ตอนที่ 28 นางคือธิดาหรือสัตว์อสูรของข้ากันแน่
"สวรรค์ แม่นางตัวน้อยคืนชีพด้วยเลือดเจ้า ความจริงมันก็มากเท่าที่พลังชีวิตข้าจะทำได้ ข้าถึงขีดจำกัดแล้ว ร่างกายข้าถึงวาระแล้ว ข้าอาจไม่ฟื้นร่างกายได้หลังจากหลับไปอีกหมื่นปี"”
นางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'เริ่มสั่น ใบหน้านางซีดเซียว ขณะที่นางให้กำเนิด นางก็อ่อนเพลียมากเหลือเกิน เม็ดเหงื่อผุดเต็มหน้าผากนาง นางไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะยืนหยัดต่อไป
'เย่ว์หยาง'สังเกตว่าหางงูของนางเริ่มไม่ชัดและดูจางเหมือนหมอกควัน อย่างไรก็ตาม แขนดุจหยกยังคงกอดทาริกาปีศาจงูไม่ปล่อย นางยังกอดแน่นเหมือนกำลังอุ้มบุตรีสุดที่รักของนาง เห็นได้ว่าหางทั้งหมดของนางเริ่มกลายเป็นควันสีขาว และถูกดูดเข้าไปในหลุมดำ 'เย่ว์หยาง'ไม่รู้จะช่วยได้อย่างไร ได้แต่ถามอย่างประหลาดใจว่า
"ท่านเป็นไรหรือเปล่า? ร่างของท่านดูเหมือนกำลังจางหายไป..."
"เด็กคนนี้ดูดพลังภายในและพลังชีวิตของข้าไปสิ้น ตอนนี้ข้าไม่สามารถรักษาร่างกายเอาไว้ได้แล้ว เจ้าควรจะรีบและเตรียมตัว มิฉะนั้นข้าจะไม่เหลือพลังไว้ส่งเจ้า สวรรค์ ข้าแทบจะหลับในทันทีแล้ว หรือว่าร่างที่ข้าได้ฟื้นคืนกลับมาจะถูกทำลายหมดสิ้นกันแน่ โปรดพานางไปเสียเถิด ข้ายังทนได้อีกไม่มากนัก"”
นางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'เรียกคัมภีร์ที่เป็นประกายโปร่งแสงเล่มใหญ่ออกมา มันดูเหมือนแก้วผลึก ส่องประกายเรืองรอง พราวตาจนนัยตาเย่ว์หยางตาพร่า
จากที่เขากะด้วยสายตา คัมภีร์นั้นยาว 3 เมตร กว้าง 2 เมตร ได้เปลี่ยนรูปอย่างลึกลับดูแล้วเหมือนโลงศพแก้วผลึก สีหน้าของนางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'ดูจะเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส เหมือนกับว่าถ้ามีการเคลื่อนไหวแม้น้อยนิดความเข้มแข็งของนางจะเหือดหายสิ้นไปทั้งหมด
นางอุ้มทาริกาปีศาจงูไว้ในอ้อมแขนและจูบเธออย่างแผ่วเบา จากนั้นส่งสัญญาณให้'เย่ว์หยาง'มารับกลับไป ทาริกาปีศาจงูลังเลเล็กน้อย เหมือนกับไม่เต็มใจที่จะจากมา
อย่างไรก็ตาม หลังจากเห็น'เย่ว์หยาง'เหยียดแขน เธอยกแขนน้อยๆ ทั้ง 6 ดึงตัวเองไปหาตัวเขา นางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'เซเล็กน้อย ความอดทนของนางดูเหมือนมาถึงขีดจำกัดแล้ว แค่ฝืนไม่ให้ทรุดลงกับพื้น นางหายใจหนักหน่วงหน้าอกสะท้อนขึ้นลง
"เจ้าควรจะรีบไปได้แล้ว พลังชีวิตของข้าเกือบไม่เหลือแล้ว ข้าจะต้องสู่ห้วงนิทราในบัดนี้แล้ว ถ้าความแข็งแรงของข้าเพิ่มขึ้นภายใน 1 ปีจากนี้ และข้าต้องการจะลองผ่านผนึกหลุมดำนี้ให้ได้ ข้าคงจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากพลังภายในของเจ้า"”
ขณะที่นางพูด แขนขาวดุจหยกทั้ง 6 ของนางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'เปล่งแสงสว่างเจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์ เงาขนาดใหญ่สูง 10 เมตรปรากฏอยู่ด้านหลังนาง แขน 6 ข้างของนางดูผิดรูป
ทันใดนั้นนางก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจายไปดุจสะเก็ดดาว เย่ว์หยางรู้สึกว่าพลังงานยิ่งใหญ่กระแทกมาที่ร่างเขา ผลักหลังเขาไปจนสุดต้าน ทำให้'เย่ว์หยาง'รู้สึกเหมือนเห็นภาพลวงตายามผ่านห้วงมิติ ดูเหมือนว่าระหว่างนั้น มิติแยกออกเป็น 2 เขาแล่นผ่านภูเขาข้ามลำน้ำ บินไปเป็นระยะหลายล้านกิโลเมตร ผ่านข้ามจักรวาล
"พานางออกไปข้างนอก ถ้านางได้ความทรงจำการต่อสู้กลับมา สิ่งที่เจ้าพบและไม่เข้าใจ เจ้าสามารถถามนางได้"”
ห้วงสำนึกสุดท้ายของนางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'ดังก้องอยู่ในหัว'เย่ว์หยาง' เมื่อ'เย่ว์หยาง'ลืมตา เขาพบว่ากลับมาสู่โลกเป็นจริงแล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนจะเป็นเพียงความฝัน ทาริกาปีศาจงูยังกอดเขาแน่นเหมือนเดิม
ถ้าไม่ใช่เพราะลวดลายที่เป็นรูปของทาริกาปีศาจนี้อยู่บนร่างที่เปลือยเปล่าของเขา 'เย่ว์หยาง'คงไม่เชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง กลิ่นที่ครอบคลุมรอบตัวเขาส่วนใหญ่จะเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นจากร่างนางพญา'เฟ่ยเหวินหลี' แสงสีรุ้งฉายออกมา ท่ามกลางแสงสว่างและกลิ่นที่ลอยอยู่ในอากาศ
ทาริกาปีศาจงูลอยออกจากตัว'เย่ว์หยาง'กลายเป็นร่างมีเลือดเนื้อจริงๆ แขนทั้ง 6 อ้าออกเหมือนปลาหมึกน้อยและกอดตัวเย่ว์หยางแน่น ดวงตาสีฟ้ากลมโตจ้องเย่ว์หยางไม่กระพริบ เหมือนเด็กขี้อายมองบิดาแต่ไม่กล้าเรียกชื่อเขา ช่างน่ารักเหลือเกิน
"เชื่อฟังข้านะ ลงมาก่อนนะ ให้ข้าสวมเสื้อผ้าก่อน"”
'เย่ว์หยาง'เหงื่อแตกไม่ขาดสาย
"เขายังไม่มีภรรยาเลย ก็ได้ลูกสาวมาคนหนึ่งแล้ว ทาริกาปีศาจงูปล่อยมือ"”
ขณะที่เขาพูด ดวงตากลมโตตมองสำรวจไปทั่วห้อง ราวกับว่าทุกอย่างที่เห็นเป็นของประหลาด หลังจากรีบหาเสื้อผ้ามาใส่แล้ว 'เย่ว์หยาง'เริ่มใคร่ครวญ แม่หนูน้อยนี่จะนับเป็นลูกสาวเขาเองได้หรือเปล่า? หรือจะถือว่าเป็นสัตว์อสูร?
เขาเรียกคัมภีร์อัญเชิญทองแดงของเขาออกมา พลิกไปที่หน้า 5 ที่ยังว่างอยู่ ขณะที่เขาคาดว่าไม่ผิดแน่ ทาริกานี้ต้องนับว่าเป็นสัตว์อสูรอัญเชิญแน่นอน ยิ่งกว่านั้น ยังมีคุณสมบัติเป็นสัตว์อสูรผู้พิทักษ์เหมือนกับเงาปีศาจของเขาแน่นอน
อย่างไรก็ตาม มีข้อแตกต่างก็คือทาริกาปีศาจงูสามารถเรียกออกมาได้โดยไม่จำกัดครั้ง ตามทฤษฎีแล้ว นางจะคงอยู่ตลอดไป 'เย่ว์หยาง'จ้องดูเนื้อหาในหน้าที่ 5 ทำให้เขาถึงกับตกใจ เดิมทีหน้า 5 เป็นหน้าว่าง
แต่ตอนนี้มีรูปวาดของปีศาจงูตัวน้อย ดูเหมือนมีวิญญาณ มีชีวิตจริง ความแตกต่างระหว่างภาพเงาปีศาจ ต้นดอกหนาม หนูเบญจธาตุค้นสมบัติ และภาพทาริกาปีศาจงูนี้ก็คือที่พื้นหลังจะมีประกายสว่างไสว ดูเหมือนมันจะเคลื่อนที่ไปรอบๆ ภาพเธอ เหมือนกับว่ามีวิญญาณของตัวเอง
เมื่อ'เย่ว์หยาง'มองดู ปีศาจงูน้อยก็จะแสดงข้อมูลออกมา ตอนนี้ภาพเธอหันมา ใบหน้าเล็กๆและตาของเธอดูเหมือนกำลังมองมาที่'เย่ว์หยาง'
ขณะที่เธอรับรู้ได้จากสายตาเขา 'เย่ว์หยาง'ก้มศีรษะลงและพบว่าความจริงปีศาจงูน้อยกำลังทำอย่างเดียวกัน เธอกำลังจ้องมองกลับมาที่เขาโดยตาไม่กระพริบ ท่าทางของเธอเหมือนกับในภาพวาดของเธอ
ถ้า'เย่ว์หยาง'ละสายตาไป จากนั้น รูปก็จะกลับไปสงบนิ่ง กลายเป็นข้อมูลของภาพที่ไม่เคลื่อนไหว เมื่อ'เย่ว์หยาง'ดูที่คำอธิบายที่เขียนไว้ใต้ภาพแบบ
เขาถึงกับตะลึงงัน ปีศาจอสรพิษในตำนาน สถานะ ทารก, มีความรู้สึก, สัตว์อสูรร่างมนุษย์ ระดับ 1 ชั้นเพชร, สัตว์อสูรผู้พิทักษ์ พลังไม่จำกัด พลังชีวิต: ขึ้นอยู่กับผู้เรียก ครอบครองคัมภีร์อัญเชิญเล่มหนึ่ง ชั้นเพชรเหรอ? พลังไม่จำกัด? พลังชีวิตขึ้นอยู่กับผู้อัญเชิญ เย่ว์หยางแทบสมองระเบิด นางปีศาจงูเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดไหนกันแน่?
"เจ้ายังมีคัมภีร์อัญเชิญด้วยหรือ?"”
'เย่ว์หยาง'รู้สึกมึน เป็นไปได้ว่า นางปีศาจน้อยตนนี้คงเก็บรักษาของก่อนที่นางจะตายเพราะปกป้องนางพญาหรือเปล่า? คัมภีร์อัญเชิญที่ติดตัวมาจากชาติก่อน?และสิ่งที่เป็นทักษะปราณก่อกำเนิดและสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ของนางเหรอ? ถ้าเธอยังมีคัมภีร์อัญเชิญ อย่างนั้นเธอจะมีสถานะอะไร สัตว์อสูรหรือว่าลูกสาวของเขา?
"........."”
ทาริกาน้อยได้แต่กระพริบตากลมโตอยู่ในความเงียบ เพียงสัมผัสมือน้อยของเธอ เธอก็จะเรียกคัมภีร์อัญเชิญที่เป็นประกายงดงามออกมา มันคล้ายกับคัมภีร์อัญเชิญของนางพญา'เฟ่ยเหวินหลี' ขณะที่ยังดูคล้ายแก้วผลึก
อย่างไรก็ตาม รูปของนางที่ลึกลับเป็นสิ่งที่แตกต่าง ไม่มีประกายสดใสและประกายรุ้งเหมือนคัมภีร์ของนางพญา'เฟ่ยเหวินหลี' 'เย่ว์หยาง'มองดูตรวจสอบอย่างใกล้ชิด จนคางเขาติดกับพื้น เขาเห็นว่า คัมภีร์อัญเชิญชั้นเพชร ถูกเขียนไว้บนนั้น
คัมภีร์อัญเชิญของทาริกานาคีนี้เป็นชั้นเพชรจริงๆ ด้วย แม้แต่คัมภีร์อัญเชิญของเขาเองก็ยังเป็นคัมภีร์ทองแดงชั้นเริ่มต้น เขาพลิกคัมภีร์นี้และศึกษาทักษะปราณชั้นก่อกำเนิดและสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ของนางปีศาจน้อยแล้ว'เย่ว์หยาง'ถึงกับพูดไม่ออก
มัด ตรึง ทักษะปราณก่อกำเนิด : ทักษะปราณก่อกำเนิดสามารถปล่อยปราณออกไปได้ในช่วงโจมตี โซ่ไร้ลักษณ์สามารถทำให้กาย สติ พลังภายใน พลังและวิญญาณของเป้าหมายถูกมัด
ก่อนที่จะถูกปล่อยออกไป เป้าหมายจะขยับไม่ได้ การมัดขึ้นอยู่กับความสามารถและชั้นปราณก่อกำเนิดของผู้ใช้ ปัจจุบันนี้ ทักษะโดยธรรมชาตินี้อยู่ที่ระดับ 1 พระเจ้า 'เย่ว์หยาง'เริ่มเหงื่อตกทันที
"นี่..มันคือการโจมตีที่ไม่สามารถตอบโต้ได้ในตำนานมิใช่หรือ?"”
เขาตรวจสอบสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ของปีศาจน้อยอีกครั้ง 'เย่ว์หยาง'แทบจะกระอักเลือดเสียให้ได้ นางไม่เหมือนคนอื่นที่มีสัตว์อสูรผู้พิทักษ์เพียงตัวเดียว แต่นางมีรวมแล้ว 4 ตัว หน้าที่ 2 ในภาพ มีภาพเหมือน 4 ภาพรูปร่างต่างกัน
หลังจากเห็นคำอธิบายข้างล่าง เขาก็ได้รู้ว่า มี เมดูซาศิลา เงือกวายุ นาคาสายฟ้าและ ปีศาจอสรพิษน้ำแข็ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'เลือกให้นางเป็นหัวหน้าองครักษ์
เมื่อทาริกานี้โตขึ้น เธอจะน่ากลัวอย่างคาดไม่ถึง แค่ว่า.. นางเป็นแค่หัวหน้าองครักษ์ของ'เฟ่ยเหวินหลี'เองหรือ? 'เย่ว์หยาง'สงสัยในใจ หรือว่าทาริกานี้จะเป็นลูกสาวของเขาจริงๆ? หรือเป็นไปได้ว่านางจะบังเอิญเป็นญาติที่หน้าตาคล้ายนางพญา
แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะค้นหาความจริงได้ในตอนนี้ ในความเห็นของ'เย่ว์หยาง' เขาคิดว่าทาริกาน้อยนี้เป็นมากกว่าธิดาของเขา ตอนนี้ ทาริกาน้อยยังเป็นเด็กเล็ก
อย่างไรก็ตาม 'เย่ว์หยาง'ที่มีปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ชั้นปราณก่อกำเนิดก็ยังไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะนางได้ ถ้านางเติบโตแล้ว นางจะน่ากลัวขนาดไหน? เป็นเรื่องที่ดีแล้วที่แม่หนูน้อยนี่เป็นลูกสาวของเขาเอง
ดีพอๆ กับสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ตัวเขาเอง มิฉะนั้นแล้ว 'เย่ว์หยาง'คงได้อิจฉาแน่ๆ หลังจากคิดมาเกือบทั้งวัน ในที่สุด'เย่ว์หยาง'ก็รู้สึกตัว และตบหน้าอกตัวเองอย่างผ่อนคลาย อันตรายมาก เขาเกือบกลัวตายเพราะแม่หนูตัวน้อยนี้แล้ว
"ซานเอ๋อ! ยังทำสมาธิอยู่หรือเปล่า? ได้เวลาอาหารค่ำแล้ว ก่อนนั้นข้าเรียกเจ้าตั้งหลายครั้งแล้ว"”
เสียงของหญิงงามดังมาจากข้างนอกประตู
"เดี๋ยวข้าจะรีบออกไป"”
'เย่ว์หยาง'ตะโกนตอบ แค่เขาจะทำให้ปีศาจน้อยกลับเข้าไป ก่อนที่เขาจะยื่นแขนออก เขารู้สึกว่ามีแรงต่อต้านในใจเขา ความคิดที่กลัว แม่หนูน้อยใช้แขนทั้ง 6 ข้างกอด'เย่ว์หยาง'แน่น
เธอใช้ตากลมโตเงยมอง'เย่ว์หยาง'อย่างน่าสงสาร ไม่อยากกลับเข้าไปในคัมภีร์ทองแดง เฮ้ แม่หนูน้อยนี่จะขัดขืนเขาหรือ? ขณะที่
'เย่ว์หยาง'เตรียมเกลี้ยกล่อมเธอ ประตูก็เปิดผางออกมา 'เย่ว์ชวง'นั่นเอง เด็กหญิงเรียกพี่สามของเธออย่างสบายอารมณ์แล้วผลักประตูเข้ามา...
ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=28