ตอนที่ 40 ฮุยไท่หลาง
'เย่ว์หยาง'ซ้อมหมาป่าเล็บเหล็กอย่างหนักจนกระทั่งมันกระอักเลือด เขาถึงได้ผ่อนหายใจ เขาตระหนักว่ามันมีความเข้มแข็งอดทนมาก ไม่เพียงแต่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ปรากฏว่ามันยินดีที่จะถูกทุบตี ดูเหมือนจะเป็นหมาป่าจอมเพี้ยนที่มีนิสัยอยากโดนซ้อม 'เย่ว์หยาง'ช่วยไม่ได้ แต่มึนงงอยู่ชั่วขณะ เขาหยุดและก้มลงตรวจหาเหตุผล
หลังจากใช้ปราณก่อกำเนิดตรวจสอบอย่างละเอียด ในที่สุด'เย่ว์หยาง'ก็ตระหนักว่าร่างของหมาป่าเล็บเหล็ก ไม่ธรรมดา หมาป่าเล็บเหล็กโดยทั่วไปเป็นสัตว์อสูรธาตุดิน
อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวนี้กลับไม่ใช่ มันมีร่างแปลกประกอบด้วยธาตุไฟ โลหะและความมืด ในทางทฤษฎีพื้นฐานทางชีวภาพ อสูรระดับต่ำมีคุณสมบัติหลายอย่างหรือที่ขัดแย้งกันก็จะอยู่ไม่ได้
ถ้ามันมีธาตุมากกว่า 2 อย่าง พวกมันน่าจะเป็นร่างแปลงระดับสูงได้ ยกตัวอย่างเช่น ไคเมราไฟ- น้ำแข็ง อย่างไรก็ตาม ไคเมราไฟ-น้ำแข็งอย่างน้อยต้องเป็นสัตว์อสูรชั้นทองแดงระดับ 8 เทียบกับหมาป่าเล็บเหล็กระดับ 2 ชิเมราคือประสบการณ์ที่ไม่อาจเอื้อมถึงได้ และหมาป่าเล็บเหล็กธรรมดาระดับ 2 มีธาตุแตกต่างกันถึง 3 อย่างในตัว
นี่นับว่าแปลกมาก 'เย่ว์หยาง'ตระหนักว่า เป็นเพราะหมาป่าเล็บเหล็กที่แปลกตัวนี้มีคุณสมบัติไฟและความมืด จึงมีระดับความต้านทานพลังปีศาจที่ไหลออกมาจากแขนของจ้าวปีศาจได้
ขณะที่มันมีคุณสมบัติโลหะ ร่างของมันแข็งแกร่งพอที่จะทนต่อการถูกซ้อม เหมือนกับแมลงสาบหมาป่าที่ไม่มีวันตาย แน่นอนว่า เหตุผลที่การซ้อมของ'เย่ว์หยาง'สร้างความรู้สึกสบายไม่ใช่เพราะภูมิต้านทานของมัน
แต่เป็นเพราะการจู่โจมของ'เย่ว์หยาง'ใช้ปราณก่อกำเนิดกับมัน หมาป่าเล็บเหล็กมาที่นี่เพื่อดูดกลืนพลังปีศาจและดื่มเลือดปีศาจ มันทรมานเจ็บปวดแสนสาหัสจากพลังปีศาจชั่วช้าฮาซิน บังเอิญโชคดี
'เย่ว์หยาง'ซ้อมมันทำให้มันบรรเทาปวดลงได้บ้าง 'ยิ่งเย่ว์หยาง'ซ้อมมันหนักแค่ไหน พลังปีศาจในร่างมันก็ยิ่งบริสุทธิ์ขึ้น นั่นคือสาเหตุที่หมาป่าเล็บเหล็กสบายยิ่งขึ้นที่โดนซ้อมแต่ละครั้ง
สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดก็คือแม้'เย่ว์หยาง'จะลงมือหนักขนาดที่เจ้าหมาป่าเล็บเหล็กอวัยวะภายในแหลกและกระดูกหักยับ แต่พลังปีศาจที่มันได้ดูดกลืนไว้จะคืนสภาพให้ร่างกายมันทีละนิดๆ จนกลายเป็นเลือดเนื้อสมบูรณ์
จากสภาพร่างกายที่เกือบระเบิดเพราะมีพลังปีศาจอัดแน่นภายในไม่สามารถระบายออกได้ แต่พลังงานปีศาจนั้นกลับกลายเป็นประโยชน์ขณะที่'เย่ว์หยาง'ทุบตีมัน
อาจกล่าวได้ว่า การที่เย่ว์หยางลงมือทำร้ายมันเหมือนกับเป็นพิธีต่ออายุให้ร่างหมาป่าเล็บเหล็กมากกว่า การลงมือทุบตีของเขากำลังช่วยให้หมาป่าเล็บเหล็กถือกำเนิดใหม่อีกครั้ง 'เย่ว์หยาง'พบปัญหานี้ทันทีเมื่อเขาเฝ้าสังเกต และโกรธจนเกินบรรยาย
เขายกหินก้อนใหญ่ขึ้นหมาย เตรียมจะทุ่มใส่หมาป่าเล็บเหล็กให้มันตายทั้งเป็น เขาต้องการให้มันรู้รสชาติของการโดนบดก่อนตาย
“อะฮู้วววว..”
แววตาหวาดกลัวปรากฏอยู่ในตาของหมาป่าเล็บเหล็ก 'เย่ว์หยาง'รู้สึกสะกิดใจที่เห็นมันเพ่งมอง หมาป่าตัวนี้ถูกฝูงของมันทอดทิ้งจึงต้องเที่ยวไปในโลกตามลำพัง มันช่างคล้ายคลึงกับกรณีของเขา เพียงแต่มันไม่มีใครให้พึ่งพา
เขายังโชคดีกว่ามัน ที่มีหญิงงาม มีน้องสาวตัวน้อยและมีคนอื่นอยู่ข้างๆ หลังจากถูกส่งข้ามมิติและใช้สถานะของเจ้าเด็กที่น่าสงสารแล้ว เขาก็รับเอาสิ่งที่เจ้าเด็กผู้น่าสงสารมีไว้ทั้งหมด
หญิงงามก็ปฏิบัติกับเขาเหมือนเป็นบุตรชายแท้ๆ แม้เขาจะไม่ใช่'ซานเอ๋อ'ตัวจริง แต่ในความเป็นจริงเขายอมรับความรักที่หญิงงามและครอบครัวนางมีต่อเจ้าเด็กผู้น่าสงสาร เอาก้อนหินทุ่มใส่เจ้าหมาป่าเล็บเหล็กนี้ให้ตาย
ไม่มีประโยชน์อะไรต่อเขาเลย ทำไมเขาไม่ใช้มันทดลองดูเล่า? ถ้าเขาใช้เลือดของจ้าวปีศาจและพลังงานปีศาจเพื่อแปลงสภาพความแข็งแกร่งของสัตว์อสูร
อย่างนั้นเขาคงใช้หลักการเดียวกันสร้างสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งขึ้นได้ไม่ใช่หรือ? 'เย่ว์หยาง'โยนหินก้อนใหญ่ในมือออกไปและไตร่ตรองอย่างใจเย็นชั่วครู่ จากนั้นเขาก็ขุดแขนของจ้าวปีศาจ'ฮาซิน'ออกมาและถ่ายเทพลังงานปีศาจทั้งหมดจากแขนเข้าไปในร่างของหมาป่าเล็บเหล็ก
กระบวนการนี้ง่ายกว่าดูดกลืนพลังงานปีศาจผ่านอากาศมากนัก ประการแรก เป็นเพราะการส่งต่อทางกายภาพทำได้ง่ายกว่า ประการที่สอง เพราะพลังงานปีศาจของจ้าวปีศาจฮาซินจะถูกดูดไปยังเนื้อหนังที่ัยังมีชีวิตอยู่ หมาป่าเล็บเหล็กที่ยังมีชีวิตจึงเป็นภาชนะอย่างดีสำหรับเก็บพลังงานปีศาจ
ด้วยการผลักดันโดยปราณก่อกำเนิดของเย่ว์หยาง พลังงานปีศาจก็ถ่ายเทไปที่ร่างของหมาป่าเล็บเหล็กทันที ประการที่สาม หมาป่าเล็บเหล็กบาดเจ็บไปทั้งตัว
ดังนั้นร่างของมันต้องการพลังงานในการฟื้นตัว ถึงจะเป็นพลังงานปีศาจก็ตาม มันก็ยังเป็นพลังงานที่ช่วยให้ฟื้นตัว พลังจากแขนของจ้าวปีศาจ'ฮาซิน'มีมากมายก็จริง แต่ไม่สะอาด บรรดาส่วนต่างๆ ของแขนที่ต่างกัน พลังงานปีศาจไม่ใช่สิ่งที่ต้นดอกหนามต้องการ
แต่ต้นดอกหนามสามารถดูดซับทักษะปีศาจของแขนปีศาจได้เต็มที่ ตัวอย่างเช่น ทักษะไฟนรกและเลือดกรด ทักษะทั้งหมดนี้ถือเป็นลักษณะที่ดีสำหรับการแปลงเป็นอสูรร่างมนุษย์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะเลือดกรด มันจะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับสร้างอสูรรูปมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตาม พลังงานปีศาจในอีกด้านหนึ่ง จะเปลี่ยนสัตว์อสูรให้มีสภาพน่าเกลียด น่ากลัว
'เย่ว์หยาง'ไม่ต้องการนางปีศาจดอกหนาม ที่เขาเฝ้าบำรุงอย่างระมัดระวังต้องกลายเป็นอสูรที่น่าเกลียดไปในที่สุด ดังนั้น แน่นอนที่สุดว่าเขาไม่ต้องการให้มันดูดซับพลังงานปีศาจเอาไว้ ท้องของสุนัขป่าเล็บเหล็กโป่งกลมเหมือนกับลูกโป่ง คล้ายกับว่ามันจะระเบิดเมื่อใดก็ได้
ร่างของมันบวมอืดไปทั้งตัว ตาของมันถลนจนล้นจากเบ้า ร่างของมันอัดแน่นไปด้วยพลังงานปีศาจ จนเกือบจะดูเหมือน ลูกโป่งสุนัขป่า
บางทีมันคงเจ็บปวดจนบรรยายไม่ได้ แต่'เย่ว์หยาง'วุ่นเกินกว่าจะให้ความสนใจมัน เขาผลักพลังงานปีศาจทั้งหมดไปไว้ในตัวหมาป่าเล็บเหล็ก
จากนั้นผลักแขนของเจ้าปีศาจ'ฮาซิน'มาจ่อที่ปากมหึมาของต้นดอกหนาม ต้นดอกหนามทองไม่ยอมกลืนแขนภายในคำเดียวเหมือนกับที่เคยกินอาหารครั้งก่อนๆ
แต่กลับดูดแขนเข้าไปในปากมัน ค่อยๆ แทะเล็มแล้วกลืน ย่อยอย่างช้าจริงๆ 'เย่ว์หยาง'คิดว่าบางทีมันคงไม่สามารถย่อยแขนได้ทันทีที่มันกลืนลงไปทั้งหมด
ต้นดอกหนามอาจระเบิดดังบึ้มจนกระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยหากว่ามันกลืนกินรวดเดียว 'เย่ว์หยาง'กลัวว่าต้นดอกหนามจะระเบิด
ดังนั้นเขาจึงใช้ปราณก่อกำเนิดช่วยซอยช่วยเฉือน เพื่อช่วยให้มันย่อยง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ก้านของต้นดอกหนามทองก็ยังติดไฟนรกจนทำให้มีอาการเจ็บปวดรุนแรงต่อต้นดอกหนาม กิ่งก้านของมันยังคงสั่นไหวไปทั้งหมด
อีกด้านหนึ่ง 'เย่ว์หยาง'ไม่ได้สนใจหมาป่ากรงเล็บเหล็กที่กลิ้งเป็นลูกบอลอยู่ตรงแทบเท้าเขา นี้ถือว่าเป็นการทดลองอย่างหนึ่ง จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หากว่าหมาป่าเล็บเหล็กตาย ถ้ากระบวนการย่อยของต้นดอกหนามเป็นไปราบรื่นและเย่ว์หยางพอใจ เขาคงจะเตะหมาป่าเล็บเหล็กอย่างหนักหน่วงสักที
ไม่ว่ายังไงก็ตาม การลงมือทุบตีของเขาเป็นเรื่องที่ดีต่อหมาป่าเล็บเหล็ก ซึ่งมันก็ค้นหาอย่างสิ้นหวัง อย่างไรก็ตาม การย่อยของต้นดอกหนามไม่ค่อยราบรื่นด้วยดีนัก
'เย่ว์หยาง'ไม่พอใจที่เห็นอย่างนั้น มันสำรอกแขนที่กลืนลงไปแล้วออกมาไม่สามารถจะทนต่อกระบวนการย่อยต่อไปได้ จำเป็นต้องใช้ปราณก่อกำเนิดของเขาช่วยซอยช่วยย่อย
เมื่อ'เย่ว์หยาง'ไม่พอใจ เขาก็ยังคงเตะหมาป่าเล็บเหล็กระบายอารมณ์โกรธในใจเขา ไม่ว่ายังไงก็ตาม การทำเขาทำต่อต้นดอกหนามและหมาป่าเล็บเหล็กตรงกันข้ามราวกับฟ้าและดิน ฝ่ายหนึ่งได้รับการเอาอกเอาใจใช้ปราณก่อกำเนิดช่วย และอารักขาดูแลอย่างดี
ขณะที่อีกฝ่ายโดนซ้อมและสบถใส่จนถึงที่สุด เป็นกระบวนการที่ใช้เวลาทั้งวันก่อนที่ต้นดอกหนามทองจะสามารถกลืนแขนของจ้าวปีศาจฮาซินได้ทั้งหมด แน่นอนว่า นี่เป็นเพียงก้าวแรกในกระบวนการย่อยของมัน 'เย่ว์หยาง'คิดว่า คงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือนสำหรับต้นดอกหนามทองถึงจะย่อยแขนของจ้าวปีศาจ'ฮาซิน'ได้ทั้งหมด เพื่อการวิวัฒนาการเป็นอสูรรูปมนุษย์ที่งดงาม
“นางปีศาจดอกหนาม”
บางทีอย่างน้อยอาจต้องใช้เวลา 3 เดือน ตรงกันข้ามกับ หมาป่าเล็บเหล็กที่เปลี่ยนรูปได้เร็วมาก ตอนนี้ แม้ว่า'เย่ว์หยาง'ได้กระทืบหมาป่าเล็บเหล็กไปถึง 8 ครั้งแล้ว
ด้วยการกระทืบของเขาทำให้กะโหลกของมันแตกถึง 3 ครั้ง คอหัก 2 ครั้ง ทุบหลัง 5 ครั้ง บดขาของมัน 9 ครั้ง แต่มันก็ยังหายจนเกือบเต็มที่
ถ้า'เย่ว์หยาง'ไม่เห็นด้วยตัวเอง เขาคงไม่เชื่อว่าเจ้าหมาป่าเล็บเหล็กโดนทุบตีจนตายนับครั้งไม่ถ้วน จนกระทั่งอวัยวะภายในทั้งหมดแหลกราญ จนมันกระอักเลือดออกมา แต่มันก็ยังมีชีวิตอยู่
ไม่ใช่แค่หมาป่าเล็บเหล็กฟื้นคืนสภาพเต็มที่ มันยังเปลี่ยนแปลงรูปผิดไปจากเดิมมากมาย แค่เพียงวันเดียว มันเปลี่ยนแปลงจากหมาป่ากรงเล็บเหล็ก ระดับ 2 ขั้นธรรมดา ไปเป็นหมาป่าปีศาจหลังเหล็ก ชั้นทองแดง ระดับ 3 ความเร็วในวิวัฒนาการดังกล่าวอาจเป็นตัวแรกและน่ามหัศจรรย์ที่สุดในประวัติเผ่าพันธุ์สุนัขป่าก็ได้
พลังของหมาป่าปีศาจหลังเหล็ก ระดับ 3 ชั้นทองแดงเกือบเทียบเท่าจ้าวหมาป่าเล็บเล็บเหล็ก ระดับ 4 อสูรประเภทสุนัขป่า มีคุณลักษณะ หัวเป็นทองแดง ขาเป็นเหล็ก และเอวเป็นเหมือนเต้าหู้
ถ้า'เอวเต้าหู้'ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่สุดของมันสามารถพัฒนาไปเป็นเอวเหล็กได้ ความสามารถในการต่อสู้ของมันจะเพิ่มขึ้นมาได้อย่างน้อย 10 เท่า ยิ่งไปกว่านั้น หมาป่าตัวนี้วิวัฒนาการด้วยความช่วยเหลือจากพลังงานปีศาจของจ้าวปีศาจ ความสามารถสู้ของมันมีมากหลายเท่า
ดังนั้นมันน่าจะสู้กับจ้าวสุนัขป่าเล็บเหล็กระดับ 4 ได้อย่างสบาย 'เย่ว์หยาง'ตระหนักว่าเจ้าหมาป่าแมลงสาบนี้ ต้องการโดนทุบตีกระทั่งเกิดการวิวัฒนาการ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพลังงานปีศาจในร่างของมันยังไม่ได้ถูกใช้เลย พลังงานปีศาจที่เข้าไปอยู่ในร่างมันยังไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งเต็มที่
ในไม่ช้าเจ้าสุนัขป่าแมลงสาบนี้ จะไม่มีทางถูกฆ่าหลังจากโดนทุบตีไปหลายครั้ง บางทีอาจจะยกยกระดับเป็นอสูรระดับ 4 ชั้นทองแดง หรือแม้แต่ระดับ 5 ชั้นทองแดงก็ได้ หลังจากสังเกตอย่างใกล้ชิด
'เย่ว์หยาง'ก็ตระหนักว่าปราณก่อกำเนิดของเขามีส่วนในวิวัฒนาการของหมาป่าอย่างน่าอัศจรรย์ หากไม่ได้ปราณก่อกำเนิดของเขา เจ้าสุนัขป่าแมลงสาบคงร่างระเบิดตายไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น พลังงานปีศาจคงจะไม่เข้ากันได้ดีกับร่างกายมันได้ง่ายๆ แน่ พอเตะหมาป่าด้วยพลังปราณก่อกำเนิดของเขาก็เท่ากับทำให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายใน ช่วยให้มันได้ถือกำเนิดใหม่
มิฉะนั้น มันก็เป็นแค่หมาป่าเล็บเหล็กธรรมดา ไม่ว่าจะมีพลังมากแค่ไหนก็ตาม มันไม่สามารถย่อยพลังงานปีศาจของจ้าวปีศาจ'ฮาซิ'นมาเป็นของตัวได้
'เย่ว์หยาง'รู้สึกได้ทันทีว่า เจ้าหมาป่าแมลงสาบที่ดิ้นรนไม่ยอมตายก็คล้ายกับตัวเขาในบางแง่ แม้ว่า มันโชคร้ายอยู่บ้าง แต่มันก็โชคดีมากกว่า จะมีที่แตกต่างกันก็คือ เขาไม่จำเป็นต้องโดนซ้อมเพื่อให้ประสบความสำเร็จ
แต่มันจำเป็นต้องโดนทุบตีอย่างดุเดือดเพื่อวิวัฒนาการอย่างช้าๆ หลังจากต้นดอกหนามทองกลืนแขนของจ้าวปีศาจหมดแล้ว 'เย่ว์หยาง'รีบเอามันกลับไปไว้ในคัมภีร์อัญเชิญอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้มันค่อยๆ ย่อยแขนอยู่ข้างใน แล้ววิวัฒนาการไปเป็นปีศาจดอกหนามแสนสวยอย่างช้าๆ
ตอนนี้ดอกหนามนั้นอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องกังวลถึงมันอีกต่อไป เวลานี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไปหอทงเทียนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้วนำ'เย่ว์ปิง'กลับมาบ้านอย่างปลอดภัย
เพื่อช่วยให้หญิงงามจิตใจสงบ 'เย่ว์หยาง'สาวเท้าไปข้างหน้าต่อ แต่แล้วก็ตระหนักได้ว่าเจ้าหมาป่าปีศาจหลังเหล็ก ที่ยังไม่ตายหลังจากโดนทุบตีอย่างหนักกำลังตามเขามา
'เย่ว์หยาง'จึงเตะมันอย่างแรงจนกระเด็นไป แรงเตะของเขาทำให้มันกระเด็นไปไกลและมีเสียงบึ้มตามมา แต่มันรีบพลิกตัวกลับแล้วตามมาข้างหลังเขา
ทั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการที่เขาอารมณ์เสียเลย ยิ่งไปกว่านั้น มันยังรู้วิธีประจบ'เย่ว์หยาง' ปกติมันตามเย่ว์หยางมาโดยไม่ได้ทำอะไร แต่พอถึงเวลากิน มันจะไปจับสัตว์เล็กๆ เช่นกระต่าย แล้วเอามาให้'เย่ว์หยาง'เหมือนเป็นบรรณาการ
แต่แม้ว่า'เย่ว์หยาง'จะย่างกระต่ายที่มันเอามาให้ ความคิดเขาที่มีต่อมันก็ไม่เปลี่ยนไปเลย เหตุผลง่ายๆ สิ่งที่คล้ายกันย่อมผลักไสกันและกัน หมาป่าเป็นตัวผู้ และมันชอบทำหน้าขอร้องให้กระหน่ำมันอีก
ดังนั้นเขาจึงไม่เพิ่มความรู้สึกที่ดีต่อมัน หมาป่ายังตามติด'เย่ว์หยาง'เป็นเวลา 2 วัน 2 คืน หลังจากพยายามทุกวิธีเขาคงได้คิด 'เย่ว์หยาง'ไม่สามารถไล่เจ้าหมาป่าแมลงสาบให้หนีไปได้
ดังนั้น เขาคงได้แต่ยอมให้มันตามมาด้วย ในที่สุด เขาจึงแสดงความปรานีกับมันและตั้งชื่อมันว่าฮุยไท่หลาง เกี่ยวกับการทำสัญญา 'เย่ว์หยาง'จะไม่มีทางทำสัญญากับหมาป่าปีศาจหลังเหล็กตัวผู้นี้แน่ แค่เพียงหลังจากมาถึงที่ตั้งกองกำลังเมืองไป๋ฉือ
'เย่ว์หยาง'ถึงได้รู้ว่าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับสัตว์อสูรที่ไม่ได้ทำสัญญา เขาโกรธจัดขณะเตะเจ้าหมาป่าแรงๆ
“ฮุยไท่หลาง! เจ้าลูกหมา ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาด้วย แต่เจ้าก็ยังตื๊อตามมา ตอนนี้เจ้ากำลังทำให้ข้าเสียเงินโดยไม่ได้อะไร”
เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบแทบจะร้องไห้เมื่อเห็นอย่างนั้น
“อย่าตี อย่าตีมันอีกเลย.. นี่มันหมาป่าปีศาจ หลังเหล็ก ชั้นทองแดง ระดับ 3 ข้าอยู่ที่สถานีนี้มาหลายปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นสัตว์อสูรชั้นทองแดงที่เชื่องอย่างนี้ ไปตีมันอย่างนั้น ทำเอาข้าหัวใจจะวาย ถ้าเจ้าจ่ายไม่ได้จริงๆ ข้าช่วยเจ้าจ่ายให้ก็ได้ เจ้าจะยอมไหม?”
ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=40