ตอนที่ 30 เก่งหรือ ก็แค่ก้อนหินให้ข้ามผ่าน
'เย่ว์หยาง'ใช้มือเดียวยับยั้งหมัดนางและส่งยิ้มให้
"พี่ชาย ข้ารู้ว่าเจ้าคิดถึงข้า แต่วิธีแสดงออกแบบนี้มันผิดปกติไปหน่อย ถ้าเจ้ากอดข้าแทน ข้าจะสุขใจมากกว่า สาวๆ ข้างในทุกคนต่างเปลือยกายอาบน้ำรอให้เราไปแจกจ่ายความรักให้พวกนาง แล้วเรายังจะยืนอยู่แถวนี้ทำอะไร? ไปกันเถอะ"”
นางโจรโกรธจนแทบคลั่ง ใช้เรี่ยวแรงนางสู้เพื่อให้ไหล่หลุดจากมือของเขา นางตั้งใจจะยกขาถีบเจ้าคนน่ารังเกียจ ไร้ยางอายจนกระเด็นไป 'เย่ว์หยาง'กลับคว้ามือน้อยๆ ของนางและดึงตัวนางพาไปอย่างเร็ว โดยไม่ทันตั้งใจก็ดึงนางมาถึงทางเข้าป่าบันเทิงแล้ว
"รอก่อนพวกท่านทั้ง 2 ป่าบันเทิงมีกฎว่า ถ้าพวกเจ้าแต่งกายไม่เหมาะสม เราไม่ให้ผ่าน"”
ยามชั้นผู้กล้า ระดับ 2 กัน'เย่ว์หยาง'กับนางโจรไว้อย่างสุภาพ
"ในฐานะที่เป็นชายหนุ่มผู้ร่ำรวย มีอนาคตเป็นคนระดับสูง ข้าคงต้องวิจารณ์พวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าแค่ดูคนจากเครื่องแต่งกายแล้วก็ร่ำร้องว่าไม่ยอมทำตามความต้องการพวกเจ้าหรือ? ขณะที่พูดอยู่ว่า คนหนุ่มจากเมืองไป๋ฉือผู้ร่ำรวยเป็นเจ้าของร้านค้ามากมายและยังมีม้าขาวที่สวยงาม แต่เขาก็แต่งตัวเหมือนขอทานเข้ามาในป่าบันเทิง เรามาที่นี่เพื่อให้พวกเจ้าได้แสดงความนับถือ เพราะเราได้ยินว่าป่าบันเทิงยอดเยี่ยมที่สุด แต่กลับเจอว่าพวกเจ้าให้ความสำคัญกับชื่อเสียงมากเกินไป ป่าบันเทิงยอมให้ไอ้งี่เง่าที่ไม่รู้จักคนที่เก่งกว่าพวกเขามาเฝ้าประตูทางเข้า แทนที่จะเป็นสาวสวยกลิ่นหอมพูดจาดีๆ มาคอยต้อนรับลูกค้า จริงๆ เลยนะ เสียอารมณ์หมด พวกเจ้ารู้ไหมว่าทำอย่างนั้นหมายความว่าอย่างไร?ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นคนมีชื่อเสียง ฉลาดเหมือนอย่างคุณชายผู้เป็นที่นิยมในหมู่สาวสวย ถ้าต้องให้คนมาคอยล้อมรอบวุ่นวายกับฐานะที่แท้จริงของข้า มันจะมีปัญหาใหญ่ไม่ใช่เหรอ? สาวๆ ข้างในย่อมต้องตื่นเต้นอย่างหนักจนพวกนางเริ่มกรี๊ดกร๊าดกันระงม หรือแม้กระทั่งเป็นลมก็มี เพราะการปรากฏตัวของข้าอย่างแน่นอนใช่ไหม? นี่พยายามอย่างหนักแล้วที่จะไม่ให้ตรวจพบ ข้าไม่เคยนึกว่าความสนุกของข้าต้องมาพังทลายเพราะขี้ข้าสกปรกผู้มีนัยตาสุนัขเลย ลืมมันซะ ลืมไปเลย น้องชาย ยังมีปลาอีกมากมายอยู่ในทะเล ป่าบันเทิงมันก็แค่หนึ่งในนั้น เราไปกันเถอะ"”
'เย่ว์หยาง'ต่อว่าพวกเขาแล้วหันกลับมามอง ขณะที่เขาดึงนางโจรออกไปจากที่นั้น บางทีเขาคงเป็นแขกคนแรกในประวัติศาสตร ตั้งแต่ป่าบันเทิงเปิดกิจการมาที่ตำหนิเจ้าพวกที่เฝ้าประตูด้วยความโกรธ ถ้าเป็นคนอื่น พวกยามอาจจับเขาโยนลงท่อระบายน้ำไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม 'เย่ว์หยาง'ต่อว่าเสียงดังจนทำให้หัวหน้ายามถึงกับสะดุ้ง หัวหน้ายามรีบปล่อยแขกเขาไว้พอมาถึงก็ตบลูกน้องตนเองก่อนจะหันมาโค้งคำนับ'เย่ว์หยาง'
“คุณชายทั้งสอง ขออภัยพนักงานต้อนรับของเราตาต่ำ จำคุณชายผู้งามสง่าทั้งคู่ไม่ได้ โปรดอย่าลดตัวถือสาผู้ต่ำต้อยเลย ท่านแขกผู้เกียรติ เชิญทางนี้..”
ยามที่ขวางทางพวกเขาก่อนหน้านั้นกลัวจนวิญญาณแทบหลุดจากร่าง เขารีบคุกเข่าขอโทษทันที ในขณะที่เป็นเรื่องแปลกในเมืองไป๋ฉือ
แต่กลับไม่เป็นอย่างในเมืองหลวงช่างจิงที่ผู้เยาว์ของตระกูลมีชื่อจะแต่งตัวทำท่าทางเหมือนนักศึกษายากจนไม่มีอำนาจอิทธิพล บางรายหนักขนาดแต่งตัวเป็นขอทานเดินไปตามถนน พอใจหลอกให้คนทั่วไปตัดสินพวกเขาจากการแต่งกาย ยังมีผู้มีชื่อเสีงและเจ้าหน้าที่มากมายหลายคนที่สนุกกับการแอบอ้างเป็นนักรบรับจ้างหรือโจร
ในขณะที่สัมพันธ์กับผู้หญิงในป่าบันเทิงเพื่อความสนุกสนานก็มี คนมีชื่อหรือพวกมีอำนาจมากกว่ามากชอบสนุกสนานกับการละเล่นทำนองนี้ แม้แต่พระราชาเองบางครั้งยังทรงปลอมพระองค์แต่งตัวเป็นสามัญชนออกตรวจงานก็ยังมี การเป็นถึงนักสู้ชั้นวีรบุรุษ ระดับ 3 หัวหน้ายามเคยเห็นคุณชายที่ชอบสวมชุดแบบนี้ในเมืองช่างจิงมามาก
ได้ยินคำพูดของเย่ว์หยางก็ผิดกับคนธรรมดาทั่วไป เขาเชื่อว่า'เย่ว์หยาง'คงเป็นลูกหลานของขุนนางที่มีความสามารถ
"ข้าไม่ทราบว่าท่านเป็นผู้ใด อย่างไรก็ตาม เจ้าไก่อ่อนนี้พยายามจะลอบสังหารข้าเมื่อครึ่งเดือนที่ผ่านมา"”
จากระเบียง มีอีกคนหนึ่งโดดลงมาทันที จ้องมองนางโจรตางามด้วยสายตาเย็นชา เขามีรูปร่างผอมสูงและสวมชุดสวยงามปักเป็นรูปเหยี่ยวดำตาสีทองที่หน้าอก มือทั้งคู่ที่โผล่ออกมาแห้งซีดเหมือนมือผี จมูกยื่นแหลมเหมือนกับนกอินทรี ดวงตาวาววับสดใสเบ้าตากลวงลึก กำลังจ้องมาเหมือนเข็มที่ทิ่มแทง นางโจรตางามแค่นเสียงขณะใช้มือผลัก'เย่ว์หยาง'ไปห่างๆ
"เจ้าไปซะเถิด วันนี้ข้ามีเรื่องต้องจัดการ 2-3 เรื่อง"”
ได้ฟังอย่างนี้ 'เย่ว์หยาง'ตบหมัดเข้าหากันเหมือนคนบ้าต่อสู้
"ต่อยตีกันเหรอ? ข้าช่วยได้นะ"”
