ตอนที่แล้วตอนที่ 36 เลื่อนระดับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 38 โฉมงาม

ตอนที่ 37 โคถึกเงา


'เย่ว์หยาง'พยายามลุกขึ้น แล้วฝืนให้ยืนอยู่ได้เพราะมึนงงจากการใช้พลังปราณมากเกินไป  รู้สึกว่าไม่มีพลังปราณเหลืออยู่ในตัวเขาเลย

เขายื่นมือออกไปกอด'เสี่ยวเหวินหลี'ที่หน้าซีดยืนโคลงเคลงอยู่บนพื้น  ตาของเธอหรี่ลงเพราะความอ่อนเพลีย เธอค่อยๆ พริ้มตาลงขณะที่แขนทั้ง 6 กอด'เย่ว์หยาง'แน่น

ในที่สุด เธอก็กลายเป็นลูกกลมเรืองแสงสีแดงเข้าไปในตัวของ'เย่ว์หยาง' ถ้าเธอโตขึ้นอีกนิด อาจจะสู้กับจอมปีศาจได้ไม่ยากเย็น แต่ตอนนี้เธอยังเป็นเด็กเล็กอยู่ สามารถตัดแขนจอมปีศาจได้นั่นคือเต็มขีดจำกัดความสามารถของ'เย่ว์หยาง'และ'เสี่ยวเหวินหลี'แล้ว

"เด็กดี! พักเสียเถอะนะ"”

'เย่ว์หยาง'ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้รับรู้ว่าเสี่ยวเหวินหลีนอนหลับแล้ว แม้ว่า'เสี่ยวเหวินหลี'คืออสูรผู้พิทักษ์ของเขาและไม่มีทางตายจริงๆ 'เย่ว์หยาง'กลับถือว่าแม่หนูน้อยผู้นี้คือลูกสาวตนโดยไม่รู้ตัว

'เย่ว์หยาง'ไม่อาจทนเห็นเธอบาดเจ็บ  ตอนนี้เขารู้ว่าเธอปลอดภัยและหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย  ภาระหนักอึ้งในใจของเขาถูกยกออกไปแล้ว

เมื่อกลับเข้าไปที่โล่ห์แสงแดงของคัมภีร์อัญเชิญชั้นทองอีกครั้ง 'เย่ว์หยาง'เห็นนางโจรตางามยังคงหลับสนิท ระหว่างที่ได้รับการปกป้องจากโล่ห์แสง นางไม่ได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ดุเดือดรุนแรงเลย มีอยู่หลายครั้งที่เย่ว์หยางคิดจะถอดหน้ากากนางโจรเพื่อดูหน้าของนาง  แต่ก็ยกเลิกในที่สุด

บางอย่างในโลกนี้จะงดงามมากกว่าถ้าปล่อยให้อยู่ในความลึกลับต่อไป ถ้าท่านเจาะรูที่ประตูกระดาษโดยพลการ ท่านอาจจะสูญเสียสิ่งที่หวังในอนาคตไปแทนก็ได้

'เย่ว์หยาง'รู้ว่านางโจรตางามเป็นผู้หญิงตั้งแต่แรกแล้ว  แต่เขาไม่ได้รู้ว่านางไม่ได้มีแต่เพียงคัมภีร์อัญเชิญระดับเงินเท่านั้น นางยังเป็นนักสู้ชั้นยอดฝีมือระดับ 4  ต้องใช้คนและทรัพย์สินแค่ไหนท่านถึงจะยกระดับได้ถึงแม่นางคนหนึ่งนี้?  'เย่ว์หยาง'คงคิดไม่ออก

อย่างไรก็ตาม  เป็นที่แน่นอนว่านางไม่ได้มาจากตระกูลธรรมดา  และแน่นอนที่สุดนางไม่ได้เป็นโจรอย่างที่เห็น แต่งตัวเองเป็นโจร  บางทีนางคงมีเรื่องลำบากใจของตนเอง

ถ้านางเป็นโจรน้อยจริงๆ  อย่างนั้นก็ยังดีสำหรับเขาที่ใช้เวลากับนางอย่างอิสระ  แต่เป็นที่ชัดเจนแล้วว่านางมาจากหมู่บ้านภมรบุปผา  หมู่บ้านภมรบุปผามีความสัมพันธ์กับราชสำนัก

ถ้าเขาต้องทำอะไรเกินเลยไป เขาคงไม่สามารถเข้าไปพัวพันการต่อสู้ระหว่างพวกเขากับราชสำนัก  ดังนั้นเขาไม่ควรตามพัวพันกับแม่นางนี้อย่างลึกซึ้งเกินไป เขาถอนหายใจช้าๆ และนึกถึงต้นดอกหนามได้

เมื่อเปิดเขาเปิดคัมภีร์ชั้นทองแดงที่มีระดับปลีกย่อยเพิ่มขึ้นมา 'เย่ว์หยาง'พบว่าเขาได้รับประสบการณ์จากการเรียกคัมภีร์อัญเชิญชั้นทองแดงออกมาเช่นกัน

อย่างตอนที่เมื่อเขาเอาชนะ'หยานฉือ'และ'เถี่ยขวง' เขาไม่ได้คะแนนประสบการณ์แม้แต่คะแนนเดียว ตอนนี้มีคำไม่กี่บรรทัดปรากฏบนหน้าคัมภีร์ของเขา

ในการต่อสู้ครั้งนี้  ท่านใช้ทักษะชั้นผู้ฝึกหัดระดับ 1 เอาชนะอสูรอัญเชิญของคู่ต่อสู้ของท่านได้ทั้งหมด ท่านได้แสดงความสามารถต่อสู้พิเศษในศึกครั้งนี้

ท่านจึงได้รับการประเมิน  4 ดาว (โดดเด่น) และรับคะแนนประสบการณ์ต่อสู้ 16 คะแนน ในศึกเดียวกันนี้  ท่านเอาชนะยอดฝีมือระดับ 5 ขั้นเริ่มต้น  ท่านได้รับการประเมิน 5 ดาว (สมบูรณ์แบบ) และรับอีก 25 คะแนน ท่านปกป้องสหายศึกของท่านได้สำเร็จ

ดังนั้นจึงได้รับคะแนนประสบการณ์เพิ่มอีก 5 สุดท้ายนี้ ในการรบที่เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะ ท่านก็เอาชนะและทำร้ายจ้าวปีศาจระดับ 8 จนบาดเจ็บ

ท่านได้รับชัยชนะที่น่าอัศจรรย์ในโลกนี้  จึงได้รับการประเมิน 7 ดาว (อัศจรรย์) และรับคะแนนประสบการณ์รบ 49 คะแนน แม้ในขณะต่อสู้ท่ามกลางการต่อสู้ทำลายล้าง  ท่านก็มีส่วน ปกป้องสหายศึกของท่าน  ท่านได้รับคะแนนประสบการณ์อีก 7 คะแนน  ประสบการณ์รบของคัมภีร์อัญเชิญสีทองแดงมากถึง 102 คะแนน

คัมภีร์ชั้นทองแดงจะยกระดับโดยอัตโนมัติจากขั้นเริ่มต้นไปเป็นระดับกลาง  ตามกฎแต่ปางบรรพ์ เทพเจ้าจะมอบสัตว์อสูรที่มีความสามารถพิเศษแก่ท่าน

ณ บัดนี้... พลิกไปอีกหน้า เราเห็นเงาปีศาจ อสูรผู้พิทักษ์ ได้รับทักษะมาจริงๆ ด้วย...ครอบงำ ครอบงำ - เงาปีศาจสามารถชิงร่างของสัตว์อสูรใดๆ ก็ได้แล้วครอบงำเหมือนกับว่าเป็นร่างตนเอง เป้าหมายต้องไม่ใช่เพศเดียวกับเจ้าของเงาปีศาจ

ยิ่งไปกว่านั้น  ระหว่างที่ใช้ทักษะครอบงำ  เป้าหมายต้องมีชีวิต  อัตราความสำเร็จในการใช้ทักษะครอบงำขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งและจิตตานุภาพของเป้าหมาย

"อะไรกันนี่? ทักษะครอบงำ มีข้อจำกัดมากเกินไปมั้ง?"”

'เย่ว์หยาง'เผลอพูดออกไปเล็กน้อย ด้วยข้อจำกัดและความต้องการที่มากมาย คงเป็นทักษะที่ไร้ประโยชน์กระมัง? ถ้า'เย่ว์หยาง'สามารถเลือกด้วยตัวเองได้  เขาจะขอให้เพิ่มทักษะให้'เสี่ยวเหวินหลี'แน่นอน

แม้ว่าเงาปีศาจจะเป็นอสูรพิทักษ์ที่ไม่เลว แต่ก็มีข้อจำกัดในตัวมันเอง เมื่อขีดจำกัดเวลามาถึง  หลังจากผ่านไป 10 วัน  เงาที่ได้ครอบงำก็จะหายตามไปกับเงาปีศาจ เขาอาจจำเป็นต้องใช้ทักษะครอบงำอีกครั้งกับสัตว์อสูรที่เหมือนกัน

หากว่าเขาต้องการใช้เงาของมัน  ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก มันยากที่จะสู้กับสัตว์อสูร และตอนนี้สัตว์ต้องเป็นตัวเมีย  ยิ่งไปกว่านั้นการครอบงำ ทำให้ไม่พอจะฆ่ามันได้ง่าย

นี่มันยากเกินไปแล้ว สัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง มีชีวิตและเป็นนักสู้  ซึ่งสัตว์อสูรเหล่านี้จะอยู่อย่างเงียบๆ ดูร่างตนเองถูกสัตว์อสูรอื่นครอบงำหรือ?

แน่นอนว่ามันคงพยายามตอบโต้  มีเพียงคำเดียวที่จะอธิบายทักษะครอบงำนี้ ก็คือ

"ยาก"”

'เย่ว์หยาง'รู้สึกว่าทักษะเช่นนี้ไร้ประโยชน์จริงๆ  อย่างไรก็ตาม ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไร  'เย่ว์หยาง'รับเอาไว้อย่างไม่ค่อยเต็มใจ

"มอ... มอ...."”

กระทิงเถื่อนชั้นทองแดงที่มีบาดแผลและรอยแตกไปทั่วตัวโผล่ออกมาจากกลุ่มเศษชิ้นส่วนยักษ์ศิลาที่ล้มลงแล้ว มันฝืนใจยืน  มันพยายามยืนให้ตรง  มันยังมีชีวิตหลังจากถูกโจมตีหนักขนาดนั้น

พลังชีวิตของมันทำให้'เย่ว์หยาง'ทึ่งอย่างมาก ความคิดแว่บผ่านเข้ามาในใจ'เย่ว์หยาง'  ดูเหมือนว่ากระทิงถึกตัวนี้จะเป็นตัวเมีย เป็นไปได้หรือเปล่าที่จะใช้ทักษะครอบงำ พอสังเกตดีๆ จึงแน่ใจว่ามันเป็นโคตัวเมียแน่

"ขอโทษด้วยนะ แม่กระทิงดุตัวนี้  ข้าขอยืมตัวเจ้าได้ไหม? "”

'เย่ว์หยาง'เดินตรงไปที่หน้าของกระทิงถึกทองแดงและถามในลักษณะมีมารยาท  คำตอบของกระทิงทองแดงก็คือผงกหัวเตรียมเข้าขวิด'เย่ว์หยาง'

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะขาหลังของมันบาดเจ็บรุนแรง  มันคงจะทะยานเข้าขวิดเจ้าเด็กหน้าด้านนี้และย่ำซ้ำจนตาย เงาปีศาจปรากฏออกมาจากตัว'เย่ว์หยาง'และอ้าแขนเข้ากอดกระทิงเถื่อนทองแดงทันที

ทันใดนั้น กระทิงเถื่อนทองแดงพยายามโดดไปรอบๆ อย่างเจ็บปวด  ร่างขนาดยักษ์ของมันบิดและหมุน  ทันใดนั้นมันปลิวขึ้นไปกลางอากาศและตกกระแทกพื้นอย่างแรง จนเกิดแผ่นดินไหวย่อมๆ พร้อมกับการตกลงมา

กระทิงเถื่อนร้องอย่างน่าสังเวช ระหว่างดำเนินการครอบงำ  'เย่ว์หยาง'ไม่สามารถช่วยกระบวนการทั้งหมดได้ เขาได้แต่ดูเงาปีศาจและกระทิงเถื่อนทองแดงสู้กันและกันอยู่

เขาไม่ค่อยมั่นใจว่าการครอบงำครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ เกี่ยวกับผลลัพธ์ในตอนท้าย  ถ้าการครอบงำทำได้สำเร็จ เขาคงไม่ได้ต้องการกระทิงเถื่อนเลย แต่ต้องการจะทดลองทักษะใหม่  เขาต้องการตรวจสอบทักษะครอบครองนี้ว่าใช้งานได้ผลดีหรือไม่  และใช้มันได้อย่างไร

"มออออ มอออออ"

จากนั้นไม่นาน จู่ๆ เลือดก็พุ่งออกมาจากทวารของกระทิงเถื่อนทองแดง มันดูหวาดกลัวสุดขีด ขณะที่มันถูกเงาปีศาจแย่งร่าง  วิญญาณของมันค่อยๆ หายไป

ในที่สุดเงาปีศาจก็ชิงร่างมันมาได้สำเร็จ  ร่างของกระทิงเถื่อนทองแดงเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันทันที  ขณะที่'เย่ว์หยาง'จ้องมองจนปากอ้าตาค้าง  กระทิงเถื่อนทองแดงเปลี่ยนเป็นยักษ์สตรีสูง 3 เมตร

จุดที่น่าเสียดายคือมีเกราะหนังโคคลุมทับหน้าอกนาง  กีบเท้าโคก่อนหน้านั้นกลายเป็นแขนมนุษย์ แต่มีกล้ามเป็นมัด หนา  ตรงขาหลังของโคแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนขณะที่นางยังยืนตรงได้

เขาทั้ง 2  ที่'เย่ว์หยาง'หักไปแล้ว ตอนกลับมาปรากฏเหนือหน้าผากของนางยักษ์ มันโค้งขึ้นไป ดูน่าเกรงขาม หางวัวยาว คงเหลืออยู่ เมื่อเห็นสัตว์อสูรที่เก้าส่วนเป็นมนุษย์ และอีกหนึ่งส่วนเป็นวัว คางของเย่ว์หยางแทบจะติดกับพื้น  นี่... นี่คือผลของการครอบครองร่างหรือ?

"อวาตาร์ใช่ไหม?"”

'เย่ว์หยาง'เห็นว่านางยักษ์ดูคล้ายกับตัวละครในหนังเรื่องอวาตาร์ แต่มันล่ำสันมากกว่า 10 เท่าได้มั้ง  ยักษ์ในอวาตาร์ผอมเพรียวหุ่นดี แต่กระทิงเถื่อนนี้รูปทรงหนาบึ้กอย่างกะตุ่มน้ำ  ร่างนางสูงแปดฟุต แต่ก็หนาแปดฟุตด้วย พลิกคัมภีร์อัญเชิญไปหน้าที่ 2

'เย่ว์หยาง'พบว่ามีเงาที่ดูพิเศษไม่ซ้ำกันกับเงาปีศาจ โคถึกเงา : สัตว์อสูรรูปมนุษย์  ชั้นทองแดงระดับ 3 สัตว์อสูรครึ่งมนุษย์  อสูรผู้พิทักษ์ มีนิสัยดื้อรั้น ทักษะเจ้าของเดิม พลังเท้าและเนตรประหาร พอเย่ว์หยางเห็นเช่นนี้แล้ว ยิ่งอ้าปากกว้างขึ้นไปอีก จนแทบยัดกำปั้นเข้าไปได้ทั้งหมด

"พระเจ้าช่วย...."”

 

 

ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=37

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด