ตอนที่ 51 กระดิ่งทอง
โคเถื่อนเงากล้าเกินตัวจริงๆ และเริ่มจู่โจมหัวราชสีห์เพลิง นางใช้ไหล่ ศีรษะ แขนทุบหัวราชสีห์เพลิง 'เย่ว์หยาง'แบ่งจิตสำนึกไปควบคุมนาง เพิ่มสัญชาตญาณจู่โจมของนาง ทำให้นางเคลื่อนไหวได้เป็นธรรมชาติขึ้น
การระดมโจมตีหัวราชสีห์เพลิงต่อเนื่องเป็นพายุสลาตัน จนกระทั่งมันแทบทนไม่ได้ น่าเสียดายที่นางไม่สามารถเชื่อมโยงความคิดของเย่ว์หยางที่จะใช้ชั้นเชิงในการสู้ได้
พอถึงจุดนี้ นางไม่มีพลังสนับสนุน 100 เท่าจากเงาปีศาจยักษ์ จนทำให้พลังสังหารของนางมีขีดจำกัด ไม่แต่เพียงแค่นั้น พลังแท้จริงของนางจะมากกว่าสัตว์อสูรระดับ 3 ชั้นทองแดงอยู่มาก แต่เมื่อเทียบกับจ้าวสัตว์อสูร ระดับ 6 ชั้นทอง ก็ยังคงมีความแตกต่างกันอย่างใหญ่หลวง
ขณะที่หัวราชสีห์เพลิงกัดตอบโต้ ร่างของนางจึงได้รับบาดเจ็บหนัก สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางปวดหัวที่สุดก็คือโคเถื่อนเงาไม่รู้สึกเจ็บปวดและไม่รู้จักหลบเลี่ยง นางจะสู้จนกว่าแรงจะหมด ในไม่ช้านางก็ถูกกัดอย่างหนัก แผลขนาดใหญ่เห็นได้ชัดบนตัวนาง ไม่มีเลือดไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว
ตอนนั้น นางยังคงเป็นสัตว์มีชีวิตครึ่งหนึ่ง และเป็นสัตว์อสูรอัญเชิญที่แตกต่างจากอสูรธรรมดา ตราบใดที่พลังโคเงายังไม่หมด แม้ว่าร่างที่สร้างมาจากกระทิงเถื่อนจะถูกทำลายสิ้นเชิง นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้ไม่มีหยุด 'เย่ว์หยาง'รู้ว่านางขาดการเสริมพลังจากเงาปีศาจยักษ์ มีพลังไม่พอที่จะรับมือหัวราชสีห์เพลิงได้
แต่ยังคงมีโอกาสที่นางจะเรียก เนตรประหาร ออกมาใช้สู้ ซึ่งจะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์โดยรอบได้ เนตรประหารอาจจะสามารถฆ่าหัวราชสีห์เพลิงนี้ได้ทันที
"ฮุยไท่หลาง เจ้าขี้ขลาด ถ้าคืนนี้แกไม่อยากเป็นอาหารมือค่ำ เมนูสะโพกหมาป่าย่างของข้า จงออกไปไล่งับก้นไคเมราเดี๋ยวนี้ ใช้กรงเล็บของแกตะกุยก้นมันให้ขาดเลย"”
พอ'เย่ว์หยาง'เห็น'ฮุยไท่หลาง'ไม่ยอมขยับเลย ทำให้เขาโกรธมาก มันกำลังชมอยู่ด้านข้างจริงๆ หรือ?
"อะฮู้ววว"”
ทันทีที่'ฮุยไท่หลาง'เห็น'เย่ว์หยาง'โกรธ มันตะลีตะลานวิ่งออกไป ใช้พลังทั้งหมดกัดเล็บเท้าหน้าของไคเมรา ซึ่งเป็นส่วนที่หนากว่าช้างเสียอีก มันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง แต่ก็พยายามมองเหมือนว่ามันชิงเป็นฝ่ายรุก
แม้ว่า'เย่ว์หยาง'จะโกรธ แต่เขาก็ไม่คิดจะทุบตีมันตอนนี้ ใจของเขาตอนนี้เพ่งอยู่กับการควบคุมโคเงาให้เชื่อมจิตกับเขาได้โดยตรง โดยพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหลบการจู่โจมที่หนักหน่วงของหัวราชสีห์เพลิง
ถ้าโคเงาสู้โดยตรงไม่มีการควบคุมไว้ เป็นที่คาดกันว่านางคงถูกศัตรูกัดจนเหลือเนื้อไม่กี่ชิ้นภายใน 3 นาที หลังจาก'เสี่ยวเหวินหลี'แช่แข็งหัวมังกรได้แล้ว เธอก็ไม่ขยับไปช่วยต่อสู้
แต่กลับหลับตารวบรวมพลังภายในอยู่เงียบๆ 'เย่ว์หยาง'คาดว่านางกำลังเตรียมคัมภีร์อัญเชิญของนางหรือไม่ก็เคลื่อนไหวครั้งสุดท้าย เขาไม่ต้องการให้มีผลกระทบต่อเธอ จึงพยายามอย่างดีที่สุดปล่อยให้เธอรวบรวมสมาธิอย่างเงียบงันโดยอิสระ ปีศาจอสรพิษ'เสี่ยวเหวินหลี'ยังสร้างความประหลาดใจให้เขาได้ต่อไป
ใครจะรู้ว่าต่อไปเธอจะเคลื่อนไหวน่าตื่นตาตื่นใจแค่ไหน? ตอนนี้ 'เย่ว์หยาง'ชื่นชมยินดีอยู่ภายในใจ และไม่คิดเลยว่าวิกฤติจะมาถึงเร็วกว่าหมาป่า เจ้าเล่ห์กว่าสุนัขจิ้งจอก เงาสีดำพุ่งเข้ามาใกล้อย่างเงียบงัน
เมื่อ'เย่ว์หยาง'สังเกตได้ในที่สุด เงาสีดำยาวนี้ ก็เริ่มพุ่งเข้าหาเสี่ยวเหวินหลีอย่างอย่างบ้าคลั่ง
"ซวยแล้ว?"”
'เย่ว์หยาง'ตื่นตระหนกอยู่ในใจ เขาน่าจะยกแขนได้แล้วสร้างกำแพงปราณก่อกำเนิดกระบี่ไร้ลักษณ์ป้องกันไว้ แต่ เขาลืมไปว่า เขาไม่สามารถโจมตีและป้องกันเธอได้ทันเวลาแล้วยังสูญเสียโอกาสโต้ตอบที่ดีที่สุดไปด้วย
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่อันตรายนี้ 'ฮุยไท่หลาง'ก็ปรากฏตัวขึ้น มันออกมาจากตำแหน่งที่ไม่ทราบชัดแล้วเข้าไปขวางหน้า'เสี่ยวเหวินหลี'ป้องกันเงานั้นไว้ เจ้าหมาป่านั้นปกติจะดื้อและขี้ขลาดกลับเสียสละกระโจนเข้ามาขวางเงาดำลึกลับขนาดยักษ์นั้นไว้
ก่อนที่มันจะสามารถกัดศัตรูได้ทันที เงาดำนั้นก็อ้าปากและกลืนฮุยไท่หลางลงท้องของมันทันที
"คุณพระช่วย, ฮุยไท่หลางเสร็จมันแล้ว.."”
