ตอนที่ 42 ข้ายอมแพ้
ค่ายช่างอู่ตั้งอยู่ในพื้นที่มีภูเขาล้อมรอบ มีอาคารไม่ค่อยมาก แต่โครงสร้างดูเรียบร้อย สมาคมทหารรับจ้างและก๊วนนักฆ่าก็ตั้งอยู่ที่นี่ และสิ่งที่จำเป็นทั้งหมดก็มีอยู่ที่นี่
หลังจากผ่านการตรวจสอบคุณสมบัตินักรบแล้ว นักรบสามารถออกจากหอประชุมช่างอู่มุ่ง'''''''''ไปที่ประตูเทเลพอร์ตเพื่อเข้าสู่หอทงเทียน ระหว่างทางสามารถมองเห็นค่ายหู่เปินและแท่นเย่ว์หลง
นอกเหนือนั้นยังมีกองทหารขนาดเล็กเจาะพื้นตั้งประตูเทเลพอร์ตขนาดใหญ่ ก่อนหมายกำหนดเวลาเทเลพอร์ต ทหารรับจ้างสามารถไปทางด้านอื่นของค่ายช่างอู่ได้
ณ ตรงนั้นมีเมืองเล็กๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่นร้านเหล้า โรงเตี๊ยม คอกม้า ร้านตีเหล็ก ศูนย์ดูแลสัตว์อสูร เป็นต้น 'เย่ว์หยาง'เดินไปที่สนามฝึกทหารกองเล็กซึ่งเป็นที่ตั้งประตูเทเลพอร์ต
ประตูเทเลพอร์ตมีขนาดใหญ่กว่าที่อยู่อาศัยอย่างน้อยก็ร้อยเท่า เสาแก้วผลึก 100 ต้นตั้งไว้เต็มพื้นที่ แต่ละต้นสูงอย่างน้อย 5 เมตรและอากาศโดยรอบก็ไหลเวียนกำลังดี พื้นที่ทางเข้าประตูเทเลพอร์ตเล็ก ไฟสีขาวส่องกระจายโดยรอบลอยดูฟุ้งๆ
เมื่อมีคนเดินเข้าไป พวกเขาจะรู้สึกเหมือนถูกแช่ในทะเลสาบของพลังไฟนี้ ทั้งกายและใจจะรู้สึกปลอดโปร่งจากความกังวล ในหลายปีมานี้หลังจากอาณาจักรต้าเซี่ยได้รับการสถาปนา
เมืองหลวงของอาณาจักรคือช่างจิงถูกศัตรูรุกรานหลายครั้ง แต่ค่ายช่างอู่ที่คอยปกป้องประตูเทเลพอร์ตไม่เคยพลาดท่าให้ศัตรูเลย จากเหตุนี้เอง เห็นได้ว่าอาณาจักรต้าเซี่ยให้ความสำคัญกับประตูเทเลพอร์ตนี้เป็นอย่างมาก
"พี่ชาย เจ้าก็ไปหอทงเทียนด้วยหรือ? แล้วเจ้ามาคนเดียวได้อย่างไร?"”
'เย่ว์หยาง'กำลังกะขนาดพื้นที่ เมื่อบุรุษอ้วนมีรอยยิ้มเต็มหน้าเดินเข้ามาทักทายเขา เย่ว์หยางแค่จ้องมองเขาเมื่อสหายผู้นี้ยื่นมืออวบอ้วนมาวางบนไหล่เขาทำทีเหมือนอีกฝ่ายเป็นคนคุ้นเคยกันมาก
"เจ้าดูแล้วไม่คุ้นเลยนี่ เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกหรือ? กังวลใจหรือเปล่า? ข้าบอกเจ้าได้เลยนะ ที่นี่ไม่มีอะไรจริงๆ หอทงเทียนผ่านง่ายกว่าที่เจ้าคิด มันดี มันยอดเยี่ยมมากกว่าที่เจ้าคิด ไม่ต้องห่วง เป็นเรื่องปกติมากที่เจ้าจะกังวลใจในครั้งแรก แต่นี่มันก็เหมือนกับเปิดซิงกับสาวบริสุทธิ์ล่ะนะ ตราบใดที่เจ้าทำให้สำเร็จตั้งแต่ตอนแรก เจ้าก็จะไม่รู้สึกเหมือนว่าเป็นเรื่องลึกลับมาก"
"อย่างนั้น ท่านก็เก่งใช่ไหม?"”
'เย่ว์หยาง'ถึงกับอึ้งในใจ จะไปหอทงเทียน เกี่ยวอะไรกับการเปิดซิงสาวบริสุทธิ์? ดูเหมือนเจ้าอ้วนนี่คงเป็นคนลามกแน่ๆ
"ข้าไม่เก่งหรอก แต่สำหรับคนรุ่นหนุ่ม ใครเล่าจะไม่รู้จักคุณชายไห่ผู้นี้?"”
พอนานไป คนอ้วนผู้นี้เริ่มอวดอ้างจนแทบว่าเขาสามารถบินได้ดีเลยทีเดียว
"โหงวเฮ้งคุณชายไห่ ดูแล้วเป็นคนมีบารมีชัดๆ ใบหหน้าของเจ้าบ่งบอกว่ามีโชควาสนา มีอำนาจมาก เจ้ามีแววคนเก่งจริงๆ"”
'เย่ว์หยาง'ยกนิ้วให้อีกฝ่ายหนึ่ง
"เฮ้อ..มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ข้ามักจะไม่ทำตัวเด่น คิดดูสิ ข้าคือผู้ใช้คัมภีร์อัญเชิญที่มีแรดเหล็ก ระดับ 2 ชั้นทองแดง ข้ายังไม่เคยเอามันออกมาอวดคนอื่นเลย ข้าไม่ใช่คนแบบนั้น.. โอ๋ว? นั่นสัตว์อสูรของเจ้าเหรอ? ดูเหมือนจะเป็นหมาป่าหลังเหล็ก ชั้นทองแดงนะ ไม่สิ นั่นไม่ถูกแล้ว จมูกของมันปล่อยควันออกมาได้และแม้แต่ลิ้นก็มีประกายไฟ นั่น..หมาป่าปีศาจไม่ใช่หรือ?"”
เมื่อบุรุษอ้วนเห็น'ฮุยไท่หลาง'เดินขึ้นมาหา'เย่ว์หยาง'และมันกระดิกหางไปมา เขาตกใจมากจนไขมันกระเพื่อม
"ไม่มีทาง นี่คือหมาเฝ้าบ้านของข้า ที่มันดูเป็นอย่างนี้ ก็เพราะเมื่อเร็วๆ นี้มันชอบแอบขโมยกินพริก"”
'เย่ว์หยาง'ตอบอธิบายอย่างเป็นจริงเป็นจัง
"โฮ่ง โฮ่ง!"”
'ฮุยไท่หลาง'เห่าอย่างให้ความร่วมมือเต็มที่ หลังจากแอบฝึกแล้ว มันเข้าใจภาษาหมาต่างด้าวมากขึ้นและเริ่มชำนาญในการเห่าบ้างแล้ว
"นี่หมาเฝ้าบ้านจริงๆ เหรอ? อา.. ทำไมมันถึงไม่ทำสัญญากับเจ้าล่ะ? มันไม่มีตราประทับสัญญาที่หน้าผาก สวรรค์! เจ้า..เจ้า.. ไม่กลัวว่ามันจะหนีไปหาคนอื่นหรือ?"”
คนอ้วนดูเหมือนจะกังวลแทนเย่ว์หยาง' และเขาสำรวจดูรอบๆ ตัวอย่างกังวล จากนั้นก็ลดเสียงและกระซิบว่า
"พี่ชาย! ฟังให้ดีนะ เจ้าได้ของดีมาแล้ว สุนัขเฝ้าบ้านตัวนี้มันเป็นของดีมากๆ ไม่ ไม่ใช่ มันไม่ใช่หมาธรรมดา แต่เป็นหมาป่า ข้าเข้าใจไม่ผิดแน่นอน มันคือหมาป่าปีศาจหลังเหล็ก ชั้นทองแดงแน่ ดูสีปีกแมลงทับบริเวณหัวมันสิ ขนของมันดูเหมือนทำด้วยเข็มเหล็กกล้า หนังของมันดูเหมือนจะเป็นเหล็ก ตามันสีเขียวอมฟ้า ดูภาพของเจ้าสัตว์อสูรนี้สิ หมาป่าปีศาจหลังเหล็ก เหมือนกับหมาเฝ้าบ้านของเจ้า ยิ่งไปกว่านั้น หมาเฝ้าบ้านของเจ้ายังแข็งแรง ทรงพลัง ใครจะรู้ บางทีหลังจากที่มันขโมยกินพริก มันอาจกลายเป็นหมาป่าปีศาจหลังเหล็กอย่างคาดไม่ถึงก็ได้ เจ้าต้องรีบทำสัญญากับมัน มันเป็นสัตว์อสูรชั้นดี ที่แม้แต่คนอื่นจ่ายเงินตั้ง 100 เหรียญทองก็ยังไม่อาจหาซื้อได้"
"มันเป็นแค่หมาเฝ้าบ้าน ไม่มีทางที่จะมีราคามากขนาดนั้น"”
ว่าแล้ว'เย่ว์หยาง'ก็เตะ'ฮุยไท่หลาง'
อย่างไรก็ตาม มันไม่ยอมหลบ กลับกระดิกหางอย่างเชื่องเชื่อต่อไป ยังคงรักษาลักษณะของหมาเฝ้าบ้านไว้ได้เหนียวแน่น
"เจ้าตาบอดไปแล้วหรือ? เจ้ากล้ารังแกสัตว์อสูรเหรอ? เจ้าไม่กลัวว่ามันจะลดความภักดีต่อเจ้าหรือ? ก็ได้ เจ้าไม่ยอมแม้แต่จะทำสัญญาสินะ"”
เมื่อคนอ้วนเห็นสิ่งที่'เย่ว์หยาง'ทำ เขาแทบอยากจะฆ่าตัวตาย ถ้าเป็นคนอื่นได้สัตว์อสูรชั้นดี พวกเขาจะปฏิบัติกับมันอย่างดีเหมือนเป็นญาติอาวุโสของตน
พวกเขามักกลัวว่าถ้าไม่ให้มันได้กินอาหารดีหรือไม่ให้นอนเพียงพอหรือว่าไม่ทำให้มันอารมณ์เสีย ความภักดีของมันคงจะเพิ่มขึ้น สิ่งที่คนอ้วนไม่สามารถคิดได้ถึงก็คือ เจ้าโจรน้อยที่อยู่ต่อหน้าเขาไม่เพียงไม่ดูแลสัตว์อสูรเขาเท่านั้น
แต่เขายังกล้าเตะมัน พระเจ้าช่วย! คนอ้วนรู้สึกว่าถ้าพระเจ้ามีจริง ท่านควรจะฆ่าเจ้าโจรน้อยที่อยู่ต่อหน้าเขาด้วยการบันดาลให้ฟ้าผ่าทันที เจ้าเด็กนี่ไม่รู้วิธีใช้ทรัพยากรของตนจริงๆ มันเป็นอาชญากรรมแท้ๆ
พอเห็น'เย่ว์หยาง'ไม่ใส่ใจความเห็นแล้ว หัวใจของคนอ้วนเต้นผาง บางทีน่าจะเป็นไปได้สำหรับเขา ที่จะหว่านล้อมโจรน้อยนี้ผู้เป็นเหมือนวานรได้แก้วให้ยอมมอบหมาป่าปีศาจหลังเหล็กแก่เขา
พอมองดูหมาป่าปีศาจหลังเหล็กอีกครั้ง คนอ้วนเริ่มรู้สึกว่า เขามีชะตาบางอย่างต้องกับมัน ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องซื้อมันให้ได้ เขาซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้แล้วเริ่มเจรจาเรื่องราคา
"พี่ชาย ถ้าเจ้าไม่ต้องการหมาตัวนี้ ทำไมไม่ให้ข้าล่ะ สัก 50 ไม่นะ.. 60 เหรียญทองเป็นไง?"”
'เย่ว์หยาง'นึกชิงชังคนอ้วนอยู่ภายในใจ เขาต้องการซื้อ'ฮุยไท่หลาง' 60 เหรียญทองหรือ? ฝันไปเถอะ นอกจากนี้ เจ้า'ฮุยไท่หลาง'มันเลี้ยงตัวเองและทำสิ่งต่างๆ เมื่อใดก็ได้ที่มันต้องการ
เนื่องจากมันสามารถทำสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตัวมันเอง แล้วมันจะถูกขายให้คนอื่นเพื่อเป็นสัตว์อสูรทำสัญญาได้อย่างไร? 'เย่ว์หยาง'ไม่เคยทำเรื่องโง่ๆ แม้'ฮุยไท่หลาง'จะอ่อนแอขนาดไหน
เมื่อเทียบกับอสูรตนอื่นของเขา มันก็ยังเป็นคู่หูที่เขานำมาด้วย หากไม่มีมัน ใครจะเป็นที่ระบายอารมณ์โกรธของเขาในอนาคต? ต่อให้ยื่นข้อเสนอไม่ใช่แค่ 60 ทอง แต่เป็น 600 หรือแม้กระทั่ง 6,000 เหรียญทอง
'เย่ว์หยาง'ก็จะปฏิเสธที่จะขายสัตว์อสูรที่เขาฝึกมันมากับตัวเอง
"คุณชายไห่! เจ้าตัวนี้เป็นเพียงหมาเฝ้าบ้านที่เรามี ขืนขายท่านไป ข้าก็ไม่มีหมาเฝ้าบ้าน"”
'เย่ว์หยาง'ยกมือเป็นความหมายว่า เขาไม่สนใจจะขายมัน
"เรียกข้าว่านายใหญ่, เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร? ในอนาคต ข้าสามารถปกป้องเจ้าได้แน่นอน ข้ามาจากตระกูลไห่ หนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ ลุงของข้าเป็นศิษย์ของปราสาทแก้วของสี่นิกายใหญ่แห่งทะเลตะวันออก น่าเกรงขามไหม? พี่ชาย สบายใจได้ ถ้าเจ้ายอมรับนับถือข้าเป็นนายเจ้า ข้าไม่ยอมให้เจ้าเสียเปล่าแน่นอน ไม่ใช่แค่ 60 เหรียญทองเท่านั้น ข้าจะให้สิงโตเป็นของขวัญเจ้าตัวหนึ่ง ถ้าเจ้าชอบเสือโคร่ง ก็ย่อมได้เหมือนกัน เจ้าต้องการอะไร ก็แค่บอกมา เจ้าไม่ต้องการหมาเฝ้าบ้านอย่างนั้นหรือ? ข้าจะช่วยเจ้าเฝ้า เอ๊ย.. ข้าหมายถึงข้าจะซื้อหมาซักร้อยตัวจะได้ช่วยเจ้าเฝ้าบ้าน อย่างไรก็ตาม หมาป่าปีศาจหลังเหล็กตัวนี้ ไม่ว่ายังไง เจ้าต้องขายให้ข้า ข้าชอบมันมากจริงๆ เจ้าไม่รู้สึกว่ามันคล้ายกับข้าหรือ? ข้าก็แค่ชอบมันจริงๆ เราทั้งคู่แข็งแกร่งมาก"”
คนอ้วนพยายามจะเบ่งกล้ามให้ดู แต่ปรากฏว่ามีแต่ไขมันกระเพื่อมไปมา เย่ว์หยางมองดูคนอ้วน จากนั้นหันมาดู'ฮุยไท่หลาง' และตอนนี้เขานึกถึงเรื่องของมันได้ มีบางอย่างระหว่างพวกเขาที่คล้ายกันจริงๆ
พวกเขาทั้งคู่ดูคล้ายกันจริงๆ คล้ายกันที่เกิดมาเพื่อโดนตุ้บตั้บ.. เขาพยายามกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่ และทำทีเป็นเหมือนตกใจ ถามว่า
“ตระกูลใหญ่มีเพียง 4 ตระกูลไม่ใช่เหรอ? คือตระกูลเฟิง, เสี่ย, เย่ว์และหยาน? ตระกูลใหญ่ทั้ง 8 มาได้อย่างไร?”
“ตระกูลเฟิง, เสี่ย, เย่ว์, หยานเป็นตระกูลเก่า เราเพิ่งยกฐานะขึ้นมาเป็นอีก 4 ตระกูลใหญ่แม้ว่าชื่อเสียงของพวกเราอาจเป็นรองบ้างเล็กน้อย แต่ผู้คนก็เรียกพวกเราเป็นตระกูลใหญ่ทั้ง 8 ไปแล้ว เจ้าน่ะต้องมาจากบ้านนอกแหงๆ ใช่ไหม? ตระกูลไห่ของพวกเรามีชื่อเสียงมาก โดยเฉพาะสัตว์อสูรน้ำของพวกเรา ยอดเยี่ยมที่สุด”
บุรุษอ้วนสามารถโกหกได้เฉยโดยหน้าไม่แดงและไม่ต้องผ่อนลมหายใจเลย
“โอว.. อย่างนั้นหรอกหรือ..”
'เย่ว์หยาง'ทำเป็นโง่และพยักหน้าหงึกๆ
“พี่ใช่, ขายหมาป่าปีศาจหลังเหล็กตัวนี้ให้ข้า ไม่เพียงแต่ข้าจะให้ทอง 60 เหรียญและราชสีห์ตัวหนึ่งเท่านั้น ข้าจะพาเจ้าไปร่วมฝึกกับข้าด้วย เจ้าจะประสบผลสำเร็จในที่สุด ข้ารับรองได้ ภายใน 10 วัน เจ้าจะได้รับหนังสือรับรองสอบผ่านการอบรมแน่นอน แล้วหลังจากนั้น เกี่ยวกับเรื่องปรับสถานะเลื่อนระดับหินผลึกของเจ้า ข้าจะรับจัดการให้เจ้าทั้งหมด”
คนอ้วนตบอกรับรอง
“เจ้าบ้าอ้วนนี่พยายามหลอกเอาหมาป่าปีศาจหลังเหล็กจากเจ้าใช่ไหม?”
ในทันใดนั้น เสียงหวานกังวานดังขึ้นมาจากด้านหลัง'เย่ว์หยาง' ขณะเดียวกันกลิ่นหอมโชยมากระทบจมูกเขา 'เย่ว์หยาง'หันกลับไป และพบว่านางโจรตางามยืนอยู่ข้างหลังเขา พอเห็น'เย่ว์หยาง' อารมณ์พลุกพล่านปรากฏที่หน้านางโจรตางามชั่วแว่บหนึ่ง แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว
“เจ้าไม่ตายจริงๆ.. เอ๊ย, เจ้าหนีไปอยู่ไหนมาในช่วงไม่กี่วันมานี้?”
สถานการณ์ดีๆ ของคนอ้วนถูกคนอื่นก่อกวน ทำให้เขาอยากระบายอารมณ์โกรธจริงๆ อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เห็นนางโจรตางาม เขาถึงกับตาค้าง อารมณ์ประมาณว่ายิ่งกว่าหมาป่าเห็นเนื้อ เขารีบยื่นมือที่อวบอ้วนไปที่นางโจรตางามทันที
“ยินดีที่ได้พบเจ้า ข้าชื่อไห่ต้าฟู่ ใครๆ ก็เรียกข้าว่าคุณชายไห่ เจ้าเข้าใจข้าผิดไปแล้ว สาบานได้ ข้าไม่มีความตั้งใจจะโกงพี่ชายข้า คิดดูสิ ข้าเป็นเจ้านายของเขา ทำไมข้าต้องโกงเขาด้วย? คนสวย..เอ๊ย.. น้องชาย เจ้ารู้จักพี่ข้าหรือ? อย่างนี้ก็ถือเป็นเรื่องดี งั้นวันนี้ทุกคนเป็นสหายสนิทกัน วันนี้ช่างมีความสุขจริงๆ ไปดื่มด้วยกันสักแก้วเถอะ ข้าเลี้ยงเอง”
“เจ้าอ้วนน่าตาย ถ้าเจ้าไม่อยากให้ข้าแทงเจ้าจนเลือดหมดตัว จงอยู่ห่างๆ ข้า”
นางโจรตางามโดดถีบเขา ด้วยท่าเดียวกับที่เย่ว์หยางใช้ถีบ'ฮุยไท่หลาง' ส่งผลให้เขากระเด็นไปทั้งตัว
“ท่านเป็นอะไรไหม?”
'เย่ว์หยาง'เห็นคนอ้วนรีบตะเกียกตะกายขึ้นมา เขาสงสัยว่าสหายผู้นี้คงต้องเกี่ยวข้องกับฮุยไท่หลางสักทางแน่
“ไม่มีอะไร, ข้าสบายดี, ไม่ต้องห่วงข้าหรอก เจ้าไม่รู้หรือว่าอสูรของข้าคืออะไร? สัตว์อสูรของข้าคือแรดเหล็ก เป็นพวกสายเสริมพลัง พลังป้องกันของมันเหมือนแผ่นเหล็ก แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับข้าได้เล่า? เจ้าเห็นเลือดนี่ไหม.. นี่ไม่ใช่ข้ากระอักเลือด นี่เป็นแค่เหงื่อเลือดของข้า เร็วๆ นี้ข้าทรมานจากอาการร้อนในมากเกินไปหน่อย ดังนั้นเหงื่อข้าจึงมีเลือดปนออกมาด้วยนิดหน่อย ใช่แล้ว มันก็เป็นอย่างนี้แหละ ดูร่างที่อ้วนนี้ให้ดีสิ เจ้าจำเป็นต้องกังวลถึงข้าไหม?”
คนอ้วนรีบเช็ดรอยเลือดที่มุมปากตนเอง ขณะเดียวกันก็พูดรักษาหน้าตัวเองว่า
“ข้าไม่กล้วถูกเหยียบอยู่แล้ว”
“ตอนนี้ เขาหนีไปไหนแล้ว?”
ไกลออกไป มีหญิงงามสวมหน้ากากขาวอยู่ในชุดชาววังร้องเรียกเสียงนุ่มนวล
“ท่านป้าข้ามานี่แล้ว เอาไว้ข้าค่อยตามหาเจ้ามาคุยกัน”
นางโจรตางามลดเสียงลงคุยกับเย่ว์หยาง แล้วเดินกลับไปหาหญิงชุดชาววัง
“เจ้ารู้จักนางหรือ? แม้ว่าหน้าจะถูกปิดเอาไว้ ข้ากล้าพูดได้เลย นางได้ 99 คะแนน”
คนอ้วนอ้าปากกว้าง จนน้ำลายยืดเหมือนน้ำตก ลักษณะท่าทางของเขาดูเหมือนต้องการโดนทุบตีเหมาะๆ สักครา
“ข้าไม่สนใจผู้ชายด้วยกันหรอก”
'เย่ว์หยาง'พยายามอย่างมากเพื่อต้านการหลอกล่อของเขาแล้วพูดกระทบจิตใจของเขาโดยตรง จากนั้นจึงหันกายจากไป
“เจ้ามันโง่บรม ข้ายอมแพ้แล้ว”
คนอ้วนอยากจะร้องไห้ในใจ เจ้าเด็กน้อยนี่มีสัตว์อสูรดีๆ เขาก็ยังไม่ให้คุณค่ามัน มีสาวสวยแต่ก็ไม่ยอมหลงใหล เป็นไปได้ว่าเขาคงไม่กลัวถูกสวรรค์ลงทัณฑ์กระมัง?
ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=42