ตอนที่แล้วตอนที่ 69 คำถามง่ายมาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 71 ภารกิจต่อเนื่อง

ตอนที่ 70 เข้าใจแต่ทำเป็นสับสน


'เจ้าเมืองโล่วฮัว'กวักมือเรียก'เย่ว์หยาง'ให้เข้ามาหา เป็นครั้งแรก นางเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้เรื่องของ'เย่ว์หยาง'

จากนั้นนางมองเห็นดาบจันทร์เสี้ยวที่เขายึดมาจาก'ขุนพลปีศาจ'และ'ฮุยไท่หลาง'ที่กลายเป็นหมาป่าปีศาจ 2 หัว  นางหัวเราะเบาๆ

"ทำไมทุกคนได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ แต่พอดูเจ้า เหมือนกับไปเดินเล่นพักผ่อนมาอย่างงั้น?"

"ข้าเป็นคนรักสงบอยู่แล้ว"”

'เย่ว์หยาง'เน้นย้ำจุดนี้

"ปัญหาก็คือ แดนปีศาจไม่รู้ว่าเจ้ารักสงบ.. อย่าบอกนะว่าดาบนั่นเจ้าเก็บได้"”

เจ้าเมือง'โล่วฮัว'หัวเราะลั่น

การหัวเราะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเจ้าเมือง'โล่วฮัว'  ผู้หญิงธรรมดาจะหัวเราะในลักษณะสงวนเนื้อตัว  โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นสุภาพสตรีชั้นสูงนางหนึ่งด้วยแล้ว  พวกนางจะไม่หัวเราะจนเห็นฟันและเสียมารยาท ความตั้งใจ การอบรม ธรรมเนียมรวมทั้งปัจจัยอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม นางคือคนเดียวที่ได้รับการยกเว้น  นางหัวเราะได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ไม่ต้องสนใจมารยาทใดๆ และหัวเราะแบบไม่มียั้ง  ยิ้มของนางก็สดใสดั่งบุปผา เสียงก็ไพเราะดุจระฆังเงินก้องกังวาลในหัวใจ  เป็นความจริงใจอย่างหนึ่งที่อธิบายไม่ถูก  จนคนรู้สึกว่านางใจกว้างและจริงใจมาก เดิมที'เย่ว์หยาง'ไม่ได้มีความคิดบิดเบือนใดๆ กับนาง  แต่พอเห็นวิธีหัวเราะของสุภาพสตรีนางนี้แล้วเขาเริ่มรู้สึกคะนองและพูดติดตลกว่า

“ไม่เลย เป็นไปได้อย่างไรที่ข้าจะเก็บของแบบนี้ขึ้นมา? นี่คือของวิเศษ  แล้วยังจะเก็บมันขึ้นมาจากพื้นได้ด้วยหรือ?  นี่เป็นของขวัญที่แม่มดให้ข้า  ข้าว่านางคงหลงรักข้าแน่ๆ”

'เย่คง' 'เจ้าอ้วนไห่'และคนอื่นไม่กล้าพูดมาก ทั้งไม่กล้าหัวเราะ พวกเขากลั้นไว้จนสุดชีวิต และมันยากจริงๆ ที่จะกลั้นไว้ได้

“แม่มดให้ของนี้กับเจ้าหรือ?”

เมื่อเจ้าเมือง'โล่วฮัว'ได้ยินเช่นนั้น นางยิ่งหัวเราะหนักกว่าเดิม

"แม่มดบ้าเลือดยกให้เจ้าเหรอ?  ทำไมนางถึงให้แค่ดาบจันทร์เสี้ยวกับเจ้าล่ะ ไม่มีอย่างอื่นแล้วหรือ?”

“ไม่ใช่, แม่มดเลือดระดับจะต่ำเกินไปหน่อย  นางจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็นอัจฉริยะที่น่าตื่นตะลึง?ต้องเป็นราชินีปีศาจผู้เร่าร้อนผู้มีนัยน์ตาทิพย์ใช้ดาบจันทร์เสี้ยวเหล่านี้กดคอข้า ต้องการจะฆ่าข้า  ในเสี้ยววินาทีนั้นข้าตัดสินใจอวดความสามารถข้า ทำให้นางเข้าใจว่าการฆ่าข้าตายคือความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน 3 โลก  ท่านไม่รู้เรื่องอย่างนี้ แต่โดยวิธีเอื้อนเอ่ยบทกวีที่นุ่มนวลเท่านั้น นางทำดาบตกลงพื้นเสียงดัง”แคร้ง“  ราชินีปีศาจแสนสวยถึงกับหลั่งน้ำตา ร้องไห้จนนางแทบตาย  เป็นเรื่องยากอยู่นะที่ข้าจะปลอบโยนนางได้ให้สงบได้  ในที่สุดนางก็เลยให้ของวิเศษคู่นี้แก่ของในฐานะเป็นของที่ระลึก ขณะที่น้ำตายังคลอเต็มเบ้าตานาง  นางบอกเรื่องนี้จริงจังแก่ข้าด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่  ข้าส่งความรักออกไปทั้งน้ำตาที่นองหน้าของข้า เสียใจจริงที่ว่าได้พบแต่แต่งไม่ได้... นางสะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสารจนสวรรค์แทบตรอมตรม.. โอ๊ย.. ใครตีข้า?”

ขณะที่'เย่ว์หยาง'แสดงความรู้สึกเต็มเปี่ยม  มีคนๆ หนึ่งวิ่งออกมาจากฝูงคนสาวหมัดเข้าใส่เขา

“เจ้า..เจ้าคนหน้าด้าน ยังจะพยายามหลอกทุกคนที่นี่อีก   อย่าไปฟังเขา เรื่องแต่งของเจ้าตัวตลกนี่ ลอกคนอื่นมาทั้งนั้น”

คนที่วิ่งออกมาจากฝูงชนก็คือนางโจรตางามที่'เย่ว์หยาง'เคยตามจีบมาแล้วครั้งหนึ่ง

“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ลอกมาหรือไม่ก็ตาม แต่ฟังแล้วสนุกดี”

เจ้าเมือง'โล่วฮัว'หัวเราะไม่ยั้ง และยกย่อง'เย่ว์หยาง'เล็กๆ น้อยๆ

จากนั้น นางจึงเห็นนางโจรตางามอีก และถามขึ้นด้วยความสงสัยเล็กน้อยว่า

“เอ๋?  อี้หนาน!  ทำไมเจ้าแต่งตัวแบบนี้เล่า? รู้จักเขาด้วยหรือ?”

ไม่ต้องรอให้นางโจรตางามพูด 'เย่ว์หยาง'เกาะไหล่นางโจรตางาม หัวเราะลั่น

“แน่นอน พี่อี้หนานคือคู่หูของข้า เราสัญญากันว่าจะช่วยกันเขียนสารานุกรมว่าด้วยผู้หญิงด้วยกัน นำความสุขสมมาให้ผู้คนในแผ่นดินช่วยให้เด็กผู้ชายไม่ต้องสูญหายไปมิตรภาพของพวกเราไม่ใช่แค่ใช้เวลาท่องราตรีด้วยกันในป่าบันเทิงเท่านั้น เราเข้ากันได้ดีและมักช่วยเหลือกันและกันเสมอ พวกเจ้าไม่รู้แน่นอนว่าพี่อี้หนานและข้าคิดเหมือนกัน และนั่นก็คือในโลกนี้มีแต่สาวๆ สวยๆ...”

พี่'อี้หนาน'หรือ? 'เจ้าอ้วนไห่'อยากจะฆ่าตัวตายตรงนั้นเสียให้ได้ 'อี้หนาน'ผู้นี้เป็นชายได้อย่างไร?

'เย่คง'ก็ยังคงตระหนักว่าคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์ไม่ใช่แค่ไร้ประโยชน์จนไม่สามารถทำสัญญากับสัตว์อสูรได้เท่านั้น เขายังไร้ประโยชน์ในการสังเกตดูคนอื่นอีกด้วย

เขาเคยได้ยินจากคนอื่นว่า 'เย่ว์หยาง'ปฏิเสธการหมั้นกับคุณหนูตระกูลเสวี่ย  แต่'เย่คง'ไม่ปักใจเชื่อเรื่องนั้น  คุณหนูตระกูลเสวี่ยนับเป็นหญิงงามคนหนึ่ง ทำไมถึงมีคนปฏิเสธนาง?  ตอนนี้เย่คงเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว

คุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์ไม่มีสายตาในการดูผู้หญิงเลย  เขาต้องตาบอดแน่ๆ มีอย่างที่ไหนที่จะมีพี่ชายสวยขนาดนั้น  รูปร่างก็ดีและกลิ่นกายหอมเหมือนอย่าง'อี้หนาน'ตรงนี้?

“เอามือสกปรกของเจ้าไปห่างๆ ข้า”

นางโจรตางามที่เจ้าเมือง'โล่วฮัว'เรียกว่า'อี้หนาน'หักศอกใส่ซี่โครง'เย่ว์หยาง' และขณะที่คว้าปกคอเสื้อ'เย่ว์หยาง'เตรียมจะตีเขาอีก  นางถึงค่อยเห็น'เย่ว์ปิง'อยู่บนหลังของเขา  นางจึงหยุดและถามทันทีว่า

“นางเป็นใคร?”

“แค่ก, แค่ก, พี่.. พี่อี้หนาน นี่คือเย่ว์ปิงน้องสาวของคุณชายสาม”

'เย่คง'รู้สึกว่าเขาถูกบังคับให้ช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ให้'เย่ว์หยาง'

มิฉะนั้น ต่อมา ความหึงหวงคงได้ปะทุแน่ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่อาจตกลงกันได้ด้วยคำพูด  เขาหวังว่าคงไม่เป็นเหตุให้เรื่องบานปลาย แน่นอน เมื่อนางโจรตางามได้ยินแล้ว อารมณ์นางก็หันกลับเป็นตรงกันข้าม นางรีบจัด'เย่ว์ปิง'และบ่น'เย่ว์หยาง'ว่า

“ทำไมเจ้าเอานางขี่หลังล่ะ?  เกิดอะไรขึ้นกับนาง? นางหมดสติเพราะใช้พลังจิตมากเกินไปหรือ?  ข้ามีความคิดดีๆ แล้ว รอข้าอยู่ตรงนี้นะ  องค์หญิงโล่วฮัว  อี้หนานจำเป็นต้องช่วยคนก่อน  ข้าจะตามไปพบท่านภายหลัง”

พอได้ยินเช่นนี้ 'เย่ว์หยาง'ถามอย่างสงสัยว่า

“ท่านไม่ได้เป็นเจ้าเมืองหรอกหรือ? ท่านยกระดับขึ้นเป็นองค์หญิงของประเทศตั้งแต่เมื่อไหร่?”

เจ้าเมือง'โล่วฮัว'หัวเราะลั่นและโบกมือพลางอธิบายว่า

“ดูเหมือนเจ้าไม่รู้อะไรเลยจริงๆ องค์หญิงของประเทศคือสถานะของข้า  นั่นเป็นเครื่องบ่งชี้สถานะของข้าในฐานะลูกสาวของใครบางคน  ไม่ใช่ว่าใครก็ใช้กันได้  เจ้ารู้ไหมว่าในแผ่นดินมังกรทะยานมีเจ้าหญิงเจ้าชายอยู่เท่าไหร่?  เจ้าหญิงเจ้าชายแต่ละประเทศมีเท่าไหร่?  ถ้าเจ้านับดู จำนวนอาจมากกว่า 200 คน  นอกจาก 3 ราชวงศ์แล้ว เจ้าชาย, เจ้าหญิงอื่นและเจ้าชายเจ้าหญิงจากประเทศเล็กๆอีก.... แต่เจ้าเมืองนั้นจะแตกต่าง มันเป็นการพิสูจน์คุณค่าของเจ้าในฐานะนักสู้  เพราะอย่างน้อยเจ้าต้องเป็นนักสู้ระดับ 6  ก่อนที่เจ้าจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นข้าหลวงของพื้นที่นั้น ข้าอยากให้เจ้าเรียกว่า เจ้าเมืองโล่วฮัวต่อไปมากกว่า  ข้าชอบชื่อนั้น”แต่เจ้าหญิงของประเทศฟังดูก็น่ารักดีนะ””

'เย่ว์หยาง'ชะงัก ก่อนเปลี่ยนไปอีกคำถามหนึ่ง

“นักสู้ระดับ 6 คนใดก็ได้ที่จะเป็นผู้ปกครองเมืองหรือ?”

“ในทางทฤษฎี ก็ใช่ แต่คนบางคนมีความสามารถทางทหารแต่ไม่มีทักษะทางจัดการ  ดังนั้นพวกเขาจะปกครองได้ไม่ดี  บ่อยครั้งที่พวกเขาเอาแต่ขึ้นตำแหน่งโดยไม่มีหน้าที่จริง  ตราบใดที่นักสู้พัฒนาไปถึงระดับ 5  พวกเขาสามารถก้าวหน้าไปเป็นถึงรองหัวหน้า ในตำแหน่งที่ไม่มีหน้าที่ทำ  นอกจากไปรบหรือบุกโต้ตอบแดนปีศาจ  พวกเขาก็ว่างทำอะไรที่ต้องการก็ได้ โอว..จริงสิ เมืองของข้ายังขาดหัวหน้าองครักษ์  ต้องการเป็นไหม?”

เจ้าเมือง'โล่วฮัว'หัวเราะ

“อย่างที่เขาพูดกันว่า ทหารที่ไม่ต้องการเป็นขุนพลไม่ใช่ทหารที่ดี  ข้าขอผ่านไม่เป็นหัวหน้าองครักษ์แน่  เอาไว้ข้าค่อยเป็นขุนพลทีหลังดีกว่า”

'เย่ว์หยาง'ปฏิเสธข้อเสนอ

“ข้ารู้สึกชอบคำพูดเจ้า จึงล้อเล่นด้วย  ถ้าเป็นคนอื่นข้าคงไม่สนใจแม้แต่น้อย”

เจ้าเมือง'โล่วฮัว'ไม่ได้ใส่ใจมากที่'เย่ว์หยาง'ปฏิเสธข้อเสนอของนาง  ความจริงดูเหมือนนางคาดการณ์ไว้ก่อนแล้ว นางโยนบัตรเงินให้'เย่ว์หยาง'และยิ้ม

“นี่คือรางวัลที่ข้ามอบให้กลุ่มของเจ้า , สำหรับรางวัลที่รับใช้งานทหารและเกียรติยศจากสมาคมนักรบ  พวกเจ้าจำเป็นต้องไปรับรางวัลนั้นด้วยตนเอง  ข้ามีหลายเรื่องที่ต้องไปทำ  ขอตัวก่อน”

เจ้าเมือง'โล่วฮัว'ยิ้มพลางโบกมือและนางลอยออกไปขณะพาจิ้งจอกหิมะ 3 หางไปด้วย โดยทิ้งกลิ่นหอมจางๆ ไว้เบื้องหลัง 'เย่ว์หยาง'สังเกตว่ากระโปรงของเจ้าเมือง'โล่วฮัว'ค่อนข้างจะเสียหาย ชัดเจนว่าการต่อสู้ของนางไม่ได้ราบรื่น  ดูเหมือนว่าคู่ต่อสู้ของนางค่อนข้างซับซ้อนและโชคดีที่นางไม่ได้รับบาดเจ็บ

ขณะที่นางกล้าต่อต้านแดนปีศาจ  แม้ในขณะที่นำผู้ใต้บังคับบัญชาไปกับนางไม่กี่คนก็ตาม  ถ้าเป็นคนอื่น  แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งกว่านางถึง 10 เท่า  บางทีพวกเขาคงไม่กล้าทำเหมือนอย่างที่นางทำก็ได้

“เรียกความรู้สึกของเจ้าคืนมาได้แล้ว  ลูกตาเจ้าตกอยู่บนพื้นแล้ว รีบเก็บซะ”

'อี้หนาน'ตางามกลับมาตรงจุดที่'เย่ว์หยาง'อยู่และต่อยเข้าที่กลางอกของเขา  อย่างไรก็ตามหมัดน้อยๆ นุ่มนิ่มดุจนุ่น ของนางที่ต่อยโดนเย่ว์หยางทำให้เขารู้สึกสบายขึ้นมากกว่า

“ข้ายังคงมีฝันอันสูงส่ง  ขอให้พวกเจ้ามีโลกที่เต็มไปด้วยสาวงาม...”

ขณะที่'เจ้าอ้วนไห่'หัวเราะเต็มที่จนไขมันเต้นไปด้วย  'เย่ว์หยาง'สะดุ้งจนเผลอต่อยเขาเบาๆ หนึ่งหมัด

“พวกเจ้ามีงานอดิเรกชอบถูกซ้อมหรือไง?”

'เย่คง'ไม่สามารถทนเจ้านั่นได้ จึงทุบท้ายทอย'เจ้าอ้วน'บ้าง 'เจ้าอ้วนไห่'ล้มลงไปแล้ว  'เย่คง'ร่วมกับพี่น้องสกุลหลี่ซ้อม'เจ้าอ้วนไห่'เสียงดัง

*ตุ้บตั้บ*

พวกเขาพบว่าหลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน  'เจ้าอ้วนไห่'จะหยุดอะไรได้?  การกระทำของเขาหมายความว่าเขาไม่ได้หาเรื่องถูกซ้อมหรือ?

“พวกเขาเป็น...”

'อี้หนาน'ตางามสับสนว่า'เย่ว์หยาง'เป็นเพื่อนประสาอะไรกัน

“ปล่อยพวกเขาเถอะ  พวกเขาใจร้อนเพราะยังหนุ่ม  พวกเขาสะสมพลังไว้เยอะ พอพลังลดลงก็เลยรับไม่ได้  พี่อี้หนาน ท่านไม่รู้ว่าข้ากังวลเพียงไหน  2-3 วันมานี้ข้าไม่เห็นท่านเลย”

'เย่ว์หยาง'ยื่นมือออกมาจับไหล่'อี้หนาน'

“โกหก ข้าสบายดีทุกอย่าง ฉะนั้นเจ้ากังวลเรื่องอะไรมิทราบ?”

'อี้หนาน'หน้าแดงซ่าน แต่รีบกลับคืนสภาพเดิม นางลดไหล่หลบมือ'เย่ว์หยาง'คนหน้าด้าน

“ข้ารู้ว่าเจ้ายังคงเพิ่งเริ่มต้น  ยิ่งกว่านั้น เจ้ายังมีนิสัยขี้อายและเก็บตัว แม้ว่าเจ้าจะอยากรู้อยากเห็นเรื่องผู้หญิง แต่เจ้าก็ไม่กล้าเคลื่อนไหว ปกติเจ้ายับยั้งตัวเองได้ จนกลายเป็นเรื่องเหลือทน  ถ้าเจ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป  ลงท้ายเจ้าจะต้องเป็นเด็กมีปัญหาแน่  นั่นคือเหตุผล ในฐานะพี่ชาย..  ข้าทนเห็นเจ้าเป็นแบบนี้ไม่ได้แน่  ข้าจะช่วยเจ้า.. อี้หนาน ตราบใดที่เจ้ามีครั้งแรกได้  เจ้าจะเข้าใจสิ่งที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งควรเป็น  ด้วยหน้าตามีเสน่ห์อย่างเจ้า บางทีเจ้าอาจกลายเป็นคู่แข่งความสัมพันธ์กับข้าก็ได้  อย่าห่วง, ข้าจะช่วยสอนเจ้า”

'เย่ว์หยาง'ดูจริงใจมาก และเตรียมจะดึง'อี้หนาน'ไปหาห้องและให้เขาได้มีครั้งแรกของเขา

'เย่คง'และคนอื่นๆ เหงื่อตกเป็นทาง  ทำเป็นเหมือนว่าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น 'เจ้าอ้วนไห่'ผู้นอนเหยียดยาวกับพื้น เริ่มร้องไห้  เจ้าโง่นี่ต้องการทำอะไรกันแน่?  เขาสามารถพาผู้หญิงเข้ามาได้แล้วยังต้องพา'อี้หนาน'.. 'อี้หนาน'สาวตางามโกรธจัดจนหน้าแดง  นางซัด'เย่ว์หยาง'จนปลิวด้วยหมัดเดียว พร้อมกับตะโกนไล่หลังว่า

“ไปตายซะ  ข้าเกลียดคนอย่างเจ้าที่สุด  เจ้าลามก!”

'เย่ว์หยาง'แกล้งทำเป็นสับสน

ขณะชี้ไปที่'อี้หนาน'ที่กำลังยืนหอบและถามว่า

“เกิดอะไรขึ้นกับอี้หนานเหรอ?  ทำไมเขาโกรธด้วยล่ะ?”

เมื่อ'เจ้าอ้วนไห่'ได้ยินเช่นนี้ ก็ยิ่งทนไม่ได้อีกต่อไป ส่งเสียงสะอื้นดังลั่น

“อย่าถามข้า  ปล่อยให้ข้าตายแทนเถอะ  ข้าก็เกลียดเจ้า  เจ้ามันโง่  เจ้าเสียโอกาสดีๆ อย่างนั้นได้ยังไง?”

 

 

ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=70

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด