกรงเล็บบินออกมาจากประตูเทเลพอร์ตสีแดง
ก่อนที่ประตูเทเลพอร์ตจะปิดลงและหายไป มันรีดเอาตัวของมันออกมาได้ทั้งหมดอย่างเฉียดฉิว ส่วนของหางที่ยาวของมังกรกระดูกออกจากประตูไม่ทันเวลา มันจึงถูกตัดออกไป มังกรกระดูกได้กางปีกที่เป็นกระดูกของมัน มีเนื้อเน่าติดอยู่ มันใช้กำลังบังคับปีกให้โฉบลงมาที่เย่ว์หยาง สัตว์อสูรชั้นทองแดงระดับ 7
'เย่ว์หยาง'ใช้พลังญาณทิพย์ตรวจสอบข้อมูลของมังกรกระดูกทันที เรื่องนี้ถึงกับทำให้เขาต้องสั่น เผชิญหน้ากับมังกรกระดูกตัวนี้ บางทีก็ไม่ต่างจากเผชิญหน้าไฮดรา 9 หัวตัวเต็มวัยก็ได้ มันอาจเหนือกว่าในบางกรณี
'เย่ว์หยาง'ไม่สามารถกำจัดอสูรลาวาและอสูรไฟนรกที่หลบซ่อนอยู่ได้ เขาควงดาบจันทร์เสี้ยวแล้วฟันออกไปเพื่อสกัดไม่ให้มังกรกระดูกกัดเอาได้ ในขณะเดียวกันเขาจู่โจมมังกรกระดูกอย่างดุเดือด เขาฟันใส่ปีกมังกรกระดูกอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่าจะเป็นส่วนที่บอบบางที่สุด
*แคร้ง*
ปรากฏประกายไฟออกมา
ระหว่างที่ดาบจันทร์เสี้ยวกระทบกระดูกปีกของมัน เกิดเสียงโลหะดังเสียดแก้วหู กระดูกของมังกรกระดูกนี้ทนกว่าโลหะจริงๆ ไร้สาระสิ้นดี พอเห็นว่าดาบจันทร์เสี้ยว อาวุธคู่มือของ'เย่ว์หยาง'แตกหักแล้ว
ขณะที่มังกรกระดูกไม่ได้รับอันตราย ใจของเขาก็สงบขึ้น มังกรกระดูกชั้นทองแดงระดับ 7 มีอันดับเหนือกว่า'ฮุยไท่หลาง'เพียง 2 อันดับ แต่ความแข็งแกร่งแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน ดูเหมือนว่าระดับ 6 เป็นเส้นขีดคั่นอสูรชั้นหนึ่งกับชั้นสอง ต่ำกว่าระดับ 6 ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์, ปีศาจหรืออสูร พวกมันก็ยังมีความแข็งแกร่งดีที่ก็แค่ชั้นสองเท่านั้น ไม่น่าแปลกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะพวกที่เหนือระดับ 6 ขึ้นไป สามารถเรียกได้ว่าพวกชั้นหนึ่ง
มังกรกระดูกชั้นทองแดงระดับ 7 นี้ จะฟันให้มันตายด้วยดาบจันทร์เสี้ยวทั้งสองนี้คงไม่ได้แน่ เย่ว์หยางต้องคิดแผนทำลายผลึกมังกรปีศาจในกะโหลกของมัน มิฉะนั้น ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดมังกรกระดูกซึ่งไม่กลัวโดนตัดโดนฟัน
“ฝ่าบาทเจ้าปีศาจลิช ทรงโปรดฟังคำวิงวอนของบริวารท่าน โปรดส่งอสูรผู้ทรงพลังมากำจัดศัตรูต่อหน้าข้าด้วยเถิด”
'ขุนพลปีศาจ'ชุดดำสลายม่านคุ้มกันทันที คัมภีร์อัญเชิญของเขาตกลงกับพื้นพร้อมกับเสียงดัง
*ตึง*
'เย่ว์หยาง'เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
เจ้าผู้นี้อัญเชิญมังกรกระดูกจากแดนนรกมาช่วยเหลือมัน เป็นการทำลายกฎโบราณในพื้นที่สมรภูมิมรณะ มันอยู่ไม่ไกลจากความตายแล้ว บางทีอาจจะร่างระเบิดตายก็ได้
แต่พอมองดู'ขุนพลปีศาจ'ชุดดำฟั่นเฟือนผู้นี้แล้ว ดูเหมือนมันจะไม่กลัวตายและเริ่มหัวเราะใส่'เย่ว์หยาง'อย่างคลุ้มคลั่ง ประหนึ่งว่าได้ทำสิ่งที่ภูมิใจที่สุดในชีวิตสำเร็จ ในระหว่างที่หัวเราะอย่างคลุ้มคลั่งนี่เอง
มือสีดำแทบมีแต่กระดูกได้ยื่นของมาจากท้องของ'ขุนพลปีศาจ'ชุดดำผู้กำลังมีร่างที่ขยายตัวออก เล็บที่คมยาวดำสนิททั้ง 5 ได้รวบรวมพลังไฟฟ้าสีฟ้าทำให้เกิดเสียงแตกปะทุ ฝ่ามือของมันเกิดมีลูกบอลสีม่วง ที่ควบแน่นจนขนาดเล็กลง
แม้ว่าจ้าว'ปีศาจลิช'จะออกมาไม่ได้ และมีแต่มือยื่นออกมา แต่เปลวไฟสีม่วงที่มือนี้ยื่นออกมามีพลังพอที่จะทำลายได้ทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์ 'เย่ว์หยาง'รู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังจะปะทุออกมาจึงตะโกนออกมาเสียงดัง
เขาเตรียมใช้พลังที่เขามีอยู่ทั้งหมดหยุดการกระทำนี้ของจ้าวปีศาจนี้ เหมือนกับนก 'เย่ว์หยาง'ร่อนกวาดผ่านมาเป็นระยะกว้างใหญ่ ดาบจันทร์เสี้ยวหมุนควงเป็นจักรผัน ตัดเข้าที่มือเวทที่เหมือนกระดูกสีดำของจ้าว'ปีศาจลิช'
แต่ 'เย่ว์หยาง'จู่โจมสายเกินไป มือของเจ้า'ปีศาจลิช'หดกลับไปแล้ว ทิ้งไว้แต่บอลไฟที่กำลังตกลงไปในลาวาและกองเปลวเพลิงที่ยังโหมกระหน่ำ
*บึ้ม!*
เสียงระเบิดกึกก้องขนานใหญ่ ทำให้พื้นสั่นสะเทือน
แม้ว่า'เย่ว์หยาง'จะโชคดีต้านทานไว้ได้ แต่ร่างของเขาก็กระเด็นออกไปด้วยแรงอัดกระแทก เขาพบว่าลูกบอลไฟสีม่วงได้กินแก่นอสูรลาวาและอสูรไฟนรกอย่างบ้าคลั่ง
ในทันที มันดูดพลังไฟทั้งหมดเข้ามา ก่อนที่จะกลายเป็นเปลวไฟยักษ์สูง 6 เมตร เปลวไฟยักษ์นี้ลุกไหม้อยู่รอบๆ ร่างที่เกิดจากลาวาและหิน ร่างท่อนบนของมันดูคล้ายมนุษย์ แต่ร่างท่อนล่างเป็นเปลวไฟ แขนของมันดูแปลก เป็นรูปเปลวไฟโหมกระหน่ำสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า แม้แต่มังกรกระดูกที่ทำให้เย่ว์หยางปวดหัวกำลังบินอยู่ด้านบน ยังต้องรีบหลบห่างจากเปลวเพลิงนี้ ไม่กล้าให้ร่างมันเข้าใกล้พลังงานรุนแรงนี้ที่ทำลายทุกอย่างได้
*บึ้ม!*
ในท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง 'ขุนพลปีศาจ'ชุดดำร่างระเบิดเป็นเสี่ยงๆ เขาตายอย่างน่าอนาถ ภายใต้พลังทำลายล้างของกฎโบราณ ไม่มีชิ้นส่วนร่างกายเหลืออยู่เลย
แม้แต่วิญญาณของเขายังถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง 'เย่ว์หยาง'รู้นานแล้วว่าเจ้าผู้นี้ต้องตายแน่นอน แต่เรื่องที่ทำให้เขาปวดหัวอย่างมากก็เพราะการกระทำที่คลุ้มคลั่งของเขา อัญเชิญมังกรกระดูกชั้นทองแดงระดับ 7 ก็หนักพอแล้ว
เจ้านี่ยังไม่กลัวตายอัญเชิญจ้าว'ปีศาจลิช'ออกมาด้วย แม้ว่าจ้าวปีศาจลิชจะไม่สามารถออกมาได้ แต่เขาก็มีพลังมากมาย ใช้เวลาไม่กี่วินาทีก็โยนอสูรจ้าวอัคคีเข้ามาในสมรภูมิมรณะ มันเป็นอสูรชั้นเงินระดับ 7
ถ้า'ฮุยไท่หลาง'อยู่ที่นี่ และได้พบอสูรจ้าวอัคคีนี้ มีโอกาสอย่างมากที่มันจะถูกฆ่าทันที ตอนนี้ เขาต้องเผชิญหน้ากับอสูรจ้าวอัคคีชั้นเงินระดับ 7, มังกรกระดูกชั้นทองแดงระดับ 7 และ'ขุนพลปีศาจ'ผู้ที่อย่างน้อยก็มีพลังระดับ 5 ชั้นยอดฝีมือนั่นเอง
เขาจะสู้ศึกนี้ได้อย่างไร? สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ นี่ยังคงเป็นสมรภูมิมรณะ เขาไม่สามารถหนีได้ เขาต้องฆ่าศัตรูทั้งหมดให้ได้ก่อนถึงจะจากไปได้... เขาจะต้องทำอย่างไรถึงจะเอาชนะศัตรูที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะ?
ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=78