ตอนที่ 73 อสูรทองลึกลับ
เพื่อไม่ให้เป็นที่ดึงดูดความสนใจของผู้จัดการ 'เย่ว์หยาง'เอาไข่อลเวงมาอีก 10 ใบ ทั้งหมดหยิบมาขณะที่เขาหลับตาทั้งนั้น 'เย่ว์หยาง'มีความคิดในใจแล้ว ในความพยายามที่จะแสดงออก 'เจ้าอ้วนไห่'ต้องการใช้ไข่ในมือของเขาจึงพูดว่า
"ข้ามีลางสังหรณ์ว่าไข่อลเวงใบนี้ต้องเป็นของดีๆ แน่ ข้าซื้อมัน อะไรนะ? ไม่เหรอ? ผู้จัดการ! เราซื้อไข่อสูรและไข่อลเวงหลายใบ ถ้าเจ้าไม่ให้ไข่ใบนี้แก่ข้า อย่างนั้นต่อไปข้าจะไม่มาที่นี่อีก ถ้าเจ้ายอมให้ไข่ใบนี้ข้า ข้าจะพูดยกย่องเจ้าสักหลายคำและบางทีอาจโน้มน้าวคนๆนั้นให้เปลี่ยนใจขายฮุยไท่หลางให้เจ้าก็ได้นะ นั่นแหละ นั่นคือวิธีทำธุรกิจ ไข่ใบนี้ให้ฟรี อย่างนั้นเจ้าให้บัตรส่วนลดข้า 10% อย่าห่วง ข้าจะแนะนำเจ้านั่นให้ขายฮุยไท่หลางแก่เจ้า เจ้าไม่รู้หรือ ข้าเป็นลูกพี่เขา เขาจะต้องฟังข้า ข้าจะเก็บไข่อลเวงใบนี้ไว้ในกระเป๋าข้านะ....."”
ถ้า'เจ้าอ้วนไห่'ไม่ใจแคบเกินไป 'เย่ว์หยาง'อาจใช้ทักษะของเขาสับเปลี่ยนไข่ลึกลับนี้ก็ได้ มิฉะนั้น เขาคงไม่ยอมขายมัน ถ้าผู้จัดการพบพลังลึกลับที่อยู่กับไข่ใบนี้ 'เย่ว์หยาง'จะทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไร
"เจ้าซื้อไข่อลเวงมาตั้งมากเพื่ออะไร?"”
'อี้หนาน'ไม่เข้าใจ
แต่เนื่องจาก'เย่ว์หยาง'ต้องการทำอย่างนี้ นางจึงไม่ต่อต้านแต่อย่างใด นางรู้สึกเลาๆ ว่าบุรุษคนนี้มีแรงจูงใจบางอย่างที่พูดออกมาไม่ได้ เพียงแต่ก่อนหน้านั้น ในร้านขายสัตว์อสูร ร้อยอสูรคำราม 'อี้หนาน'อดกลั้นไม่ถามเขา แต่เมื่อพวกเขาออกมาแล้ว นางจึงไม่เก็บความสงสัยไว้อีก
"พี่สามต้องมีเหตุผลบางอย่างถึงได้ทำอย่างนี้"”
'เย่ว์ปิง'ยังคิดว่า'เย่ว์หยาง'มีทักษะธรรมชาติปกปิดจริงๆ สามารถรู้สัตว์ที่มีธาตุเฉพาะที่ปิดบังได้
"เป็นไปหรือว่า ไข่อลเวงที่เข้ากันได้มากนั้น จะไม่ได้ใช้แค่โชคล้วนๆ?"”
'อี้หนาน'ตกใจ บุรุษผู้นี้มีทักษะชนิดนี้หรือ?
“……”
'เย่คง'และพี่น้องสกุลหลี่ไม่พูดอะไร ได้แต่มอง'เย่ว์หยาง'อย่างลึกซึ้ง
พวกเขาไม่ได้พูดส่งเสียงออกมา แต่อารมณ์ของพวกเขามันท่วมท้นอยู่ในใจเขาแล้ว ในสายตาคนอื่น อาจมองว่า'เย่ว์หยาง'เห็นแก่ตัวไม่เคยเหลียวแลคนอื่น ไม่ใช่แค่ชอบพูดโกหกเท่านั้น เขายังหน้าด้านอีกด้วย
แต่คนที่ได้คุ้นเคยกับงเย่ว์หยางงจริงๆ จะมีความรู้สึกที่แตกต่างสิ้นเชิงในตอนนี้ แม้ว่าคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์จะไม่พูดออกมา ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ เขายอมเดินทางไกลอย่างยากลำบากเพื่อตามหาน้องสาวของเขา
'เย่ว์ปิง' จะมีกี่คนในโลกที่ทำได้อย่างนี้? เมื่อ'เย่ว์ปิง'ฟื้น เขาไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เขาพานางไปทั่ว อย่างไรก็ตาม เขาคือพี่ชายที่ยืนยันที่จะแบกนางขึ้นหลังขณะพาเข้าแดนปีศาจ ไม่เคยทอดทิ้งนางเลย เผชิญหน้ากับปีศาจเป็นแสน เขาไม่ได้ใช้สหายของตนเป็นโล่ห์มนุษย์ในฐานะเครื่องแลกเปลี่ยนเกียรติยศให้ตัวเอง เขาไม่เคยทอดทิ้งญาติสนิทมิตรสหายของเขา แม้สหายข้างตัวจะเป็นแค่สวะหรือคนตกยากที่กำลังจะอดตาย
พอเห็นว่าสหายของเขาถูกดูดเข้าในในสนามประลองเป็นตายด้วยพลังของ'ขุนพลปีศาจ' เขาไม่พูดแม้แต่คำเดียว เดินหน้าโดยไม่คำนึงว่าจะต้องเผชิญกับอันตรายเพื่อช่วยพวกเขา จะมีคนในโลกสักกี่คนที่จะเป็นได้อย่างเขา?
“ข้ารู้สึกได้จริงๆ ข้ารู้สึกว่าไข่อลเวงนี้ดีเป็นพิเศษ มันอาจเป็นไข่อลเวงของมังกรยักษ์ก็ได้ เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเกิดในโลกที่ประเมินไข่อลเวงนี้? อา , ข้าทำมันสกปรกแล้ว ไข่อลเวงใบไหนที่ข้าเลือกไว้กันแน่?”
ขณะที่'เจ้าอ้วนไห่'พูดอย่างนี้ ทุกคนแอบหัวเราะเยาะเขา
คนผู้นี้โง่จริงๆ พูดคุยอยู่กับขยะอยู่ได้ ถ้าพวกเขาเชื่อ'เจ้าอ้วนไห่'จริงๆ พวกเขาคงอับโชคแน่ มีเพียง'เย่ว์หยาง'ที่รู้ว่าการกระทำของ'เจ้าอ้วนไห่' ปฏิเสธไปเพราะมีความโลภ ซึ่งเขาก็ถูกแจ๊คพ็อตจริงๆ เสียด้วย
สิ่งที่'เจ้าอ้วนไห่'เลือกขึ้นมาเป็นไข่อลเวงที่โดดเด่นแน่นอน แน่นอนว่าเขาจะไม่พูดอะไร แกล้งพูดสบายๆ กับ'เจ้าอ้วนไห่'ไปอีกอย่างทำนองว่าไข่อลเวงใช้ประโยชน์ไม่ได้
“ถ้าเจ้าต้มไข่ใบนี้กินนะ เจ้าอาจจะเปลี่ยนสภาพเป็นหมูป่าชั้นทองแดงก็ได้นะ”
'อี้หนาน'กับ'เย่ว์'ปิดปากหัวเราะคิกคัก
อย่างไรก็ตาม 'เจ้าอ้วนไห่'หน้าหนาเป็นพิเศษและไม่ได้สนใจเลย จากนั้นเขาพล่ามอย่างมีความสุขว่า
“ถ้าข้าจะต้องวิวัฒนาการมัน ข้าจะวิวัฒนาการมันให้เป็นมังกรยักษ์”
'เย่คง'และพี่น้องสกุลหลี่อยากจะเป็นลม
หลังจากมีคนบอกว่าเจ้าตัวอ้วน เจ้ายังจะพล่ามอย่างนี้อีกหรือ? หลังจากหาโรงเตี๊ยมของนักรบและเข้าพักแล้ว 'เย่ว์หยางเอาไข่อสูรที่ประเมินว่าได้มาตรฐาน 5 ดาวและใส่มันร่วมกับไข่อลเวงที่มีพลังลึกลับ
การกระทำเช่นนี้แทบจะทำให้คนที่เห็นมันหวาดหวั่น นั่นคือไข่อสูรมาตรฐาน 5 ดาว ถ้ามีอะไรผิดพลาด มันจะถูกทำลาย แม้ว่ามันจะไม่สามารถหลอมรวมเข้าด้วยกัน
มันก็ยังเป็นไข่มาตรฐาน 5 ดาว ทำไมถึงต้องเสี่ยงพนันด้วย? ไม่ใช่แค่'เย่คง' 'เจ้าอ้วนไห่'และคนอื่นๆ แม้แต่'เย่ว์ปิง'และ'อี้หนาน'ผู้สนับสนุน'เย่ว์หยาง'มากที่สุดก็ยังไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่'เย่ว์หยาง'พยายามทำ
พวกเขารู้สึกว่าแม้อัตราล้มเหลวจะมี 1% พวกเขาคงไม่กล้าเสี่ยงใช้ไข่อสูรมาตรฐาน 5 ดาวแน่ โอกาสประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่เมื่อไข่อสูรกับไข่อลเวงหลอมรวมกันมีน้อยนิดมาก ถ้าเย่คงที่เดิมยังเป็นสวะ และยังต้องเสี่ยง มันก็ยังคุ้ม อย่างไรก็ตาม กับสถานะปัจจุบันที่'เย่ว์หยาง'เป็นอยู่ จำเป็นต้องเดิมพันด้วยหรือ?
“น้องเจ็ด มาทำสัญญาเถอะ”
แต่ความคิดเห็นของ'เย่ว์หยาง'ทำให้'เย่ว์ปิง'และ'อี้หนาน'ตื่นเต้นมาก
ทุกคนเข้าใจว่าถ้า'เย่ว์หยาง'ไม่มั่นใจในผลที่ออกมา เขาจะไม่ยอมให้'เย่ว์ปิง'น้องสาวเขาทำสัญญากับไข่แน่นอน ตอนนี้เขาเรียก'เย่ว์ปิง'มาทำสัญญากับมัน ก็เหมือนกับบอกว่าสัญญากับไข่ที่หลอมรวมกันนี้จะประสบผลสำเร็จได้มิใช่หรือ?
'เย่ว์ปิง'มอง'เย่ว์หยาง'อย่างกังวล หลังจากผ่านไปนาน นางถามเสียงสั่นว่า
“พี่สาม อสูรนี่คืออะไร? เป็นสายพฤกษาหรือเปล่า?”
'เย่ว์หยาง'ประหลาดใจ 'เย่ว์ปิง'จะใช้ได้แต่เพียงอสูรสายพฤกษาเท่านั้นหรือ?
“ข้าได้ทดสอบในโรงเรียนมาแล้ว ข้ามีอัตราการเข้ากันได้กับอสูรพฤกษา 120% แต่อสูรรูปแบบอื่น เข้ากันได้เกือบ 50% ข้าเป็นนักเรียนที่โดดเด่นเฉพาะทางที่สุดและก็ข้าดีเฉพาะอสูรสายพฤกษา ถ้ามันไม่ใช่อสูรสายพฤกษา แต่พี่สามมั่นใจ อย่างนั้นให้ เอ่อ ให้พี่อี้หนานทำสัญญากับมันเถอะ”
'เย่ว์ปิง'รู้สึกว่า มันจะเสียของได้ ถ้านางไม่สามารถใช้สัญญากับสัตว์ที่ถูกต้อง
เนื่องจากนี้เป็นเรื่องต้องพิจารณา คงจะดีกว่าที่ให้อสูรนี้กับ'อี้หนาน' ว่าที่พี่สะใภ้ในอนาคต เนื่องจากพี่ชายนางถูกคนอื่นปฏิเสธการแต่งงาน นางสามารถใช้อสูรนี้ผลักดันให้ 2 คนนี้ได้ใกล้ชิดกัน จะไม่ได้ผลที่ดีกว่าหรือ?
“ไม่, ข้ารับไข่อสูรที่มีค่าดังกล่าวไม่ได้หรอก”
'อี้หนาน'รีบสั่นหัว ถ้ามีโอกาสที่การหลอมรวมจะทำได้สำเร็จจริงๆ จนมันสร้างวิวัฒนาการได้จริงๆ อสูรมาตรฐาน 5 ดาวจะทะยานขึ้นกลายเป็นอสูรมาตรฐาน 6 ดาวหรือไม่?
'อี้หนาน'รู้สึกว่านางไม่ได้เกี่ยวข้องกับบุรุษคนนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนมาพบกันโดยบังเอิญ ดังนั้นจะรับของมีค่าจากเขาได้อย่างไร?
'เย่ว์หยาง'รู้สึกว่าอยากขออภัยต่อ'อี้หนาน'สักเล็กน้อย เมื่อตอนที่เขาสู้กับ'อูอี้'และ'เสียหั่ว'ในป่าบันเทิง 'อี้หนาน'ไม่เคยพบว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง จึงเลือกที่จะอยู่รั้งรอแทนที่จะหลบหนี
นางสู้กับพวกมันในศึกสำคัญจนต้องสูญเสียผีเสื้อเมามายและเสือดำเงาในการต่อสู้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาปิดบังความแข็งแกร่งที่แท้จริงไว้
จนช่วงเวลาสุดท้าย เมื่อ'อี้หนาน'ปกป้องเขาจนเผชิญกับการตอบโต้ทางจิตใจในที่สุดนางก็ล้มลงกับพื้นหมดสติไป ถ้าเขาให้ไข่อสูรนี้กับนาง ก็ถือเสียว่าเป็นการชดเชยเล็กๆ น้อยๆ ที่นางต้องสูญเสียสัตว์อสูรของนางไป พอเห็นว่าพี่สามไม่ได้คัดค้านอะไร 'เย่ว์ปิง'จึงใจกล้าดึงมืออี้หนานมา
“พี่..อี้หนาน ทำไมไม่ให้อะไรพี่ข้าบ้างล่ะ? ให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนกันสักอย่าง น่าจะลงตัวนะ”
ขณะที่นางพูดอย่างนี้ 'อี้หนาน'จำอะไรบางอย่างได้ บางที สิ่งนั้นในตำนานอาจจะใช้ได้สำหรับเขา..
'อี้หนาน'ล้วงสร้อยอัญมณีม่วงออกมาจากคอที่ขาวปานหิมะของนางแล้วมอบให้'เย่ว์หยาง'
“ถ้าเป็นอย่างนั้น มาแลกเปลี่ยนกัน”
'เย่ว์หยาง'รับเอาสร้อยคอรูปประหลาดที่ยังมีกลิ่นหอมของ'อี้หนาน'ติดอยู่มา
ทันใดนั้น ใจของเขารู้สึกสั่นสะท้าน เสียงคำรามสะท้อนก้องอยู่ในใจเขา เหมือนกับว่ามันโกรธแต่ก็สุขใจเช่นกัน เหมือนเป็นการเชื้อเชิญ หรือเรียกหา นี่อะไรกัน? เป็นไปได้ว่าภายในอัญมณีนี้ ยังคงมีวิญญาณสิ่งมีชีวิตที่ทรงอำนาจอยู่ข้างในหรือ? เป็นสิ่งมีชีวิตรูปแบบไหน ระดับไหน?
เมื่อ'เย่ว์หยาง'สงสัย เขาใช้ปราณก่อกำเนิดค้นหามัน ทันใดนั้นเขาตระหนักได้ว่าพลอยสีม่วงได้ดูดกลืนปราณก่อกำเนิดของเขาอย่างเมามัน นิ้วของเขารู้สึกได้ถึงคลื่นความเจ็บปวดมหาศาล และมีเลือดไหลออกมาและเข้าไปในพลอยม่วง
ท่ามกลางความตกตะลึง 'เย่คง'และคนอื่นจ้องตาค้าง ลำแสงสีทองฉายออกมาจากอัญมณีเข้าไปที่มือ'เย่ว์หยาง' ทันใดนั้น บ้านทั้งหลังก็ถูกย้อมเป็นสีทอง 'ฮุยไท่หลาง'ที่แข็งแกร่งระดับ 5 ชั้นทองแดงยังคงรู้สึกไม่สบายใจกับแสงสีทองที่สวยงามนี้ ขาของมันสั่นเล็กน้อย..
เงาสะท้อนในแสงสีทองบนผนัง เป็นรูปทรงของสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนปรากฏขึ้น มันมีตาทองและฟันคม มีเกล็ด เขา, และปีกขนาดใหญ่ที่มีกรงเล็บ 4 ปีก ด้วยการปรากฏขึ้นเพียงชั่ววินาที หมาป่าวายุระดับ 3 ที่พี่น้องสกุลหลี่เพิ่งซื้อมา ก็หมดสติอยู่ตรงนั้นเอง
“นี่คือมังกรยักษ์ไม่ใช่หรือ?”
ของ'เจ้าอ้วนไห่'ยังอ้าค้างกว้างขนาดจับช้างแมมม็อธใส่ได้สบายๆ “สวรรค์!” 'เย่คง'ก็ยังรู้สึกอยากเป็นลม ทหารรับจ้างที่อยู่ข้างนอกไม่รู้เรื่องแม้แต่น้อย แต่สัตว์อสูรที่มีความรู้สึกอ่อนไหวจะมีปฏิกิริยาทันที รอบๆ โรงเตี๊ยม สัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนตกใจกลัวจนปัสสาวะราด ที่อยู่ไกลออกไปก็กลัวจนเตลิดหนีไป ขนาดที่เจ้านายของพวกมันยังสั่งให้หยุดไม่ได้
สัตว์อสูรประเภทนกจำนวนหนึ่งที่กำลังบินอยู่กลางอากาศกลัวจนกระทั่งตกลงมาบนพื้น แต่ละตัวไม่สามารถบินต่อไปตามปกติได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นกับสัตว์อสูรที่บินเหนือโรงเตี๊ยมนักรบ พวกมันกลัวมากจนเสียสติตาเหลือกขาวและบินลงมาอยู่ที่พื้น พลอยม่วงในมือของ'เย่ว์หยาง'แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แสงสีทองเจิดจ้าส่องตรงมาที่อกของเขา
ด้วยเหตุนี้ทำให้'เย่ว์หยาง'กลัวและรีบใช้มือกันมันเอาไว้ เขาคาดไม่ถึงว่าแสงสีทองมีความฉลาด มันหลบหลีกนิ้วของเขาและลอดผ่านระหว่างนิ้วมือของเขา เข้าไปในชุดตรงหน้าอกของเขา 'เย่ว์หยาง'ร้องลั่นและรีบถอดเสื้อออก
อย่างไรก็ตาม เขาพบว่าชิ้นของโลหะลึกลับนั้นหลอมรวมอยู่ในแสงสีทอง ในที่สุดภายใต้สายตาของทุกคนในห้อง มันเปลี่ยนรูปเป็นของเหลวลูกกลมสีทอง ความจริงชิ้นส่วนของโลหะลึกลับสีดำ
หลังจากเปลี่ยนเป็นลูกกลมของเหลว มันก็บริสุทธิ์ขึ้นเรื่อยๆ กากความไม่บริสุทธิ์สีดำหยดลงบนพื้น และในที่สุดลูกกลมทั้งลูกก็กลายเป็นสีเงินขาวบริสุทธิ์ ภายใน 3 วินาที
ลูกบอลของเหลวสีทองที่ลอยอยู่กลางอากาศก็เปลี่ยนเป็นสัตว์อสูรสีทองที่ไม่มีใครรู้จัก ด้วยร่างสีเงิน และรัศมีทองรอบๆ มัน มันมีตาสีม่วงและกรงเล็บแดง ลำตัวกลมยาวมีหางและมีปีกอยู่ที่หลังของมัน ลักษณะของมันน่ารักมาก ลักษณะของเจ้านี่แตกต่างจากที่'เย่ว์หยาง'และคนอื่นคิดว่ามันเป็นอย่างสิ้นเชิง
ทุกคนคิดว่ามันจะกลายเป็นมังกรทองตัวน้อย พวกเขาไม่คิดว่ามันจะมีลักษณะแปลกๆ จากที่คิด อสูรทองตัวนี้มีร่างสีขาวเงินและมีสายสีทองลึกลับ มันกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว และกระโจนเข้าหาแก้วผลึกงูสีเขียวเข้มที่'เย่ว์หยาง'ได้รับจากการตัดหัวงูของไคเมรา 3 หัว
'เย่ว์หยาง'กวาดตาและมืออย่างว่องไว ก่อนที่มันจะงับแก้วผลึก เขารีบเก็บแก้วผลึกงูสีเขียวแก่ เจ้าอสูรทองเป็นเหมือนกับแมวหิวโซ มันชน'เย่ว์หยาง'เบาๆ ต้องการจะชิงผลึกงูสีเขียวแก่จากมือของ'เย่ว์หยาง'และกินมันเป็นอาหาร
คนในห้องแทบจะเป็นลม เจ้านี่มันเป็นตัวอะไรกันแน่? เป็นสิ่งมีชีวิตหรือ? หรือว่ามันเป็นอสูรหุ่น? พวกเขาเห็นว่ามันฉลาดและยังทำตัวเหมือนเด็ก มันเป็นอสูรชั้นทอง ทั้งยังต้องการกินบางอย่าง และของบางอย่างนั้นก็เป็นผลึกเวทเสียด้วย...
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? 'เย่ว์ปิง', 'อี้หนาน', 'เย่คง', 'เจ้าอ้วนไห่'และพี่น้องสกุลหลี่พากันพิศวงขณะที่พวกเขามองดู'เย่ว์หยาง' หวังว่าจะได้รับคำอธิบายเพิ่มเติม อสูรทองลึกลับตัวนี้ คืออะไรกันแน่?
ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=73