เห็น'เย่ว์หยาง'เตรียมพร้อมต่อสู้ นางโจรพูดไม่ออก ขัดกับความคาดหวังของนาง สหายผู้นี้ไม่วิ่งหนี ไม่ทิ้งนางทั้งที่การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้น นางโจรคิดว่า'เย่ว์หยาง'คงจะพูดอะไรทำนองว่า
"ข้าขอตัวไปหาอะไรกินก่อน เจ้ากำลังสนุกกับการต่อสู้ ครั้งหน้าเราค่อยไปหาสาวๆ ด้วยกันนะ"”
หรือคำอะไรทำนองเดียวกันนั้น ใครจะรู้กันว่าสหายหน้าด้านผู้นี้ จะถือมั่นความเป็นพี่น้องเข้ากระดูกถึงเพียงนี้ พอเห็นเรื่องที่น่าสนใจเกิดขึ้น นักรบรับจ้างที่ผ่านไปมาทั้งหมดก็เริ่มรุมล้อมเข้ามา ฝูงชนเกิดขึ้นรวดเร็ว
และแม้แต่บรรดาแขกของป่าบันเทิงก็กรูกันมาออที่หน้าต่างและระเบียงรอฟังข่าว
"อะแฮ่ม ท่านอูอี้ น่าจะมีความเข้าใจผิดกันแล้ว เป็นไปได้ว่าท่านตั้งใจจะมาล้างแค้น ช่วยบอกให้เราเข้าใจเหตุการณ์ปัจจุบันหน่อยได้ไหม? แขกทุกคนที่เข้าพักในป่าบันเทิงเป็นลูกค้าที่ได้รับการยกย่องและเราไม่ต้องการให้ทั้ง 2 ฝ่ายต่อสู้กัน..."”
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยพยายามพูดชักชวนคนผอมเบาๆ
"เจ้าเด็กนี่ฆ่านางบำเรอคนโปรดของเจ้าสำนักข้า ด้วยแรงโกรธนี้เอง เจ้าสำนักข้าออกคำสั่งให้เราเอาตัวเจ้าเด็กนี่ไปให้เขา ไม่ว่าเป็นหรือตาย ดังนั้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับป่าบันเทิง ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันยังไม่ได้ผ่านเข้าประตูใหญ่ของป่าบันเทิง แล้วจะนับว่าบุคลเหล่านี้เป็นแขกของป่าบันเทิงได้อย่างไร? ข้าจะฆ่าเจ้า 2 คนนี้ตรงทางเข้านี่แหละ หลังจากนั้นค่อยส่งเหล้าขอขมาไปให้ท่านเจ้าของศาลาแห่งนี้"”
จอมยุทธดาบทอง พอเห็นเช่นนี้ สีหน้าของหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยถึงเปลี่ยน หลีกไปข้างๆ อย่างเร็วไว เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยเล็กๆ อย่างเขาจะรับจัดการได้ มีเพียงอย่างเดียวที่เขาทำได้คือคอยจับตาดูแต่ละฝ่ายให้ดี
"รีบไปซะ"”
นางโจรตางามยังจ้องบุรุษผอมสูง ขณะที่ผลักเย่ว์หยางออกไปอย่างฉุนเฉียว เพื่อกระตุ้นให้เขาจากไป
"ข้าคิดว่าเจ้าผอมนี่ ร่างกายไม่มีกล้ามเนื้ออะไรเลย ดูๆ แล้วเขาแทบจะปลิวหายไปกับสายลม ยามเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้อย่างนี้ ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวนี่? เจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไร ข้าคนเดียวก็เอาชนะได้แล้ว ข้าจะเอาชนะจนเจ้าผอมนี่ต้องมองหาฟันตัวเองที่กระเด็นหล่นอยู่บนพื้น หลีกไปก่อน ข้าจะจัดการเอง"”
'เย่ว์หยาง'ตัดสินใจว่า จะเปิดเผยฝีมือของเขาสักเล็กน้อย ลูกผู้ชายแบบไหนกัน ถ้ามีฝีมือแล้วแต่ไม่ยอมแสดงต่อหน้าสาวสวย? คงเหมือนกับบุรุษที่แอบแต่งชุดหล่อในยามราตรีไม่ยอมอวดกันไม่ใช่หรือ? พูดอีกอย่างก็คือ เสียของเปล่าๆ ตอนนี้เป็นเวลาเหมาะที่จะแสดงฝีมือเรียกเก็บคะแนนไว้บ้าง
นอกจากนี้ สหายผู้ผอมเหลือแต่ซี่โครง จมูกแหลมก็ขอให้ช่วยเอาชนะให้ได้จริงๆ นี่ 'เย่ว์หยาง'รู้สึกว่า ถ้าไม่เอาชนะเจ้าผู้นี้ให้ได้อย่างงดงาม เขาคงผิดหวังกับตนเองจริงๆ
อย่างไรก็ตาม นางโจรตางามเริ่มรู้สึกเกินกว่าจะช่วยได้บ้าง
"เจ้าโง่! รู้ไหมว่าคนผู้นี้เป็นใคร? เขาเป็นนักสู้ชั้นวีรบุรุษ ระดับ 3 ปีศาจอูอี้ เขาไม่ใช่คนที่เจ้าจะรับมือได้ ...เจ้า ไสหัวไปซะ ไม่อย่างนั้น ก็มายืนคอยเชียร์ข้าอยู่ข้างๆ ไม่ใช่ จริงๆแล้วแค่มายืนอยู่ข้างหลัง อย่าเข้าไปใกล้เขาในระยะ 3 เมตร "”
เจ้ากำลังบอกว่าเจ้านี่เก่งจริงๆ เหรอ?
" เย่ว์หยางรู้สึกว่าโชคดี เริ่มจะเหมือนกับว่าพวกเขากำลังแสดงบท โฉมงามช่วยเหลือพระเอก"
"ต่อให้ข้าไม่อยากจะยอมรับ แต่ความจริง เขาเก่งจนน่ากลัวจริงๆ"”
นางโจรพยักหน้ายอมรับ
"อย่าห่วง เก่งแค่ไหน ก็แค่ก้อนหินให้ข้าก้าวผ่าน"”
เย่ว์หยางปลอบนาง
"อ่อนแออย่างกะมด แล้วยังพยายามก้าวผ่านข้า..."”
คนผอมที่ชื่อ'อูอี้'หัวเราะอย่างเยือกเย็น พลางหยิบหินผลึกสีดำออกมา เขาบริกรรมอยู่ไม่กี่คำ แสงสีดำเริ่มแผ่ออกมาในอากาศ หุ่นศิลาสูงเกิน 6 เมตรถูกเรียกออกมา
เมื่อหุ่นศิลายักษ์ถูกเรียกออกมา นักรบรับจ้างที่รายล้อมอยู่ ต่างก็กลั้นลมหายใจในเวลาเดียวกัน หุ่นศิลาชั้น 4 ไม่ค่อยปรากฏในพื้นที่ไล่ล่าของนักรบรับจ้างบ่อยนัก
แต่จะพบในสนามรบ หุ่นศิลาร่างเต็มแบบนี้หนักเกินกว่าหมื่นกิโลกรัมและเป็นเครื่องจักรสงครามที่มีประสิทธิภาพมากกว่ากระบี่และหอก ร่างคงกระพันสามารถฆ่าศัตรูได้หลากหลายวิธี
หุ่นศิลาเป็นเครื่องจักรสงครามที่ไม่อนุญาตให้ขายกันภายในประเทศ นอกจากกองทัพและหน่วยนักรบรับจ้างพิเศษ คนอื่นๆ ไม่ได้รับอนุญาตให้มีไว้ในครอบครอง 'เย่ว์หยาง'และนางโจรตางามเผชิญหน้ากับหุ่นศิลาสูงเกิน 6 เมตร และมีพลังเหนือกว่ากระบี่และหอก พวกเขาจะรับมือต่อสู้ได้อย่างไร?
ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=30