ตอนที่แล้วตอนที่ 7 อัญเชิญดอกหนามพ่นพิษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 คนนิสัยเสีย

ตอนที่ 8 ยอดอัจฉริยะถือกำเนิด


ในสายตา'เย่ว์ปิง' พี่สามของนางไม่เคยไปโรงเรียน แต่ก็ควบคุมสัตว์อสูรได้ดีกว่านักเรียนปีสองในโรงเรียนของนางเสียอีก ไม่ได้เรียนวิธีการควบคุมแต่อย่างใดเลย

เขาเรียนรู้วิธีควบคุมดอกหนามให้โจมตีเป้าหมายด้วยตัวเอง เขาผสานจิตกับดอกหนามแล้วส่งกระแสความคิดไปที่มันได้ วิธีนี้สำหรับนักเรียนแผนกพฤกษาทุกคนถือเป็นอุปสรรคที่ใหญ่

เมื่อพวกเขาเรียนรู้วิธีควบคุม ทำไม พี่สามถึงทำได้อย่างง่ายดายนัก ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง ไม่มีใครสอนเขาด้วย เพียงชั่วเวลาไม่กี่วินาที เขาก็สั่งให้ดอกหนามพ่นพิษที่เขาเพิ่งทำสัญญาเสร็จแล้วอัญเชิญออกมาครั้งแรกพ่นพิษใส่เป้าหมายได้ ช่างดูเป็นธรรมชาติและคิดได้เร็ว

ทันทีที่เขาเข้าโรงเรียนได้ บางทีเขาอาจได้รับพิจารณาจากคณาจารย์ในฐานะผู้เป็นอัจฉริยะที่หลายร้อยปีจะมีปรากฏสักครั้ง 'เย่ว์ปิง'มองดู'เย่ว์หยาง'ผู้ทำหน้าหดหู่ผิดหวัง นางรู้สึกตกใจอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพราะทักษะที่ทำได้เร็วดั่งใจของเขา

แต่จากความจริงที่ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ ถูกคนอื่นๆ ล้อเลียนว่าเป็นไอ้ขี้แพ้ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าทักษะโดยธรรมชาติของเขาน่าเกรงขามขนาดไหน

“หา?”

แต่'เย่ว์หยาง'ที่เดิมทีตั้งใจว่าจะแอบหลบมุมนั่งวาดวงกลมแก้เขิน มองเห็นดอกหนามพ่นพิษของเขาเหี่ยวแห้งกองลงกับพื้น ข้อมูลแว่บเข้ามาในใจเขาจนเขาต้องตบหน้าผากอีกครั้ง

เขานี่โง่จริงๆ ความได้เปรียบของดอกหนามพ่นพิษที่ต่างจากสัตว์อสูรประเภทอื่นก็คือมันไม่ต้องการอาหารหรือคอยดูแลใดๆ เลย นอกจากนี้ไม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขเฉพาะที่จะดำรงคงอยู่ได้

สัตว์อสูรประเภทสัตว์ทั่วไปและประเภทสัตว์ร้ายจำเป็นต้องได้อาหารเพื่อไว้ใช้โจมตีด้วยพลังเวทของพวกมัน ขณะที่สัตว์อสูรประเภทแมลงและจำพวกปลาจำเป็นต้องมีเงื่อนไขหลายอย่าง

ถึงจะดำรงอยู่ในโลกนี้ได้ เทียบกับพวกมันแล้ว ประเภทพฤกษาและประเภทหุ่นเชิดควบคุมง่ายที่สุด ถ้าสัตว์อสูรจำพวกหุ่นเชิดเสียหาย มันก็แค่ถูกนำไปที่ตำหนักหุ่นเชิดเพื่อทำการซ่อมแซม

อย่างไรก็ตาม ถ้ามันถูกทำลาย ก็อาจจะซ่อมไม่ได้ อีกอย่างข้อเสียเปรียบใหญ่หลวงของอสูรจำพวกหุ่นเชิดก็คือ พวกมันฟื้นคืนชีพไม่ได้ ในทางตรงกันข้าม สัตว์อสูรจำพวกพฤกษาฟื้นคืนชีพได้

แต่ข้อเสียเปรียบใหญ่หลวงที่สุดของมันก็คือความเร็วในการเคลื่อนไหว พวกมันอืดอาดมาก นอกจากนี้ พวกมันไม่ฉลาดเสียเลย ดังนั้นแทนที่จะฝึกกับดอกหนามพ่นพิษ ใครๆ มักจะฝึกกับหมาป่าวายุ เสือดาวเงาและสัตว์ที่มีส่วนร่วมในการต่อสู้อย่างใกล้ชิดแทน อย่างไรก็ตาม ดอกหนามพ่นพิษก็มีความได้เปรียบในตัวมันเอง

ข้อได้เปรียบยิ่งใหญ่ที่สุดของมันก็คือมันสามารถกินศพและมีพัฒนาการได้ต่างจากสายหุ่นเชิด ตราบใดที่มันยังมีชีวิต พวกมันกินได้ย่อยได้อย่างช้าๆ

จากนั้นมันจะวิวัฒนาการและเพิ่มระดับพลังในศพได้ มันแค่ยังอยู่ในระดับเริ่มต้น ดอกหนามต้นนี้ยังเล็กและอ่อนแอมาก การพ่นพิษครั้งหนึ่งจะใช้พลังของมันทั้งหมด

ดังนั้นมันจึงเหี่ยวเฉาลงอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความมันตายจริงๆ ถ้าถูกทำลายโดยจงใจ อย่างนั้นมันก็คงฟื้นไม่ได้ บรรดาสัตว์อสูรอื่นๆ ทั้งหมด

ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์หรือสัตว์อสูรในตำนาน มีอยู่เพียงประเภทเดียวที่ไม่ตาย ก็คือสัตว์อสูรผู้พิทักษ์จากคัมภีร์อัญเชิญ สัตว์ผู้พิทักษ์เป็นสัตว์อสูรประเภทหนึ่ง

ต่อให้ต้องตายก็ไม่หักหลังผู้อัญเชิญของพวกมัน ส่วนสัตว์อสูรประเภทอื่นมีระดับความภักดีของพวกมันเอง ถ้ามีความภักดีต่ำ สัตว์อสูรอาจหนีไประหว่างสู้ดุเดือดก็ได้ ร้ายที่สุดคืออาจหายตัวไปจากคัมภีร์อัญเชิญเองก็ได้

“ดูเหมือนว่าท่านจะสังเกตได้แล้ว ใช่ สัตว์อสูรสายพฤกษาต่างจากสัตว์อสูรสายอื่นๆ พวกมันมีความสามารถที่พิเศษ และนั่นก็คือ หยั่งราก”

จากนั้น'เย่ว์ปิง'สั่งให้ต้นดอกหนามพ่นพิษของนางพ่นพิษบ้าง และมันก็กระทบเข้าที่กลางเป้าบนผนังอย่างรวดเร็ว การลงมือโดยไม่ผิดพลาดของนางทำให้'เย่ว์หยาง'หน้าแดงด้วยความละอาย

นางเป็นหนึ่งในอัจฉริยะของครอบครัวอย่างแน่นอน ฝีมือนางสุดยอด จากนั้นดอกหนามพ่นพิษของ'เย่ว์ปิง'เริ่มค่อยๆเฉาลง อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้หายไปเหมือนกับของ'เย่ว์หยาง' ดอกหนามของนางแค่ล้มลงกับพื้น และอย่างช้าๆ ช้ามากๆ

มันจึงค่อยตั้งตรงได้อีกครั้ง 'เย่ว์ปิง'ทำเหมือนเป็นครูขณะอธิบายให้'เย่ว์หยาง'ฟัง

“ตอนนี้ ข้าแค่สั่งให้ดอกหนามหยั่งรากลงในดิน ตราบใดที่มันยังสัมผัสพื้นดิน มันก็สามารถเติมพลังจากโลกได้ ต้นดอกหนามนี้จะฟื้นตนเองได้ราวๆ 10 นาที และมันจะไม่เหี่ยว”

'เย่ว์หยาง'เป็นเหมือนนักเรียนที่ตั้งใจฟังครูขณะที่ผงกศีรษะอย่างอารมณ์ดี

“เข้าใจแล้ว งั้นข้าขอลองอีกครั้งนะ”

“เอ๋?”

'เย่ว์ปิง'ชะงักเมื่อได้ยินอย่างนั้น ลองอีกครั้ง? เขาเพิ่งทำสัญญากับคัมภีร์ไม่ใช่เหรอ? ผู้ทำสัญญากับคัมภีร์ใหม่ๆ น่าจะเป็นได้แค่ระดับเริ่มฝึกนี่, และผู้เริ่มฝึกน่าจะอัญเชิญสัตว์อสูรได้วันละ 1 ตัว

ดอกหนามพ่นพิษที่เขาอัญเชิญออกมาก็เหี่ยวเฉาหายไปแล้ว เขายังจะลองอีกเพื่ออะไรกัน?  นางเองอยากจะถือโอกาสให้ความรู้เขา บอกเขาว่า ควรจะปกป้องสัตว์อสูรของเขาให้ดี อย่าปล่อยให้พวกมันตายง่ายๆ

ทั้งนี้เป็นเพราะมีข้อจำกัดที่จำนวนครั้งที่คนๆ หนึ่งจะเรียกสัตว์อสูรของพวกเขาออกมา ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นระหว่างสู้รบหรือฝึกธรรมดาๆ เขาก็น่าจะดูแลสัตว์อสูรที่เรียกออกมาให้ดี... เขา

เขายังเรียกสัตว์อสูรอื่นได้อีกหรือ? ตรงกันข้าม 'เย่ว์หยาง'ไม่รู้ว่าในใจเด็กสาวคิดอะไรอยู่ เขาตื่นเต้นพยายามเรียกต้นดอกพ่นพิษต้นอื่นออกมา จากนั้นก็ตั้งใจอย่างหนักเพื่อให้ดอกหนามหยั่งรากลงพื้น

“สำเร็จแล้ว ในที่สุดข้าก็ทำจนได้”

'เย่ว์หยาง'ปรบมืออย่างมีความสุข แม้ว่าเขาจะไม่ใช่อัจฉริยะ แต่อย่างน้อยเขาคงไม่ใช่พวกระดับหัวปานกลางแน่ พอเห็นพฤติกรรมทั้งหมดนี้

'เย่ว์ปิง'แทบจะทรุดลงกับพื้น และด้วยเหตุนี้น้องสาวสุดประหลาดกับพี่ชายกำมะลอจึงเริ่มหยอกล้อกันบ้างแล้ว

“พี่สาม! ท่านเพิ่งจะทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญไม่ใช่เหรอ? ข้าว่า.. ท่านเพิ่งทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้สำเร็จเมื่อไม่กี่วันมานี่เองใช่ไหม?”

'เย่ว์ปิง'ที่ยังตกใจละล่ำละลักถาม

“ใช่ ถูกแล้ว”

'เย่ว์หยาง'พยักหน้าขณะตอบ

“อย่างนั้นระดับท่านในตอนนี้เล่า? เป็นระดับ 1 ผู้เริ่มฝึกหัด หรือว่าระดับ 2 ผู้กล้า”

“ระดับ 1 ผู้เริ่มฝึกหัด”

'เย่ว์หยาง'ตอบตามจริง

“ท่านเป็นระดับ 1 ผู้ฝึกหัดของกลุ่มชั้นไหน? ชั้นเริ่มต้น, ชั้นกลาง, หรือชั้นสูง? ท่านเกินระดับ 2 มามากขนาดไหนแล้ว? ที่ข้าหมายถึงก็คือ บางทีระดับของท่านอาจปรับขึ้นไปที่ระดับ 2 โดยท่านไม่รู้ตัวและเป็นผู้เริ่มต้นของชั้นผู้กล้าไปแล้วใช่ไหม?”

'เย่ว์ปิง'ถามด้วยความอยากรู้เต็มเปี่ยม

“ไม่นะ, มันจะนเร็วขนาดนั้นได้ยังไง, ดูสิ ข้ายังอยู่ในกลุ่มเริ่มต้น ระดับ 1 ผู้เริ่มฝึกหัด การปรับขึ้นเป็นระดับ 2 เป็นเรื่องยากมากๆ นั่นแหละที่ข้ารู้.”

แม้ว่า'เย่ว์หยาง'จะอยู่ที่นี่มาได้ไม่กี่วัน จะมากหรือน้อยเขาก็เข้าใจว่าได้ความรู้จากคัมภีร์อัญเชิญ เขาหันคัมภีร์อัญเชิญสีทองแดงของเขาเปิดดูหน้าสถิติแล้วให้เย่ว์ปิงได้เห็นระดับและการจัดกลุ่มเขา

หลังจากยืนยันสิ่งที่บอกให้นางฟัง สาวน้อยรู้สึกมึนงง ขณะที่ถามว่า

“พี่สาม! ผู้ฝึกหัดระดับ 1 ทำได้เพียงเรียกสัตว์อสูรได้ 1 ตัวต่อ 1 วันเท่านั้น แล้วท่านเรียกออกมาถึง 2 ตัวได้ยังไง?”

“อ๋อ...”

'เย่ว์หยาง'เกาหัวตนเอง

“ความจริง ข้าไม่ได้เรียกออกมา 2 ตัวหรอกนะ”

“ไม่ได้เรียกอย่างนั้นเหรอ? แล้วนี่มันอะไร?”

'เย่ว์ปิง'ชี้ไปที่ต้นดอกหนามพ่นพิษที่เย่ว์หยางเพิ่งเรียกออกมา หรือว่านางฝันไป?

“นั่นมันดอกหนามพ่นพิษที่เหี่ยวเฉา ที่ข้าเรียกออกมาก่อนนั้นไง”

'เย่ว์หยาง'รู้สึกแปลก มีบางอย่างผิดไปอย่างนั้นหรือ?

“ถึงจะเป็นต้นเดียวกัน มันก็เหี่ยวเฉาตายไปแล้วนี่, ดังนั้นท่านจะไม่สามารถเรียกมันออกมาได้อีกในวันนี้ แล้วท่านเรียกออกมาอีกได้ยังไง?”

'เย่ว์ปิง'สับสนจนเกือบเป็นลม เป็นไปได้ว่าพี่สามของนางคือยอดอัจฉริยะที่พันปีจะปรากฏมีมาครั้งหนึ่ง ซึ่งก็มีแต่ในตำนานเท่านั้นไม่ใช่เหรอ?  ตามที่ตำนานกล่าวไว้  มีอัจฉริยะผู้หนึ่งเติบโตมาแบบผิดปกติสามารถเรียกสัตว์อสูรที่เขาทำสัญญาได้ถึง 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม อัจฉริยะอย่างนั้น อย่าว่า 100 ปีเลย

ต่อให้เป็นพันปีก็ยังหาได้ยาก เป็นไปได้ว่าพี่สามของนางเป็นอัจฉริยะประเภทนั้นหรือ? 'เย่ว์ปิง'มอง'เย่ว์หยาง'อีกครั้งด้วยสายตาที่แตกต่างไป นางได้พบยอดอัจฉริยะเข้าให้แล้ว 'เย่ว์หยาง'ไม่รู้ว่าตนเองต่างจากคนอื่นๆ

เขาพยายามอธิบายทั้งที่ยังสับสนอย่างนั้น

“ความจริง, ดอกหนามไม่ได้ตายหรอก ตอนที่ข้าเรียกดอกหนามออกมาครั้งแรก ข้าแค่แยกให้มันเป็น 2  ข้าเก็บต้นหลักของมันไว้ก่อนและเรียกออกมาแค่กิ่งของมัน แต่ต้นหลักของมันและส่วนที่เรียกออกมามีพลังเสมอกัน ตอนนี้ที่ตายไปก็แค่กิ่งของมัน แต่ต้นหลักยังคงอยู่ ดังนั้นมันจึงไม่มีผลอะไร..แน่นอน การอัญเชิญแบบนี้ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก...”

“อะไรนะ ท่านพูดอะไร? ท่านรู้วิธีอัญเชิญแบบขยายพันธุ์ด้วยหรือนี่?”

'เย่ว์ปิง'รู้สึกเหมือนมีสายฟ้าฟาดเปรี้ยงอยู่รอบตัว

 

ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=8

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด