ตอนที่ 26 นางพญาเฟ่ยเหวินหลี
กายครึ่งล่างของโฉมสะคราญผมทองเป็นหางงูยาวประมาณ 2-3 เมตร ดูคล้ายหยกขาวงดงามจนไม่อาจบรรยายได้
อย่างไรก็ตาม ก็ยังเป็นหางงูอยู่ดี ถ้าเป็นขาของมนุษย์ 'เย่ว์หยาง'คงชอบยิ่งกว่า แขนทั้ง 6 บนตัวนาง มีมากเกินไปหน่อย ถ้ามีแขนที่ขาวดุจหยกเพียงคู่เดียว นั่นคงจะสมบูรณ์แบบแน่นอน 'เย่ว์หยาง'จ้องมองหางงูและแขนทั้ง 6 ของโฉมงามผมทอง
ผ่านไปเนิ่นนาน เขาถึงได้มีอาการสนองตอบ เขาจับมือขาวดุจหยกของโฉมสะคราญผมทอง ถามด้วยรอยยิ้มเต็มหน้าว่า
"เจ้าคือแม่นางไป๋ซู่เจิน นางพญางูขาวหรือเปล่า? ข้ามตามมาเพื่อพบเจ้า ข้าสวี่เซียนสามีเจ้าไงล่ะ"
"พูดเหลวไหลอะไรกัน? ข้าชื่อเฟ่ยเหวินหลี ช่วยเรียกข้านางพญางูผู้เลอโฉมที่สุดในโลกให้ถูกเสียด้วย"”
โฉมสะคราญผมทองยิ้มอย่างมั่นใจ
"ข้ายินดีที่ได้พบท่าน"”
'เย่ว์หยาง'ทึกทักต่อและพยายามแสดงออกว่าเป็นสุภาพบุรุษเต็มที่
"เจ้าต้องพิ่มคำว่า ผู้เลอโฉมที่สุดในโลก ต่อท้ายอีกหน่อยจะทำให้ข้าสุขใจยิ่งขึ้น ตอนนี้เรามาสนทนากันเถอะ มนุษย์หนุ่มน้อยผู้น่ารัก เจ้าบอกข้าได้ไหมว่าทำลายผนึกหลุมดำได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น เป็นไปได้อย่างไรที่เจ้าบรรลุขั้นปราณก่อกำเนิดขณะที่ยังเยาว์วัยนัก?"”
นางพญางูผมทองเฟ่ยเหวินหลีถามพลางกระพริบตากลมโตงดงามของนางอย่างสงสัย จับจ้องตาของ'เย่ว์หยาง'
"เรื่องนี้ข้าไม่ได้ทำอะไร ข้าเป็นอัจฉริยะ"”
'เย่ว์หยาง'ยักไหล่อย่างไม่คำนึงถึงมารยาท แม้ว่าทั้งร่างเขาจะเปลือยเปล่า ดูเหมือนเขาจะไม่ใส่ใจ เนื่องจากอีกฝ่ายก็เปลือยเหมือนกัน ตอนนี้ทั้งสองแต่ละฝ่ายก็ตรงไปตรงมา
มันเป็นความรู้สึกที่ดีงาม แน่นอน ถ้าเป็นไปได้ที่ผลักนางนอนลงหรือให้นางผลักเขานอนลง นั่นก็น่าจะดีกว่า ปัญหาก็คือ 'เย่ว์หยาง'รู้กำลังของเขาดีพอที่จะรู้ว่าเขาไม่อาจเอาชนะมือของนางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'แม้จะใช้แค่มือเดียวก็ตาม
ดังนั้นเขายับยั้งความคิดท่าทีลามกของเขาเอาไว้ อัจฉริยะแน่นอน ไม่สิ จริงๆ แล้วเจ้าเป็นอัจฉริยะลามกคนหนึ่ง
"ข้าไม่เคยพบคนอย่างเจ้าในหมู่มนุษย์มาก่อนเลย ข้าถูกคุมขังหลับลึกมานานหนึ่งหมื่นปีแล้ว ข้าไม่สามารถออกมาจากฝันนิรันดรมานานหมื่นปีแล้ว แต่ก็ได้เลือดเจ้ามาปลุกข้าทันที..ไม่ว่าเป็นชีวิตแบบไหนที่ผ่านเข้ามา ผนึกหลุมดำนี้จะบดขยี้ทุกอย่างจนเป็นผุยผง ข้าพยายามทุกวิธีที่ทำได้ แต่ทำได้แค่เพียงสร้างความมั่นใจว่าวิญญาณข้าจะไม่สลายไป ร่างเนื้อข้าถูกหลุมดำกลืนกินไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตาม เด็กมนุษย์ตัวเล็ก กลับมายืนหยัดอยู่ต่อหน้าข้าในสภาพสมบูรณ์ โดยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าทำได้อย่างไร บางทีเจ้าคงมีทักษะคืนชีพโดยอัตโนมัติเป็นทักษะธรรมชาติก็ได้ นอกจากนี้ เจ้ายังมีความสามารถต้านทานการดูดกลืนของหลุมดำได้ ที่น่าอัศจรรย์กว่าอะไรอื่นทั้งหมด ข้าไม่เคยพบผู้เยาว์ที่เป็นนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิดมาก่อน ถ้าเป็นในโลกเวทมนต์ที่ไม่มีที่สุดนี้ ข้าพูดได้เลยว่าข้าเป็นที่ 2 ไม่มีใครกล้าอ้างว่าเป็นอันดับที่ 1 แม้เป็นเช่นนั้น ข้าก็ยังใช้เวลา 50 ปีเพื่อเตรียมตัวเองก่อนเริ่มปลูกฝังขั้นปราณก่อกำเนิด การบรรลุขอบเขตปราณก่อกำเนิด ทำให้ข้าต้องใช้เวลามากกว่า 100 ปี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากชีวิตของเจ้าเรืองรองขึ้นมา เจ้ายังคงเป็นเด็กมนุษย์หนุ่ม ข้าหาเหตุผลไม่เจอ...."”
พอได้ยินเช่นนี้ 'เย่ว์หยาง'ก้มหน้าลง ไม่ใช่เป็นเพราะฟังคำยกย่องของนาง แต่ว่าเป็นเหตุผลอื่น ยกตัวอย่างเช่น นอนหลับมานานหมื่นปีหรือ? ตอนนี้ดูเหมือนเมื่อนางพูดว่าหนึ่งหมื่นปี แต่เวลานั้นเขายังคงมึนเล็กน้อย จึงได้ยินไม่ถนัด
ตอนนี้'เย่ว์หยาง'ได้ยินนางอย่างชัดเจนจริงจังมาก
"นางพญาอายุเท่าไหร่แล้ว? "
"เมื่อกี๊นี้ท่านบอกว่าร่างของท่านถูกหลุมดำกลืนไปจนไม่เหลือแล้วใช่ไหม?"”
'เย่ว์หยาง'ตั้งใจจับใจความสำคัญของเรื่องนี้ให้ได้เพียงพอ นางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'ผู้นี้ยืนอยู่ต่อหน้าเขาผู้เปลือยเปล่า ร่างของนางสีขาวดุจหยกตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า นางบอกว่าไม่มีร่างเหลืออยู่แล้วได้อย่างไร?
"สิ่งที่เจ้าเห็นก็คือร่างเสมือนจริง แม้ว่าข้าจะหลับมาเป็นหมื่นปี ร่างข้าก็ยังคืนมาได้ไม่ถึงครึ่ง"”
ใบหน้านางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'เศร้าลงทันทีที่ได้ยินคำถามเขา 'เย่ว์หยาง'ยื่นมือเขาออกมาทันที และรู้สึกเหมือนกับว่ามันผ่านมวลของน้ำ นิ้วมือของเขาผ่านร่างนางพญาเฟ่ยเหวินหลีไปอย่างไม่ติดขัด
อย่างที่คาดไว้ ไม่ใช่ร่างเนื้อของนาง แต่ก็ไม่ใช่เงา นางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'ขยับมือมายกตัวเย่ว์หยางขึ้น ขณะที่นัยตางดงามจ้องมองที่เขา
"หน้าโง่! อย่าแตะต้องตัวผู้หญิงตามใจตัวเองสิ ไม่ต้องพูดถึงว่าข้าคือนางพญา เจ้าไม่ควรทำอย่างนี้แม้กับเด็กผู้หญิงธรรมดาด้วย"”
เขาหัวเราะ และยื่นแขนเขาออกมาจับแขนนาง เขาตระหนักได้ว่ามือนางมีมวลมากกว่าร่างกายนาง รู้สึกเหมือนได้สัมผัสปุยฝ้าย นางพญาเฟ่ยเหวินหลีหลบก่อนที่เขาจะเอื้อมมือมาสัมผัสหน้านาง
"อย่าเสียมารยาท คอข้าและส่วนที่เหนือขึ้นไปก็เหมือนของเจ้า ยังมีเลือดมีเนื้อ เจ้าต้องบ้าไปแน่ๆ ไม่กลัวว่าข้าจะฆ่าเจ้าแล้วชิงเอาร่างกายเจ้าหลบหนีไปจากผนึกหลุมดำหรือ?"”
เมื่อ'เย่ว์หยาง'ได้ฟังดังนั้น เขาหัวเราะ เสียงหัวเราะของเขาแจ่มใสเหลือเกิน
"ถ้าข้ากลัว ท่านยังจะละเว้นไม่ฆ่าข้าหรือ?"”
'เย่ว์หยาง'คิดว่าความรู้สึกกลัว ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ แม้ว่านางต้องการฆ่าเขาจริงๆ ไม่จำเป็นต้องพูดเกินจำเป็นเลย นางสามารถฆ่าเขาได้ทันที ตั้งแต่ในตอนแรกที่เขาเพิ่งเข้ามา ทำไมนางต้องมาถามเขาด้วยว่ากลัวหรือไม่?
ที่สำคัญที่สุดก็คือหลังจากเย่ว์หยางสงบใจลงได้ มีความรู้สึกแปลกในหัวใจเขา นางพญาเฟ่ยเหวินหลีไร้อันตรายโดยสิ้นเชิง เขามั่นใจว่านางจะไม่ทำอันตรายเขา ความรู้สึกเช่นนั้นแปลกประหลาดอย่างมาก
'เย่ว์หยาง'ไม่สามารถอธิบายได้ แต่ในใจเขา เขารู้ว่านางดูเหมือนจะใกล้ชิดกว่าญาติดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของเขาไปแล้ว นางพญาเฟ่ยเหวินหลีวางเย่ว์หยางลงอย่างนุ่มนวล แล้วเอากำปั้นเขกศีรษะเขาเบาๆ
"ข้ายังคงต้องการฆ่าเจ้า แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเราลงชื่อทำสัญญาวิญญาณโลหิตกันแล้ว.. หนุ่มน้อยผู้ประหลาด เส้นเลือดเจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า? เลือดของเจ้าปลุกข้าจากฝันนิรันดร์ได้อย่างไร? เลือดของเจ้ารุกล้ำวิญญาณข้าและบังคับให้ทำสัญญาวิญญาณโลหิตได้อย่างไร? ข้าไม่มีทางเข้าใจจริงๆ ภายใน 3 โลก มีคนแปลกอย่างเจ้าคงอยู่ได้อย่างไร? สหายน้อย! เจ้าเป็นมนุษย์จริงๆ หรือเปล่า?"
"สัญญาวิญญาณโลหิตคืออะไรกันแน่?"”
'เย่ว์หยาง'ไม่มีความรู้ด้านนี้ นี่เป็นสิ่งที่คัมภีร์ทองแดงไม่ได้บอกเขาไว้ มันเป็นความรู้ใหม่
"เป็นสัญญาประเภทที่เทพเท่านั้นที่ทำได้ แต่เจ้าเป็นมนุษย์ชัดๆ ฉะนั้นเจ้าอธิบายเรื่องนั้นสักหน่อยได้ไหม?"”
นางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'ถามด้วยสีหน้าสงสัย
"ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน..."”
'เย่ว์หยาง'สั่นศีรษะ
หลังจากเที่ยวมายังมิตินี้ มีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นกับเขาหลายอย่าง เขายังคงไม่เข้าใจสถานการณ์เหล่านี้ได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม 'เย่ว์หยาง'ไม่รำคาญที่จะอยู่อย่างนี้ ตราบใดที่ไม่มีอะไรแย่ อย่างนั้นก็ดีแล้ว สีหน้าของนางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'สลดลงเล็กน้อย
"ข้าลงชื่อทำสัญญาวิญญาณโลหิตกับมนุษย์คนหนึ่งไปได้ยังไงกันนี่? ถ้าเจ้าตาย ข้าก็จะตายด้วย นี่ช่างน่าสมเพทจริงๆ"
"ข้าใจกว้างดุจท้องฟ้า ข้าไม่รังเกียจหรอกที่จะมีนางพญาผู้เลอโฉมจะมาคลุกคลีปกป้องข้า"”
'เย่ว์หยาง'พูดแบบนี้เพื่อลองใจนางพญางู เพื่อดูว่านางสามารถไปจากผนึกหลุมดำได้หรือไม่ ตอนนี้เขามีพลังความเข้มแข็งไม่พอ แม้ว่านางจะไม่ทำร้ายเขา
แต่การปล่อยให้นางพญาผู้แข็งแกร่งอยู่ข้างๆ นางอาจจะข่มเขาได้ และทำให้เขาจิตใจหนักอึ้ง นอกจากจะผลักเขาตกเตียง 'เย่ว์หยาง'มีความภูมิใจของลูกผู้ชายอยู่ และเขาคงไม่ยอมให้สตรีที่แข็งแกร่งกว่าเขาอยู่ข้างตัวเขาทั้งวัน
ความเป็นชายของเขาคงทนรับความอดสูเช่นนี้ไม่ได้
"บางทีข้าคงไม่อาจออกไปได้ตลอดกาล... ไม่มีร่างเนื้อจริงๆแล้ว ไม่มีทางออกจากผนึกหลุมดำได้ แม้เจ้าถูกศัตรูแข็งแกร่งฆ่า ข้าคงได้แต่เพียงยอมรับความตายอย่างช่วยไม่ได้..."”
ใบหน้าของนางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'แสดงออกว่าเสียใจจนแทบทำให้ผู้เห็นใจแตกสลายได้ เมื่อเย่ว์หยางได้ยินดังนั้น เขาแอบสบายใจเงียบๆ ดีแล้วที่นางหลุดออกไปจากผนึกไม่ได้
"อย่าห่วง ข้าจะปกป้องตัวเองให้ดี และข้าจะปกป้องเจ้าไปในเวลาเดียวกัน เจ้ามีเครื่องมืออะไรที่ใช้ได้หรือของทำนองนั้นบ้างไหม? ให้ข้ายืมใช้สักหน่อยได้ไหม?"”
'เย่ว์หยาง'ถาม คุยโตจนออกนอกหน้า
ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=26