ตอนที่ 36 เลื่อนระดับ
ปีศาจที่น่ากลัวไม่สามารถออกมาจากประตูมิติได้อย่างราบรื่น มันเริ่มหายไปทันทีหลังจากถูก'เย่ว์หยาง'ใช้พลังดาบสุดยอดโจมตี ผลออกมาอย่างนี้สร้างความประหลาดใจให้'เย่ว์หยาง' เป็นไปได้หรือที่เขาจะเอาชนะปีศาจที่ทรงพลังด้วยการโจมตีแค่ครั้งเดียว? จริงเหรอ?
'เสียหั่ว'ใช้ชีวิตและเลือดเนื้อของนักรบเป็นร้อยมาบูชายัญอัญเชิญจอมปีศาจ มันจะพ่ายแพ้ได้ง่ายๆ หรือ? ด้วยการจบเรื่องแบบนี้ เย่ว์หยางไม่เคยคิดเลย
เป็นไปได้ว่าการโจมตีบวกกับความแข็งแกร่งของโซ่ล่องหนและเงายักษ์ พร้อมกับสุดยอดพลังกระบี่จากปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ขั้นก่อกำเนิด จะกวาดล้างได้ทุกอย่างเหรอ?
ทันใดนั้น สังหรณ์ใจถึงอันตราย ผุดขึ้นมาในใจของเขา 'เย่ว์หยาง'มีปฏิกิริยาทันที เขาขยับขาทั้ง 2 ด้วยท่าร่างกระบี่พิสุทธิ์ 1 ใน 3 วิชาลับ ) ถอยออกมาถึง 10 เมตรในทันที
คลื่นคมเคียวที่สามารถผ่าท้องฟ้าและพื้นปฐพีได้ตัดผ่าออกมาจากประตูมิติ การผ่าท้องฟ้านั้นเร็วกว่าสายฟ้าแลบเสียอีก มันเกือบฟันถูกปลายจมูก'เย่ว์หยาง'ขณะที่เขาหลบจากการถูกโจมตี และมันยังผ่าพื้นดินไปในระยะไกลจนเกิดรอยแยกลึก
ง่ายพอๆ กับใช้มีดร้อนหั่นเนย ก่อนที่มันหายไปกับระยะที่ไกลขึ้น อาคารป่าบันเทิงที่ยังตกอยู่ในทะเลเพลิงถูกคลื่นพลังที่แหลมคมตัดออกเป็นสองส่วนอย่างเงียบ
ในทันทีนั้นมีเสียงระเบิดดังตามออกมา อาคารขนาดใหญ่ค่อยๆ พังทลายลง เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวจากคลื่นพลังโจมตีทำให้'เย่ว์หยาง'ถึงกับขนหัวลุก มันเป็นคลื่นคมเคียวที่น่ากลัวจริงๆ เขาเกือบถูกมันผ่าเป็น 2 ส่วนเสียแล้ว
หากเขาหลบไม่ทัน แม้ว่าจะมีการป้องกันตัวก็ตาม เขาคงไม่รอดจากการโจมตีที่ผ่าได้กระทั่งท้องฟ้า หากเขาไม่ใช้ 1 ในวิชาลับทั้ง 3 เขาคงตายอย่างอนาถ จากการโจมตีแบบไม่รู้ตัวอย่างนี้
"ในรอบ 600 ปีที่ผ่านมา เจ้าเป็นมนุษย์คนแรกที่ทำให้ข้าบาดเจ็บได้"”
ตามมาด้วยเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวจากภายในประตูมิติ มือจอมปีศาจเปื้อนเลือดสีดำมีเปลวไฟสีม่วงคลุมอยู่ยื่นออกมาจากภายในประตูมิติ กลุ่มเปลวไฟเขียวเข้มข้นมีอยู่ในมือนั้น พลังที่กล้าแข็งรุนแรงจนทำลายได้ทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์ ไฟนรกที่เสียหั่วเรียกออกมาตอนแรกไม่มีความสำคัญเลยหากเอาไปเทียบกับเปลวไฟสีเขียวเข้มเหล่านี้
พอเห็นดังนี้แล้ว 'เย่ว์หยาง'ไม่คิดว่าตอนนี้ จะสามารถต้านรับการโจมตีครั้งต่อไปได้ หากเขาปล่อยให้เปลวไฟเขียวเข้มเหล่านี้ถูกต้องเขา ผลที่ตามมาอาจเลวร้าย
แต่ตอนนี้เขาจะทำอะไรอย่างอื่นได้เล่า? หนีไปงั้นหรือ? หรือว่าสู้จนถึงที่สุด? บางทีการทำลายประตูมิติป้องกันไม่ให้จอมมารร้ายออกมาอาละวาด น่าจะเป็นความคิดที่ดี แต่ปัญหาก็คือ
เขาจะต้องหลบการโจมตีของเปลวเพลิงเขียวเข้มและเข้าไปทำลายประตูมิติที่อยู่เบื้องหลังมัน เม็ดเหงื่อผุดขึ้นจากหน้าผากของ'เย่ว์หยาง' พอดูเปลวเพลิงเขียวเข้มตรงหน้าที่มันเคยขยายตัวมาก่อน
จากนั้นดูที่เบื้องหลังเขา ก็คือตำแหน่งที่บ้านของหญิงงามตั้งอยู่ แม้ว่าบ้านจะตั้งอยู่ค่อนข้างไกล แต่ถ้าเปลวเพลิงเขียวเข้มถูกปล่อยออกมาในรูปคลื่นพลังกระแทก
บางที.... บางที แม่สี่กับเด็กหญิงยังคงหลับฝันอยู่กระมัง? 'เย่ว์หยาง'กัดฟันขณะที่เขาเริ่มวนแขนของเขามาใกล้กัน ด้วยการหมุน เขารวบรวมพลังปราณที่เหลือในร่างกายเขาเข้าไปตามเส้นปราณสายหยินและหยางก่อเกิดเป็นพายุหมุนวนสายหนึ่ง
แม้คิดว่าพลังของจอมมารจะมีพลังทำลายมากและยากจะต้านทานได้ 'เย่ว์หยาง'ก็ยังคงมุ่งไปข้างหน้า เขาแทบไม่สนใจว่าคนในแผ่นดินมังกรทะยานจะอยู่หรือตาย แต่เขาคงไม่ยอมดูเฉยๆ โดยไม่ทำอะไรแน่
เมื่อมีอันตรายคุกคามความปลอดภัยของแม่สี่และน้องสาวตัวน้อย แม่สี่ผู้รักและเมตตาเขากับน้องสาวผู้ซุกซน พวกนางคือครอบครัวของเขา มนุษย์ผู้โง่เขลา
หลังจากยื่นมือออกมาจากภายในประตูมิติแล้ว จอมปีศาจก็เริ่มหัวเราะอย่างกระหายเลือด
*บึ้ม!*
เหมือนกับมันรู้ว่าเย่ว์หยางคงจะพยายามลุยเข้ามา เหมือนพยายามฆ่าตัวตายอย่างสิ้นหวัง
ทันใดนั้นกลุ่มเปลวไปสีเขียวเข้มก็ระเบิดขึ้น ลำแสงสีเขียวถูกยิงออกมาจากฝ่ามือของจอมมารตรงเข้าหาร่างของ'เย่ว์หยาง' ทันใดนั้น โล่ห์แสงสีเขียวปรากฏต่อหน้าเย่ว์หยาง เป็นวงสีรุ้งสวยงาม ลึกลับเปล่งแสงเหมือนประกายบนเพชรปรากฏอยู่บนผิวโล่ห์ปกป้องร่างของเขาไว้
คัมภีร์อัญเชิญชั้นเพชรปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกับที่'เสี่ยวเหวินหลี'ที่กำลังใช้มือน้อยๆ ควงมีดอยู่หลังจากที่ออกมาจากตัว'เย่ว์หยาง'ด้วยตัวเอง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวลใจ ลำแสงสีเขียวยิงเข้ามาที่โล่ห์ของเธอ
โล่ห์สั่นสะท้านอย่างรุนแรง พร้อมกับเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว จนโล่ห์แทบจะถูกทำลาย 'เย่ว์หยาง'ตกใจ โชคดีที่โล่ห์แสงปกป้องและสลายพลังแสงสีเขียวได้สำเร็จ
พลังที่แฝงมากับลำแสงสีเขียวยังกระจายไปอีกไกล ในที่สุดก็กระจายหายไปในอากาศ พอเห็นโล่ห์แสงยังคงเหมือนเดิมหลังจากปะทะกับลำแสงสีเขียวแล้ว
'เย่ว์หยาง'ถอนหายใจโล่งอก เขาวางเดิมพันได้ถูก โล่ห์ถูกเรียกออกมาโดยคัมภีร์เพชรของ'เสี่ยวเหวินหลี'สามารถต้านทานแรงทำลายล้างได้
*ฮ่าาห์*
'เสี่ยวเหวินหลี'กู่ร้องเสียงแหลมสูงออกไป 'เย่ว์หยาง'คิดว่าเธอไม่รู้จักเขา มือจอมมารยื่นตรงมาที่โล่ห์แสงแล้ว แม้ว่าจะเป็นแค่นิ้วเดียว แต่'เย่ว์หยาง'ก็ตกใจสุดขีด
เฉพาะตอนนี้เขาตระหนักว่าโล่ห์แสงยังป้องกันได้ไม่สมบูรณ์ มันมีขีดจำกัดของมันเอง นิ้วจอมมารแทงผ่านแนวป้องกันของโล่ห์แสงมาได้ 'เย่ว์หยาง'กอด'เสี่ยวเหวินหลี'ไว้กับอ้อมอกทันที มันเป็นปฏิกิริยาจากนิสัยของเขา คือปกป้องเธอไว้แม้จะต้องตายก็ตาม เขาทำไปเพื่อ....
สำหรับเวลานี้เขาเอาจริง อย่างไรก็ตาม 'เสี่ยวเหวินหลี'ดิ้นออกมาจากอ้อมกอดเขา เธอเงื้อมีดน้ำแข็งเล่มน้อย แล้วฟันไปที่นิ้วของจอมมารอย่างดุร้าย ในทันใดนั้น มือของจอมมารกลายเป็นน้ำแข็งทันที แม้แต่ไฟนรกที่ลุกไม้อยู่ใกล้ๆ ก็ถูกแช่แข็งจนดับไปโดยปริยาย
"ยังพอมีหวัง!"”
ปฏิกิริยาตอบโต้ของ'เย่ว์หยาง'เกินขีดจำกัดไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว เขาฝืนตัวเองเพ่งถึงปราณของเขาอีกครั้ง เตรียมใช้พลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดจากวิชาลับ 3 แบบ กระบี่ปณิธานสูงสุด สุดยอดพลังกระบี่จะถูกปล่อยอีกครั้ง
พลังโจมตีกล้าแข็งกว่าครั้งก่อน มันจะทะลวงเข้าไปในมือของจอมมารที่กำลังละลายอย่างไม่ปราณี ความคมกล้าของปราณกระบี่ ไม่มีอะไรเทียบเท่า ทำให้เย่ว์หยางยังไม่พ่ายแพ้ จอมมารต้องการจะดึงมือตนกลับ แต่ภายใต้กับดักน้ำแข็งที่มั่นคง ความเร็วในการดึงมือกลับของมันช้าพอๆ กับหอยทากคืบคลาน ปราณกระบี่ไล่ตามมันมาทัน และด้วยเสียง
*ฉึก* มันทะลวงเข้าใจกลางฝ่ามือของจอมมาร มีรูปราฏอยู่ที่สะเก็ดหลังมือจอมปีศาจนี้
ในตอนนี้เอง ประตูมิติก็หดเล็กลง เล็กลงในทันที มือจอมปีศาจที่ยื่นออกมาจากประตูมิติไม่ได้โจมตีเย่ว์หยางอีก
ขณะที่มันดึงมือกลับอย่างเร็วจนหายลับไปในประตูมิติ หางงูของ'เสี่ยวเหวินหลี'โบกไปมาดูงดงามมากขณะที่เธอเลี้อยไปบนพื้น เธอยังคงไล่ตามมือจอมปีศาจ
พลางส่งเสียง
*ขู่ฟ่อ*
ออกมา 'เย่ว์หยาง'รู้สึกว่า เธอปล่อยโซ่ล่องหนด้วยพลังทั้งหมดของเธอ ถ้ามันถูกใช้แต่แรก ผลก็คงมีผลไม่มาก ที่สำคัญคือ โซ่ล่องหนใช้ตรึงได้เพียง 1 วินาที
แต่ตอนนี้ มันมีผลอย่างมาก มือจอมปีศาจถูก'เสี่ยวเหวินหลี'ใช้พลังโซ่ตรึงไว้ในตำแหน่งที่แน่นอนจึงไม่อาจเคลื่อนที่ได้แม้แต่นิ้วเดียว เมื่อประตูมิติหายไป พื้นที่ซึ่งต่างกันจึงเป็นเสมือนมีดคมกล้า ตัดแขนจอมปีศาจได้ในทันที
'เย่ว์หยาง'ถูกสัญชาตญาณการรบของเสี่ยวเหวินหลีสะกดจนตะลึง เธอไม่ได้ใช้โซ่ล่องหนตลอดจนถึงตอนนี้ แต่กลับรอใช้จนเมื่อประตูมิติปิดลงเธอก็สร้างความเสียหายร้ายแรงให้จอมมารเสียแล้ว
สำหรับแมลงน้อยอย่า'งเย่ว์หยาง'ความเคลื่อนไหวดังกล่าวคาดไม่ถึงเลยจริงๆ
"บัดซบ เจ้าพวกมนุษย์นักสู้ที่น่ารำคาญ ข้าจะจำพวกเจ้าเอาไว้ เราจะได้พบกันอีกแน่นอน คอยดูต่อไป.."”
ประตูมิติหายไปพร้อมกับเสียงโหยหวนของจอมปีศาจดังก้องอยู่ในความมืด ถ้าพวกเขาต้องสู้ต่อหน้ากันจริงๆ 'เย่ว์หยาง'ไม่มีทางเอาชนะด้วยพลังของเขาในตอนนี้แน่
อย่างไรก็ตาม โลกแบ่งออกเป็น 2 โลกต่างกัน จอมปีศาจคงไม่ออกมาจากประตูมิติได้อย่างราบรื่น มันทำได้เพียงโจมตีมาจากรอยแยกมิติ ยิ่งไปกว่านั้น มันประมาท'เย่ว์หยาง'
ในที่สุดภายใต้พลังกระบี่ไร้ลักษณ์ขั้นปราณก่อกำเนิดและโซ่ล่องหนของ'เสี่ยวเหวินหลี'และสัญชาตญาณต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์ของเธอ จอมปีศาจจึงพ่ายแพ้ไปอย่างหมดท่า มันเสียแขนไปข้างหนึ่ง ไม่น่าแปลกใจที่มันโกรธมากขนาดนั้น ปราณในตัว'เย่ว์หยาง'ถูกใช้ไปเกลี้ยง
ขณะที่เขาทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนเพลีย เขาเปิดศึกรอบด้านและชนะได้แม้จะมีอันตราย คัมภีร์อัญเชิญสีทองแดงลอยมาที่ข้างตัวเขาเงียบๆ และส่องแสงสว่างในท่ามกลางราตรี ลำแสงสีขาวส่องออกมาทันที มันส่องไปบนท้องฟ้าสูงอย่างน้อย 10 เมตร เป็นเพราะ'เย่ว์หยาง'ได้ชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้
จึงได้มีการปรับชั้นเลื่อนระดับ... ภายในใจของเย่ว์หยาง คลื่นข้อมูลจำนวนมหาศาลปรากฏเข้ามาจนทำให้เขาประหลาดใจ
"ท่านเอาชนะศัตรูในการต่อสู้ที่เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะ จึงถือว่าเป็นชัยชนะที่มหัศจรรย์ ดังนั้น ค่าประสบการณ์ของท่านจึงเต็มขีดจำกัดในระดับขั้นปัจจุบัน และคัมภีร์ทองแดงของท่านได้รับการยกระดับจากระดับ 1 ขั้นผู้ฝึกหัด เป็นระดับ 1 ขั้นกลาง ท่านจะได้รับหน้าว่างเพิ่มขึ้น อีกอย่าง ตามกฎรหัสโบราณ เทพเจ้าจะมอบของขวัญแก่ท่าน คือ เงาปีศาจอสูรผู้พิทักษ์ของท่านจะได้รับทักษะชนิดใหม่..."”
ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=36