ตอนที่ 71 ภารกิจต่อเนื่อง
ที่ด้านข้างของสมาคมนักรบ มีสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง ทว่า สถานพยาบาลแห่งนี้ไม่ใช่ที่ๆ คนธรรมดาจะเข้าไปได้ นี่ไม่ใช่เพราะระเบียบของสถานพยาบาลแห่งนี้ แต่เป็นเพราะค่ารักษาของที่นี่ ค่ารักษาสำหรับสถานพยาบาลแห่งนี้สูงกว่าสถานพยาบาลทั่วไปข้างนอกสมาคมถึง 100 เท่า
ยกเว้นแต่พวกเขาหมดสติอาการหนัก ทหารรับจ้างธรรมดาจะไม่ย่างเท้าเข้ามาในสถานพยาบาลแห่งนี้ ต่อให้แขนขาหักหมดก็ตาม แม้ยามที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้หินบำบัดพวกเขาจะไม่ซื้อมันจากที่นี่ แต่จะไปซื้อจากถนนข้างนอกแทน
แม้ว่าหินบำบัดระดับกลาง ระดับต่ำเหล่านั้น ผลิตมาจากสัตว์อสูรที่มีคุณสมบัติเป็นยารูปแบบพิเศษ ที่ให้ผลน้อยกว่าปกติและราคาแพงมาก แต่ราคาก็ยังถูกกว่าหินบำบัดระดับกลางที่ขายโดยสถานพยาบาลแห่งนี้ถึง 10 เท่า..
กล่าวกันว่าสาเหตุที่ทำให้มูลค่าบริการในสถานพยาบาลแห่งนี้สูงมากเป็นผลของการตัดสินใจทำเมื่อหลายพันปีมาแล้ว โดยวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 5 ผู้ก่อตั้งสมาคมนักรบ
โดยเหตุผลไม่ใช่เพื่อหาเงิน แต่เพื่อเตือนคนรุ่นหลังให้รู้จักใช้สมองในการรบมากขึ้น ดังนั้นพวกเขาจะได้ประสบปัญหาบาดเจ็บน้อยลงและงดเว้นจากความประมาทอย่างโง่ๆ
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้'เย่ว์หยาง'รู้สึกว่าสถานพยาบาลนี้ ความจริงดีกว่าสถานพยาบาลของจักรวรรดิอยู่มาก อย่างน้อยที่สุด ก็ไม่มียาปลอม การรักษาปลอมๆ ในสถานที่นี้ เป็นความจริงที่ว่ามันอาจแพงเกินไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าในแง่คุณภาพและความถูกต้อง
นอกจากนี้ยังมีจุดอื่นอีก สถานพยาบาลไม่ได้เสนอสินค้าที่มีราคาที่ดีแตกต่างกัน แก่ลูกค้าที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าชายหรือคนสามัญจะได้รับบริการที่คุณภาพดีเสมอกันในราคาเดียวกัน
หลังจาก'เย่ว์ปิง'ได้เข้ารับการรักษาจนถึงตอนนี้ นางฟื้นตัวได้เร็วมาก เมื่อ'เย่ว์หยาง'มาเยี่ยมนางอีกครั้ง นางก็ฟื้นแล้ว 'เย่ว์ปิง'ตื่นเต้นมากเมื่อเห็นเขา นางวิ่งมาหาเขากอดเขาและร้องไห้
"พี่สาม..."”
เสียงขาดหายไป
ดูเหมือนว่าดรุณีน้อยนางนี้คงผ่านความทุกข์ยากมาไม่น้อย นางปล่อยให้มันพร่างพรูออกมาพร้อมกับน้ำตา 'เย่ว์หยาง'ปลอบนางให้สงบอยู่นานก่อนที่'เย่ว์ปิง'จะสะอื้นและสงบใจลงได้
พอเช็ดน้ำตาเสร็จ 'เย่ว์ปิง'ใช้ผ้าคลุมบางปิดหน้านางทันทีและมองมาที่'เจ้าอ้วนไห่'และ'เย่คง'ที่ยืนอยู่ด้านหลัง'เย่ว์หยาง'อย่างระมัดระวัง เพราะมีประสบการณ์ถูกเพื่อนร่วมทีมหักหลังและทำร้ายตนเองอย่างคาดไม่ถึง 'เย่ว์ปิง'จึงต้องตั้งท่าป้องกันตัวไว้ก่อน นางไม่ไว้วางใจคนแปลกหน้าอีกต่อไป
“ข้าชื่อเย่คง เป็นคนนำทางให้คุณชายสาม”
'เย่คง'รีบแนะนำตนเอง
“ข้าชื่อไห่ต้าฟู่ คนทั่วไปเรียกข้าว่า ต้าไห่ (บิ๊กไห่) ข้าเป็นคนสบายๆ แม้ข้าจะเป็นเจ้าของคัมภีร์อัญเชิญและเป็นเจ้าของแรดเหล็กชั้นทองแดงระดับ 2 ข้าก็ไม่เคยอวดใคร ข้าไม่ใช่คนแบบนั้นนะ คุณหนูเย่ว์ปิง เจ้าจะเรียกข้าว่าลูกพี่เหมือนกับคนอื่นๆ ก็ได้ แม้พี่ชายเจ้าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มก็ตาม ข้าก็ยังคงเป็นลูกพี่เขาอยู่ดี เจ้ามั่นใจได้เลยว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในอนาคต ข้าจะคุ้มครองเจ้า รับรองได้ว่า ตราบใดที่ข้า ต้าไห่ยังคงอยู่ที่นี่ จะไม่มีผู้ใดกล้ารังแกเจ้า ดูแขนข้าซะก่อน, ไม่ใช่ไขมันนะ, นี่กล้ามล้วนๆ...โอ๊ย!”
ก่อนที่'เจ้าอ้วนไห่'จะพูดจบ เขาก็กลิ้งไปอยู่บนพื้นแล้ว
'เย่คง'กับพี่น้องสกุลหลี่ลงมือซ้อมเขาอีกจนเขาร้องลั่นเหมือนหมูถูกเชือด
“พี่สาม, ทำไมพี่มาที่หอทงเทียนนี้ล่ะ?”
'เย่ว์ปิง'ถามจริงจัง
ในที่สุดตอนนี้นางได้พบพี่สามของนางผู้ที่นางไม่ได้พบมาหลายเดือนแล้ว เขาดูแข็งแกร่งเกินกว่าจะประเมินได้ มีกลิ่นอายของความแข็งแกร่งชนิดที่คาดไม่ถึง เป็นความรู้สึกที่ทำให้คนอื่นรู้สึกปลอดภัย เหมือนกับภูเขาตระหง่านที่ทำให้พวกเขามั่นใจได้
“แม่สี่เป็นห่วงเจ้า นางส่งข้ามาที่นี่เพื่อพาเจ้ากลับ”
'เย่ว์หยาง'ยื่นมือออกไปแตะมือนางอย่างสุภาพ และยิ้มให้เล็กน้อย
“ข้ากลับบ้านแน่ แต่การฝึกของข้ายังไม่จบ ไม่มีหัวใจต้นโอ๊คเพื่อยกระดับให้ข้า, นักรบมนุษย์พฤกษา จะไม่มีทางต่อกรศัตรูได้”
'เย่ว์ปิง'พูดถึงการแข่งขันทดสอบความสามารถของผู้เยาว์ตระกูลเย่ว์ที่จะมาถึงตอนปีใหม่นี้ 'เย่ว์ปิง'ตั้งใจตอบโต้ความคับข้องใจที่พ่อแม่พี่น้องของนางได้รับ ดังนั้นนางจึงมาฝึกที่หอทงเทียน
ถ้านางกลับบ้านตอนนี้ นางเชื่อว่านางคงไม่สามารถเอาชนะ'เย่ว์เทียน'และ'เย่ว์เยี่ยน'ได้
เนื่องจากทั้งสองคนนี้ได้รับยกย่องจากครอบครัวหลักในตระกูล แม้ว่านักรบพฤกษาของนางจะยกระดับเป็นชั้นทองแดงระดับ 3 แล้วก็ตาม แต่ความเร็วในการเคลื่อนไหวของมันยังช้ามาก
นอกจากนี้ 'เย่ว์เทียน'และ'เย่ว์เยี่ยน'ยังเป็นเจ้าของอสูรธาตุไฟ ที่เป็นดาวข่มของนักรบพฤกษา พวกเขาได้รับการยกย่องในฐานะเป็นหลักของตระกูลเย่ว์ แน่นอนว่า พวกเขายังเป็นเจ้าของหุ่นอสูรที่แข็งแกร่ง ต่อให้พวกเขาส่งอสูรหุ่นออกมาสู้กับนักรบพฤกษา พวกเขาก็จะไม่แพ้
“ไม่ต้องห่วง, ข้าจะช่วยให้เจ้าได้สำเร็จการฝึกภายในสองวันนี้แน่นอน, จากนั้นเราค่อยกลับบ้านด้วยกัน”
'เย่ว์หยาง'ลูบศีรษะ'เย่ว์ปิง'อย่างเห็นใจ
ครอบครัวที่สี่ต้องพึ่งพาเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ผู้นี้มาตลอด กลับกลายเป็นว่านางต้องทนทุกข์ทรมานมาตลอดหลายปีนี้ เพราะเจ้าเด็กที่น่าสงสารเป็นคนไร้ประโยชน์ (แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างดีที่สุด)
“ค่ะ....”
พอได้ยินอย่างนี้ ก็มีผลต่อจิตใจ'เย่ว์ปิง'ทันที
ในที่สุดนางก็มีพี่ชายที่นางเชื่อใจได้เสียที แม้ว่าเขาจะเพิ่งทำสัญญากับคัมภีร์เมื่อไม่นานมานี้ แม้ว่าเขายังอยู่ในระดับ 1 ขั้นเริ่มฝึกหัด มีแต่ต้นดอกหนามเป็นอสูรที่ทำสัญญาด้วย ยังไม่สามารถแม้แต่จะเรียกอสูรผู้พิทักษ์ออกมาได้..
อย่างไรก็ตาม ด้วยพรสวรรค์ที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเขา ตราบใดที่เขาคร่ำเคร่งฝึกจริงจัง เขาจะประสบความสำเร็จได้ในที่สุด ยามนั้น ดรุณีน้อยนาม'เย่ว์ปิง'ตัดสินใจว่าจะช่วย'เย่ว์หยาง'เพิ่มขีดความสามารถในการต่อสู้ นางตั้งใจจะซื้ออสูรนักสู้ดีๆ ให้พี่ชายนางและจะพาเขาไปฝึก ซึ่งจะทำให้เขาสามารถสร้างชื่อเสียงและแสดงศักยภาพที่ซ่อนเร้นในการแข่งขันประจำตระกูลช่วงปีใหม่
จากนั้นเขาจะได้แสดงผลงานให้สมาชิกตระกูลให้ได้รู้ว่า เขาไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ แต่เป็นอัจฉริยะซ่อนเร้น ขณะเดียวกันเขาจะทำให้ทั้งท่านพ่อท่านแม่แปลกใจอย่างที่สุด
'ฮุยไท่หลาง'อยู่เงียบๆ มาตลอดเวลา แต่ในที่สุดมันรู้สึกว่าผู้คนลืมมันไปแล้ว ทันใดนั้น มันเดินตรงมาหา'เย่ว์หยาง'และเอาหัวมันสีกับขาของเขา กระดิกหางพยายามประจบ'เย่ว์หยาง' ท่าทางของมันต้องการแสดงความรู้สึกเหมือนจะบอกว่า
“ข้า ต้องการทักทายคุณหนูด้วยเหมือนกัน”
การปรากฏตัวของมันทำให้'เย่ว์หยาง'โดดผางด้วยความตกใจ นางตกตะลึงจ้องมอง'ฮุยไท่หลาง'ซึ่งมี 2 หัว มีไฟพ่นออกจากจมูกและบนตัวของมันมีรัศมีสีดำเปล่งออกมา ยืนอยู่ต่อหน้านาง แปลก, เจ้าตัวนี้คงเป็นหมาป่าที่ยังไม่ได้ทำสัญญา..
“พี่สาม, นะ.นะ...นั่นอะไร?”
'เย่ว์ปิง'ถึงกับตะลึงจนติดอ่าง ยิ่งเมื่อเห็น'เย่ว์หยาง'เตะเจ้าหมาป่าปีศาจ 2 หัวที่กำลังประจบอยู่จนปลิว
“อย่าไปพูดถึงเจ้าหมาตัวนั้นเลย ข้าโมโหทุกทีที่ได้ยินเรื่องของมัน”
ทันทีที่'เย่ว์ปิง'ได้ฟังเรื่องราวที่'ฮุยไท่หลาง'กลืนอสูรควัน และอสูรไฟปีศาจ 'เย่ว์หยาง'ก็เลยใจร้อนดุจไฟ สัตว์อสูรทั้งหมดเป็นอสูรชั้นทองแดงระดับ 3 จากแก้วผลึกทั้งนั้น
แต่'ฮุยไท่หลาง'ฟาดเรียบโดยไม่ขออนุญาตจากเขาก่อน 'ฮุยไท่หลาง'เจ้าตัวแสบ ขนาดอยู่ต่อหน้ามันยังด้านขนาดนี้ แล้วลับหลังเขาจะเชื่อใจมันได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้เขาไม่ค่อยมีเวลาได้สั่งสอนมัน แต่ตอนนี้เขามาคิดถึงมันดูแล้ว ถ้าไม่ตีมันให้ตายก็ต้องปล่อยมันไปง่ายๆ
“นี่มันหมาป่าปีศาจ 2 หัวของพี่ไม่ใช่หรือ?”
'เย่ว์ปิง'เบิกตากว้างน่ารัก นางไม่ปักใจเชื่อเท่าใดนัก
“ข้าก็คิดว่าอย่างนั้น มันชื่อฮุยไท่หลาง เจ้าหมาใฝ่ต่ำ จอมงกเกิดมาเพื่อโดนทุบตีจริงๆ”
'เย่ว์หยาง'พยักหน้า
“โฮ่ง”
'ฮุยไท่หลาง'ตะกายกลับมาอย่างกระตือรือร้นมันกระดิกหางอย่างเร็ว แม้ว่าระดับชั้นของมันจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่น่าเสียดายที่ความฉลาดเพิ่มตามมันไม่ทัน
“แล้วพี่ไปเก็บมันมาได้อย่างไร?”
'เย่ว์ปิง'ไม่เชื่อว่าร้านสัตว์อสูรสายนักสู้จะมีหมาป่าปีศาจ 2 หัวชั้นทองแดงระดับ 5 เอาไว้ขาย ต่อให้มีขาย มันก็คงไม่เชื่องขนาดนี้ แล้วสัตว์อสูรชั้นทองแดงที่ชอบให้เตะถีบจะมีได้อย่างไร? ถ้าเป็นหมาป่าปีศาจ 2 หัวชั้นทองแดงระดับ 5 ทั่วไป ถูกทุบตีอย่างนี้ ความภักดีของมันจะต้องลดลงเหลือศูนย์ และมันจะหนีไปเลยโดยไม่รอให้เรียกมันออกมารบ
“เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้..”
'เย่ว์หยาง'แต่งนิยายหลอกเด็กอีกครั้ง เขาเริ่มเล่าเรื่องราวอย่างคึกคะนอง บอกว่า
"เขาไปพบไข่สัตว์อสูรที่ขายแบบลดราคากระหน่ำใบละ 5 เหรียญทองแดงตรงมุมร้านขายอสูรนักสู้ มันมีฝุ่นจับเต็มไปหมด ไม่มีใครให้ความสนใจดูมัน เจ้า'ฮุยไท่หลาง'นี่ถือกำเนิดมาจากไข่เลหลังใบละ 5 ทองแดงที่เขาขายแบบไม่ใส่ใจ พอมันฟักออกมาทีแรก มันเป็นหมาป่าเล็บเหล็กระดับ 2 ที่อ่อนแอ ตลอดทางที่ผ่านมา ไม่แน่ชัดว่ามันไปเก็บกินอะไรตามรายทางมาบ้าง (ดูเหมือนว่าเป็นอะไรสักอย่างที่ยิงไฟได้) และทันใดนั้นมันก็วิวัฒนาการไปเป็นหมาป่าปีศาจหลังเหล็กชั้นทองแดงระดับ 3 จากนั้น พอเข้าหอทงเทียน ก็ไม่แน่ชัดว่ามันไปกินอะไรมาอีก (อะไรสักอย่างที่เป็นหมอกและลูกไฟ) ในที่สุดมันก็เปลี่ยนเป็นหมาอัปลักษณ์อย่างที่เห็นนี่แหละ จากนั้น'เย่ว์หยาง'จบเรื่องราวอย่างขมขื่น 'ฮุยไท่หลาง'มันขยันก่อปัญหาและตะกละ เป็นสัตว์อสูรที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง"”
คำพูดเหล่านี้ อย่าว่าแต่'เย่ว์ปิง'เลย แม้แต่คนที่อยู่ในสถานพยาบาลนั้นพอได้ยินก็ชะงักค้างกันหมด
เจ้าหนุ่มนี่พยายามจะหลอกใครหรือ? ไข่อสูรทุกๆ ใบจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบข้อมูลของสัตว์ภายในอย่างจริงจัง มันจะต้องถูกตรวจสอบโดยละเอียด ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีผลเป็นอย่างอื่นก่อนจะนำมาขาย ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาไม่เคยได้ยินว่าไข่สัตว์อสูรขายกันใบละ 5 ทองแดง มันไม่เหมือนกับขายไข่ไก่เลย
“ร้านสัตว์อสูรรบอยู่ที่ไหนหรือ? เราจะไปซื้อไข่ใบละ 5 ทองแดงจากที่นั่นบ้าง บางทีเราอาจจะได้ฮุยไท่หลางตัวที่ 2”
ในที่นี้มีอยู่คนเดียวที่เชื่อเรื่องที่'เย่ว์หยาง'พูดทุกอย่าง คือ 'เจ้าอ้วนไห่'
“…”
'เย่คง'ทำหน้าผิดหวัง
เขากังวลว่าถ้าเขาเกี่ยวข้องกับเขามากเกินไป เจ้าอ้วนปัญญาอ่อนนี้คงติดนิสัยไปด้วยแน่ สิ่งเดียวที่เขาแน่ใจก็คือ หนทางเดียวที่จะทำให้'เจ้าอ้วนไห่'ตายได้ก็ด้วยความโง่ของตัวเอง เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้วิธีอื่น
ถ้าเขาเชื่อว่า เขาสามารถซื้อสัตว์อสูรชั้นทองแดงระดับ 5 อย่าง 'ฮุยไท่หลาง'ด้วยเงิน 5 ทองแดงจากร้านขายอสูรรบ ก็คงได้แต่เพียงฝันกลางวันแทน ในจินตนาการของเขา
อาจมีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งเข้ามาหาเขาด้วยตัวมันเองและต้องการทำสัญญากับเขาไม่ว่าเป็นหรือตาย ไม่ใช่แต่เพียงแค่นั้น มันยังต้องการใช้ชีวิตของมันร่วมกับนายของมันตลอดไป นั่นพอจะเป็นไปได้ไหม? ไม่ได้แน่นอน ขืนเป็นไปได้จริงๆ ฝนหมูอบคงตกลงมาจากฟากฟ้าได้แน่
พวกเขาทุกคนเคยพบเห็นคนโง่หน่อมแน้มมากันหมดแล้ว แต่ไม่มีใครสักคนที่เคยพบเจ้าคนโง่ขนาดหมูตอนไห่มาก่อน ซื้อ'ฮุยไท่หลาง'อีกตัวด้วยเงิน 5 ทองแดง คงจะมีแต่เขาเท่านั้นที่จินตนาการเป็นตุเป็นตะอย่างนั้นได้
“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พี่สาม ตอนนี้ท่านมีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งแล้ว นับเป็นเรื่องดี”
'เย่ว์ปิง'มีความสุขแทนพี่ของนาง ด้วยอสูรชั้นทองแดงระดับ 5 อย่าง'ฮุยไท่หลาง'
เมื่อพวกเขากลับไปที่ปราสาทในตระกูลและต่อสู้แข่งขันประจำปีใหม่ของตระกูล จะไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่จะไม่ตกใจต่อความก้าวหน้าของพี่นางเชียวหรือ? ท่านพ่อท่านแม่ของพวกเขาก็จะยิ่งยินดีกับพวกเขา
“ตอนนี้พวกเจ้าจะไปวงกตศิลาดำเพื่อจบภารกิจหัวใจต้นโอ๊คหรือ? ให้ข้าร่วมทางด้วยนะ”
'อี้หนาน'แม่หญิงตางามปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“พี่อี้หนาน! ท่านพบเบาะแสโดยบังเอิญหรือ?”
'เย่ว์หยาง'ยิ้มกว้างขณะถามกลับ
“อ๋า?”
ทันทีที่'เย่ว์ปิง'ได้ยิน'เย่ว์หยาง'เรียกว่าพี่(ชาย)'อี้หนาน' นางแทบเป็นลมเพราะเป็นห่วงความปกติทางสายตาของพี่ชายนาง นางคิดว่าดูเหมือนจะไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องไม่ดีที่พี่ชายนางไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างชัดเจนระหว่างชายกับหญิง
“ข้ามีภารกิจต่อเนื่องและสิ่งที่หาก็คือหัวใจต้นโอ๊ค ท่านป้าข้าบอกว่าถ้าข้าทำภารกิจต่อเนื่องได้สำเร็จ อย่างน้อยข้าจะได้รับอสูรรบหรือสมบัติชั้นทอง ถ้าข้าสำเร็จภารกิจได้อย่างงดงาม อย่างนั้นพวกเขาอาจให้อสูรนักสู้ที่มีภูมิปัญญาแก่ข้า 2 ตัว พวกเจ้าอยากจะลองร่วมทีมกับเราบ้างไหม?”
แม้ว่า'อี้หนาน'จะยังโกรธ'เย่ว์หยาง' แต่นางก็ไม่ลืมเชิญ'เย่ว์หยาง'เข้าร่วมภารกิจนี้ด้วย
“ภารกิจต่อเนื่องหรือ?”
'เย่คง'แทบคลั่ง เขาจำเป็นต้องเป็นยอดยุทธระดับ 5 เป็นอย่างน้อยจึงจะสามารถได้รับภารกิจต่อเนื่องได้ เป็นไปได้ว่าพี่'อี้หนาน'นี้เป็นนักสู้ระดับ 5 อย่างนั้นหรือ?
“เพิ่มสัตว์อสูรรบที่มีภูมิปัญญาหรือ?”
ปาก'เจ้าอ้วนไห่'อ้าค้าง จนน้ำลายไหลออกมาเหมือนน้ำตก และยังไหลต่อไปได้อีกอย่างน้อยก็ 1000 เมตร
ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=71