'เย่ว์หยาง'เห็นมันได้ชัดแล้ว ที่แท้ก็คืองูขนาดยักษ์นั่นเอง ความจริง ไคเมรา 3 หัวไม่ได้มีเพียง 3 หัว แต่ยังคงมีหางเป็นงูขนาดยักษ์ใหญ่กว่างูที่ใหญ่ที่สุดในโลกปกติหลายเท่า มนุษย์ที่โตเต็มที่บางทียังโอบรอบมันไม่ได้เลย
แม้แต่'ฮุยไท่หลาง'ก็ใหญ่ไม่พอติดซอกฟันของมันด้วยซ้ำ 'เย่ว์หยาง'ไม่สามารถทำอะไรได้ และคงทำได้เพียงสั่งโคเงาที่เต็มไปด้วยบาดแผลให้รีบเร่งและหวังว่าความแข็งแกร่งของนางจะช่วยหยุดเจ้างูยักษ์ปีศาจได้
ถ้า'เสี่ยวเหวินหลี'ขัดจังหวะมันได้ อาจเป็นไปได้ที่จะช่วย'ฮุยไท่หลาง'ที่เพิ่งจะถูกกลืนลงไป โคเงาตวาดออกไป แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของงูยักษ์ไวกว่า
ตัวของงูเคลื่อนไหวได้เร็วและรัดนางเอาไว้แน่น จนเกิดเสียงลั่นบนตัวนาง ถ้าเป็นสัตว์อสูรธรรมดาโดนรัดแบบนี้ บางทีการรัดแบบนี้สามารถฆ่าเหยื่อได้ โชคดีที่โคเงามีแค่เพียงครึ่งชีวิต แม้ว่าร่างกายจะถูกรัดจนดูผิดรูป กระดูกกำลังแตก นางก็ยังตอบโต้ได้โดยไม่กังวล
'เย่ว์หยาง'เห็นได้ว่าจมูกและปากของโคเงา เหมือนกับการจู่โจมครั้งก่อนของกระทิงเถื่อนทองแดงตัวเก่า แสงดุจเปลวเพลิงเริ่มปรากฏ ในดวงตามีแสงสีแดงเรืองออกมา ขณะที่เย่ว์หยางคาดการณ์
ในที่สุดพลังที่เหมาะสมก็ถูกปลดปล่อยไปถึงศัตรู เนตรประหารก็ถูกเรียกมาใช้จนได้ งูยักษ์ที่รัดร่างของโคเงาแน่นร้องออกมาอย่างเจ็บปวดแล้วหล่นลงบนพื้น ไม่มีพลังเหลือ ตัวของมันกระตุกไม่หยุด เย่ว์หยางเบิ่งตาค้างอย่างตกใจ เกิดอะไรขึ้น? งูนี่ตายสนิทหรือยัง? ดูเหมือนว่ามันแค่ทุกข์ทรมานเกือบตาย แต่ก็ยังไม่ตายทันที
เป็นไปได้ว่าสัตว์อสูรที่ทรงอำนาจ มีระดับพลังที่เหนือกว่า 2 - 3 ชั้น จะต้านทานเนตรประหารได้หรือเปล่า? หรือเป็นทักษะตามธรรมชาติที่จ้าวสัตว์อสูรทองจะต้านทานเนตรประหารได้? 'เย่ว์หยาง'ตกใจมากที่หลังจากหางงูขนาดยักษ์ตกไปบนพื้นมีอาการบาดเจ็บรุนแรง
นอกจากนี้ยังมีหัวมังกรที่ถูกแช่แข็งอยู่ อีก 2 หัวไม่มีปฏิริยาเจ็บปวดใดๆ ให้เห็น เหมือนกับว่าพวกมันไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย หัวแกะสีขาวยังคงจ้องมอง'เย่ว์หยาง'ด้วยสายตาที่เรียบเฉย มันทำให้'เย่ว์หยาง'ไม่สบายใจอยู่ภายใน
มีบางอย่างผิดปกติ หัวแกะขาวนี้มันเงียบเกินไป ในอีกด้านหนึ่ง หัวราชสีห์เพลิงคำรามและแยกเขี้ยวใส่โคเงา แม้เมื่องูยักษ์ของไคเมรา 3 หัวจะถูกปราบไปแล้ว มันก็ไม่มีผลต่อหัวอื่นๆ เลย วิญญาณของมันต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ละหัวมีหนึ่งวิญญาณงั้นหรือ? 'เย่ว์หยาง'ไม่เข้าใจเรื่องนี้ดี
ในเวลานั้น คัมภีร์อัญเชิญชั้นเพชรของ'เสี่ยวเหวินหลี'ถูกเรียกออกมา มันเปล่งประกายสีทอง พร้อมกับพลังแสงสีทอง ปีศาจที่น่ากลัวมีหัวเต็มไปด้วยงู ลำตัวเป็นมนุษย์ หางเป็นงูถูกเรียกออกมา มันถือคันธนูเงินและลูกศรสีทอง พอมันปรากฏออกมาก็ยิงลูกศรดอกหนึ่งไปที่ตาซ้ายของหัวราชสีห์เพลิงทันที
หัวราชสีห์เพลิงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แล้วหันมาโจมตีมันทันที งูที่อยู่บนหัวปีศาจที่น่ากลัวเริ่มขยับและแสดงให้เห็นใบหน้าที่ซ่อนอยู่หลังงูพวกนั้น... หัวราชสีห์เพลิงเปลี่ยนเป็นหินทันทีจนถึงคอ มันกลายเป็นรูปปั้นหินขาวซีด แม้แต่ธนูทองที่ปักคาอยู่ในตามันก็กลายเป็นธนูหินไปด้วย
"เมดูซาศิลา โอ้โฮ..แข็งแกร่งมาก"”
'เย่ว์หยาง'ตื่นเต้นสุดขีด 'เสี่ยวเหวินหลี'ครอบครองอสูรผู้พิทักษ์ถึง 4 ตน และหนึ่งในนั้นก็คือ เมดูซาศิลานี้ 'เสี่ยวเหวินหลี'ไม่เคยเรียกมันออกมาก่อน
เขาไม่คิดว่าเธอจะมีพลังภายในพอที่จะเรียก 1 ในพวกมันออกมาได้ แค่'เมดูซาศิลา'ก็พอทำให้สนามต่อสู้สะท้านสะเทือนไปหมดแล้ว หัวราชสีห์เพลิงที่ทนต่อพายุหมัดของโคเงาได้อย่างไม่มีปัญหากับกลายเป็นหินทันทีเมื่อเมดูซาศิลาออกมา
จากนั้น'เมดูซาศิลา'พาดลูกศรและเล็งไปที่หัวแกะขาว เตรียมยิงธนูดอกที่ 2 แต่เสี่ยวเหวินหลีครางเบาๆ ไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้ เมื่อเย่ว์หยางรีบเข้ามาประคองเธอ
'เมดูซาศิลา'นั้นไม่สามารถยิงธนูลูกที่สองได้ทันเวลา ร่างจึงเปลี่ยนเป็นควันและแสงเข้าไปในคัมภีร์เพชร 'เสี่ยวเหวินหลี'ยังอยู่ในสถานะทารก
การอัญเชิญอสูรที่แข็งแกร่งอย่างเมดูซาศิลาต้องฝืนใช้กำลังมากเกินไป พอเห็นหน้า'เย่ว์หยาง'เต็มไปด้วยความกังวล 'เสี่ยวเหวินหลี'ลืมตาโตของเธอคล้ายกับจะพูด
แม้จะไม่มีคำพูดออกมา แต่รอยยิ้มอ่อนหวานปรากฏบนใบหน้าน้อยๆ ของเธอ เธอเลื่อนลงจากอ้อมแขนของเขาและตรงไปที่งูยักษ์ที่นอนอยู่บนพื้น จากนั้นตวัดดาบยะเยือกตัดร่างของงู โคเงาใช้เวลาอยู่นานในที่สุดก็พบร่างที่ตายของ'ฮุยไท่หลาง' ที่เต็มไปด้วยกรด
"เฮ้อ.. แกยังไม่ถูกฆ่านะ ข้ารู้ว่าหมาป่าพันธุ์แมลงสาบอย่างแกไม่ตายง่ายๆ หรอก"”
พอเห็น'ฮุยไท่หลาง'ปลอดภัย ภายนอก'เย่ว์หยาง'ทำเป็นเหมือนไม่ใส่ใจมัน แต่ความจริงในใจเขาดีใจอย่างที่สุด แม้ว่า'ฮุยไท่หลาง'จะเป็นเจ้าขยะที่ชอบรังแกสัตว์อ่อนแอ กลัวสัตว์แข็งแรงกว่า แล้วยังกลัวตาย แต่มันก็ยังเชื่องและทำตามคำสั่งของเขา
มันเป็นสัตว์อารมณ์ดี ไม่ว่ามันจะโดนไล่เตะมากแค่ไหน มันก็ยังรักษาภาพพจน์บริวารผู้ซื่อสัตย์ได้เป็นอย่างดี ในฐานะสัตว์ที่ไม่ได้ทำสัญญาสามารถทำอะไรได้ขนาดนี้นับว่าไม่เลว
ถ้ามันเป็นสัตว์อสูรชนิดอื่น ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้ทำสัญญา บางทีพวกมันอาจหลบหนีหายเมื่อเห็นจ้าวสัตว์อสูรทองอย่างไคเมรา 3 หัวนี้
อย่างไรก็ตาม 'ฮุยไท่หลาง'มันยังลุยสู้และเสี่ยงตายช่วยเสี่ยวเหวินหลี เพราะเหตุนี้'เย่ว์หยาง'จึงต้องมองมันใหม่
"แบร่... แบร่..แบร่.."”
อยู่ๆ หัวแกะก็ร้องออกมาทันที
“…”
บางอย่างไม่ค่อยถูกต้อง 'เย่ว์หยาง'มีลางสังหรณ์ถึงอันตรายเกี่ยวกับหัวแกะขาวนี้ พอเห็นมันเริ่มเคลื่อนไหว เขารีบคว้าตัว'เสี่ยวเหวินหลี' โคเงาที่บาดเจ็บหนักวางร่างเหมือนตายของ'ฮุยไท่หลาง'บนหลังนางแล้วตามมาอยู่ใกล้ๆ
ข้างหลัง'เย่ว์หยาง' ลำแสงสีขาวนวลถูกยิงออกมาจากปากของหัวแกะขาว ฉายไปที่หางงูที่ขาดสองท่อน ขณะที่'เย่ว์หยาง'จ้องมองอย่างตะลึง หางงูที่ถูกตัดก็มีหัวงอกขึ้นใหม่อย่างรวดเร็วและมันกลายเป็น 2 ตัว ขณะที่แสงฉายไปรอบๆ นั้น
หัวราชสีห์เพลิงที่กลายเป็นหินและหัวมังกรที่ถูกแช่แข็งก็เริ่มคลายตัวออก บาดแผลที่เกิดเพราะ'เสี่ยวเหวินหลี'และโคเงาสมานตัวอย่างรวดเร็ว
'เย่ว์หยาง'มองอย่างหมดเรี่ยวแรง หลังจากลำบากต่อสู้มาตลอดจนไคเมราปางตาย พอฉายแสงทีเดียวมันก็ฟื้นคืนสภาพทันที สัตว์ประหลาดผิดปกติอย่างนี้ ใครจะเอาชนะมันได้เล่า?
ขณะที่'เย่ว์หยาง'สาปแช่งคนสร้างหอทงเทียน ฟ้าผู้สร้างสรรเกม บิดเบือนและไม่ยุติธรรม เตรียมประท้วงอย่างรุนแรงที่สุด ไคเมรา 3 หัวก็สยายปีกยักษ์จนดูเหมือนจะคลุมทั้งท้องฟ้า
ด้วยการกระพือปีกครั้งเดียวก็ทำให้เกิดพายุรุนแรง ชั่วพริบตาเดียวก็ทะยานบินหายไปในอากาศโดยไม่ทิ้งร่องรอย ในห้องโถง มีเพียงหัวงูและของที่เป็นทองทิ้งอยู่
วัตถุทองนั้นก็คือกระดิ่งทองที่เดิมทีแขวนอยู่ที่คอของแกะขาว อะไร, หมายความว่ายังไง? เป็นไปได้ว่านี่คือเครื่องมือที่ทิ้งไว้หลังจากเอาชนะปีศาจได้หรือ? แต่จ้าวสัตว์อสูรไม่ได้ถูกฆ่านี่ ยังมีรางวัลให้ทั้งที่ตัวหัวหน้าไม่ถูกฆ่าด้วยหรือ? กระดิ่งทองคือสมบัติแบบไหนกันแน่?
ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=51